นั่งนกเส้นทางเดิมๆไปเจอร้อนที่เชียงใหม่

review นี้ ก็จะเป็นเส้นทางเดิมๆ DMK-CNK เหมือนตอนต้นปีนะครับ

ตอนแรกกะว่าช่วงสงกรานต์จะไม่ไปไหนขอเก็บเงินไว้บ้างหุหุ

แต่ก็มีธุระต้องไปจริงๆ(เมื่อปีที่แล้วก็ไปวันเดียวกัน แต่ไปดูหมีแพนด้า) ผมทราบประมาณเดือนก.พ.ว่าต้องไปตอนแรกกะไป 15เม.ย. แต่คนที่เชียงใหม่บอกว่า มา15 รถติดเพราะยังเล่นสงกรานต์กันอยู่ เลยเปลี่ยน มา 16 แทน

ก็ไล่ดูทุกสายการบินทาง เว็ปไซด์ต่างๆ แต่ตอนนั้นมาสะดุดที่บางกอกแอร์เวย์ เพราะหลังจากที่ดูทุกสายการบินแล้วในตอนนั้นบางกอกแอร์เวย์ถูกที่สุด ไล่ดูราคาแล้วถูกกว่า nokair และใกล้เคียงกับ 1-2goในตอนนั้น แต่พอมาสรุปอีกที บางกอกฯถูกกว่า nokair 100 บาท ออกจากสุวรรณภูมิ 8โมง ผมเลยมานั่งคิดประมาณ 3 นาที่ คิดแล้วไม่คุ้มแม้ใจอยากจะนั่งบางกอกฯเต็มที่ เพราะไม่เคยนั่งที่สำคัญอยากนั่งในเลาท์ หุหุ แต่ในความเป็นจริง ถ้าไปจริง ผมต้องนั่ง TAXI ครับ เพราะจากบ้านผมเช้าขนาดนั้นบ้านผมอยู่ฝั่งธน รถประจำทางก็ไม่มี หรือจะให้มาลุ้นนั่ง ปอ. 558 ที่พระราม ก็กลัวไม่ทัน แต่ถ้าเป็น taxiแล้วรวมทุกอย่าง เกือบๆ500 บาท เลยตัดใจ nok ก็ nok ฟระ เพราะเครื่องออก 9 โมง นั่งรถตู้มาลงอนุสาวรีย์และต่อรถเมล์หรือแท็กซี่ก็ยังทัน ก็เลยตัดสินใจจอง nokair ส่วนบางกอกแอร์เวย์ ถ้าบุญพาวาสนาส่ง คงจะได้มีโอกาสบ้าง

ก็มาเริ่มกันเลยครับ ออกจากบ้าน 6 โมงกว่า ถึงอนุสาวรีย์ 7โมง หน่อยๆ ไปรอสาย 28 ที่ขึ้นโทลเวย์ รออยู่เกือบๆ 10 นาทีไม่โผล่มา เลยต้อง TAXI ไปถึง สนามบินประมาณ 7 โมงครึ่งได้ ยังสบายๆอยู่ เดินไปเช็คอิน เพราะมีแค่กระเป๋ากล้องใบเดียว ไม่ต้องโหลด แต่ตอนนั้นนึกในใจ ทำไมไม่เช็คอินทางโทรศัพท์ ฟระ ยังงง กับตัวเองไม่หาย

บรรยากาศค่อนข้างเงียบครับ เพราะอย่างที่ทราบกันเหลือแค่ 2 สายการบิน ทำให้เคาท์เตอร์ของ Nok Air มาแทนที่การบินไทย ดังในภาพ

และคนน้อยครับ เพราะๆไฟท์เช้า ของ 1-2go ออกไปแล้ว 2 ไฟท์ ตอนนั้นเหลือ แต่ของ Nok Air ที่ช่วง8โมง-9โมงนั้นมีไฟท์ ไปภูเก็ต,หาดใหญ่,เชียงใหม่ครับ
ดูวังเวงชอบกล


และก็มาที่มุม โปรด เพราะเหมาะแก่การเล็งถ่ายภาพเครื่องบินที่สุด

แต่แล้วก็ไปเจอ nokเขียว (สุรินทร์ ) จอดอยู่เดียวดาย ลำนี้จะไปภูเก็ต




ตารางการบินครับ

จะเห็นว่า มีแต่ DDกับ OX (เปลี่ยนกลับไปมาจนงง เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังตอนขากลับ)

