Group Blog
 
<<
มกราคม 2550
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
28 มกราคม 2550
 
All Blogs
 
การเดินทางครั้งใหม่กับหัวใจดวงเดิม -- ตอนที่1

ดองไว้นานมากเลยค่ะพี่น้อง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย พอดีช่วงนี้มันยุ่งๆน่ะค่ะ คราวที่แล้วเขียนบทนำเรื่องไป ตอนนี้ก้อเอานื้อเรื่องมาแปะแล้วนะค๊ะ อย่าเพิ่งโวยวายกันไป เด๋วตอนที่สองจะไม่ทิ้งไว้นานหรอก สัญญา...

xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx


ลูกโป่งเหรอ!!!

“เดี๋ยวก่อนสิ รอฉันด้วย!!!” ฉันตะโกนออกมาเสียงดังลั่น พร้อมๆกับที่ขาทั้งสองข้างออกแรงวิ่งอย่างเต็มกำลัง เพื่อไขว่คว้าเอาลูกโป่งสวรรค์สีฟ้าสดใสที่กำลังลอยอยู่เหนือพื้นดินประมาณเก้าฟุต มันค่อยๆลอยออกห่างจากตัวฉันไปเรื่อยๆ ลอยไปอย่างช้าๆ ฉันวิ่งไล่ตามโดยไม่มองทางจนกระทั่งสะดุดหกล้มลงบนถนนที่มีแต่กรวดหินดินทราย ทำให้เนื้อตัวมีบาดแผลและไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ในฉันพลัน ระหว่างนั้นลูกโป่งก็ลอยห่างออกไปเรื่อยๆจนไม่สามารถไล่ตามได้ทัน ฉันได้แต่ยืนมองลูกโป่งแสนสวยลอยไปจนลับสายตา

“กลับมานะ... รอฉันด้วย!!!”

ฉันลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับความรู้รึกกลัว เหงาและว้าเหว่ กลัวการถูกทอดทิ้งเหมือนดังเช่นในฝัน ฉันค่อยๆใช้มือทั้งสองข้างดันลำตัวขยับขึ้นมานั่งเอาหลังพิงหัวเตียง นั่งอยู่ในห้องเพียงลำพังด้วยอาการกลัวบวกกับกังวล เนื้อตัวสั่นเทา ภายในห้องนั้นเงียบสงัด พาลยิ่งทำให้ใจหวั่นไหว ฉันหันหน้าไปมองนาฬิกาปลุกที่ตั้งอยู่ข้างเตียงนอน ขณะนี้เป็นเวลาตีห้ายี่สิบห้านาที

“นี่ความฝันทำให้ฉันกลัวขนาดนี้เลยเหรอ?”

ฉันพูดออกมาพลางยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหน้าตัวเอง น้ำตาค่อยๆไหลออกมาจนเปื้อนทั่วใบหน้าและมือทั้งสองข้าง บรรยากาศในห้องยังคงเงียบสงบอยู่เช่นเดิม ไม่มีเสียงการเคลื่อนไหวใดๆภายในห้อง หรือแม้แต่นอกห้องก็ตามที ทุกอย่างดูสงบนิ่งไปหมด

คงมีแต่ฉันล่ะมั้ง ที่กำลังร้องไห้!!!

กริ๊งๆๆๆๆๆๆๆๆ......

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ ฉันสะดุ้งสุดตัวด้วยกำลังเหม่อลอย หันไปมองโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างนาฬิกาปลุก แล้วค่อยๆยกหูโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูอย่างเชื่องช้า

“ฮัลโหล...”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ห้อง B1608 คุณธนาพร ใช่มั้ยคะ?”
“ใช่ค่ะ”

“โอเคค่ะ ตอนนี้เวลาตีห้าครึ่งแล้วนะคะ เดี๋ยวอีกซักครู่จะมีมีบริกรนำอาหารเช้าขึ้นไปให้ อาหารวันนี้เป็นข้าวต้มทรงเครื่องตามที่คุณสั่งเอาไว้นะคะ”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะที่โทรมาปลุก”
“ยินดีค่ะ ขอให้สนุกกับการเที่ยวพักผ่อนที่โรงแรมของเรานะคะ สวัสดีค่ะ”
“ค่ะ”

เฮ้อ.................

