อักษรภาพ ประดิษฐ์เอง ตำนานกำเนิดสรรพสิ่งแต่งเอง และอะไรๆ ที่ไม่น่าเชื่อแต่ก็ทำได้เองนะคร้าบ
<<
มกราคม 2554
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
6 มกราคม 2554

นิทานธรรมะ ตำนานกำเนิดผีเรือน

นิทานธรรมะ ตำนานกำเนิดผีเรือน

“ผีบ้านผีเรือน” คือ ผีที่อยู่ประจำบ้านเรือนของมนุษย์ คอยดูแลให้ความร่มเย็นและทำให้คนติดบ้าน อยู่บ้านได้ รักที่อยู่อาศัย ไม่ออกไปเที่ยวเตร็ดเตร่นอกบ้าน ทำให้บ้านมั่นคงและยั่งยืน อยู่กันได้ยืดยาว อดทนและผูกพันกับบ้านนั้นๆ ไม่ละทิ้งบ้านไปง่ายๆ ไม่ขายที่ๆ ปลูกบ้านนั้นไป ดังนั้น คนโบราณจึงนิยมกราบไหว้บูชาผีบ้านผีเรือนด้วย และการได้ มาซึ่งผีบ้านผีเรือนนั้นจะต้องมาด้วยบารมี เช่น เลี้ยงดูพ่อแม่จนตายในบ้าน ดังจะอธิบาย

ผีบ้านผีเรือนต้องมีลักษณะอย่างไร

๑) ตายในบ้าน
คนที่ตายนอกบ้านไม่อาจมาเป็นผีบ้านผีเรือนได้ ผู้ตายในบ้านเท่านั้นสามารถเป็นผีบ้านผีเรือนได้ ปกติงานศพจะไม่ตั้งศพในบ้านยกเว้นจะเชิญผู้ตายนั้นมาเป็น “ผีบ้านผีเรือน” จึงจะจัดงานศพในบ้าน สำหรับผู้ป่วยที่ร้องขอให้ตนอยู่แต่บ้านแล้ว แต่ญาติไม่ยอมได้นำไปส่งโรงพยาบาลจนตายในนั้น ญาติต้องร้องขอศพมาตั้งทำพิธีบนบ้าน จึงจะเป็นผีบ้านได้

๒) ผูกพันกับบ้าน
มักเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับบ้านนั้น เช่น เป็นญาติผู้ใหญ่, พ่อแม่, ปู่ย่า หรือผู้สร้างบ้านนั้นขึ้น จึงมีความผูกพันกับบ้าน เมื่อตายแล้วจิตวิญญาณบางดวงไม่จุติไปหมดยังภพภูมิอื่น ก็จะกลายเป็น “ผีบ้านผีเรือน” ได้ อนึ่ง ผีบ้านผีเรือนนี้ ยังไม่ใช่พระภูมิ คำว่าพระภูมินั้น ต้องได้รับตำแหน่งจาก “ท้าวจตุโลกบาล” ก่อน แต่ผีบ้านผีเรือนเป็นได้ด้วยลูกหลานเชื้อเชิญ

๓) เจ้าของบ้านเชิญ
เจ้าของบ้านได้ทำพิธีกรรมอันแสดงออกได้ว่าได้เชื้อเชิญให้ผู้ตาย ได้สถิตอยู่ในบ้านนั้นได้ต่อไป เช่น การตั้งศพไว้ในบ้าน ให้ศพอยู่บ้านอย่างน้อย ๓ วัน หรือ ๗ วัน จึงค่อยนำ ไปฌาปนกิจ แต่ถ้าเจ้าของบ้านไม่ได้เชิญ ด้วยอาการใดๆ วิญญาณผู้ตาย ก็ไม่อาจสถิตอยู่ในบ้านนั้นได้ หากไม่มีภพภูมิอื่นที่ไป ก็จะต้องกลายเป็น “สัมภเวสี” ต้องเร่ร่อนต่อไป

ทุกๆ สถานที่ที่ได้รับการจัดสรรแล้วปลูกอาคารขึ้น หากไม่มีจิตวิญญาณที่คอยคุ้มครองก็จะถูกรบกวนด้วยจิตวิญญาณต่างๆ มากมาย ทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่อาจอยู่ได้นานต้องจรไป เช่น อาคารที่ทำงาน ถ้าไม่มีจิตวิญญาณดูแลเลย จะถูกจิตวิญญาณเร่ร่อนรบกวน และจะนำพาผู้คนที่ทำงานในที่นั้น จรออกไป, อยู่ไม่ยืดยาว พนักงานมักลาออกได้ง่าย จึงไม่มีความมั่นคง แต่หากอาคารใดมีจิตวิญญาณดูแลอยู่ ก็จะคอยป้องกันไม่ให้จิตวิญญาณอื่นมารบกวนผู้คนที่อยู่อาศัยในอาคารนั้นได้ นอกจากตัวอาคารแล้ว ยังต้องมีจิตวิญญาณที่ดูแลพื้นที่ดินอีก ซึ่งก็คือ “พระภูมิหรือเจ้าที่” อย่างใดอย่างหนึ่ง ที่ดินนั้นจึงจะมั่นคง ไม่ถูกขายให้ผู้อื่น, ไม่ถูกกลั่นแกล้งแย่งไป ฯลฯ ดังนี้ “พระภูมิเจ้าที่ และ ผีบ้านผีเรือน” จึงมีบทบาทสำคัญในการทำให้คนอยู่ติดบ้าน ซึ่งดีต่อทางโลก ทำให้ทางโลกสงบสุขได้ในระดับหนึ่ง แต่ในทางธรรมแล้ว จะละความยึดมั่นในสถานที่, ที่ดิน หรือแม้แต่อาคารที่อยู่เสีย เพราะการยึดติดนั้น อาจส่งผลให้จิตวิญญาณไม่หลุดพ้นไปไหนต้องกลายเป็นผีเฝ้าอาคารหรือสถานที่นั้นๆ ไป แทนที่จะได้ขึ้นสวรรค์ที่ดีกว่านี้ ดังนั้น พระพุทธเจ้าจึงทรงให้ภิกษุจาริกไปเรื่อยๆ คือ การธุดงค์เป็นปกติวิสัยไม่ยึดมั่นถือมั่นสถานที่ใดๆ จึงหลุดพ้นได้

สำหรับประโยชน์ในทางโลกและทางธรรมนี้ต่างกัน ในทางโลกมักมีพราหมณ์ช่วยในการทำพิธีกรรมต่างๆ ให้ เพื่อให้ได้มาซึ่งผีบ้านผีเรือน, พระภูมิเจ้าที่ต่างๆ ซึ่งทำให้ลูกหลานอยู่ในอาคารหรือสถานที่นั้นๆ ต่อไปได้ร่มเย็นยาวนาน แต่ในทางธรรม, พระพุทธศาสนาสอนให้ละวางความยึดมั่นถือมั่นในอาคารสถานที่เสีย แม้ไม่มีจิตวิญญาณยึดครองอาคารหรือสถานที่ไว้ และต้องเสื่อมสลายลงไปตามกาลเวลา ก็ไม่มีปัญหา เพราะเป็นเรื่องปกติธรรมดาของโลกที่ไม่จีรังยั่งยืนอยู่แล้ว สำหรับนิทานกำเนิดผีเรือน ขอจบลงเพียงเท่านี้



Create Date : 06 มกราคม 2554
Last Update : 6 มกราคม 2554 9:23:21 น. 0 comments
Counter : 356 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ฉันนะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




[Add ฉันนะ's blog to your web]