ฝั่งเลขคี่ เป็นของ Nok ส่วนฝั่งคู่เป็นของ 1-2go



ตอนที่ไปผมถ่ายรูปตอนแรก โซนตรงนั้นมีผมอยู่คนเดียวครับ

แต่โทรทัศน์ที่ ทอท.นำมาให้ชมกันก็ดีครับ แต่ควรปรับเสาซะหน่อยก็ดีนะครับ เพราะทุกเครื่องภาพไม่ชัดหมดเลย ทั้งๆที่เปิด NBT ให้ดู สถานีก็อยู่ไม่ไกลแต่ภาพออกมาไม่ชัด



แต่สายตาพลันเหลือบไปเห็นรถคันหนึ่ง



Boarding Pass ครับ

ดีกว่า 7-11 หน่อยนึง



ได้เวลานกสุรินทร์ เริ่มถอย ไปถิ่นไข่มุกอันดามัน







สงสัยปากจะเป็นสิว







และแล้วก็เข้าสู่ความว่างเปล่า


ส่วนนี่ก็มะรุมมะตุ้มกันอยู่



แต่แล้วทันใดนั้น ทั้ง 2 ได้พักตร์ เมื่อเขามาฉันจะไป แต่ที่ปากทำไม ........?


ส่วนนกสุรินทร์ ก็ค่อยๆแท็กซี่ไป


เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อม ที่ Gate 61



ค่อยมาอย่างช้าๆแต่มั่นใจ พร้อมปากอันแหว่ง






อ้อ นกสงขลานี่เอง



ส่งสัญญาณว่าเบรก จ้า




จอดปั๊บ เจ้าหน้าเข้าตรวจสอบทันที


และรถน้ำมันก็เข้ามาเทียบ ดีๆๆ

เดี๋ยวจะได้ไปถึงเชียงใหม่

พร้อมกับการขนถ่ายสัมภาระ





นกสุรินทร์กำลังจะไปแล้ว



และแล้วก็จรลี เข้ามาข้างพร้อมโฉบไปอีกฝั่ง เห็นอีกเจ้าจอดอยู่ใกล้ๆงวงช้าง




แต่เอ๊ะ ขวามือไกลๆนั่นอะไร


อ้าวเฮ้ย นกเขียวหวานนี่มาตั้งแต่เมื่อไร

มาแบบเงียบๆไม่ให้สุ้มให้เสียง

ครบ1 ปีพอดีที่ได้เจอกัน


ดีครับ ที่นกเริ่มกับมาที่จะใกล้เคียงกับของเดิม

แต่น่าจะเป็นแบบนกน้อยทำรังแต่พอตัวดีกว่า ค่อยๆเป็นค่อยไป ในการเพิ่มเครื่อง


ไกลออกไปในลานจอด




หันมาดูบรรยากาศภายในบ้าง โล่งจริงๆ


อีกมุม




และฝูงของ 1-2go ที่จอดสงบนิ่งอยู่ครับ


ดูเหมือนจมูก บุบๆ และเป็นสิวยังไงก็ไม่รู้





และนี่ทะเบียนของเธอ
กับแพนหางอันงดงาม









ผมเดินมาบริเวณใกล้กับทางลงอุโมงค์พิศวง และตอนนั้นนกภูเก็ตกำลังแท็กซี่มายังอาคารพอดี

แต่ที่ปากนั้น? คือตั้งแต่ต้นปีแล้วนะครับ ยังแหว่งอยู่เลย






หันมาดูบริเวณที่นั่งอีกที ก่อนเวลาบอร์ดเล็กน้อย มันโล่งงงงงงงงงงงงงงงงง จริงๆ


แต่ระหว่างบอร์ดนั้น ตอนแรกผมขี้เกียจยืนเข้าแถว แต่นั่งไปสักพักนึกขึ้นได้ ตูจองที่นั่งริมหน้าต่างไว้นี่หว่านึกขึ้นได้รีบเข้าแถวทันทีเกิดคนที่นั่งตรงกลางกับริมทางเดินไปนั่งก่อนเดี๋ยวลำบากเค้าอีก

ไม่ใช่อะไรหรอกครับเคยเจอที่อุดร มัวแต่ถ่วงเวลาอยู่ข้างล่างถ่ายรูป NOK XL พอขึ้นไปมีคนไปนั่งก่อนแล้วทำให้ทั้ง 2 ต้องลุกขึ้นพร้อมกับสายตาที่จิกผมเล็กน้อยทำให้รู้สึกผิดถึงทุกวันนี้ยังไงก็ไม่รู้

