======== ทางที่มัจจุราชจะมองไม่เห็นตัว =====
 
กรกฏาคม 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
24 กรกฏาคม 2550
 
 
จะดับทุกข์ใจอย่างถาวรได้ ต้องแก้ความเข้าใจผิดที่ว่าจิตใจเป็นของเราให้ได้ในระดับจิตใต้สำนึก

การดับทุกข์ใจอย่างถาวร


๑. ร่างกายและจิตของเรา
เกิดจากการสร้างของร่างกาย
และจิตเก่าในชาติที่ผ่านมาก
เหมือนลูกมะม่วงที่เกิดจากต้นมะม่วงต้นเก่า
แล้วลูกมะม่วงก็เจริญเติบโตมีเป็นต้นมะม่วงต้นใหม่
แล้วให้ลูกมะม่วงใหม่ต่อไป


๒. จิตของเรา มักจะหลงใหลไปตามอารมณ์ที่เกิดขึ้นกับจิตทุกขณะ(จิตเกิด-ดับ เกิด-ดับ รวดเร็ว ตลอดเวลา)

จิตใจเราจะยึดถืออารมณ์ ความคิด ความรู้สึกที่เกิดขึ้นพร้อมจิตว่า เรารู้สึกอย่างนั้นอย่างนี้ เราโกรธ เราพอใจ เราดีใจ เราเสียใจ เราไม่สบายใจ

---- การยึดเกาะ ยึดติดอารมณ์แบบนี้
ทำให้เรารู้สึกสุข รู้สึกทุกข์
ไปตามอารมณ์ที่เปลี่ยนไป(ตลอดเวลา)
หาความสงบสุขในใจไม่ได้

=== ตราบเท่าที่เรายึดถือว่า อารมณ์ ความคิด ความรู้สึก ทั้งหลายนั้น เป็นอารมณ์ความรุ้สึกของเรา เราไม่มีวันที่จะออกจากทุกข์ใจ(หรือสุขใจ)จากการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์นั้นได้

========= เมื่อเราพิจารณาเห็นตวามจริงว่า
จิตและอารมณ์เกิด-ดับตลอดเวลา
แปรปรวนไปตลอดเวลา
ถ้าเราไปยึดถือว่าเป็นของเราไว้
เราก็ต้องแปรปรวนไปตลอดเวลา
ถ้าเรารู้ว่า จิตและอารมณ์ ที่แปรปรวนไปตลอดเวลานี้
ไม่ใช่ตัวตนที่แน่นอน ไม่ใข่ตัวตนที่แน่แท้ของเรา
และไม่มีตัวตนที่แน่แท้ที่ไหนอีก
เป็นเพียงกระแสของการเกิด-ดับของจิตและร่างกายที่ไหลต่อเนื่องไปเท่านั้นเอง

เราก็จะออกจากทุกข์ใจได้

คำว่า ตัวเรา มีอยู่ด้วยการสมมติ ซึ่งความจริงเป็นเพียงร่างกายและจิต ชุดหนึ่งๆเท่านั้นเอง (แต่ร่างกายและจิตชุดหนึ่งๆนี้ ทำให้เกิดร่างกายและจิต ที่สืบต่อไปเมื่อมีความอยากเหลืออยู่ในจิต ความอยากนี้ก็เกิดจากการหลงผิดไปว่า ร่างกายและจิตนี้เป็นของตนนั่นเอง)

การฝึกจิตให้รับรู้ความจริงว่าอารมณ์จิตทั้งหลายไม่ใช่ตัวเรา ถึงระดับจิตใต้สำนึกเพื่อดับทุกข์ใจอย่างถาวร


*** ๑. ต้องทำกายให้สงบ ไม่ให้จิตเราหวั่นไหวที่จะไปคิดทำเดือดร้อนแก่คนอื่นและตนเอง คือ รักษาศีล 5 เวลาทำจิตให้สงบ จิตจะไม่วอกแวกเกินไป ตั้งใจรักษาได้เองตลอดเวลา ไม่ต้องรอไปที่วัด
(ตั้งใจพูดว่า
เจตนาคือเครื่องละเว้นจากการฆ่าสัตว์
เจตนาคือเครื่องละเว้นจาการลักทรัพย์
เจตนาคือเครื่องละเว้นจากการประพฤติผิดในกาม
เจตนาคือเครื่องละเว้นจากการพูดเท็จ
เจตนาคือเครื่องละเว้นจากดื่มสุราเมรัย )

และต่อด้วยการแผ่เมตตา ว่า
ขอข้าพเจ้าจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด
ขอสรรพสัตว์ทั้งหลายจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด


***** ๒. ทำจิตให้สงบ โดยทำสมาธิ รู้สึกถึงลมหายใจเข้าออก(พร้อมคิดคำว่า พุท-โธ ) ต่อเนื่องกันไป
เปลี่ยนท่าทางได้ถ้าเมื่อย สมาธิเป็นกิริยาของใจ
เมื่อทำได้ต่อเนื่องแล้ว จะทำได้นานขึ้นเอง
ประเด็นสำคัญ คือเมื่อจิตจับกับลมหายใจ
- จิตใจจะตัดขาดจากสัมผัสภายนอก รู้แต่คำว่าพุทโธ
-- ต่อมาจะทิ้งคำว่าพุทโธ รู้แต่ลมหายใจเข้าออก
---- ต่อมาลมหายใจจะหายไป รู้สึกสว่าง สงบเท่านั้น

