Golfer & Eat Out Zone.ออกรอบ ตามไปชิม
ปล.แวะมาเยี่ยมแล้วช่วยลง Comment ให้ด้วยครับ
ด้วยความเคารพ

+++++++++++++++++++++++++++

คติธรรมจากหลวงพ่อจรัญ ฐิตธฺมโม วัดอัมพวัน :
เชื่อยาก สอนง่าย ไปไหนปากอย่าไว ใจอย่าเบา เรื่องเก่าอย่ารื้อฟื้น เรื่องคนอื่นอย่าเอามาคิด อย่าจับให้มั่นคั้นให้ตาย จะผิดหวังเสียใจตลอดชีวิต :



http://yaipearn.multiply.com


Since Jan 18, 2005


Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
12 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 

ขออาลัยกับการจากไปของ ปู่เย็น

ปู่เย็น แบบอย่างของคนรุ่นหลัง

"ดูแต่หอยซิ ไม่มีมือไม่มีตีนมันยังหากินเองได้ ประสาอะไรกับคนมีมือมีเท้า หากินเองไม่ได้ก็อายหอย"

ถ้อยความสั้นๆ จากหนังสือ ฅ คน แสดงความเป็นตัวตนอย่างชัดเจนของ "ปู่เย็น" เฒ่าทระนงวัย 106 ปี ที่นอกจากจะเป็นขวัญใจมหาชนแล้ว ปู่เย็นยังเป็นกำลังใจในการสู้ชีวิตให้แก่หลายๆ คน ท่ามกลางสังคมที่ผุกร่อน

มาวันนี้ปู่เย็นมีบทบาทใหม่เพิ่มเติมมานั่นก็คือ การได้รับเกียรติให้เป็น "พรีเซ็นเตอร์ท่องเที่ยว" ของจังหวัดเพชรบุรี ที่แม้กระทั่งปู่เย็นเองก็ยังไม่รู้ว่า "พรีเซ็นเตอร์ท่องเที่ยว" คืออะไร???

ดังกว่าดารา

หลังรายการ "คนค้นฅน" นำเสนอเรื่องราวของ "ปู่เย็น" เฒ่าทระนง ไปในคืนวันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ 2548 และอีก 2 ตอนต่อมา

ชื่อของผู้เฒ่าแห่งลุ่มน้ำเพชรได้กลายเป็นที่รู้จักทันทีด้วยวิถีปฏิบัติที่เรียบง่าย พอเพียง และทระนง จากชายชราที่รอวันสังขารร่วงโรย ปู่กลายเป็นที่สนใจของคนมากมายจะเป็นด้วยกระแสหรือความเมตตาก็สุดจะหยั่ง มีคนมากมายจากทั่วสารทิศมาเยี่ยมชนิดที่หัวกระไดสะพานลำไยที่ปู่อยู่ไม่เคยแห้ง

ปู่เย็นกลายเป็นขวัญใจมหาชนคนใหม่ จนทางรายการคนค้นฅนต้องนำเรื่องราวของปู่เย็นมานำเสนออีกครั้งตามคำเรียกร้องของผู้ชม

ทั้งนี้ ตามประวัติของปู่เย็นที่ผ่านการนำเสนอจากรายการคนค้นฅนและหนังสือ ฅ คน ฉบับปฐมฤกษ์ ระบุไว้ว่า ปู่เย็นเป็นชาวเพชรบุรีโดยกำเนิด มีชื่อจริงคือ "นายเย็น แก้วมะณี" มีที่อยู่อาศัยตามทะเบียนรา ษฎรคือ 274/4 ถ.มาตยาวงศ์ ต.ท่าราบ อ.เมืองเพชรบุรี อดีตมีอาชีพรับจ้างเลี้ยงวัว ปัจจุบันปู่เย็นมีอายุ 106 ปี (ตามที่ระบุผ่านสื่อต่างๆ) อาศัยอยู่ในเรือลำน้อยใต้สะพานลำไยแห่งลำน้ำเพชร

