กรุงโรม เมืองหลวงอิตาลี











ถ้าจะบอกว่าโรม คือสถานที่จุดเริ่มต้นของอารยธรรมของโลกในยุคแรกๆ ลองจากอียิปต์ และกรีก ก็คงจะไม่ใช่คำพูดที่เกินเลยไปจากความเป็นจริงซักเท่าไหร่ ในเมื่อเมืองหลวงแห่งนี้ มีสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากมาย ฉีนก็เป็นอีกคนหนึ่งในจำนวนหลายๆ คนที่อยากจะไปสัมผัสถึงบรรยากาศของกรุงโรม ทั้งๆ ที่มีคนเคยบอกเอาไว้ว่า "โรมเหรอ ไม่เห็นมีอะไรเลย ทำไมหลายๆ คนถึงอยากมาเที่ยวกันนัก" แต่สำหรับคนที่ไม่เคยไปมาก่อน ก็คงอยากจะไปซักครั้งหนึ่งอยู่ดีนั่นแหละ เมื่อมีโอกาสในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2005 ฉันก็ไม่รอช้าที่จะรีบแพ๊คกระเป๋า ออกเดินทางไปยังเมืองหลวงแห่งนี้ทันที

ทันทีที่เครื่องบินร่อนลงจอดที่สนามบินของโรมที่ตั้งอยู่ออกนอกตัวเมืองไปซักครึ่งชั่วโมง ฉันก็เริ่มเห็นความวุ่นวาย และความไม่เป็นระเบียบของเมืองหลวงแห่งนี้ แต่ยังไงก็แล้วแต่ ความอยากเที่ยว อยากเห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็นก็ทำให้ฉันมองข้ามความวุ่นวายเหล่านี้ไปได้

ตอนที่ฉันไปถึงโรมก็เกือบๆ บ่ายสองซะแล้ว ดังนั้นในวันแรกที่โรมก็เลยไม่ค่อยมีเวลาสำหรับเที่ยวมากมายซักเท่าไหร่ ก็เลยได้แต่เดินจากโรมแรมแถวๆ สถานีรถไฟไปเรื่อยๆ จนถึง Colosseum สัญลักษณ์สำคัญของกรุงโรม


รูปถ่ายจากภายนอกของโคโลสเซียม


โคโลสเซียม (Colosseum) มีชื่อดั้งเดิมว่า Flavian Amphitheater เป็นสนามกีฬารูปวงกลมที่ก่อสร้างขึ้นในสมัยโรมันเมื่อช่วงปี ค.ศ. 70-80 ใช้เป็นที่ต่อสู้ของนักรบโบราณ สามารถจุคนดูได้ถึง 50000 คนเลยทีเดียว


โคโลสเซียมมีความสูงทั้งหมด 48 เมตร ยาว 188 เมตร และกว้าง 156 เมตร


เนื่องจากเห็นว่าบ่ายมากแล้ว ฉันจึงไม่ได้ซื้อตั๋วเข้าไปชมข้างในโคโลสเซียมในวันนี้ แต่วางแผนที่จะเข้าไปชมในวันที่ 3 ของทริบ ดังนั้นก็เลยยังไม่มีรูปภายในมาให้ชมกัน ถัดจากโคโลสเซียม เดินไปอีกนิดเดียวก็จะเห็นประตูชัยหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ที่เรียกว่า Arch of Constantine


Arch of Constantine


Arch of Constantin เป็นประตูชัยขนาดใหญ่ที่สุดของกรุงโรม สร้างขึ้นเพื่อฉลองชัยชนะของ Constantine ที่ 1 เหนือ Maxentius ในสงคราม Battle of Milvian Bridge ในวันที่ 28 ตุลาคม ค.ศ. 312 ประตูชัยนี้ ตั้งอยู่ระหว่างโคโลสเซียม และเนิน Palatine ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางอันต่อไปของฉัน

จากประตูชัย ฉันก็เดินทางตามแผนที่มาเรื่อยๆ ก็เห็นตึกสีขาวที่มีรูปร่างเหมือนเครื่องพิมพ์ดีดโบราณขนาดใหญ่ ตั้งเด่นตระหง่านอยู่ตรงบริเวณวงเวียนที่มีถนนหลายๆ สายมาบรรจบกัน ตึกนี้มีชื่อเรียกว่า Monument to Vittorio Emmanuele II ผู้ออกแบบและสร้างตึกนี้ก็คือ Giuseppe Sacconi โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่ Victor Emmanuel กษัตริย์พระองค์แรกแรก Italy โดยสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1895-1911 ฉันเพิ่งมารู้ตอนหลังว่า ที่เห็นตึกนี้เป็นสีขาวทั้งหมดก็เนื่องจากว่า เค้าใช้หินอ่อนเป็นวัสดุในการก่อสร้างทั้งหมดนั่นเอง


ตึกที่ฉันเรียกว่า ตึกเครื่องพิมพ์ดีด


เมื่อเดินขึ้นบันไดอนุสรณ์แห่งนี้ไป ก็จะมีนายทหารแต่งชุดเต็มยศเผ้าอยู่ตรงบันได เพื่อสังเกตการณ์หรือว่าคอยห้ามไม่ให้ผู้ที่แต่งตัวไม่เรียบร้อยขึ้นไปบริเวณด้านบน แต่สำหรับไม่มีปัญหา เพราะว่าสามารถขึ้นไปด้านบนได้สบายมาก เดินปีนบีนไดขึ้นไปสูงพอสมควรทีเดียว แต่ก็ไม่เสียแรง เพราะว่าได้รูปถ่ายยามเย็นของกรุงโรมมาฝากกันซัก 2-3 รูป







หมดแรงแล้วค่ะ พบกันใหม่ตอนที่ 2 ที่นครวาติกัน




...Click here to continue reading...

















Create Date : 30 สิงหาคม 2549
Last Update : 18 พฤษภาคม 2553 14:53:55 น.
Counter : 3612 Pageviews.

4 comments
  
รูปสวยจังค่ะ
โดย: miss Florence in Venice วันที่: 30 สิงหาคม 2549 เวลา:13:38:26 น.
  
สวยงามมาก สีท้องฟ้าจัดจ้านเป็นใจดีครับ
โดย: บั๊กเม่า (บั๊กเม่า ) วันที่: 17 กันยายน 2549 เวลา:9:53:31 น.
  
สวยจังครับ อยากไปเที่ยวบ้างจัง
โดย: DAN_KRAB (DAN_KRAB ) วันที่: 17 กันยายน 2549 เวลา:11:40:48 น.
  
สวัสดีค่ะ... ดีใจจังที่เจอ blog ของคุณ
กำลังจะไปเที่ยวโรมเหมือนกัน ปลายปีนี้

เป็นข้อมูลที่ดีมากๆ เลยค่ะ
โดย: Glory Bloom วันที่: 26 กันยายน 2552 เวลา:13:52:04 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Yai Kaew
Location :
Nordrhein-Westfalen  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]



New Comments
สิงหาคม 2549

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
31
 
 
  •  Bloggang.com