วันเสาร์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสฟังคำบรรยายหลักธรรมในการดำเนินชีวิต จากพระอาจารย์จาก 'ธรรมะ Delivery' ของท่านพระอาจารย์ สมปอง ที่ทางบริษัทได้นิมนต์มาบรรยายให้พนักงานฟังเนื่องในโอกาสจัดงานฉลองเทศกาลปีใหม่ ในหัวข้อเรื่อง 'ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข' ซึ่งจัดว่าเป็นกิจกรรมที่ดีทีเดียว เพราะโดยปกติคงจะมีหลายคนที่หาโอกาสฟังเทศน์ ฟังธรรมได้ยากเต็มที

ที่เรียกว่า 'บรรยาย' แทนคำว่า 'เทศน์' เพราะลักษณะการบรรยายธรรมสมัยนี้ต่างกับสมัยก่อนอย่างมาก อาศัยความจำจากสมัยเด็กๆ ที่เคยตามผู้ใหญ่ไปฟังเทศน์ที่วัด (ผู้ใหญ่ ฟังเทศน์ไป ผู้เด็กวิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอก) จะออกมาในรูปของการเทศน์ตามหลักศาสนา เกี่ยวกับพุทธประวัติ หรืออะไรที่อิงกับทางศ๊ลทางธรรมอยู่เป็นอันมาก

แต่ปัจจุบัน การเทศนาธรรมค่อนข้างถ่ายทอดมาในรูปของการดำเนินชีวิตจริง อาจเป็นเพราะหลักธรรมทางพุทธศาสนา เป็นหลักของเหตุและผลซึ่งอิงอยู่กับวิถีการดำเนินชีวิตที่เดินอยู่บนทางสายกลาง จึงทำให้หลักคำสอนต่างๆสามารถเปลี่ยนไปตาม LIFE STYLE ของผู้คนตามกาลเวลา โดยไม่ตกยุคตกสมัย

ฉันเองไม่ค่อยได้มีโอกาสได้สัมผัสกับวิถีธรรมมากนัก เพิ่งจะมีโอกาสก็ตอนที่บริษัทจัดให้นี่เอง.. จึงใคร่ขอขอบคุณบริษัท ที่ได้หยิบยื่นโอกาสอันดีนี้ให้กับพนักงาน ถือเป็นของขวัญปีใหม่ที่มี 'คุณค่า' เป็นอย่างยิ่ง

จากนี้ ก็เป็นหน้าที่ของผู้รับเอง ที่จะเห็นคุณค่ากับสิ่งที่ได้รับมา และนำมาใช้ประโยชน์ได้ขนาดไหน..

ทั้งเนื้อหาและลักษณะการบรรยาย เป็นอะไรที่ฟังง่ายผสมผสานกับอารมณ์ขันที่แฝงอยู่เป็นระยะ ทำให้การนั่งฟังตลอดเวลา 2 ชั่วโมงไม่น่าเบื่อ และแทบจะไม่รู้สึกเลยว่ากำลังฟังเทศน์ฟังธรรมอยู่

หลักการ 'ดำเนินชีวิตอย่างไรให้มีความสุข' ของวันนั้น จึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับการถือศีลห้า ศีลแปด หรือการสวดมนต์ภาวนาใดๆเลย ท่านให้หลักจิตวิทยาง่ายๆ (แต่ทำยาก) ว่า 'เลือกในสิ่งที่รัก และ รักในสิ่งที่เลือก'

ให้มองโลกในแง่ดี ปัญหามีไว้ให้แก้ไข ในทุกปัญหามีทางแก้เสมอ รู้จักให้อภัย และต้องเข้าใจผู้อื่น ถ้าเราเข้าใจผู้อื่น เราก็จะไม่ถือโกรธ และจะสามารถรับมือกับทุกสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี

การดำเนินชีวิตให้มีความสุข ขึ้นอยู่กับวิธีการคิด คิดสิ่งไหน ก็จะได้สิ่งนั้น หากคิดว่าทุกสิ่งคือปัญหา ทุกสิ่ง..ก็จะคือปัญหา หากคิดว่าทุกปัญหามีทางแก้ ทุกปัญหา..ก็จะมีทางแก้

ขึ้นอยู่กับว่า เราต้องการเป็นอย่างไร 'ผู้ชนะ หรือ ผู้แพ้'

ผู้ชนะ..เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ แต่ผู้แพ้..เป็นส่วนหนึ่งของปัญหา
ผู้ชนะ..เสนอสิ่งใหม่ให้ทุกครา แต่ผู้แพ้..สรรหาคำแก้ตัว
ผู้ชนะ..มักบอกขอฉันช่วย แต่ผู้แพ้..ไม่เอาด้วยเรื่องปวดหัว
ผู้ชนะ..เห็นทางออกแม้มืดมัว ผู้แพ้..เฝ้าแต่กลัวเจอทางตัน
ผู้ชนะ..รอโอกาสทองแม้ต้องยุ่ง ผู้แพ้..มุ่งแต่เห็นร้ายที่หมายมั่น
ผู้ชนะ..ว่าทำได้ต้องฝ่าฟัน ผู้แพ้..บอกเลิกฝัน มันยากไป..

ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่ได้รับฟังมาในวันนั้น จะทำให้ฉันปรับวิธีคิด และวิธีการดำเนินชีวิตได้ดีแค่ไหน
ฉันไม่รู้ว่า ที่ผ่านมา ฉันยืนอยู่ฝั่งไหนมากกว่ากัน ระหว่าง ผู้ชนะ กับ ผู้แพ้..

แต่ที่ฉันรู้..คือ ถ้าฉันต้องการเป็น 'ผู้ชนะ' ฉันควรทำอย่างไร..
ฉันรู้ว่า ไม่ใช่ทุกคน ที่จะมีโอกาส 'เลือกในสิ่งที่รัก'
แต่วันนี้ ฉันรู้ว่า ทุกคนสามารถ 'รักในสิ่งที่ตนเลือก' ได้
เพียงแต่ต้องปรับตัว ปรับใจ ให้ได้เท่านั้นเอง..