ไม่เข้าใจตัวเองว่าจะซื่อไปถึงไหน (เรียกว่า โง่ดีกว่า)

อันนี้ไม่เกี่ยวกับงานแปลแต่เป็นเรื่องโชคร้ายที่เราเจอในปีนี้ และเรื่องยังไม่จบ

เรื่องนี้เราเคยโพสต์ตามไว้ในพันทิปแล้ว //pantip.com/topic/30348984 คนที่ไม่ได้อ่าน เราจะเล่าให้ฟัง

เราซื้อหุ้นในบริษัทเพชรแห่งหนึ่งตั้งแต่เดือนมิ.ย. 55 เป็นเงิน 50,000 บาท ทีแรกจะลงสัก100k บาทด้วยซ้ำ แต่เหมือนอะไรมาดึงเราไว้ บริษัทนี้ไม่ใช่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ความรู้สึกเหมือนเขากำลังเริ่มขยายกิจการ งั้นลองแค่จำนวนน้อยๆ ดีกว่า

โอนเงินเรียบร้อยเอกสารใบสมัครทุกอย่างเก็บไว้ครบ จากนั้นก็ทวงใบหุ้นมาหลายรอบทั้งอีเมลตาม (เก็บหลักฐานไว้) และโทรศัพท์ตาม บริษัทไม่เคยส่งมาให้

ปลายปี 55 กรรมการบริษัทอีเมลมาแจ้งมาว่ากำลังยุ่งๆเรื่องเตรียมงบการเงินสำหรับส่งกระทรวงฯ บริษัทนี้พยายามจะเข้าตลาดหลักทรัพย์เราเข้าใจว่าเอกสารคงจะเยอะ ไหนจะผู้ถือหุ้นซื้อมาขายไปอีก ก็ไม่ได้ว่าอะไร

พอเดือน ม.ค. 56 ได้รับอีเมลอีกฉบับที่ส่งถึงสมาชิกทุกคนว่า จะมีการจ่ายเงินปันผล 10% ให้กับผู้ถือหุ้น เราถือมา 6 เดือน ก็เข้าใจว่าน่าจะได้ 2,500 บาทโดยจะจ่ายภายในไตรมาสแรก

ถึงตอนนี้ มันยังไงล่ะเนี่ยใบหุ้นเราก็ไม่เคยได้ พอบอกว่าจะมีปันผลจ่ายปันผลไปแล้ว แล้วทำไมเราไม่ได้อ่ะ ไม่เคยได้หนังสือเชิญประชุมผุ้ถือหุ้นหนังสือแจ้งอะไรเลย ไม่มีอะไรทั้งสิ้น

ปรากฎว่าพ้นเดือนมีนาคม 56แล้ว (ครบไตรมาส) ก็ยังไม่ได้เงินปันผล เราเลยส่งจดหมายทวงไปทางอีเมลขอให้คืนเงินที่เราซื้อหุ้นพร้อมปันผล

ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราโทรไปหาหลายรอบแล้ว เบอร์สำนักงาน 1 เบอร์ และเบอร์มือถือ 2 เบอร์ไม่มีคนรับ เรามองในแง่ดีมาตลอดว่าเจ้าของกิจการคงจะยุ่งมากแต่เงิน 50,000 บาทนี่ทำอะไรได้ตั้งเยอะนะ

จนเดือน มิ.ย. 56 เราคุยกับเพื่อนที่ทำบัญชี เขาบอกว่าเช็คสถานะบริษัทเลยไปที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สาขาไหนก็ได้ ขอคัดดูชื่อกรรมการ สถานะการประกอบกิจการและรายชื่อผู้ถือหุ้น

พอเราไปคัด เจ้าหน้าที่บอกว่า บริษัทไม่เคยส่งงบเลยไม่มีรายชื่อผู้ถือหุ้น แล้วก็พริ้นท์เอกสารมาให้เราหน้าเดียว แสดงทุนจดทะเบียนชื่อกรรมการ ที่ตั้งของบริษัท และสถานะการประกอบกิจการ (ยังประกอบกิจการอยู่)

พอปลายเดือน มิ.ย. กรรมการบริษัทโทรมา บอกว่า กำลังจะปิดงบ(ปีที่แล้วก็บอกว่าจะปิดงบ จนมันข้ามมาอีกปีนึงยังไม่ปิดเหรอ) ต้องรอให้เห็นมูลค่าหุ้นในงบก่อน จะได้คืนเงินถูก ขอให้ใจเย็นๆ อ่ะไม่ว่ากัน

