3. Planning Trip: การเตรียมตัวก่อนเดินทาง (Switzerland)




การเตรียมตัวก่อนเดินทาง


เมื่อรวบรวมงบประมาณเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขึ้นตอนต่อไปหลังจากที่ตัดสินใจจะเดินทางไปเที่ยงที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็คือ การเตรียมตัวเดินทาง ซึ่งก็จะรวมถึงการกำหนดเส้นทาง การกำหนดวันเดินทาง การจองตั๋วเครื่องบิน การขอหนังสือเดินทางและวีซ่า การซื้อตั๋วเครื่องบิน การกำหนดเส้นทาง การจองที่พัก การกำหนดเวลาในการเดินทางจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่ง การเตรียมตัวจัดกระเป๋า เป็นต้น ในบทนี้ก็จะอธิบายขั้นตอนแต่ละขึ้นอย่างละเอียด

การกำหนดเส้นทาง

การกำหนดเส้นทางเป็นสิ่งสำคัญเป็นอันดับแรกของการวางแผนท่องเที่ยว เราจะต้องดูว่าอยากจะไปเที่ยวที่เมืองไหนบ้าง โดยจะใช้เวลาท่องเที่ยวในเมืองนั้นๆ กี่วัน เพื่อที่จะได้สามารถกำหนดวันเวลาไปกลับได้ในขั้นตอนต่อๆ ไป เช่น ถ้าต้องการไปเที่ยวตามสถานที่ไฮไลต์ทุกที่ที่บรรยายไว้ในบทที่ 2 ก็ควรจะใช้เวลาประมาณ 10 -12 วัน หรือถ้ามีเวลาน้อยกว่านั้น เราก็เลือกตัดเมืองที่ไม่ค่อยสำคัญออกไป เช่น

ทริป 3 วัน ก็เลือกเส้นทาง ลูเซริ์น – อินเทอร์ลาเค่น – แซร์มัทต์

ทริป 5 วัน ก็เลือกเส้นทาง ทะเลสาบเจนีวา – มองเทรอซ์ – แซร์มัตท์ – อินเทอร์ลาเค่น – ลูเซริ์น


การกำหนดวันเดินทาง

ในการกำหนดวันเดินทางนี้ ก็ต้องพิจารณาว่าเราชอบลักษณะภูมิอากาศแบบใด ต้องการไปในช่วงฤดูท่องเที่ยวหรือเปล่า ซึ่งในบทที่ 2 ได้อธิบายถึงรายละเอียดของสภาพภูมิอากาศและบรรยากาศทั่วไปในแต่ละเดือนของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งคาดว่าน่าจะช่วยนักเดินทางมือใหม่สามารถกำหนดเวลาการเดินทางง่ายขึ้น


การจองตั๋วเครื่องบิน

การจองตั๋วเครื่องบินนั้นก็สามารถติดต่อสอบถามและจองตั๋วเครื่องบินได้จากตัวแทนจำหน่าย หรือสามารถจองออนไลน์ผ่านทางอินเตอร์เนตได้ โดยสายการไปบินที่บินไปยังเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้น มีด้วยกันหลายสายการบิน ที่สำคัญๆ ก็เช่น การบินไทย, Swiss Air, Austrian Air, Lufthansa, Emirates, Etihad, KLM เป็นต้น


การจองผ่านบริษัททัวร์

แน่นอนว่าแต่ละบริษัทหรือตัวแทนจำหน่ายก็จะมีเสนอขานตั๋วเครื่องบินในราคาที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นการจองผ่านทางบริษัททัวร์หรือตัวแทนจำหน่าย เราก็ต้องหาข้อมูลให้ลึกที่สุด โดยสามารถหาบริษัททัวร์ต่างๆ ได้ในโฆษณาหนังสือพิมพ์ หรือตามหนังสือท่องเที่ยวต่างๆ เมื่อสอบถามจนได้ราคาที่เป็นที่น่าพอใจแล้ว ก็สามารถทำการจองตั๋ว โดยระบุวันเดินทางไปกลับ และสนามบินที่ต้องการจะบินไปลงให้ละเอียด เมื่อมีตั๋วว่างก็สามารถทำการสำรองที่นั่งไว้ก่อน โดยทางบริษัทจะให้หลักฐานการสำรองที่นั่งไว้


การจองตั๋วผ่านทางอินเตอร์เนต

ตามหน้าเวปไซด์ของสายการบินต่างๆ จะมีการให้บริการการจองตั๋ว ซึ่งเราจะต้องสมัครเป็นสมาชิกของทางสายการบินเสียก่อน แล้วจึงสามารถเชคว่ามีตั๋วเหลือหรือเปล่า ถ้ามีก็สามารถจองตั๋วได้เลย แต่ตั๋วที่ซื้อผ่านทางสายการบินโดยตรงจะมีราคาสูงกว่าการจองผ่านตัวแทนจำหน่าย

