ตอนที่ 3: เที่ยวไปใน Hallstatt









หลังจากที่เดินทางจากเขตเยอรมัน ในที่สุดเราก็มาถึง Hallstatt เมืองจุดหมายสำคัญของเราทริปนี้ (ก็อย่างที่เล่าในตอนที่ 1 นั่นแหละ ว่าเห็นรูปแล้วติดใจก็เลยอบากมา) เมืองนี้เป็นเมืองที่อยู่ในเขตหุบเขาและมีทะเลสาบล้อมรอบ ซึ่งถ้าจะมาเมืองนี้โดยอาศัยทางรถไฟ ก็จะต้องนั่งเรือข้ามฟากมานะจ๊ะ แต่ว่าเรามาทางรถยนต์ เราก็ต้องขับรถอ้อมผ่านภูเขาน้อยใหญ่หลายลูกด้วยกัน จนกระทั่งก่อนเข้าสู่ตัวเมือง ก็จะมีอุโมงค์ขนาดย่อมๆ ที่ไม่ยาวมากนักเจาะผ่านภูเขา เพื่อที่จะนำพวกเรามาสู่เมืองมรดกโลกของ UNESCO นั่นคือ Hallstatt

หลังจากที่เราเข้าตัวเมืองมาได้แล้ว สิ่งแรกก็คือ การหาที่พักที่เราจองเอาไว้ ก็อาศัยถามคนข้าวทางมาเรื่อยๆ นั่นแหละ ถ้าไม่ถามก็คงหายากอยู่เหมือนกัน เนื่องจากถนนส่วนมากในตัวเมืองเป็นถนนเส้นเล็กๆ สำหรับคนเดินเท่านั้น โดยมีถนนเส้นใหญ่อยู่ไมกี่เส้น เราก็เลยไม่รู้ว่า ควรจะเดินหาตามถนนเส้นเล็ก หรือว่าขับรถไปตามถนนเส้นใหญ่ดี ตอนแรกเราลองขับรถไปตามถนนเส้นใหญ่ดู แต่ปรากฏว่า ขับไปได้ไม่ถึง 10 นาที ก็มีป้ายบอกมาว่า

"ตอนนี้กำลังจะออกนอกเมือง Hallstatt แล้วนะ" ป้ายไม่ได้พูดออกมานะ แต่ว่าเขียนไว้ แล้วแปลมาได้อย่างนี้

เราก็เลยตัดสินใจถามทางเค้ามาเรื่อยๆ จนในที่สุด ก็เจอที่พัก โชคดีที่ที่พักของเราอยู่บนถนนเส้นใหญ่ ทำให้ไม่ต้องจอดรถไว้แล้วเดินเอา แต่ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง เพราะเมื่อที่พักอยู่บนถนนเส้นใหญ่ ก็หมายความว่าตั่งอยู่บนพื้นราบ ไม่ได้อยู่บนเชิงเขาอย่างบ้านอื่นๆ วิวทิวทัศน์ที่มองจากหน้าต่างบ้านก็เลยสวยสู่บ้านอื่นไม่ได้


บ้านที่เรามาพักกัน


หลังจากที่พูดคุยกับเจ้าของบ้านซักพัก เราก็รู้มาว่า เจ้าของบ้านพักนี้เป็นคนฮอลแลนด์ แต่สองคนสามีภรรยามาเปิดบ้านพักในเมืองนี้ โดยที่ลูกๆ ก็เรียนหนังสืออยู่ที่ฮอลแลนด์ ช่วงเวลาเกือบครึ่งปีที่พวกเขาจะอาศัยอยู่ในเมือง Hallstatt นี้ และช่วงเวลาที่เหลือก็กลับไปอยู่กลับครอบครัวที่ฮอลแลนด์... พอดีกว่า เดี๋ยวจะกลายเป็นการนินทาไป เอาแค่เล่าสู่กันฟังพอหอมปากหอมคอ

ตกเย็นๆ พวกเราก็ออกมาเดินเล่น เตรียมหาอาหารเย็นรับประทานกัน แต่ว่าในเมือง Hallstatt ยามค่ำนี้กลับไปครึกครื้นอย่างที่คาดคิด ทั้งๆ ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวแท้ๆ แต่ก็อย่างว่าแหละ เมืองนี้เป็นเมืองท่องเที่ยวธรรมชาติ คงไม่มีแสงสียามราตรีให้เราๆ ท่านๆ เห็นกันหรอก ขนาดกว่าจะหาร้านอาหารได้ซักร้านก็ยังยากเย็นเลย ตอนเข้าไปร้านแรก ก็สั่งเครื่องดื่มเรียบร้อยแล้ว แต่พอกำลังดูเมนูอาหารอยู่ พนักงานในร้านกลับเดินมาบอกว่า