“ถึงตอนเช้าทีไรมันต้องเศร้าทุกทีสิน่า นี่ขนาดหนีออกมาเที่ยวไกลถึงหัวหินก็ไม่เห็นว่าจะทำให้สงบจิตสงบใจได้เลย แล้วฉันจะมาทำไมกัน ว่าแล้วก็ไปอาบน้ำดีกว่าเรา”

หลังจากอาบน้ำอาบท่าให้สดชื่นแล้ว ฉันก็เดินออกมาที่บริเวณริมชายหาด ขณะนี้เป็นเวลาหกโมงเศษแล้ว แต่ท้องฟ้าก็ยังคงมืดอยู่ อาจเป็นเพราะว่าตอนนี้อยู่ในช่วงฤดูหนาวจึงมีกลางคืนที่ยาวนานกว่าปกติ ฉันเกลียดเวลากลางคืน กลัวการที่จะต้องนอนหลับแล้วฝันถึงแต่เรื่องน่าเศร้า แต่ก็นั่นแหละ บางทีนั่นอาจจะยังเศร้าน้อยกว่าที่ฉันตื่นขึ้นมาแล้วพบว่า ไม่มีเขาคนนั้นอยู่ข้างกายอีกต่อไปแล้ว

ฉันไม่เคยมาเที่ยวต่างจังหวัดคนเดียวแบบนี้เลย มันเหงาจัง มองไปทางไหนก็นึกถึงแต่เรื่องเก่าๆ ยิ่งมองออกไปเบื้องหน้าบนผืนทรายที่หว้างใหญ่ และน้ำทะเลสีฟ้าคราม พาลยิ่งทำให้เศร้าหมอง ฉันมองเห็นแสงไฟจากเรือประมงลำน้อยใหญ่ค่อยๆเลื่อนไหลเข้าหาฝั่ง ใกล้สว่างแล้วสินะ คงได้เวลาเทียบท่าแล้วกระมัง แล้วฉันล่ะ จะมีวันไหนมั้ยนะ ที่ฉันได้จะได้จอดเรือเข้าฝั่งเพื่อเทียบท่าที่ถาวรเสียที

ฉันลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่เพราะรู้สึกว่าทำงานได้ไม่เต็มที่ มีความกังวลมากเกินไปจนเกรงว่างานจะออกมาไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร หลังจากลาออกได้สองวันฉันก็เดินทางมาที่นี่แหละ มาค้นหาคำตอบของชีวิตและเผื่อว่าจะได้เจอประสบการ์ดีๆในการเดินทางครั้งนี้ด้วย ยังไม่มีกำหนดการหรอกว่าฉันจะอยู่ที่นี่นานแค่ไหน ก็แค่อยากพักผ่อนน่ะ นานๆหน่อยก็ดีเหมือนกัน หลีกหนีจากความวุ่นวายในเมืองหลวง บางทีมันอาจจะทำให้ฉันลืมสิ่งที่อยากจะลืมไปได้บ้าง

หลังจากยืนโต้ลมอยู่นานจนฟ้าสว่าง ฉันก็หันหลังกลับ กะว่าจะไปเดินเล่นแถวในเมืองซักหน่อย ข้างหน้ามีต้นสนเรียงรายกันอยู่มากมาย แต่ละต้นกำลังโน้มเอนไปตามแรงลมอย่างช้าๆราวกับกับลังหยอกล้อกันอยู่ ตอนนี้ฉันเริ่มได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง ดังมาจากอีกฟากหนึ่งของสวนสน ฉันหยุดนิ่งเงียบ และเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ

“เสียงขลุ่ยนี่นา....ใครกันนะลุกขึ้นมาเป่าขลุ่ยแต่เช้า?”

ฉันยังคงเงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ เสียงขลุ่ยเริ่มดังขึ้น...ดังขึ้น จนได้ยินเสียงบรรเลงเพลงอย่างชัดเจน ฉันไม่รู้หรอกว่าเป็นเพลงอะไร แต่ฟังแล้วทำนองคล้ายๆเพลงจีน เมโลดี้อยู่ในโทนเสียงสูงต่อเนื่อง จังหวะช้าๆเนิบๆ แต่ทรงพลัง ฟังแล้วรู้สึกได้ว่าคนเป่าคงกำลังมีอารมณ์เหงาและเปล่าเปลี่ยว เสียงขลุ่ยแทรกซึมเข้าไปในโสตประสาท ค่อยๆส่งความเหงาแผ่ซึมลึกเข้าไปถึงหัวใจ ฉันเอง.. ก็เหงาเหมือนกันนะ!!

ว่าแล้วฉันก็เดินตรงดิ่งไปทางต้นเสียง หวังเพื่อจะได้เจอกับศิลปินผู้บรรเลงเพลงอันไพเราะ เขาเป็นใครกัน ชักอยากจะรู้จักซะแล้วสิ !!!