การจองตั๋วทางอินเตอร์เนตอีกรูปแบบหนึ่งก็คือ การจองผ่านเวปไซด์ที่จัดจำหน่ายตั๋วโดยตรง ซึ่งสามารถหาเวปไซด์พวกนี้ได้จาก Search Engine ต่างๆ เช่น //www.google.com โดยพิมพ์ข้อความสำคัญที่ต้องการค้นหาลงไป เช่น air ticket เราก็จะได้บริษัทที่รับจองตั๋วเครื่องบินผ่านทางอินเตอร์เนตมากมาย แต่ก็ต้องเลือกบริษัทที่เป็นที่รู้จัก และเชื่อถือได้ด้วย การจองตั๋วแบบนี้จะทำให้ได้ตั๋วที่มีราคาถูกลงค่อนข้างมาก แต่จะต้องระวังเรื่องข้อจำกัดในการเดินทางด้วย เช่น ตั๋วบางประเภทต้องเดินทางไปกลับภายใน 90 วัน หรือไม่สามารถเปลี่ยนแปลงวันเดินทางได้ เป็นต้น

ข้อควรระวังก็คือ อย่าเพิ่งซื้อตั๋วจนกว่าเราจะดำเนินการขอหนังสือเดินทางและวีซ่าให้เรียบร้อยเสียก่อน เพราะในกรณีที่ขอวีซ่าไม่ผ่าน ทางสถานทูตจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นเมื่อทำการจองตั๋วเครื่องบินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ควรจะรีบดำเนินการขอหนังสือเดินทางและวีซ่าทันที


การขอหนังสือเดินทางและวีซ่าเข้าประเทศสวิตเซอร์แลนด์

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเตรียมตัวก่อนเดินทางก็คือ การทำหนังสือเดินทางหรือ Passport สำหรับคนที่ยังไม่มีหนังสือเดินทาง และการขอวีซ่าจากสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย ขั้นตอนการทำพาสปอร์ตและเอกสารที่จะต้องใช้สามารถดูได้จากเวปไซด์ของกระทรวงต่างประเทศ //www.mfa.go.th/web/71.php

โดยปกติแล้วคนไทยทุกคนที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวประเทศสวิตเซอร์แลนด์ต้องมีหนังสือเดินทางที่ถูกต้องตามกฏหมายและวีซ่าเข้าประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แต่ทั้งนี้ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้อนุญาติให้ผู้ที่ถือพาสปอร์ตไทยทีมีวีซ่าของกลุ่มประเทศ Schengen แบบ Multiply entry ที่ยังไม่หมดอยุสามารถเดินเข้าออกประเทศสวิตเซฮร์แลนด์ได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยจะอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้ไม่เกิน 3 เดือน

ขั้นตอนในของวีซ่าประเทศสวิตเซอร์แลนด์สำหรับคนที่ไม่มีวีซ่าของกลุ่มประเทศ Schengen คือต้องทำการโทรไปนัดหมายกับทางสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทยก่อน โดยสามารถโทรไปได้ที่เบอร์ 1-900 222 340 ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.00-20.00 น. (สำหรับเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ สามารถโทรได้ตั้งแต่ 8.00-17.00 น.) เมื่อทำการนัดหมายวันเวลาเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องเดินทางไปทำด้วยตัวเองที่สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เลขที่ 35 ถนนวิทยุ (เหนือ) กรุงเทพ 10330


การซื้อตั๋วเครื่องบินและตั๋วสวิสพาส

เมื่อได้ทั้งหนังสือเดินทางและวีซ่าเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถชำระเงินค่าตั๋งเครื่องบินได้ทันที ทางบริษัทก็จะออกตั๋วเครื่องบินให้ โดยทางบริษัทอาจจะนัดให้ไปรับตั๋วเครื่องบินในวันถัดไป

ส่วนใครที่สนใจจะซื้อตั๋วเดินทางภายในสวิตเซอร์แลนด์แบบต่างๆ ไปจากประเทศไทย ก็สามารถซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย โดยสามารถเช็ครายชื่อตัวแทนจำหน่ายได้ที่ www.swisspackage.info ซึ่งบริษัทใหญ่ในประเทศไทยที่จัดจำหน่าย Swiss Pass แบบต่างๆ คือ บริษัทดีทแฮล์ม แทรเวล (ประเทศไทย) จำกัด 140/1 อาคารเคี่ยนหงวน 2 ชั้น 14 ถ. วิทยุ กรุงเทพ 10330 โทรศัพท์ 0-2255-9150-70 หรือติดต่อผ่านทางอีเมลล์ที่ dto@dto.co.th


