นิทานธรรมะ ตำนานกำเนิดช้างแก้ว นิทานธรรมะ ตำนานกำเนิดช้างแก้ว “ช้างแก้ว” เป็นจิตวิญญาณช้างในโลกทิพย์ที่มีกายใสเหมือนแก้ว ดังจะอธิบายต่อไปนี้ ๑) ช้างดำ ช้างดำ คือ จิตวิญญาณช้างที่มีสีดำสนิทอยู่ในตระกูล “ฉัททันต์” เป็นช้างป่ามีพละกำลังมากและดุร้าย ปราบได้ยาก มักนำมาโปรดให้เชื่องแล้วใช้ใน “การสงคราม” ใช้ในทางโลกเป็นสำคัญ และมีหน้าที่ “ออกศึก” โดยตรง ไม่นิยมใช้ในกิจการอื่นๆ อนึ่ง ตระกูลนี้ จะมีพละกำลังมากแต่ไม่นิยมใช้ปัญญาเหมือนช้างเอราวัณ สามารถบำเพ็ญเพิ่มอิทธิฤทธิ์ได้ โดยให้สังเกตที่งา จากเดิมมี ๑ คู่ จะเพิ่มไปเรื่อยๆ ตามพละกำลัง จนครบ ๓ คู่ ก็จะมีบารมีเต็ม เป็นช้างฉัททันต์ที่มีกำลังมาก ปกติ เป็นพาหนะทรงของพระสมันตภัทร ๒) ช้างทอง ช้างทอง คือ จิตวิญญาณช้างในตระกูลช้างฉัททันต์ แต่ได้รับการโปรดจนกายทิพย์จากสีดำสนิทเปลี่ยนเป็นสีทอง ก็จะไม่ทำหน้าที่ “ออกรบ” อีก แต่จะทำหน้าที่พัฒนาประเทศ, นิยมการค้าขาย, สร้างความเจริญทางโลก เป็นสำคัญ อนึ่ง ช้างฉัททันต์ทั้งสีดำและทอง ไม่นิยมทำกิจทางธรรม เนื่องจากไม่มีปัญญาเท่าช้างเอราวัณ แต่มีพละกำลังมากพอที่จะเจริญรุ่งเรืองในทางโลก ทั้งนี้ช้างดำทำหน้าที่ออกรบ ช้างทองทำหน้าที่พัฒนาประเทศ ๓) ช้างเผือก ช้างเผือก คือ จิตวิญญาณช้างที่มีสีขาวบริสุทธิ์ อยู่ในตระกูล “เอราวัณ” ที่เราเรียกกันว่า ช้างเอราวัณ นั่นเอง ซึ่งโดยปกติจะเป็นช้างทรงขององค์อินทร์ทำหน้าที่ดูแลพุทธศาสนา แต่จะไม่นิยมเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลก เนื่องจากมีสีขาวบริสุทธิ์มากเกินไป ช้างในตระกูลนี้ สามารถบำเพ็ญปัญญาได้มากที่สุด เกิดจากการรับใช้เทพเจ้าหลายองค์ หรือผู้มีบุญบารมีหลายท่าน จะยิ่งมีหลายเศียรจนครบสามเศียร ถ้าช่วยผู้ทรงธรรม ๑ ท่าน ก็จะได้บารมี ๑ เศียร จะต้องบำเพ็ญบารมีรับใช้ผู้ทรงธรรมถึง ๓ ท่าน บารมีจึงเต็มสามเศียร ๔) ช้างแก้ว ช้างแก้ว คือ จิตวิญญาณช้างที่มีกายทิพย์ใสเหมือนแก้วประกายพรึกและรัศมีกายคล้ายเพชร สามารถดูดซับพลังธาตุสีต่างๆ เพื่อใช้ในการทำกิจได้สารพัดนึก จึงเป็นช้างที่ทำกิจสารพัดนึก อนึ่ง ช้างแก้ว เป็นช้างทรงของพระเจ้าจักรพรรดิในยุคสมัยที่โลกมีแต่สิ่งดีงาม แต่ในยุคสมัยปัจจุบัน ช้างแก้วจะไม่ใสเกินไป เพราะใสมากจะไม่ก่อกรรมเพิ่ม แต่จะมีสีในกายคล้ายพระแก้วมรกตที่มีสีอยู่ข้างใน แล้วสามารถทำกิจก่อกรรมได้ตามสีธาตุนั้น ข้อสังเกตลักษณะของจิตวิญญาณช้างทิพย์ ๑) ช้างคือจิตวิญญาณชนิดหนึ่งสามารถอยู่ได้ทั้งในกายสังขารของช้าง หรือคนก็ได้ ให้สังเกตดูว่ามีจิตวิญญาณช้างแทรกอยู่ในคนหรือช้างหรือไม่ อย่าดูแต่ภายนอกเท่านั้น ก็บ่งบอกได้ว่าจิตวิญญาณนั้นเป็นช้างประเภทใด ควรใช้งานลักษณะใด ๒) ช้างจะเชื่อถือศรัทธาคนที่มีจิตใจที่ดี ยืดหยุ่น, มีพละกำลังใจในการทำคุณงามความดี, หรือพระโพธิสัตว์ ฯลฯ แต่คนผู้นั้นต้องใจเย็นเพราะ เมื่อใดที่ช้างตกมัน จะอาระวาดรุนแรง ทำลายข้าวของ เหมือนคนบ้าคลั่ง แต่ไม่นานก็จะหยุดได้เอง ๓) ช้างมีลักษณะเชื่อง, ว่าง่าย, ใช้งานง่าย, ใจน้อย, ไม่ขี้บ่น, ขี้อ้อน, หัวทึบ, กำลังดี ฯลฯ ถ้าอยู่กับสังขารคน จะทำให้คนๆ นั้นเหมือนคนเป็นเอ๋อก็ได้ หรือคล้ายจะปัญญานิ่มก็มี แต่อย่าได้ดูถูกไป ถ้าเขาว่านอนสอนง่าย มีไฟทำงานด้วยกำลังให้มาก เมื่อฮึดสู้แล้วมีพละกำลังผิดคนทั่วไป ก็อาจเข้าลักษณะของช้างทรงที่ดีได้ อนึ่ง ประเทศไทยมีเทพช้างคอยดูแลคู่กับเทพนักษัตรตระกูลพญานาค โดยพระราชามักทรงช้าง, พระราชินีมักทรงพญานาค (มีบริวารผูกพันมากคอยสนับสนุน) จึงจะค้ำเมืองได้ปัจจุบัน พญานาคไม่อาจมีกำลังต้านทานกระแสโลกหลังกึ่งกลางพุทธกาลได้ ท่านแนะให้ใช้ “มังกรหยก” แทนพญานาค คือ ช้างทองคู่มังกรหยก ทั้งนี้ มังกรมีข้อดีคือ ปัญญาในทางการเมืองการปกครองดีมาก แต่มักยึดติดประเทศจีน ท่านจึงให้คู่กับช้างทองไว้ Create Date : 11 ตุลาคม 2553 Last Update : 11 ตุลาคม 2553 9:29:14 น. 0 comments Counter : 782 Pageviews.   Share Tweet ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก Comment :   *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet