Bloggang.com : wonderwalltd : หลากหลายสไตล์ชุดแต่งงาน

หลากหลายสไตล์ชุดแต่งงาน

ปัญหาหลักๆ ของเจ้าสาวในการเลือกชุดแต่งงานก็คือ ไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับชุดแบบไหน หรือที่แย่กว่านั้นก็คือไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองอยากใส่ชุดแบบไหนกันแน่ We ฉบับนี้จึงนำเสนอแบบชุดแต่งงานพื้นฐานให้ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายได้ศึกษาก่อน ตัดสินใจ

โครงสร้างพื้นฐานส่วนใหญ่แบ่งเป็น 3 ทรงตามลักษณะที่เห็นคือ ทรงตรง, ทรง A-Line และทรงสุ่มหรือทรงบาน ซึ่งทั้งหมดนี้ยังแตกออกเป็นทรงใกล้เคียงได้อีกทั้งหมด 7 ทรง ซึ่งแต่ละทรงจะเหมาะกับเจ้าสาวบุคลิกแตกต่างกัน

ตรงตรง แบ่งออกเป็น

เชลธ์ (Sheath)
แบบของชุดเป็นทรงตรงไม่มีขอบเอวและไม่รัดรูปมากนัก เหมาะกับเจ้าสาวสูงเพรียวและร่างเล็กมีปัญหาเรื่องสะโพกและต้นขาใหญ่ ด้วยทรงของชุดที่ตรงและทิ้งตัวลงมาอย่างหลวมๆ ตั้งแต่ช่วงบนทำให้ไม่เน้นรูปร่างแถมยังช่วยปิดบังปัญหาเรื่องต้นขาได้ มิดชิด

สลิป เดรส (Slip Dress)
ชุดเรียบๆ แนบเนื้อ เหมือนกระโปรงชั้นในเต็มตัว เหมาะกับเจ้าสาวแนวโมเดิร์นที่ไม่ชอบความซับซ้อนของตัวชุดมากนัก แต่ต้องมั่นใจว่าตัวเองหุ่นดีสมส่วน เพราะชุดนี้เน้นรูปร่างชัดเจนมาก นิยมตัดเย็บจากผ้าซาตินเนื้อดี แล้วใช้ผ้าลูกไม้ลายสวยๆ คลุมทับอีกทีเพิ่มความหวาน

ทรง A-Line แบ่งออกเป็น

ทรงเอ-ไลน์ (A-Line)
ตัวเสื้อเข้ารูปแล้วค่อยๆ บานออกตั้งแต่สะโพกลงไป เหมาะกับเจ้าสาวทุกรูปร่างเพราะเป็นชุดที่ช่วยพรางและเสริมรูปร่างให้สวยสม ส่วนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเจ้าสาวที่ไม่มั่นใจเรื่องสะโพก เพราะรอยต่อของชุดจะช่วยพรางและเสริมให้ทุกอย่างสวยขึ้นที่สำคัญช่วยให้คุณ หมดกังวลได้อย่างปลิดทิ้ง

ทรงเมอร์เมด (Mermaid)
เป็นทรงที่พัฒนามาจากทรงเอ-ไลน์ คือตัวเสื้อเข้ารูป แต่จะมีช่วงบานต่ำกว่าคือเริ่มบานตั้งแต่ปลายนิ้วมือลงไป (วัดจากปลายนิ้วเมื่อยืนตัวตรงมือแนบลำตัว) เจ้าสาวต้องมั่นใจว่าหุ่นสมส่วนจริงๆ จึงจะใส่ชุดนี้สวย

ทรงเอ็มไพร์ (Empire)
เป็นชุดสไตล์นีโอคลาสสิคที่ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าสาวมากชุดหนึ่ง ด้วยความน่ารักของชุดขอบเอวสูงซึ่งต่อกระโปรงตั้งแต่ใต้อกลงไป เหมาะกับเจ้าสาวร่างเล็กที่มีหน้าอกน้อย เพราะทรงของชุดแบบนี้ช่วยเสริมให้ดูอวบอิ่มขึ้น ตัวกระโปรงนิยมใช้ผ้าไหมชีฟองเพื่อความพลิ้วไหวเวลาเดิน และช่วยพรางตาให้รูปร่างสมส่วนขึ้น

ทรงสุ่มหรือทรงบาน แบ่งออกเป็น

ทรงบอล กาวน์ (Ball Gown)
ชุดรัดรูปช่วงบน ส่วนกระโปรงบานทรงสุ่มได้รับเสียงโหวตว่าเป็นชุดที่เจ้าสาวฝันถึงมากที่สุด เพราะทรงของชุดที่ดูชวนฝันและอำพรางจุดด้อยของรูปร่างได้ดีทรงหนึ่ง โดยเฉพาะเจ้าสาวที่มีปัญหาเอวหนา สะโพกใหญ่ และต้นขาไม่สวย แนะนำให้เลือกชุดนี้

ทรงปรินเซส (Princess)
โครงสร้างของชุดนี้จะมาจากพื้นฐานของทรงเอ-ไลน์ แต่มีช่วงกระโปรงเป็นสุ่มเพราะมีเพ๊ตติโค้ตซ้อนทับกันหลายชั้น เพื่อให้ตัวกระโปรงพองฟูมากขึ้น แต่ไม่จำเป็นต้องฟองฟูรอบตัวเหมือนทรงบอล กาวน์ อาจจะเน้นให้ฟองเฉพาะช่วงหลังก็ได้ ชุดนี้เหมาะกับเจ้าสาวทุกคน แต่เจ้าสาวผอมสูงจะใส่สวยที่สุด เพราะทรงปรินเซสจะมีช่วงปลายกระโปรงที่ยาวมากเป็นพิเศษ จึงไม่เหมาะกับเจ้าสาวตัวเล็ก

We note

รู้ได้อย่างไรว่าหุ่นสมส่วนหรือยัง

คำว่าหุ่นสมส่วนสำหรับดีไซเนอร์นั้นไม่ได้หมายความว่าต้องผอมเพรียวสูง แต่ได้มาจากการวัดระยะสัดส่วนของร่างกายให้มีความยาวเท่ากัน คือเริ่มจากศีรษะ-ไหล่, ไหล่-ใต้อก, ใต้อก-เอว, เอว-ต้นขา (สุดปลายนิ้วเวลายืนตรง) ทุกระยะต้องเท่ากัน และจากต้นขา-ปลายเท้า ต้องมีความยาวเป็นสองเท่าของทุกระยะที่กล่าวมา จึงจะเรียกว่าหุ่นสวยสมส่วน เพราะฉะนั้นคนรูปร่างใหญ่ที่ชอบคิดไปว่าตัวเองอ้วนและต้องทำลดน้ำหนักด่วน ก่อนวันแต่งงาน ลองวัดตามระยะข้างต้นดูก่อนว่าได้สัดส่วนตามที่บอกหรือไม่ ถ้าใช่ก็แสดงว่าคุณเป็นคนหุ่นสมส่วนตามคำนิยามของดีไซเนอร์แล้วล่ะ รับรองว่าใส่ชุดแบบไหนก็สวย

ข้อมูลจาก //chainat2.blogth.com/page3/&thisy=&thism=&thisd=

Create Date : 07 มกราคม 2553

Last Update : 30 มกราคม 2553 12:55:38 น.

1 comments

Counter : 4051 Pageviews.

เห็นแล้วอยากแต่งอีกรอบจัง..

โดย: jib shin

วันที่: 9 มกราคม 2553 เวลา:22:03:52 น.