นี้คืออาการของสมาธิ หรือฌาน(อ่านว่า ชาน)ที่ต้องการ เพื่อนำมาใช้ในการมองเห็นความจริงของการเกิดดับของอารมณ์หรือสิ่งทั้งหลายที่เกิดในจิต


๓. เมื่อจิตสงบถึงระดับนี้ พอจิตเคลื่อนออกสมาธิที่สว่าง สงบ
จะเห็นการเกิดขึ้น และดับไปของสิ่งที่เกิดขึ้นในจิต
เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นใตจิตมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
จะยึดถือว่าเป็นตัวเราที่แท้จริงไม่ได้เลย

เมื่อเข้าใจจะปล่อยวางทั้งอารมณ์ที่รับรู้
ปล่อยวางทั้งจิตใจที่รับรู้นั้น ว่าไม่ใช่ตน ไม่ใช่ของตน
เป็นความเข้าใจที่ถูกต้องตรงความจริง

การเห็นนี้จะแน่วแน่ ทำให้จิตตั้งมั่นจดจ่อกับสิ่งที่เห็นจนเป็นระดับฌานอีกครั้งหนึ่ง แต่เป็นฌานแบบมีสิ่งรู้เกิดดับ ไม่ใชฌานแบบรู้นิ่งในตอนแรก
(การทำฌานแบบรู้นิ่งในตอนแรกก่อน
เพราะทำให้เป็นสมาธิถึงระดับฌานง่ายกว่าเพราะดูสิ่งเดียว เมื่อทำได้แล้วมาทำแบบมีสิ่งรู้จะทำได้
เหมือนเคยหัดขี่จักรยาน หรือมอเตอร์ไซด์ หรือรถยนต์ เมื่อขับขี่คันหนึ่งได้แล้ว ก็ขับขี่คันอื่นๆแบบอื่นๆได้
ฌานแบบหลังจะทำให้รู้ความจริง และพ้นจากทุกข์ใจ)


ความทุกข์ใจจากความอยาก ความพอใจ ไม่พอใจ
เพราะหลงผิดว่าเป็นตัวของเรา
จะหายไป


เมื่อจิตเห็นชัดเช่นนั้นจะตัดสินใจยอมรับความเป็นจริง จิตจะสงบ ร่มเย็น ทั้งในขณะนั้น และเมื่อออกมาจากสมาธิ(ข้อ ๓ นี้คือวิปัสสนา (ทำได้หลายแบบ แบบนี้ใช้การดูสิ่งที่เกิดขึ้นใตจิตเมื่อจิตสงบ แบบอื่น เช่นการดูร่างกาย(โดยรุ้สึกว่าเป็นร่างกาย ชิ้นส่วนของร่างกาย ไม่ใช่ตัวเรา)

ธรรมดาเมื่อเริ่มต้นทำ ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่า เป็นวิปัสสนึก ก่อน คือ กำหนดดูเอาเอง เมื่อทำบ่อยๆจิตจะดูเอง เห็นเอง รู้เองว่าสิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นแล้วดับ เป็นวิปัสสนาญาณ)


การเห็นความจริงในสมาธิระดับฌานนี้

จะทำให้เรารุ้ความจริงว่าสิ่งทั้งหลายเป็นกระแสที่ไหลไป
ไม่มีตัวตนแน่ ไม่ใช่ตัวเรา
ความทุกข์ใจทั้งหลายที่เกิดจากความเข้าใจผิดแต่เดิมมานาน
ความเข้าใจผิดโดยพื้นฐานในจิตใต้สำนึกนี้ จะหายไป


เกิดความเบาสบาย ไร้ทุกข์ ไร้กังวลทางใจอย่างถาวร

ใจที่เบาสบาย ไร้ทุกข์ ไร้กังวล นี้
จะไม่เหลือความอยากที่เป็นเชื้อที่จะก่อให้เกิดจิตในภพใหม่อีก
เหมือนไม่มีไขเทียน ที่จะทำเที่ยนไขเล่มใหม่ ที่จะให้เอาเที่ยนเก่าไปต่อไฟใด้อีก
ก็ไม่มีไฟใหม่ต่อไป
การเกิดขึ้นของกายและจิตก็จะไม่มี
ความทุกข์กายทุกข์ใจในชาติใหม่ก็จะไม่มี


ตัวเรา ไม่มีแล้วตั้งแต่ต้น
มีแต่ จิตใจและร่างกายที่ไหลไป
การเกิดขึ้นทุกของจิตใดๆเป็นความแปรปรวน
เป็นความทุกข์ โดยพื้นฐาน





Create Date : 24 กรกฎาคม 2550
Last Update : 26 กรกฎาคม 2550 10:55:58 น. 3 comments
Counter : 1267 Pageviews.

 


โดย: Dekbio (raknakubkondee ) วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:34:50 น.  

 
สวัสดีครับ คุณ Dekbio (raknakubkondee ) ธรรมดาอยู่ที่เวบไหนเหรอครับ

ได้แวะไปบลอกของคุณ Dekbio (raknakubkondee ) แล้ว มีความรัก และวิชาการ โครงร่างการวิจัย จะแวะไปอ่านอีกทีนะครับhttps://www.bloggang.com/mainblog.php?id=rakjangkub-non



โดย: วงกลม วันที่: 24 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:06:41 น.  

 
ขออนุโมทนาสาธุครับ ยินดีที่ได้รู้จักท่านจริงๆ


โดย: shadee829 วันที่: 19 กรกฎาคม 2554 เวลา:20:25:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

วงกลม
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add วงกลม's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com