แต่พอขึ้นเครื่องระหว่างที่เดินไปทีนั่งก็เห็นแบบที่ตัวเองเคยเจอครับ เพราะคนที่นั่งริมหน้าต่างอยู่ข้างหน้าผมเอง แต่คราวนี้ผู้โดยสาร 2ท่านที่ไปถึงก่อนนั่งเฉยมีอายุแล้วแต่ไม่แน่ใจว่าเป็นคนไทยหรือไม่เพราะไฟท์นั้นคนต่างชาติเยอะ ทำเอาคนที่นั่งริมหน้าต่างไปไม่ถูก โชคดีที่ ที่นั่งข้างหน้ายังไม่มีคนขึ้น แอร์โฮสเตสเลยใช้วิธีดันเบาะข้างหน้าให้พับลงก่อน คนที่นั่งริมหน้าต่างเลยเข้าไปได้ครับ

ส่วนผมโชคดี เพราะคนอื่นยังไม่มา เรามาก่อน คราวนี้จอง 51 a ครับ ทำการจองที่นั่งผ่านnet มาเรียบร้อยแล้วครับ อยากลองนั่งด้านหลังดูบ้างเพราะส่วนใหญ่จะนั่งกลางๆ ครับ แต่ตอนจองนี่ผมไม่แน่ใจว่าเป็นที่ server ของ Nok Air มีปัญหาหรือไม่ เพราะจองไป 2 ครั้งerror ทั้ง 2 ครั้งเลยครับ สุดท้ายต้องจองผ่าน call center ครับ

และเข้ามาถึงที่นั่งตามประสงค์ที่ตั้งไว้ครับ 51 A

เที่ยวบินที่ DD 8306 DMK-CNX
เวลาในการเดินทาง 9.05-10.15
ที่นั่ง 51 A
ราคา622.90 บาท แต่รวมค่าธรรมเนียมและค่าภาษีทั้งหมดแล้ว เบ็ดเสร็จ 1975.60 บาท แต่ก่อนวันเดินทางผมเข้าไปดูราคา ถูกลงอีก 100 บาท NOk จ๊าทำกันด้ายยยยยยยยยยยยยยยยยย

เวลาบอร์ด 8.45 น.บอร์ดจริง 8.50น. ครับ



เข้ามาพร้อมกับส่องนกภูเก็ต และบรรยากาศระหว่างผู้โดยสารเดินหาที่นั่ง



บอร์ดเร็วมากครับไม่ถึง10 นาทีผู้โดยสารก็พร้อม ไม่เต็มนะครับ ผู้โดยสารประมาณ 97-98% ได้

9.00 น. ก็ได้เวลาถอยครับ






ได้เวลา เหิรฟ้า มองไปที่สนามงู

พร้อมกับนึกในใจว่าเราตีกอล์ฟไม่เป็น แต่เห็นสนามนี้แล้วอยากตีเป็น จะมาบ่อยๆ แต่ไม่ได้มาตีกอล์ฟ นะ จะมาถ่ายรูปเครื่องบินทั้งของสายการบินพาณิชย์และเครื่องทหาร




เริ่มลอยแล้วครับ

พร้อมกระแสลมอันแรง ทำเอาเครื่องโครงเหมือนกัน



ค่อยๆ ไต่ระดับครับ


วัดพระศรีฯและสื่งที่บอกถึงความเจริญและแออัด ของเมืองหลวง




ตีโค้ง พร้อมกับภาพแม่น้ำสายหลักของประเทศ ครับ


แม่น้ำเจ้าพระยาอีกภาพ



ความเขียวเริ่มปรากฎให้เห็น เมื่อเข้าสู่จังหวัดอยุธยา




ภาพภายในเครื่องระหว่างการไต่ระดับ


และช่องแอร์ที่อยู่เหนือศรีษะผม

ไม่ต้องปรับอะไรเลยครับ เพราะช่องมันโล่ง หุหุ เย็นระดับเดียวตลอดการเดินทาง


หันมารื้อด้านหน้าบ้าง เจอนิตยสาร jibjib


คู่มือความปลอดภัย

ดูและจำ จำแล้วนำไปใช้



ภาพจากความสูงระดับ 24,000 ฟิตครับ


พอเริ่มเข้าเขตภาคเหนือเริ่มเห็นเมฆบ้างครับ ไม่เหมือนคราวที่แล้วที่มา เหมือนบินผ่านขั้วโลกเหนือ