ปู่เป็นชาวมุสลิม แต่มีภรรยาเป็นไทยพุทธ ชื่อ"ย่าเอิบ" ที่อยู่ด้วยกันโดยไม่มีใครเปลี่ยนศาสนา แต่ว่าก็ใช้ชีวิตเคียงคู่กันไปตลอดชีวิต

ปู่เย็นไม่มีลูกเพราะปู่เป็นหมัน จะมีก็แต่ลูกสาวบุญธรรม 2 คนเท่านั้น ซึ่งเมื่อเติบใหญ่ก็แยกย้ายไปมีครอบครัวของตน ชีวิตบั้นปลายของชายชราอย่างปู่คงจะมีความสุขในบ้านเช่าหลังเล็กๆ ทว่าเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2536 ย่าเอิบก็มาด่วนหนีโลกเบี้ยวๆไปเสียก่อน ตอนอายุ 94 ปี ปู่ร้องไห้ต่อการจากไปของย่ากว่า 3 เดือน

เมื่อไม่มีย่าปู่ก็ไม่รู้จะเสียเงินค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าบ้านอีกทำไมเดือนละแปดร้อยบาท ปู่จึงขนทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ไม่กี่ชิ้นในชีวิตมาอยู่บ้านหลังใหม่ ไม่มีเสา ไม่มีหลังคา บ้านของปู่เป็นเพียงเรือลำเล็กๆ ลอยอยู่ในลำน้ำเพชร จากวันนั้นถึงวันนี้ ปู่ใช้ชีวิตอยู่บนเรือนับ 10 ปี เลี้ยงชีวิตด้วยการดักอวนหาปลา เหลือกินก็ขายถูกๆ ไม่ต้องมีตาชั่ง 20-30 บาทปู่ก็ขายแลกเงินประทังชีพ แต่ถ้าใครเอาเงินให้ฟรีๆ ปู่จะโกรธไม่รับเงิน

"กินฟรีได้ แต่ไม่อยากกิน เกรงใจ ไม่เอา อาย ของซื้อของขาย ไหนต้องตักไหนต้องล้าง" ปู่เย็นว่าไว้อย่างนั้น (จากหนังสือ ฅ คน)

เมื่อละครชีวิตของปู่เย็นถ่ายทอดสู่สายตาประชาชนจากรายการคนค้นฅน ก็ดูเหมือนว่าโลกที่เคยลืมเลือนปู่เย็นไป กลับพลิกผันจดจำปู่ได้ในทันที จากที่เคยโดดเดี่ยว ปู่เย็นกลายเป็นคนดังที่ชีวิตไม่เงียบเหงาอีกต่อไปเพราะในยุคนั้นที่ผู้นำไร้จริยธรรม สังคมไทยผุกร่อน เน้นวัตถุและเม็ดเงินเป็นใหญ่

เมื่อมีคนอย่างปู่เย็นปรากฏต่อสายตาสาธารณะชน ด้วยภาพของชายชราตัวงองุ้ม ศีรษะโพกผ้าสะระบั่นเพื่อยืนยันความ เป็นมุสลิม ชอบนั่งหัวเราะอ้าปากหวอ กระดูกไม่ดี เดินได้นิดเดียวก็เหนื่อยหอบ ผิวหนังเหี่ยวย่น ใช้เหงือกแทนฟันในการบดข้าว แต่ว่าก็มีความเด็ดเดี่ยวและทระนงอยู่ในตัวตน หลายๆ คนจึงเทใจยกให้ปู่เย็น เฒ่าทระนง เป็นฮีโร่ไปโดยปริยาย

