ภารกิจเร่งด่วนหลังน้ำลดของเพื่อนเกษตรกร
ขอบคุณที่มาภาพ : //www.oknation.net/blog/home/blog_data/166/11166/images/lopnumkonhapra.jpg
"น้ำท่วมใครว่าดีกว่าฝนแล้ง" ประโยคอมตะในเพลงนี้ฟังกี่ครั้งก็สะท้อนภาพความเป็นจริง ของชาวเกษตร รวมถึงผู้คนในสังคมได้เป็นอย่างดี สำหรับบ้าน อาคาร สถานที่ ทุกคนรู้ดี ว่าหลังน้ำลด ต้องปัด กวาด เช็ด ถู ซ่อมแซม แต่สำหรับชาวเกษตรแล้ว บางคนมีประสบการณ์ ก็ทำสำเร็จและลุล่วงไปได้อย่างรวดเร็ว แต่บางคนก็มืดแปดด้านเหมือนกัน เพราะอุทกภัยนั้น ไม่ได้นำมาแค่น้ำและความเสียหายของพืชผลที่เราได้เห็นตรงหน้าเท่านั้น แต่ยังพาเอาเชื้อโรคพืชรวมถึงศัตรูพืชบางชนิดจากที่ต่าง ๆ กระจายไปยังพื้นที่ที่น้ำท่วมถึงด้วย บางคนคิดว่า หลังน้ำท่วม แค่ตากดิน 1-2 อาทิตย์ พอดินสุกดีก็ปลูกพืชใหม่ได้ แต่.... มันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิครับ สำหรับบางพื้นที่ ยิ่งเป็นพื้นที่เกษตรที่มีการปลูกพืชชนิดต่าง ๆ ต่อเนื่องมาหลายปี ล้วนมีภัยแฝง คือ เชื้อโรครา หรือแมลงศัตรูพืช อยู่ ทีนี้เราจะทำอย่างไรล่ะ .......... ต้องตั้งคำถามและฟื้นฟูเป็นขั้นเป็นตอน การรวบรัดข้ามขั้นตอน หรือเร่งรีบจนเกินไป อาจนำพาปัญหาทำให้ล้มเหลวในการปลูกพืชใหม่ หรือฟื้นฟูสภาพต้นไม้ กลายเป็นเคราะห์ซ้ำำทำให้หนี้สินท่วมหัวได้ทีเดียว ทำอย่างไร ผมมีข้อแนะนำให้ลองไปปรับใช้ได้ทั้งในสวนเกษตร พืชไร่,และพืชต่าง ๆ ที่ปลูกในบริเวณบ้าน
ไม้ผล - เริ่มแรกเมื่อน้ำลด พื้นดินในบริเวณบ้านยังเปียกและอ่อนตัวอยู่ โดยส่วนใหญ่ไม้ผล หรือไม้ยืนต้น แต่ละชนิด จะทนน้ำท่วมได้ในระยะเวลาที่แตกต่างกัน(ยกเว้นต้นที่กำลังติดผลอาจรอดยาก) แต่สิ่งแรกที่ควรทำคือ อย่าเหยียบย่ำ หรือตะลุยเดินเท้าหรือสั่งคนงานเข้าไปจัดการทันที เพราะจะทำให้รากบอบช้ำมากกว่าเดิม ในร่องสวน ควรสูบน้ำออกให้พ้นระดับล่างของรากพืช ตากดินให้แห้งประมาณ 1-3 อาทิตย์ ขึ้นอยู่กับสภาพดินร่วน,ดินทราย หรือดินเหนียว ของในแต่ละพื้นที่
- หลังจากดินแห้ง(พอที่จะเดินได้โดยไม่กระทบรากพืช) ให้เข้าสำรวจพื้นที่ จัดการเก็บกวาด เศษขยะ กิ่งไม้ที่หักโค่นเพื่อที่จะให้ดำเนินการฟื้นฟูได้ง่ายขึ้น
- สำหรับไม้ใหญ่ ที่ยังรอดอยู่ ให้ใช้คราดครูดเพื่อเปิดผิวหน้าดินรอบทรงพุ่ม(ลึกประมาณ 1-3 ซม.) แล้วใส่ ชีวภัณฑ์กำจัดเชื้อโรครา "ไตรโคแม็ก โดยรอบ เพื่อรักษารากเน่าและป้องกันเชื้อราเข้าทำลายรากซ้ำ