เกือบลืมความอร่อยบนเครื่องบิน AuntieAnne's
แต่ไม่กล้ากินบนเครื่องเพราะกลัวติดคอ



ทางภาคเหนือเมฆยังหนาอยู่



เริ่มลดระดับแล้วครับ







พื้นสีเขียวๆ และหลังคาบ้านเริ่มชัดเจนขึ้น



เห็นอุโมงค์ลอดทางแยกนี้ เป็นสิ่งยืนยันว่าใกล้จะถึงสนามบินแล้ว


กัปตัน บัญชานำเครื่องลงอย่างนิ่ม แต่โครงพอสมควร ลมแรงมากๆ


ระหว่างที่กำลังไปที่แท็กซี่เวย์ ลูกเรือประกาศเป็นภาษาเหนือว่ามาถึงก่อนเวลา10 นาที หุหุ

แต่จอดรอดเข้า แท๊กซี่เวย์เพื่อไปอาคารผู้โดยสารอยู่พักหนึ่ง เพราะมีการบินไทยกำลังแท็กซี่ไปรันเวย์ เป็นเครื่อง 747 แต่ผมถ่ายรูปไม่ทัน พอเครื่องการบินไทยผ่านไป nok ก็มุ่งหน้าสู่อาคารผู้โดยสารผ่านที่ตั้งกองบิน 41


ผมว่า ATR 2ลำนี้ เป็นสัญลักษณ์ของสนามบินเชียงใหม่ไปแล้วมาทีไรเจอทุกครั้ง

และสวนกับ บางกอกแอร์เวย์ ไม่แน่ใจว่าถ้าเราเลือกบางกอกแอร์เวย์ จะมาลำนี้หรือเปล่า



แอบถ่ายบั้นท้ายซะหน่อย




และ ATR อีกสักครั้ง



ส่วนคุณชัยนาท กำลังเตรียมตัวไป


ยืนยันว่ามาถึงเชียงใหม่แล้วจริงๆ




พึ่งจะเทียบงวงช้าง ก็ลุกกันพรึ่บ


หลังจากที่เดินมาด้านนอก เพราะคนที่มารอรับโทรมาเร่ง แต่สายตาเราเหลือบไปเห็น คุณชัยนาทกำลังแท็กซี่

ซึ่งก็ต้องทำให้หยุดหันมาถ่ายรูปอีกหุหุ ( ทำไงได้คนชอบถ่ายรูปเครืองบินนิ)


ต่อจากนั้นก็ตามด้วยเครื่องของกองบินเกษตรครับ

และนกสงขลา ที่พามาส่งด้วยความปลอดภัย

ป.ล. ขอเพิ่มเติมหน่อยยังไงก็ยังเลือกนกแอร์นะครับ แต่ถ้าลดค่าธรรมเนียมน้ำมันลงมาได้ก็ดีนะครับ เพราะที่มานี่ค่าธรรมเนียมน้ำมันแพงกว่าค่าโดยสารอีกครับ



หลังจากนั้นผมได้มีโอกาสไปไหว้พระที่ถือว่าเป็นพระคู่บ้านของเชียงใหม่องค์นึงครับ

วัดนี้อยู่ไม่ไกลจากสนามบินเท่าไหร่ ชื่อวัดสวนดอก และพระที่ได้ไปไหว้และถือโอกาสทำบุญทีวัดไปด้วยคือ พระเจ้าเก้าตื้อครับ


ปิดท้าย review นี้ด้วยภาพ ต้นราชพฤกษ์ในวัดสวนดอกนะครับ พอที่จะคลายร้อนไปบ้างกับความร่มรื่นในวัด

เพราะอากาศร้อนมากครับ ทั้งๆที่ก่อนหน้าที่ผมไปถึงตอนเช้าฝนตก แต่พอมาตอนสายๆยิ่งร้อนขึ้นมากครับ



ผิดพลาดตรงไหนขออภัยไว้ล่วงหน้าครับ
ขอบคุณที่ติดตามชมครับ

Create Date : 18 เมษายน 2552 Last Update : 18 เมษายน 2552 14:10:47 น. Counter : 4069 Pageviews.		3 comments
Share Tweet