"ตอนนี้ขายแต่เครื่องดื่มนะครับ ไม่ให้สั่งอาหาร"

พวกเราก็เลยบ่นๆ กันนิดหน่อย เสร็จแล้วก็เดินออกจากร้าน เพื่อไปหาร้านอื่นรับประทานกัน

จนเมือ่รับประทานเสร็จแล้ว ก็แยกย้ายกันเข้าที่พัก แต่ฉันกับพี่ห่งก็นั่งดูบอลนัดกระชับมิตรระหว่างทีมชาติเยอรมันกับทีมชาติตุรกีกันต่อ แล้วแยกย้ายกันไปนอนได้




ตื่นเช้าวันใหม่ขึ้นมา หลังจากที่รับประทานเช้าจากที่พักเสร็จเรียบร้อย เราก็เก็บข้าวเก็บของใส่รถ แล้วก็ออกมาเดินเล่นในตัวเมือง และเตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางกันต่อ

อันดับแรก พวกเราก็เดินไปที่ริมทะเลสาบ Hallstatt ซึ่งเป็นมุมที่เล็งไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วล่ะ เพียงแต่ว่าเมื่อคืนมันมืดไปหน่อยก็เลยถ่ายไม่ได้ พอเช้านี้อากาศสดใส ก็เลยกระด๊กระด๊ามาถ่ายรูปกันใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นรูปทะเลสาบ รูปหมู่ รูปเดี่ยว แต่พอหันกล้องจะไปถ่ายรูปตัวเมือง มุมมองกลับไม่สวยอย่างที่คิด เพราะว่าไปเห็นภูเขาเป็นฉากหลัง ก็เลยหยุดไว้ก่อนดีกว่า รอเดินไปอีกหน่อยค่อยถ่าย โชคดีที่ตอนเราออกมาเดินนั้น ยังเป็นเวลาเช้าอยู่ ผู้คนริมทะเลสาบก็เลยยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ก็เลยได้รูปทะเลสาบสวยๆ มาให้ดูกัน


ทะเลสาบที่ Hallstatt ยามเช้า


พอเสร็จแล้วก็เริ่มเดินสอดส่ายสายตาหามุมถ่ายรูปไปเรื่อยๆ โดยกะเอาไว้ว่าจะเดินขึ้นเขาไปนิดหน่อย เพื่อให้เห็น Hallstatt ในมุมที่สูงขึ้นอีกนิด แล้วก็เสร็จสมอารมณ์หมาย คุ้มค่าจริงๆ ที่เดินมา ได้เห็นมุมของ Hallstatt แบบที่เห็นในหนังสือนำเที่ยวแล้ว ก็เลยยิงแหลก ได้รูปมุมซ้ำๆ กันมาหลายรูปมาก ทั้งแนวตั้งและแนวนอน







เมื่อบนขึ้นเขาไปเรื่อยๆ ก็จะพบว่าบริเวณเนินเขานั้น บ้านเกือนทุกหลังจะเปิดให้เช่าเป็นที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งนั้นเลย บางบ้านก็ประดับไปด้วยตุ๊กตุ่นตุ๊กตาตามหน้าต่างบ้าน บางบ้านก็จะปลูกดอกไม้ประดับไว้ตามประตูบ้านอย่างที่เห็นเนี่ยแหละ



บนเขานั้นนอกจากจะเป็นที่ตั้งของบ้านพักต่างๆ แล้ว ก็นังเป็นที่ตั้งของสุสานขนาดเล็กๆ อีกด้วย โดยเฉพาะวันที่เราไปนั้นเป็นวันอาทิตย์ ผู้คนซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุซักหน่อย ก็จะน้ำดอกไม้ไปวางไว้ที่หลุมศพญาติๆ กัน เมือเดินต่อไปอีกนิด ก็จะเห็นน้ำตกสายเล็กๆ 2 สาย ไหลจากยอดเขาลงมาสู่พื้นดิน (จริงๆแล้วก็ไม่ใช้น้ำตกหรอก เป็นแค่ทางน้ำไหลซะมากกว่า ก็เลยไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น)

เมื่อเดินวนไปวนมาบริเวณไหล่เขาจนเป็นที่พอใจแล้ว ก็กลับลงมาเดินในตัวเมืองกันบ้าง คราวนี้แหละ นักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชาวญี่ปุ่นหลั่งไหลกันมาจากไหลก็ไม่รู้ เยอะแยะเต็มไปหมด เมืองเงียบๆ สงบๆ เมื่อคืนนี้ก็หายวับไปกับตา คงเหลือเพียงเมืองท่องเที่ยวเมืองหนึ่ง ซึ่งมีผู้คนพลุกพล่านซะเหลือเกิน แต่เราก็ไม่ย่อท้อใจ พยายามถ่ายรูปตัวเมืองสวยๆ มากฝาก