บทบาทใหม่

วันที่ 23 มีนาคม 2548 ปู่เย็นได้เข้ารับเรือพระราชทานต่อเบื้องพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่จัดขึ้นบริเวณท่าน้ำหลังจวนผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อรับพระราชทานเรือพระราชทานที่เป็นฝีมือการออกแบบของวิทยาลัยการต่อเรือพระนครศรีอยุธยา เป็นเรือกว้าง 1 เมตร ยาว 6 เมตร มีประทุนหลังคากันแดดกันฝน ด้านครึ่งเรือตอนท้ายจะมีผ้ามุ้งสำหรับกันยุง สำหรับตัวเรือจะเป็นเนื้อไฟเบอร์กลาสตลอดทั้งลำ มีน้ำหนักเบาสามารถลอยตัวอยู่ในน้ำตื้นได้ สร้างความตื้นตันใจแก่ปู่คณานับ

นอกจากนี้ทางจังหวัดเพชรบุรีได้คัดเลือกให้ปู่เป็นผู้สูงอายุดีเด่นประจำปี 48 รวมถึงได้มอบบทบาทใหม่อย่างเป็นทางการให้ปู่เย็นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม 2549 นั่นก็คือ การเป็น "พรีเซ็นเตอร์ท่องเที่ยวของจังหวัดเพชรบุรี" ที่หากใครผ่านไปเพชรบุรีก็จะเห็นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่มีทั้งรูปสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังของจังหวัดอย่าง "เขาวัง" ที่เยื้องมาทางมุมซ้ายมีรูปผู้ว่าราชการจังหวัดกำลังปีนต้นตาล และที่มุมซ้ายสุดมีรูปปู่เย็นหัวเราะอ้าปากหวอ ก็ไม่ต้องแปลกใจไป เพราะนั่นคือบทบาทใหม่ของปู่เย็นที่ทางจังหวัดเพชรบุรีมอบให้

"การนำปู่เย็นมาเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้นเพราะเรามองว่าในด้านของการตลาดว่า ควรจะหาบุคคลที่มีต้นทุนทางสังคมสูงซึ่งตรงกับลักษณะของปู่เย็นพอดี ปู่เป็นคนเพชรบุรีโดยกำเนิด หลังจากรายการคนค้นฅน นำเสนอเรื่องราวชีวิตของปู่ก็เป็นที่น่าสนใจและควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างต่อคนทั่วไป จึงเหมาะต่อการเป็นภาพลักษณ์ของเมืองเพชร" สยุมพร ลิ่มไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี แสดงความเห็นต่อการคัดเลือกปู่เย็นเป็นพรีเซ็นเตอร์ทางการท่องเที่ยวเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของจังหวัด

นอกจากนี้ พ่อเมืองเพชรบุรียังให้เหตุผลถึงการเลือกพรีเซ็นเตอร์ครั้งนี้ว่า ปู่เย็นเป็นบุคคลที่มีต้นทุนทางสังคมสูง และก่อนที่จะเจาะจงคัดเลือกปู่นั้นทางจังหวัดมีการสอบถามถึงความสมัครใจให้ปู่ทราบแล้วว่าปู่ยินดีหรือไม่ ซึ่งปู่ก็เข้าใจและยินดีที่จะช่วยเหลือทางจังหวัด เมื่อทางจังหวัดมีกิจกรรมอะไรก็จะเชิญปู่เย็นมาเพื่อร่วมประชาสัมพันธ์ออกงานกับทางจังหวัด หรือเมื่อใครมาเที่ยวแล้วต้องการไปเยี่ยมปู่ที่เรือก็สามารถทำได้

เป็นอันว่าการเป็นพรีเซ็นเตอร์ครั้งนี้ปู่รับด้วยความสมัครใจ แม้ว่าปู่จะไม่รู้ว่าพรีเซ็นเตอร์ท่องเที่ยวคืออะไรก็ตาม

