37 Week 4 day แม่อยากเห็นหน้าหนูแล้วนะ
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่ามา วันจันทร์ ที่ 7 ก.ย. 52 แม่ไปพบคุณหมอตามนัด ซึ่งเป็นนัดที่แม่ลุ้นมากเพราะผลตรวจเลือดครั้งที่แล้วที่คุณหมอให้ทานนำตาลก่อนตรวจ ผลออกมาว่าแม่มีน้ำตาล 110 ซึ่งมันก้ำกึ่งคุณหมอก็เลยนัดให้งดน้ำ งดอาหารหลังเที่ยงคืน แล้วมาตรวจใหม่ตอนเช้ตรู่วันนี้ ซึ่ง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาแม่ก็ควบคุมอาหารมาเป็นอย่างดี เพราะคุณหมอขู่ว่าถ้ามีน้ำตาลในเลือดอีกแม่จะต้องฉีดยา และหากลูกเกิดมาแล้วมีน้ำตาลในเลือดหนูจะต้องอยู่ให้น้ำเกลือที่ ร.พ. ต่อไม่ได้กลับบ้านพร้อมพ่อกับแม่ แม่ก็เลยกลัวมาก ห่วงลูกมากที่สุดด้วยแม่ไม่อยากจะนึกภาพที่หนูต้องให้น้ำเกลือทั้งที่ตัวเล็กนิดเดียว แล้วแม่ก็ทำได้จริงๆแม่ลดการทานแป้งและน้ำตาลลง ทำให้ผลเลือดออกมาแค่ 79 ก็เลยรอดไป คุณหมอก็ชมว่าควบคุมได้ดีมาก ให้ทำต่อไป อ้อ สัปดาห์นี้แม่ก็เลยน้ำหนักลดลงไปด้วย เกือบ 1 กก. เหลือ 66.5 กก. แต่อาจเป็นเพราะนัดตรวจเช้าและไม่ได้ทานอะไรมาเลย ไว้ดูน้ำหนักสัปดาห์หน้าอีกที จากนั้นคุณหมอก็ทำการตรวจปากมดลูก แล้วบอกว่าเปิด ประมาณ 1 ซ.ม. แล้ว แต่ก็ให้รอดูก่อนถ้ามีอาการน้ำเดิน มีมูกเลือดหรือเจ็บท้องก็ให้รีบมา ร.พ. วันนี้(วันที่เขียนบล็ก) เป็นวันอาทิตย์ที่ 13 ก.ย. 52 แล้ว แม่อยู่บ้านคนเดียว คุณพ่อก็ไปทำงาน คุณยายไปเรียน คุณตาไปส่งน้าปัดไปเรียน น้าป่านไปงานซ้อมรับปริญญาเพื่อนที่ ม.บูรพา แม่เหงาๆ ก็เลยมา อัพบล็อกดีกว่า จากที่ห่างหายไปตั้ง 3 สัปดาห์ มัวแต่นั่งคิดถึงลูกทุกวัน ชักจะฟุ้งซ่านไปใหญ่แล้ว
ความรู้สึกของแม่ในช่วงนี้ อยู่ในช่วงว้าวุ่น กังวลใจ อย่างที่ใครๆก็บอกกันว่า อุ้มท้องรอลูกมาได้ตั้ง 9 เดือนแล้ว พอเดือนสุดท้ายทำไมมันช่างนาน แสนนาน นับวัน นับเวลารอ กว่าจะผ่านไปวัน วัน นึง อาจเป็นเพราะความที่อยากเห็นหน้าลูกเร็วๆ แต่อีกใจก็อยากให้ลูกเติบโตเต็มที่ จนกว่าลูกจะพร้อมออกมาเอง บวกกับความกังวลว่าแล้วเวลา เจ็บท้อง หรือน้ำเดินเนี่ย เราจะเป็นตอนไหนนะ จะพรุ่งนี้มั้ย หรืออีกกี่วัน กับอีกสารพัดความอึดอัดกับท้องที่โตจนนอนก็ลำบาก เดินก็เมื่อยไปหมด ยืนหรือนั่งนานหน่อยก็ปวดหลัง เท้าบวม มือบวม ตื่นเช้ามาก็ปวดเมื่อยเนื้อตัว ทำให้นึกถึงเวลาที่ไม่ได้ท้องแล้ว ก็แอบเห็นแก่ตัวนิดๆ ว่าอยากกลับไปเป็นเหมือนตอนที่ไม่ได้ท้องจังเลย
ลูกของแม่ตอนนี้ก็คงกำลังอยู่ในช่วงฟิตซ้อมร่างการ เตรียมตัวออกมาดูโลกแล้ว โดยเฉพาะตอนกลางคืน ช่วง ห้าทุ่มเป็นต้นไป พอแม่นอนหนูก็จะเหยียดตัวและถีบๆ ดิ้นสุดฤทธิ์ เหมือนกับจะบอกว่าหนูเองก็อึดอัด แล้วนะ อยู่ในท้องแม่ก็แคบนิดเดียว บางคืนหนูดิ้นทั้งคืนจน พระอาทิตย์ขึ้น ตอนหนูจึงหมดฤทธิ์ ยอมนอนแต่โดยดี และแม่เองก็ได้นอนเอาตอนนั้นเหมือนกัน
ส่วนอาการสะอึกของหนู ที่เริ่มตั้งแต่สัปดาห์ที่ 29 จนถึงวันนี้ก็ยังคงสะอึกอยู่ แต่ลดลงบางจากวันละ 3-4 ครั้ง มาเป็น 1-2 ครั้ง แต่ครั้งนึงก็นานพอดูแม่เคยนับได้ร้อยกว่าครั้งเชียวนะ แต่แม่หาข้อมูลดูแล้วว่าการสะอึกไม่เป็นอันตรายอะไร หนูแค่ฝึกหายใจ และพัฒนาการทำงานของกระบังลม แม่ก็หมดห่วง
Free TextEditor
Create Date : 13 กันยายน 2552 |
Last Update : 13 กันยายน 2552 16:32:36 น. |
|
0 comments
|
Counter : 625 Pageviews. |
|
|