รูปบริเวณจัตุรัสใจกลางเมือง


เมื่อเห็นเวลาสมควรพวกเราก็เริ่มวางแผนออกจาก Hallstatt โดยที่จะไปชื่นชมธรรมชาติอันสวยงามที่ Gosausee ตามคำแนะนำของเจ้าของบ้านพัก

Gosausee เป็นทะเลาบเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากเมือง Halstatt มากนัก ขับรถก็ใช้เวลาเพียวแค่ประมาณ 40 นาทีก็ถึงแล้ว มาดูทิวมัศน์สองข้างทางก่อนที่จะไป Gosausee ดีกว่า





Gosausee นั้นเป็นทะเลสาบเล็กๆ ที่อยู่ลึกเข้าไปในหุบเขา โดยแบงออกเป็น 2 สาวน คือ vorder Gosausee (อยู่ด้านหน้า) และ hinter Gosausee (ซึ่งอยู่ถัดเขาไปด้านหลัง) เราไม่สามารถขับรถเข้าไปจอดบริเวณทะเลสาบได้ ก็เลยต้องจอดรถทิ้งไว้ แล้วเดินต่อเข้าไปยัง vorder Gosausee และเนื่องจากเรามีเวลาน้อง เราก็เลยไม่สามารถเดินเข้าไปถึง hinter Gosausee ได้เพราะว่ากว่าจะเดินเข้าไปถึงถึงต้องใช้เวลากว่า 2 ชม. แน่ะ (นี่เป็นเวลาของฝรั่งนะ ถ้าเป็นเวลาสำหรับพวกเราซึ่งเดินไปถ่ายรูปไปแล้วล่ะก็ 5 ชม. ก็คงไปไม่ถึงไหนแน่ๆ) ก็เลยมีรูปแต่ที่ vorder Gosausee มาฝากเท่านั้นเอง







จาก Gosausee เราก็เดินทางกลับอาเค่นโดยผ่านเมือง Salburz ของออสเตรีย มาเข้า Autobahn สาย A8 และขับมาเรื่อยๆ จนถึงเมืองมิวนิค จากนั้นเราก็แยกเข้าสู่สาย A9 และสาย A3 ผ่านเมือง Frankfurt มาเรื่อยๆ จนมาเข้าสาย A4 ที่เมือง Köln ก่อนจะเดินทางสู่อาเค่นโดยสวัสดิภาพ

ปล. เส้รทางขากลับเป็นคนละสายกับเส้นทางตอนขาไป และเร็วกว่าด้วย ทีหลังถ้าจะไปเมืองมิวนิคอีกล่ะก็ ให้ไปทาง Frankfurt สาย A3 นะจ๊ะ







Create Date : 05 ธันวาคม 2548
Last Update : 18 พฤษภาคม 2553 14:47:46 น.
Counter : 3236 Pageviews.

7 comments
  
สวยๆน่าไปเที่ยวมากๆ จะรออ่านรายละเอียดครับ
โดย: ตี๋น้อย (Zantha ) วันที่: 5 ธันวาคม 2548 เวลา:18:28:38 น.
  
เมืองเค้าสวยจริงๆ บ้านก็น่ารัก
โดย: อยู่ไกลบ้าน (อยู่ไกลบ้าน ) วันที่: 5 ธันวาคม 2548 เวลา:18:30:42 น.
  
สวยมากๆ บ้านในฝันอีกแบบเลยจะ แพงๆๆ
โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 5 ธันวาคม 2548 เวลา:19:45:45 น.
  
สวยมากเลยค่ะ อยากมีโอกาสไปเที่ยวมั่งจัง..อิจฉาค่ะ
โดย: วาวา IP: 58.9.110.147 วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:8:37:19 น.
  
ถ่ายรูปสวยมากเลยค่ะ ถ้ามีโอกาสอยากไปบ้างจัง เมืองในฝันเลยล่ะ
โดย: annie IP: 58.64.121.90 วันที่: 16 มกราคม 2551 เวลา:12:37:47 น.
  
สวยมาก ๆ ถ้ามีโอกาสจะไปที่นี่เลย
โดย: kavia (kaviaBuhrman ) วันที่: 18 พฤษภาคม 2552 เวลา:22:33:10 น.
  
ถ่ายรูปได้วิวสวยจังเลย มีบางรูปถ่ายวิวเดียวกันเลย555
โดย: milo IP: 1.1.129.178 วันที่: 21 เมษายน 2555 เวลา:9:31:22 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Yai Kaew
Location :
Nordrhein-Westfalen  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]



New Comments
ธันวาคม 2548

 
 
 
 
1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
  •  Bloggang.com