ในขณะที่ใครหลายๆ คนก็ออกจะหวั่นใจกับบทบาทใหม่ของปู่เย็นอยู่ไม่ได้ เพราะด้วยความเป็นห่วงปู่ เกรงว่าปู่จะเหนื่อยต่อการวิ่งรอกออกงานโน้นงานนี้ ซึ่ง เกียรติศักดิ์ กล่อมสกุล ที่นอกจากจะคอยดูแลปู่เย็นแล้ว ยังรับหน้าที่เป็นสารถีส่วนตัวคอยรับส่งปู่เย็นไปตามที่ต่างๆ กล่าวว่า

"จริงๆ แล้วปู่เย็นก็ใช้ชีวิตประจำวันไปตามปกติของปู่นั่นแหละ สมมติว่ามีงานแถลงข่าวที่อยู่ในละแวกเมืองเพชรไม่ต้องเดินทาง ไกล ผมก็มารับปู่ไปเอง และจะบอกแกว่า "มารับปู่ไปเที่ยว" ซึ่งแกก็ชอบ เพราะถือเป็นการไปเปิดหูเปิดตา ส่วนการที่มีคนมาขอถ่ายรูปมานั่งคุยด้วย ผมมองว่ามันไม่ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตแกเท่าไหร่หรอก เพราะที่ผ่านมา (หลังออกรายการคนค้นฅน) ก็มีคนมาหาแกเป็นประจำอยู่แล้ว

"สำหรับนักท่องเที่ยวถือว่าปู่เย็นไปสร้างสีสันให้กับงาน แต่สำหรับปู่แล้วถือว่าเป็นการสร้างสีสันให้กับแก เพราะปู่เป็นคนชอบไปโน่นไปนี่ แต่เดี๋ยวนี้แกจะไปไหนคนเดียวก็ไม่ ไหวแล้ว ขี่จักรยานก็ไม่ไหว จะพายเรือน้ำเพชรมันก็น้อย ไปไหนได้ไม่ไกล นอกจากหาปลาได้แถวสะพานลำไย" เกียรติศักดิ์กล่าวในฐานะคนคุ้นเคยกับปู่เย็นเป็นอย่างดี

ในขณะที่ สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ผู้ดำเนินรายการ คนค้นฅน คนคุ้นเคยกับปู่เย็นอีกคนหนึ่ง อดที่จะแสดงความห่วงใยต่อปู่เย็นไม่ได้ เพราะวันนี้สังขารของปู่เย็นร่วงโรยไปมากแล้ว

"วิถีชีวิตของปู่เย็นเราอย่าไปมองว่ามันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าในความเป็นจริงมันก็มีเหตุผลความจำเป็นบางอย่างที่ทำให้ปู่ต้องอยู่แบบนั้น สมมติว่ามันมีตัวแปรอื่นที่ทำให้ปู่ต้องมีโอกาสในชีวิตมากกว่าที่เคยเป็นแล้วไม่ได้มาบังคับแก แต่เป็นกิจกรรมที่แกร่วมด้วยความสมัครใจก็เป็นการดี แต่มันมีสิ่งที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง นั่นก็คือ ปู่อายุเยอะแล้ว สุขภาพของปู่ล่าสุดทรุดโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด แล้วปู่เป็นคนที่คงเส้นคงวาในเรื่องของการสูบบุหรี่มาก การที่นำปู่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ย่อมที่จะมีผลกระทบบ้าง แต่เท่าที่รู้จักปู่เย็นถ้าสมมติว่าห้วงเวลาที่เหลือปู่ได้มีกิจกรรมที่ปู่ร่วมแล้วสนุกด้วยแกก็คงอยากไป ถ้าแกไม่เต็มใจไปก็คงไม่ไป"

