หากถามว่าสิ่งมีชีวิตประเภทใดที่ครอบครองและเป็นใหญ่ที่สุดบนโลกใบนี้ หลายคนคงตอบอย่างไม่ต้องคิดมากเลย ว่า ก็ “คน”
หรือ “มนุษย์” ไง.....

แต่ขอโทษทีครับ.......มันผิดอย่างแรง เพราะยังมีสิ่งมีชีวิตครองโลกมาก่อนที่เราจะถือกำเนิด
และยังต่อสู้กับเรามายาวนานนั้น ก็คือ “แมลง” นั่นเอง

สารพัด สารพันวิธี ที่เรานำมาใช้ต่อกรกับแมลงเจ้าโลก
ไม่ว่าจะเป็นยุง แมลงสาบ เรือด ไร เห็บ ศัตรูของพ่อบ้าน แม่บ้าน หรือจะเป็น ตั๊กแตน ผีเสื้อ หนอน เพลี้ย ฯลฯ
ศัตรูพืชที่เราล้วนอยากจะกำจัด แต่ทำอย่างไร
มันก็ไม่สูญพันธุ์ไปซักที กลับกลายเป็นเราผู้ที่ใช้เครื่องทุนแรงที่เรียกว่า ยาฆ่าแมลง ซึ่งบริษัทยา เมืองนอกต่างนำมาประเคน
นำเสนอถึงที่ ได้รับผลกรรม(การกระทำ) ที่ก่อทั้งสารตกค้างในร่างกายจนเป็นหนทางสู่โรค
ทั้ง โรคมะเร็ง,โรคไต,ฯลฯซึ่งหนักกว่าผลกระทบจากเจ้าโลกที่มีนามว่า “แมลง” ซะอีก

อ้าว .....
ทีบอกนี่ไม่ใช่ให้กลัวกันนะครับ ของทุกสิ่งบนโลกมีทั้งประโยชน์และโทษ ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ของเรา หรือเรียกว่าใช้อย่างมีสติละกันครับ แต่สิ่งที่ลืมไม่ได้ก็คือ เราต้องรู้ให้มันถ่องแท้ หรืออย่างน้อย
ก็ให้รู้ด้านที่เป็นโทษของมันด้วย ที่นายยักษ์เขียว
อารัมบทมาซะยืดเนี่ย... ไม่ใช่อะไร เพราะเมื่อสัปดาห์ก่อน ได้ไปซื้อผลไม้
จากคุณลุงชาวสวน(ส้ม)ท่านหนึ่งอายุซัก 50 ต้น ๆ ได้ เราได้นั่งคุยกันอย่างถูกคอ แต่นายยักษ์เขียว
มาสะดุดเข้าเรื่องหนึ่งที่ลุงเค้าเล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันไม่ได้ทำเองแล้ว ให้ลูกหลานทำแทน
ไม่ใช่เพราะว่าแก่ หรือว่ารวยแล้วสบายขึ้นเลยให้ลูกทำนะครับ แต่เพราะว่า ต้องไปฟอกไตอาทิตย์ละสองวัน สาเหตุก็อย่างที่บอกล่ะครับ
เพราะคุณลุงเล่นทั้งยืนฉีด นั่งฉีด นอนฉีด(ไอ้คำว่านอนฉีดนี่อันนี้ถ้าคนเคยเกษตรทำคงจะทราบว่าบางทีก็ต้องมุดเข้าไปใต้ต้นแล้วฉีดออกมา
ไม่งั้นแมลงไม่ตาย) ก็ไม่บ่อยครับ เดือนละสามถึงสี่ครั้ง
ผลมันก็เลยส่งผลให้ร่างกายต้องปลดระวางก่อนกำหนด นายยักษ์เขียวได้ฟังก็เลยนึกขึ้นได้ว่า ตัวเองได้เผยแพร่
เรื่องของข้อควรระวังในการใช้สารเคมีในเว็บไซท์ของตัวเอง ไปนานโขอยู่ แต่มันยังไม่กว้างพอที่จะทำให้คนทั่วไป
ได้รับรู้ เลยเอามาฝากกันในนี้ซะเลย อย่างน้อย
ก็หวังว่าคงจะมีคนที่ได้รับโทษจากความไม่รู้น้อยลง
ถ้าเลือกที่จะใช้จะได้ระมัดระวังกัน ครับ คนที่สนใจก็เลือกติดตามอ่านได้เลยนะครับ มีค่อนข้างครบ จะทยอยลงเรียงลำดับให้ตามตัวอักษร(อังกฤษ) ครับ

