"ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารี" ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม "ธมฺโม สุจิณฺโน สุขมาวหาติ" ธรรมที่บุคคลสั่งสมไว้ดีแล้ว นำความสุขมาให้
Group ตัวอย่าง
เมษายน 2555
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
23 เมษายน 2555
"ขึ้นชื่อว่ากรรมแล้ว แม้เพียงเล็กน้อย ที่จะไม่ให้ผล ไม่มี"
การได้เกิดเป็นมนุษย์เป็นของยาก
"ขึ้นชื่อว่ากรรมแล้ว แม้เพียงเล็กน้อย ที่จะไม่ให้ผล ไม่มี"
การกำเนิดโลกและมนุษย์
อานิสงส์ของการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ
พระบรมสารีริกธาตุ
"ขึ้นชื่อว่ากรรมแล้ว แม้เพียงเล็กน้อย ที่จะไม่ให้ผล ไม่มี"
หลังจากพระพุทธองค์ได้ปลงอายุสั
งขารแล้ว ในวาระสุดท้ายระหว่างการเดินทาง
จากปาวาลเจดีย์ไปยังกุสินารา พระพุทธองค์เกิดเหน็ดเหนื่อยกระ
หายน้ำมาก จึงตรัสบอกพระอานนท์ ให้ปูผ้าสังฆาฏิใต้ต้นไม้ให้พระ
องค์พัก แล้วให้ไปตักน้ำมาให้พระองค์ดื่
ม พระอานนท์เดินไปตักน้ำที่ลำธารท
ี่เพิ่งเดินผ่านมา ปรากฏว่าเกวียน ๕๐๐ เล่มเพิ่งจะลุยผ่านไป ทำให้น้ำในลำธารขุ่นมาก
พระอานนท์จีงกลับมารายงานพระพุท
ธเจ้าว่า น้ำในลำธารขุ่นดื่มไม่ได้ เพราะเกวียน ๕๐๐ เล่มเพิ่งจะลุยผ่านไป"
พระพุทธเจ้าบอกว่า "ลองไปหาน้ำที่แหล่งอื่น ตถาคตกระหายมาก น้ำนั้นมีอยู่"
พระอานนท์จึงออกไปหาลำธารใหม่เพ
ื่อจะตักน้ำ เมื่อพบลำธารแห่งที่สอง จะเข้าไปตักน้ำ กลับพบว่าน้ำก็ยังขุ่นดังเช่นใน
ลำธารแห่งแรก จึงกลับมารายงานพระพุทธเจ้าเช่น
เดิม
พระพุทธเจ้าตรัสให้พระอานนท์ไปห
าแหล่งน้ำอื่นเพื่อตักน้ำมาใหม่
เป็นครั้งที่สาม คราวนี้พระอานนท์ออกเดินทางไปไก
ลกว่าเดิม จนพบลำธารแห่งที่สาม ปรากฏว่าน้ำในลำธารใสสามารถบริโ
ภคได้ พระอานนท์จึงตักน้ำมากรองให้พระ
พุทธองค์ดื่มเพื่อบรรเทาอาการกร
ะหายน้ำ
พระพุทธองค์เมื่อได้ดื่มน้ำแล้ว
ได้ตรัสแต่พระสาวกว่า
บุพพกรรมนี้เกิดจากอกุศลกรรมเล็
กน้อยในอดีตชาติ ที่ชาติหนึ่งพระองค์เกิดเป็นเด็
กเลี้ยงโค ครั้งหนึ่งไล่ต้อนฝูงโคไปกินหญ้
าตามทุ่งนา เดินทางผ่านลำธารแห่งแรกวัวในฝู
งกระหายน้ำ จึงจะกินน้ำในลำธาร แต่เด็กเลี้ยงโคเห็นว่าน้ำในลำธ
ารขุ่น จึงไล่ต้อนฝูงโคต่อไปไม่ให้กินน้
ำ เมื่อเดินทางผ่านลำธารแห่งที่สอ
งก็ปรากฏว่าน้ำในลำธารก็ขุ่น จึงไล่ต้อนฝูงโคต่อไปไม่ให้กินน้ำ
้ำอีก เมื่อมาถึงลำธารแห่งที่สามน้ำใส
จึงปล่อยให้โคกินน้ำในลำธารนั้น
กรรมในครั้งนั้นได้ตามมาสนองต่อ
พระองค์ในครั้งนี้ แม้จะเป็นวาระสุดท้ายของพระองค์
ก็ตาม
องค์สมเด็จพระทรงสดิโสภาคย์ได้ต
รัสว่า.......................
"อย่าประมาทเห็นว่าเป็นความชั่ว
เพียงเล็กน้อยแล้วทำ และอย่าประมาทเพราะเห็นว่าเป็นค
วามดีเพียงเล็กน้อยแล้วไม่ทำ ขึ้นชื่อว่ากรรมแล้ว ที่จะไม่ให้ผลไม่มี"
กรรมเมื่อได้กระทำแล้ว ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม จะติดตามตัวผู้กระทำนั้นไปทุกภพ
ชาติ เปรียบเสมือนเงา และหาทางสนองตอบต่อผู้กระทำนั้น
ให้จงได้ จนกว่าผู้นั้นจะหลุดพ้นจากวัฏฏส
งสารอันยาวไกลนี้
Create Date : 23 เมษายน 2555
1 comments
Last Update : 23 เมษายน 2555 17:10:55 น.
Counter : 1254 Pageviews.
Share
Tweet
ขอบคุณค่ะ
B
โดย: B (
bewae1001
) 23 เมษายน 2555 17:47:22 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
เพื่อนร่วมโลก
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
พระธาตุล้านนา
Webmaster - BlogGang
[Add เพื่อนร่วมโลก's blog to your web]
Bloggang.com
B