สิ้นเดือน ส.ค.ไม่มีอีเมลแจ้ง

ปลายเดือน ก.ย.เราอีเมลตาม ว่าเงินลงทุนของเราอยู่ไหน งบทำเสร็จหรือยัง

เงียบเหมือนเดิม

เราบังเอิญได้คุยกับเพื่อนอีกคนเพื่อนบอกว่า มันไม่เกี่ยวกับปิดงบอะไรเลย ในเมื่อเราไม่เคยมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น เวลาคืนเงินก็ต้องคืนเงินเราเต็มจำนวน ไม่มีสิทธิไปอ้างอิงกับมูลค่าหุ้นในงบ (เออ ใช่)

สุดท้าย เราปรึกษาทนายทนายบอกว่า ประเด็นคือ เราไม่รู้ว่าถูกโกงเมื่อไหร่ มีแต่สงสัยว่าจะโดนโกงแต่กรรมการก็โทรมาพูดคุยทุกครั้ง ดังนั้นให้ส่งหนังสือบอกกล่าวให้คืนเงินภายใน 7 วัน ไม่งั้นจะดำเนินคดี

ส่งไปแล้วมีพนักงานเซ็นรับ ครบ 7 วัน ก็ไม่มีเงินคืนเข้าบัญชี เราเลยไปแจ้งความ ตำรวจอ่านเอกสาร ก็เห็นว่ามีมูล เข้าใจที่เราอธิบายว่าเราไม่เคยทิ้งเรื่อง และมีการติดต่อมาตลอด ทำให้เราไม่ได้คิดว่าเขาจะโกง จนมาตอนนี้เรามีหลักฐานชัดแล้วว่าเขาไม่คืนเงิน ก็เลยต้องแจ้งความ “ดำเนินคดี” (ทนายย้ำว่าต้องดำเนินคดี ไม่ใช่แจ้งความลงบันทึกประจำวัน)

ก่อนตำรวจจะเขียนใบแจ้งความก็โทรหากรรมการแล้ว ไม่รับสาย โทรเข้าบริษัทก็ไม่มีคนรับอยากจะไกล่เกลี่ยก่อน เราก็บอกไปว่าถ้าเขาคืนเงิน เราก็ถอนแจ้งความ ก็จบกันไป

เมื่อวาน (27 พ.ย. 56) กรรมการโทรมาหาเรา บอกว่าส่งเรื่องให้ฝ่ายบัญชีแล้วเดี๋ยวรู้ผลภายในสัปดาห์นี้ แล้วเขาก็อ้างเรื่องซื้อหุ้นบริษัท มันขายคืนไม่ได้ยกเว้นจะมีคนมาซื้อต่อ เราเลยบอกว่า ไม่เกี่ยวเพราะเราไม่เคยมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้น (เราไปคัดเอกสารจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว ไม่มีใครเป็นผู้ถือหุ้นทั้งนั้นน่ะ)ฉะนั้นต้องคืนเงินเรามาให้ครบ

แล้วไหนจะอีเมลเรื่องเงินปันผลอีกนี่มันแหกตากันชัดๆ บริษัทนี้ก็ไม่ใช่บริษัทเล็กๆ นะ ออกทีวีด้วย มีสมาชิกเป็นหมื่นๆ คน เราเชื่อว่ามีคนโดนหลอกเหมือนเรา แต่เราไม่รู้จะไปหาชื่อและติดต่อได้ที่ไหน ถ้าเรารู้ เราจะให้รวมตัวกันไปแจ้งความเรื่องมันจะได้ไวขึ้นเพราะมันจะกลายเป็นฉ้อโกงประชาชน ทนายบอกว่า ถ้ามีเจ้าทุกข์คนที่สองให้ไปแจ้งความคนละวัน ให้ตำรวจคนละคนเป็นคนรับเรื่อง จะได้แยกเป็น 2 คดี ถ้าคดีแรก ตัดสินแล้วผิด รอลงอาญา คดีที่สองตัดสินแล้วผิด จะได้ติดคุกเลย

ชาตินี้ไม่เคยคิดว่าจะเอาใครเข้าคุกเลยนะทำไมต้องเป็นกรูว้า หรือชาติที่แล้วจะไปโกงใครไว้ ต้องมาใช้กรรมตอนนี้

ตอนนี้รอ ว่าจะยังไงต่อ ไว้จะมาอัพเดท