การจองที่พัก

การหาที่พักในประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้นค่อนข้างง่าย เพียงแค่เข้าไปในหน้าเวปไซด์ของเมืองที่ต้องการไปพักเท่านั้น ก็จะเจอที่พักหลายแบบให้เลือกมากมาย

อีกวิธีหนึ่งสำหรับการหาที่พัก คือ เข้าไปในหน้าเวปไซด์ที่ทางประเทศสวิตเซอร์แลนด์จัดทำขึ้นเพื่อนความสะดวกในการหาที่พักประเภท Bed & Breakfast หรือ Youth hostel เช่น

www.bnb.ch Bed & Breakfast Switzerland

www.youthhostel.ch เป็นบ้านพักเยาวชนในเมืองต่างๆ ของสวิตเซอร์แลนด์

www.backpacker.ch Swiss Backpacker

www.rooms.ch 200 Swiss budget hotels

www.swisshotels.ch โรงแรมในสวิตเซอร์แลนด์


นอกจากนี้ก็ยังสามารถหาที่พักในสวิตเซอร์แลนด์ได้จากใน Search Engine อย่าง //www.google.com ได้อีกด้วย สมกับที่ได้ชื่อว่า Search Engine จริงๆ อยากได้อะไร กูเกิ้ลหาให้

สำหรับการจองที่พัก ควรจะจองตั้งแต่ก่อนเริ่มเดินทาง โดยสามารถหาที่พักได้ทางอินเตอร์เนต ที่พักส่วนใหญ่ในสวิตเซอร์แลนด์จะมีเวปไซด์เป็นของตัวเอง ซึ่งจะมีรูปห้องพักและราคาโชว์เอาไว้ บางที่อาจจะไม่มีอาหารเช้าบริการ การจองสามารถจองผ่านจากหน้าเวปไซด์ที่มีการให้บริการจองโรงแรมผ่านระบบอัติโนมัติ หรือจะจองโดยการเขียนเมลล์ไปถามเจ้าของที่พักหรือไปยังโรมแรมที่ต้องการไปพักโดยตรง โดยในอีเมลล์ควรจะระบุวันที่จะไปเข้าพัก จำนวน ลักษณะห้องที่ต้องการ เช่น ห้องเดี๋ยว ห้องคู่ ห้อง 3 คน และต้องระบุจำนวนคนให้แน่นอน เมื่อเจ้าของที่พักได้รับเมลล์ก็จะตอบกลับทันทีไม่ว่าห้องพักจะว่างหรือไม่ เมือทำการจองที่พักทางอืนเตอร์เนตไว้แล้ว ก็เลยจะพรินต์หลักฐานการจองของเราไว้ด้วย เพื่อใช้เป็นหลักฐานยื่นให้ต่อทางโรงแรมหรือเจ้าของที่พัก ในกรณีที่ไม่ได้จองที่พักไปล่วงหน้า ก็สามารถติดต่อสอบถามเรื่องที่พักได้ตามสถานีรถไฟ (ซึ่งบริการนี้จะมีเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆ เท่านั้น) หรือสอบถามหาที่พักจาก Tourist information ของแต่ละเมือง เมื่อได้ข้อมูลที่พักแล้วก็ต้องลองโทรติดต่อเอง ซึ่งจะสิ้นเปลืองทั้งค่าโทรศัพท์ และเสียเวลาในการท่องเที่ยวด้วย ถ้าโชคดีที่พักที่เราต้องการอาจจะยังว่างอยู่ถ้าถ้าโชคร้ายที่พักที่เราต้องการก็อาจจะเต็มทำให้ต้องเสียเวลาหาที่พักใหม่ เรียกว่า การหาที่พักโดยไม่ได้จองล่วงหน้าไปนั้นไม่สะดวกเป็นอย่างยิ่ง จึงไม่แนะนำให้ใช้วิธีเสี่ยงโชคแบบนี้ในการเดินทางท่องเที่ยว ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนก็ตาม