"สำหรับการที่นำปู่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์เพื่อประชาสัมพันธ์จังหวัดนั้นผมมองว่ามันก็เท่านั้นแหละ เพราะว่าปู่แกจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ปู่มีชีวิตอยู่โดยไม่รู้ว่าโลกนี้มันมีการทำมาหากินเอาเงินเข้าประเทศจากธุรกิจท่องเที่ยว ปู่ไม่รู้เรื่องตรงนั้นเลย แต่ว่าสิ่งที่มันพอจะหยิบชูขึ้นมาให้คนเห็นก็เพียงแค่ให้คนไปเที่ยวเห็นว่าไปเที่ยวเพชรบุรีเพราะเพชรบุรีมีปู่เย็น ไปดูเหมือนไปดูของแปลกหรือไปดูความประทับใจก็แล้วแต่ ไม่มีใครสามารถเอาปู่ไปทำอะไรได้มากกว่าเอาปู่ไปโฆษณา"

สุทธิพงษ์ แสดงความคิดเห็น พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า

"คนที่พาปู่ไปต้องใส่ใจในรายละเอียด ต้องดูแลได้ ถ้าดูแลไม่ดีปู่ทุกข์ทรมานแล้วไม่มีใครคอยใส่ใจจากความคิดสร้างสรรค์จะกลายเป็นบาปทั้งขึ้นทั้งล่องเสียเปล่าๆ ถ้าชีวิตของคนคนหนึ่งทำประโยชน์ไม่ว่าจะในแง่ไหนให้แกผืนแผ่นดินที่ตัวเองอยู่บ้างก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่การที่คิดจะเอาปู่ไปใช้ในเรื่องของผลประโยชน์ก็คงต้องมีบ้าง แต่ต้องระวังรัดกุมให้มากๆ"

ผู้เฒ่าที่ใครๆ ก็รัก

หลังโด่งดังจากรายการคนค้นฅน ปู่เย็นก็มีคนห่วงใยมากมายจากทั่วประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มที่เรียกขานตัวเองว่า "แก๊งค์คนรักปู่เย็น" ที่มีทั้งใกล้และไกล ซึ่งถ้ามีโอกาสผ่านไปทางเมืองเพชรบุคคลเหล่านี้ก็จะแวะเวียนเยี่ยมเยียนปู่ของพวกเขาอยู่เป็นประจำ

"เกรงใจมาทำไมไกลๆ" ปู่เย็นมักจะบอกอย่างนี้เป็นประจำกับคนเดินทางไปเยี่ยมเยียน

นี่ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้จังหวัดเพชรบุรีเลือกปู่เย็นเป็นพรีเซ็นเตอร์ท่องเที่ยวของจังหวัด ซึ่งเกียรติศักดิ์กล่าวว่า การเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับทางจังหวัดครั้งนี้ก็เป็นเพราะกระแสคนรักปู่เย็น ไปไหนใครๆก็ถามถึงว่าปู่ยังสบายดีไหม อยากมาหาปู่ ทางจังหวัดคงเห็นความสำคัญตรงนี้ เท่าที่ทราบมาก็เห็นว่าทางจังหวัดเขาจะมีเงินเดือนให้แต่จะให้ยังไงก็ยังไม่ทราบแน่ชัดเพราะไม่ได้คิดจริงจังตรงจุดนี้ และตนก็ไม่คิดว่าสำหรับปู่เรื่องเงินจะเป็นเรื่องใหญ่ ช่วงที่ออกคนค้นฅนใหม่ๆ ปู่เคยลองใช้เงินซื้อรถกระบะ ซื้อจักรยานไฟฟ้า แต่สุดท้ายก็กลับมาอยู่ในเรือเหมือนเดิม ฉะนั้นปู่จะได้รับเงินเดือนหรือไม่ไม่ใช่สิ่งสำคัญ

ส่วนปู่เย็นเองก็กล่าวไปในทำนองเดียวกันว่า ไม่ได้คิดอะไร ตอนนี้ปู่ดีใจที่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ช่วยเมืองเพชรที่ปู่เกิด ปู่เป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดเพชรบุรีแล้ว แต่หากใครไปถามปู่เย็นว่า ทางจังหวัดเพชรบุรีได้ให้เงินเดือนปู่เย็นหรือเปล่า ก็จะได้รับคำตอบว่า