- ไม้ใหญ่ต้นที่ตายให้ขุดทิ้ง และเปิดปากหลุมไว้ตากหลุมให้แห้ง ก่อนปลูกให้ใส่ ชีวภัณฑ์ กำจัดเชื้อโรครา "ไตรโคแม็ก โดยรอบบริเวณหลุม พร้อมกันนั้น ให้เริ่มให้น้ำบาง ๆ ย้ำนะครับ บาง ๆ (ประมาณ 1 ใน 4 ของที่เคยให้ปกติ)แล้วจึงค่อย ๆ เพิ่มขึ้นจนเป็นปกติ(ใช้เวลาประมาณ 1 อาทิตย์)
- หลังใ่ส่ "ไตรโคแม็ก"ประมาณ 1 อาทิตย์ ให้ตรวจแปลงซ้ำ ว่ามีต้นที่ตายเพิ่มหรือต้นที่เสียหายเกินเยียวยาหรือไม่ หากมีให้ขุดออก
- เริ่มฟื้นฟูกระตุ้นการแตกรากและใบใหม่ด้วย ฮอร์โมนธรรมชาติ "ไบโอเฟอร์ทิล" ผสมน้ำราดทางดิน และฉีดพ่นทางใบ(ขั้นตอนนี้ประมาณ 3 วันก็เห็นผลครับ) ต้นจะเขียวขึ้นและแตกใบใหม่ออกมา ให้ต้นแตกใบออกมาประมาณ 2-3 ชุด หลังจากนั้นจึงเริ่มบังคับ เพื่อให้ผลผลิตใหม่อีกครั้ง แต่จำไว้ว่า อย่าเร่งรีบจนเกินไป ทำใบใหม่ประมาณ 2-3 ชุดก่อน ไม่งั้นจะทำให้ต้นตายเพิ่มได้
- ทางดินเริ่มให้ปุ๋ยอินทรีย์ หลังน้ำลดประมาณ 1 เดือน อย่าเพิ่งใ้ส่ปุ๋ยเคมี เพราะจะทำให้รากเน่าหรือรากอ่อนแอลง
- การตัดแต่งกิ่ง ทำเมื่อต้นแตกใบใหม่และกิ่งก้านใหม่แล้ว ประมาณ 2 ชุด อย่ารีบตัดแต่งจะทำให้ต้นแย่ลง
แปลงผัก,นาข้าว,พืชไร่ - หลังน้ำลด ให้ตากดินให้แห้ง(ประมาณ 2-4 อาทิตย์)
- ไถกลบซากพืชที่เสียหาย และใส่ "ไตรโคแม็ก" เพื่อกำจัดเชื้อรา ป้องกันโรคกล้ายุบและโรคราอื่นที่มากับน้ำท่วม ในการปลูกรอบต่อไป
- ใช้ฮอร์โมนธรรมชาติ "ไบโอเฟอร์ทิล" ในการบำรุงต้นที่ปลูกใหม่ จะทำให้ต้นโตเร็วและแข็งแรงกว่าการใช้เคมี
หมายเหตุ ในบางพื้นที่มีการระบาดของไส้เดือนฝอย(รากปม) ในแปลงอื่น ข้างเคียง หรือในพื้นที่ตำบลใกล้เคียง หากเราทราบข่าวหรือปลูกพืชที่เสี่ยงต่อศัตรูพืชประเภทนี้ แนะนำให้ใช้ "พีแม็ก" เพื่อป้องกันและกำจัด โดยใส่พร้อมกับ "ไตรโคแม็ก" อย่าชะล่าใจ เพราะัยังไงการป้องกันก็ดีกว่าการมาไล่กำจัดตอนที่มันเข้าทำลายแล้ว
สุดท้าย ขอเป็นกำลังใจให้กับชาวเกษตร หรือเพื่อนร่วมชาติ ที่ประสบเคราะห์คราวนี้ครับ
สำหรับท่านที่ประสบปัญหา ต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม ติดต่อผ่านทางเมล yakkeaw@hotmail.com ได้ (ยินดีช่วยเหลือเต็มที่ครับ)
โดย นายยักษ์เขียว
Create Date : 14 พฤศจิกายน 2553 |
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2553 9:18:57 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1194 Pageviews. |
|
|