การกำหนดเวลาการเดินทางภายในประเทศสวิตเซอร์แลนด์

การค้นหาตารางเวลาสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นไม่น้อย เพราะการทำตารางล่วงหน้าจะช่วยประหยัดเวลาในการรอต่อคิวสอบถามเรื่องเวลาจากเจ้าหน้าที่ และประหยัดเวลาในการรอรถได้มากทีเดียว นอกจากนั้นแล้วยังช่วยป้องกันการพลาดรถไฟด้วย โดยปกติแล้วการเดินทางภายในสวิตเซอร์แลนด์นิยมใช้การโดยสารรถไฟของทางการสวิส ซึ่งสามารถค้นหาเส้นทางรถไฟ และตารางเวลาของรถไฟแต่ละสายได้จาก www.sbb.ch

การค้นหาตารางเวลาของรถไฟแต่ละสายก็ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่ใส่ชื่อเมืองต้นทาง ชื่อเมืองปลายทางพร้อมทั้งระบุวันเวลาที่ต้องการเริ่มเดินทาง หรือวันเวลาที่ต้องไปถึงจุดหมายปลายทางแค่นั้นเอง

การเลือกเที่ยวหรือขบวนรถไฟที่จะขึ้นนั้น ควรเลือกเที่ยวที่ไม่ต้องเปลี่ยนรถเลย หรือเปลี่ยนรถให้น้อยที่สุด เพื่อประหยัดเวลา และเพื่อความสะดวก

เมื่อวางแผนการเดินทางทั้งทริปเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็อาจจะมีพริ้นต์ออกมาเก็บไว้ หรือแจกจ่ายให้แก่ผู้ร่วมเดินทาง จะได้เป็นที่รู้กันทุกคนว่าจะขึ้นรถไฟชบวนไหน เมื่อไหร่ จะได้ง่ายต่อการนัดหมายเรื่องเวลา


การจัดกระเป๋าเดินทาง

ข้อสำคัญที่ควรระลึกไว้เสมอในการจัดกระเป๋าเดินทางก็คือ น้ำหนักของกระเป๋าเดินทางต้องไม่เกินนำหนักที่แต่ละสายการบินระบุเอาไว้ ซึ่งโดยส่วนมากแล้วจะไม่เกิน 25 กิโลกรัมต่อคน ดังนั้นจึงควรนำแต่เสื้อผ้าและเครื่องใช้ที่จำเป็นไปเท่านั้น

เสื้อผ้าที่จะนำติดตัวไปนั้นก็ควรจะเลือกให้เหมาะกับสภาพภูมิอากาศในช่วงที่จะเดินทาง ถ้าเดินทางในฤดูร้อน ก็จะเป็นการประหยัดเนื้อที่ในกระเป๋าเดินทางได้พอสมควร เนื่องจากไม่ต้องน้ำเสื้อกันหนาวหนาๆ อัดลงไปในกระเป๋าเดินทาง เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็เป็นเสื้อผ้าปกติเหมือนกับที่ใส่อยู่ที่เมืองไทยนั่นแหละ จะสายเดี่ยว เสื้อกล้าม กระโปรง กางเกงขาสั้น กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ร้องเท้าแตะ ตามด้วยเสื้อยีนส์ซักตัว จะอินเทรนด์ขนาดไหน ก็ใส่ได้ทั้งนั้น สภาพภูมิอากาศไม่เป็นอุปสรรค ส่วนในฤดูใบไม้ร่วงช่วงเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายนที่อากาศเริ่มจะเย็นลงก็ติดเสื้อหนาวแบบบางๆ เสื้อยีนส์ หรือเสื้อสเวตเตอร์เพิ่มไปซัก 2-3 ตัว แต่ไม่ควรเอาไปเพียงแค่ตัวเดียว เพราะว่าเวลาถ่ายรูปออกมาแล้วจะเห็นแต่เสื้อหนาวตัวเดิมๆ จนทำให้ดูเหมือนกับว่า ไปเที่ยว 7 วัน แต่ใส่เสื้ออยู่ตัวเดียว แค่ถ้าใครจะทนหนาว โดยการถอดเสื้อหนาวเวลาจะแอ๊คชั่นถ่ายรูป ก็เตรียมเสื้อหนาวไปแค่ตัวเดียวก็พอ ไม่มีใครว่าอะไร แต่ถ้าใครที่วางแผนที่จะไปเที่ยวสวิสตอนฤดูหนาว ก็ต้องจัดเสื้อผ้ากันเยอะหน่อย ต้องเตรียมทั้งเสื้อสเวตเตอร์เสื้อหนาวที่หนาๆ ที่กันหิมะได้ หรือว่าเสื้อโค้ตตัวยาวสวยๆ ซักตัว รวมทั้งถุงมือ ผ้าพันพอ หมวกไหมพรม ถุงเท้าหนาๆ รองเท้าก็ต้องเป็นรองเท้าที่ใส่แล้วอุ่นๆ จะเป็นรองเท้าผ้าใบหนาๆ หรือรองเท้าบู๊ทยาวก็ได้

ขอแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมรองเท้าไปเที่ยวในฤดูร้อนว่า ไม่ควรนำรองเท้าแตะไปเพียงคู่เดียว ควรติดรองเท้าผ้าใบที่กันน้ำไปด้วย เรื่องจากในประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้น มีฝนตกเกือบตลอดทั้งปี ถ้าเอาไปแต่รองเท้าแตะแล้วเกิดวันดีคืนดีฝนตกขึ้นมา ก็ทำให้เดินเที่ยวไม่สบายเท้า และนอกจากนี้แล้ว สิ่งที่ควรนำติดตัวไปด้วยเสมอคือ ร่มขนาดพกพาที่ทำมาจากวัสดุที่ค่อนข้างแข็งแรง เพราะว่าบางทีอาจมีลมพัดแรงทั้งในฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และในช่วงฤดูหนาวที่มีหิมะตก

เมื่อจัดเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย ที่เหลือก็เป็นของจิปาถะพวกเครื่องสำอางค์ สบู่ แชมพู โฟมล้างหน้า แปรงสีฟัน ยาสีฟัน แต่ถ้าใครไปพักตามโรงแรมตั้งแต่ 4 ดาวขึ้นไป ก็อาจจะไม่ต้องพกเครื่องใช้พวกนี้ไปให้หนัก แต่ทางที่ดีพกไปจะดีกว่า เผื่อว่าหน้าตาผิวพรรณที่เราดูแลมาอย่างดีจะแพ้เครื่องใช้ต่างๆ ที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ สำหรับคนที่มีโรคประจำตัวก็อย่างลืมพกยาไปด้วย หรือคนที่ชอบเมารถ เมาเครื่องก็ควรเตรียมพวกยาหอม ยาดม ยาหม่องไปซักนิดก็ไม่เสียหายอะไร ดีกว่าไปเสียเงินซื้อที่โน่น

สิ่งสำคัญอีกอย่างที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ กล้องถ่ายรูป รวมถึงอุปกรณ์เสริมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ที่ชาร์ทแบตเตอรี่ แบตเตอร์รี่สำรอง เมมโมรี่สำรอง และหัวเปลี่ยนปลั๊กไฟ โดยปลั๊กไฟในสวิตเซอร์แลนด์จะเป็นแบบปลั๊กกลมคล้ายๆ ปลั๊กเตารีด

ถ้าในกระเป๋าเดินทางมีที่เหลือก็สามารถนำอาหารแห้ง เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือน้ำพริกไปได้บ้างเล็กน้อยสำหรับคนที่ไม่ค่อยถูกกับอาหารฝรั่งซักเท่าไหร่ นอกนั้นใครอยากจะเอาอะไรไปก็เตรียมไปให้พร้อม


เอกสารสำคัญ

เอกสารสำคัญที่ควรใส่ไว้ในกระเป๋าใบเล็กและนำติดตัวไปด้วยเสมอ คือ หนังสือเดินทาง ตั๋วเครื่องบิน ตั๋วสำหรับเดินทาง เช่น Swiss Pass เอกสารการจองที่พักที่พิมพ์มาจากในอินเตอร์เนต หรือพิมพ์จากอีเมลล์โต้ตอบกันระหว่างเจ้าของที่พัก เพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันว่าเราได้จองที่พักไว้เรียบร้อยแล้ว เอกสารการเช่ารถเงินสดและบัตรเครดิตต่างๆ รวมทั้งกล้องถ่ายรูป และควรถือกระเป๋าอย่างระมัดระวังไม่ให้ไปวางลืมไว้ที่ไหน

เมื่อวางแผนการเดินทางและเตรียมตัวจัดกระเป๋ากันเรียบร้อยแล้ว ก็ถือว่าเป็นอันเสร็จพิธี ที่เหลือก็มีเพียงแค่เดินทางไปสนามบินเพื่อไปเดินทางสู่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์



...Click here to continue reading...










Create Date : 03 เมษายน 2551
Last Update : 17 ธันวาคม 2554 8:38:23 น.
Counter : 7681 Pageviews.

1 comments
  
ชอบจังเลย ข้อมูลแน่นมากค่ะ
โดย: Dena IP: 58.10.99.118 วันที่: 25 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:07:21 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Yai Kaew
Location :
Nordrhein-Westfalen  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]



New Comments
เมษายน 2551

 
 
1
2
4
5
6
7
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
26
27
28
29
30
 
 
  •  Bloggang.com