"ไม่เอาง่ะ เกรงใจมัน"

สั้นๆ ง่ายๆ แต่เด็ดเดี่ยวและแสดงความเป็นตัวตนในปู่เย็นมาอย่างชัดเจน ซึ่งความเป็นตัวตนของปู่เย็นนั้น สุทธิพงษ์ได้เล่าเพิ่มเติมว่า ปู่เย็นเคยป่วยเป็นฝีที่มือ ซึ่งใครมาพาไปผ่าก็ไม่ยอมไป ขนาดผู้ว่าฯมาพาไปปู่ก็ไม่ยอม ปู่เย็นป่วยจนกระทั่งทนไม่ไหว จนทางโรงพยาบาลต้องมาอุ้มไปผ่าฝีออกถึงค่อยยัง***ขึ้น

"ปู่ให้เหตุผลในการไม่ยอมไปผ่าฝีชนิดที่ใครได้ยินได้ฟังเป็นต้องหัวร่องอหายโกรธแกไม่ลงว่า "มีคนมาขโมยดูดเลือดแกไปขาย"ซึ่งคงจะหมายถึงการที่หมอหรือพยาบาลเจาะเลือดปู่ไปตรวจนั่นเอง เราจะเห็นว่าบางอย่างปู่เย็นก็ยังเป็นปู่เย็นที่มักจะคิดอะไรไปเอง ใครจะพูดอะไรแกก็ไม่เชื่อ บนความปรารถนาดีของคนโน้นคนนี้ ปู่อายุมากแล้วคนอายุประมาณนั้นย่อมจะคิดไม่เหมือนกับคนอายุเท่าๆ เรา

สุทธิพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ปู่เย็นไม่ชอบให้ใครสงสารปู่ แต่ปู่ชอบสงสารคนอื่น แต่ขณะนี้ปู่ก็ปฏิเสธน้ำใจที่ไหลมาพร้อมชื่อเสียงไม่ได้ ซึ่ง ณ วันนี้ไม่ว่าปู่จะขยับไปไหนไม่ต้องเกรงว่าปู่จะโดดเดี่ยว ปู่จะไม่มีใคร เพราะว่ามันมีมามาก และหากแกเป็นอะไรไปแล้วไม่มีใครเข้าไปดูแลก็อาจจะโดนสังคมต่อว่าต่อขาน มันมีมิติของความเป็นจริงอยู่ เรื่องนี้แทบจะไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว

นอกจากนี้ สุทธิพงษ์ยังอยากให้สังคมมองชีวิตปู่เย็นในทางมรณานุสติ เพราะมันเป็นความจริงของชีวิต ซึ่งการที่ปู่เย็นเดินทางมาถึงจุดนี้ได้เพราะปู่เย็นเป็นคนหนึ่งที่เข้าใจชีวิต และใช้ชีวิตอย่างนิ่ง รออย่างสงบ คงจะเหมือนดังปรัชญาชีวิตง่ายๆของปู่เย็นที่ว่า

"ชีวิตคนเหมือนสะพาน มีขึ้น มีลง มีสูง มีต่ำ พอสุดท้าย ก็ตาย"




 

Create Date : 12 ตุลาคม 2551
10 comments
Last Update : 12 ตุลาคม 2551 12:26:14 น.
Counter : 1096 Pageviews.

 

ขอไว้อาลัยด้วยค่ะ ชอบวิถีที่ปู่เย็น

 

โดย: Nissan_n 12 ตุลาคม 2551 12:51:12 น.  

 

รักปู่เย็นค่ะ


จะจดจำตลอดไปชั่วชีวิตนี้


ไม่เคยจะลบเลือนจากความทรงจำ

 

โดย: พลอย IP: 203.113.101.24 12 ตุลาคม 2551 13:11:56 น.  