ท้ายบทนี้
ขอเอาตัวที่เราคุ้นเคยแต่ไม่ได้สังเกตกัน มาให้ซักหนึ่งตัวก่อน ผมว่ามีน้อยคนที่ไม่เคยใช้ครับ Permetrin ตัวนี้คุ้นตามั้ยครับ! ถ้ายัง ก็ให้ไปหยิบ
ยาฉีดยุงที่บ้านมาดูครับ ส่วนใหญ่เค้าใช้ตัวนี้กัน ต่างกันก็แค่ปริมาณความเข้มข้นมากน้อยกว่ากันเท่านั้น

นายยักษ์เขียว

เปอร์มีธริน

(permethrin)

การออกฤทธิ์ เป็นสารกำจัดแมลงไพรีทรอยด์สังเคราะห์ ออกฤทธิ์ในทางสัมผัสและกินตาย

ความเป็นพิษ มีพิษเฉียบพลันทางปาก มากกว่า 500 มก./กก. ทางผิวหนัง (กระต่าย) มากกว่า 2,000 มก./กก. (หนู) 4,000 มก./กก. ทำให้ผิวหนังและดวงตา เกิดอาการระคายเคือง

ศัตรูพืชที่กำจัดได้ หนอนเจาะสมออเมริกัน หนอนคืบ หนอนเจาะสมอสีชมพู หนอนกัดตายาสูบ หนอนกระทู้ผัก หนอนคืบกะหล่ำ หนอนใยผัก หนอนกระทู้หอม เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยกระโดด แมลงหวี่ขาว เพลี้ยอ่อน และแมลงศัตรูพืชอื่น ๆ นอกจากนี้ยังใช้ในการกำจัดแมลงศัตรูปศุสัตว์อีกด้วย

พืชที่ใช้ ฝ้าย ผักตระกูลกะหล่ำ ถั่วฝักยาว มะเขือเทศ ฟักทอง องุ่น ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ปาล์มน้ำมัน ไม้ผลทั่วไป

สูตรผสม 5% , 10% อีซี และ 25% ดับบลิวพี

อัตราการใช้ ชนิด 10% อีซี เมื่อใช้กำจัดแมลงทั่วไป ใช้อัตรา 10-40 ซีซี ผสมกับน้ำ 20 ลิตร สำหรับชนิดอื่น ศึกษารายละเอียดจากฉลากก่อนใช้

วิธีใช้ ผสมกับน้ำกวนให้เข้ากันดี ฉีดพ่นให้ทั่วใบและต้นพืช เมื่อพบเห็นแมลงศัตรูพืช

อาการเกิดพิษ จะมีอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ แน่นหน้าอก ตาพร่ามัว ม่านตาหด น้ำลายไหล เหงื่อออกมาก คลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วงและปวดเกร็ง ในช่องท้อง

การแก้พิษ ในกรณีที่เข้าตาให้ล้างตาด้วยน้ำสะอาดจำนวนมาก
ๆ ทันที นานอย่างน้อย 15 นาที ในกรณีถูกผิวหนังและเกิดอาการเป็นพิษขึ้น ให้ถอดเสื้อผ้าออกทันทีแล้วล้างด้วยน้ำมาก ๆ ถ้ากลืนกินเข้าไป อย่าทำให้คนไข้อาเจียน ควรไปหาแพทย์ สำหรับแพทย์ ควรล้างท้องคนไข้ด้วย sodium bicarbonate 5% แล้วให้ยา diazepam ขนาด 2-4 มก. แก่คนไข้ด้วยการฉีด แบบ IV หรือ IM ฉีดซ้ำได้ทุก 2 ชั่วโมง ถ้าจำเป็น

ข้อควรรู้ - เป็นพิษต่อผึ้ง อย่าใช้กับพืชในขณะที่กำลังออกดอก

- เป็นอันตรายต่อปลาสูงมาก อย่าปล่อยให้ปนเปื้อนลงไปในน้ำ

- อาจเป็นสาเหตุให้เกิดไรเพิ่มขึ้น

- ออกฤทธิ์ได้เร็ว ให้ผลในทางขับไล่แมลงได้

ที่มา
หนังสือ สารกำจัดศัตรูพืชในประเทศไทย

Create Date : 26 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 26 พฤศจิกายน 2553 10:50:35 น.		0 comments
Counter : 1031 Pageviews.
Share Tweet