ในที่สุดก็เดินมาถึงจนได้ ตรงหน้าฉันมีผู้ชายคนนึงกำลังนั่งเปล่าขลุ่ยครวญเพลงรักอยู่เพียงลำพัง บนก้อนหินขนาดพอดีนั่งที่ผุดขึ้นมากลางสวนแต่ง เป็นผู้ชายตัวสูงผมยาวประบ่า แต่ดูท่าทางจะไม่ค่อยได้หวีซักเท่าไหร่ หน้าตาก็มองเห็นไม่ชัดเพราะผมมันบังจนแทบจะมิด ใส่ชุดพื้นเมืองชาวเหนือไม่เข้ากับสถานที่เลย

ทันใดนั้นเสียงขลุ่ยก็เงียบลง... คงเพราะรู้ตัวว่ามีคนกำลังเดินเข้ามาใกล้ เขาค่อยๆลดมือลงแล้วมองมาที่ฉัน

“ฉันขอโทษนะที่มาขัดจังหวะนาย แต่นายเป่าขลุ่ยเพราะมากเลยนะ ฉันก็เลยอดไม่ได้ที่จะเดินมาดู”
“ขอบใจนะ อยากเป่าบ้างมั้ยนล่ะ?”

“เอ๋....”
“ผมสอนให้ก็ได้นะถ้าชอบ แต่มีข้อแม้ว่า...”

“ว่า...?”
“อย่าทำน้ำลายเปื้อนบนขลุ่ยผม”

“เห้ย...” ฉันร้องลั่น
“ล้อเล่นน่ะ จริงจังไปได้ หน้าตาก็ยังไม่แก่นิ จะซีเรียสกับชีวิตไปถึงไหน” เขาพูดพลางยักคิ้วข้างขวาและทำหน้าทะเล้นใส่ฉัน

“เอ่อ...”
“ตกลงจะเรียนมั้ยจ๊ะ สาวน้อย!!”
“ค่ะ คุณครู..”

ฉันตกปากรับคำพร้อมกับระบายยิ้มออกมาจนแก้มปริ นานแค่ไหนแล้วนะ ที่ฉันไม่ได้ยิ้มอย่างเต็มที่เหมือนอย่างวันนี้ บางทีฤดูหนาวของปีนี้อาจจะไม่เลวร้ายเหมือนเมื่อสองสามปีที่ผ่านมาก็ได้ วันนี้ฉันได้เพื่อนใหม่แล้ว การมาเที่ยวหัวหินครั้งนี้ก็คงจะไม่เหงาจนเกินไป





Create Date : 28 มกราคม 2550
Last Update : 28 มกราคม 2550 21:53:51 น. 6 comments
Counter : 361 Pageviews.

 
ที่แท้ก็เรื่องแผลเก่านั้นเอง

รออีกสองตอน รีบๆอัพนะครับ


บุญรักษาครับ


โดย: ทำนองแห่งสายลม IP: 58.136.48.213 วันที่: 28 มกราคม 2550 เวลา:18:29:46 น.  

 
เป็นแรงใจให้นะ อยากอ่านอีก ยังไงก้อ ไม่ต้องรีบนะแต่ให้ไว อิอิ

จากเมย์ คนที่ที่เป็นแรงใจให้ เสมอ


โดย: เมย์ คุง IP: 58.64.79.140 วันที่: 28 มกราคม 2550 เวลา:20:41:32 น.  

 

...ClicK to mY bloG...


แวะมาทักทายผลงาน...จากคนที่ชอบเขียนเหมือนกัน อิอิ


โดย: CleOluS วันที่: 28 มกราคม 2550 เวลา:21:29:22 น.  

 
ลืมชม บล็อคบรรยากาศดูไม่เหงาแล้ว

แต่เซ็กซี่ขึ้นเยอะเลย



ขอให้จิตใจสดใสเหมือนบล็อคนะครับ

ฝันดีครับ


โดย: ลมพัดหวน IP: 58.136.48.213 วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:1:40:57 น.  

 
ขอให้หายไวๆนะ ยังไงก้อขอให้รู้ไว้ว่ามีคนๆนึงเป็นห่วงนะ


โดย: เมย์คุง IP: 58.64.40.214 วันที่: 31 มกราคม 2550 เวลา:9:51:26 น.  

 
สงสัยคงจะได้รับผลกระทบ จากโรคกระเพาะ ช่วงนี้ถึงดุๆ อิอิอิ


โดย: เมย์ คุง IP: 58.64.79.59 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:20:38:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

วูล์ฟ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




100 รัก ไม่เท่าหนึ่งคนภักดี
Friends' blogs
[Add วูล์ฟ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.