 

เป็นบุคคลที่น่ายกย่องมากค่ะ

 

โดย: CrackyDong 12 ตุลาคม 2551 15:03:44 น.  

 

โธ่ คุณปู่คะ
พึ่งจะดูข่าวเกี่ยวกับการซ่อมเรือให้ปูเย็นแหมบ ๆ เฮ่อ
คุณลุงเปนคนที่มีอุดมกรณ์มาก ๆ ค่ะ นับถือจิงๆ

 

โดย: peeshin 12 ตุลาคม 2551 15:07:11 น.  

 

อ่านแล้วอึ้งไปค่ะ

รู้อยู่ว่า สักวันต้องมีวันนี้..แต่ก็อดไม่ได้ที่จะใจหาย

ขอให้คุณปู่หลับอย่างเป็นสุขอยู่บนสวงสวรรค์กับคุณย่าที่ไปรออยู่แล้วนะคะ

ปู่จะอยู่ในใจของหลาน ๆ รุ่นหลังตลอดไปค่ะ

 

โดย: แค่คนหนึ่งคน 12 ตุลาคม 2551 15:26:23 น.  

 

ด้วยความอาลัยรักปู่เย็นเหมือนญาติผู้ใหญ่คนนีงค่ะ

 

โดย: kun_isara 12 ตุลาคม 2551 17:57:00 น.  

 

สวัสดีค่ะเจนนี่แวะมาทักทาย และขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมทักทายเจนนี่ที่บล็อคด้วยน่ะคะ วันนี้เจนนี่พาไปเที่ยวบ้านที่เชียงรายค่ะ ว่างๆอย่าลืมแวะไปเที่ยวบ้านเจนนี่ด้วยกันน่ะคะ

 

โดย: สาวอิตาลี 13 ตุลาคม 2551 12:27:40 น.  

 

ร่วมไว้อาลัยด้วยคนคับ หลาย ๆ คำที่เคยได้ยินจากปู่เย็นผ่านทาง TV ทำให้ป้ารู้สึกว่า ทำไมเราถึงคิดไม่ได้แบบนี้


 

โดย: ป้าจะอิ๊บ (jipnaja ) 13 ตุลาคม 2551 20:30:23 น.  

 

ขอให้ปู่ จงเป็นที่ยึดหนี่ยวจิตใจของคนไทย ไปนานครับ

 

โดย: cpr-computer 16 ตุลาคม 2551 19:51:27 น.  

 

ได้ดูรายการคนค้นคนเมื่อคืนน้ำตาไหลพราก ไม่ได้สงสารปู่นะ แต่รู้สึกชืนชมจิตใจของปู่ คำพูดของปู่ซื่อๆ ตรงๆจริงใจ และมีปรัชญาให้กับลูกหลานได้นำไปปฏิบัติอย่างพอเพียง ถ้าใครทำได้สักครึ่งปู่ โลกของเราจะน่าอยู่ไม่น้อย
หลับดีนะครับปู่ ผมจะจำคำปู่ไปปฏิบัติในชีวิตของผม"ปู่ครับ ผมจะเป็นคนดี"

 

โดย: ทศพล ห IP: 202.47.225.234 22 ตุลาคม 2551 12:40:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


yaipearn
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




" กอล์ฟไม่ใช่วิทยายุทธที่จะต้องซ้อมจนปางตายแล้วจึงจะเข้าถึงวิชา "
จากคุณ : ชอบแช้งค์

สวัสดี ครับ
บ้านอยุ่กรุงเทพ บางเขน
แม่คนจังหวัดน่าน พ่อคนอุทัยธานี
ผสมออกมาเป้นผม
สถานะปัจจุบัน โสด

ใหญ่
GSM mobile 089-8154670 (july 1,2006)

MSN: yaip@hotmail.com



Since: Sep 3, 2006
Friends' blogs
[Add yaipearn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.