'ชีวิตคู่ไม่งดงามเหมือน แต่อบอุ่นกว่าชีวิตคนโสด' by บิชอฟ
Group Blog
 
 
เมษายน 2552
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
8 เมษายน 2552
 
All Blogs
 

ลิ้นชักกับสมุดบันทึก

จขบ.เป็นคนไม่ชอบเขียนบันทึก

เท่าที่จำได้บันทึกเล่มแรกที่เขียนในชีวิต คือ บันทึกรายรับรายจ่าย และกิจวัตรประจำวันที่ครูให้เขียนสมัยประถม... แต่นั่นก็นานมาแล้ว และไม่น่าจะเข้าข่ายบันทึกสักเท่าไหร่

ถ้าหากยกเว้นบันทึกสีชมพู สมัยม.ปลาย ที่จำใจเขียนเพราะใครคนหนึ่งขอร้องแกมบังคับว่าอยากเก็บเอาไว้อ่านเวลาที่เขาไม่อยู่ สมุดบันทึกส่วนตัวเล่มแรกที่เกิดจากความตั้งใจจริง ที่อยากจะบันทึกเรื่องราวเก็บไว้ในนั้น คงเป็นช่วงที่เรียนอยู่ปีสองในมหาวิทยาลัย

มันเป็นสมุดบันทึกเล่มเล็ก ขนาดประมาณสักคืบหนึ่ง...ด้านหน้าเจาะรูร้อยหนังยางแทนเชือกเส้นหนึ่งสำหรับเก็บบันทึก ไม่ให้ใครมาละเมิดอ่านโดยไม่ตั้งใจ ด้านในเป็นกระดาษปอนด์สีขาว ไร้ลวดลายและเส้นบรรทัด ซื้อมาจากแผงหนังสือทำมือบนสนามหญ้าในสวนสาธารณะริมแม่น้ำเจ้าพระยา ราคาจำไม่ได้ แต่คงไม่น่าจะเกินหลักร้อยต้นๆ

ตอนนี้..บันทึกเล่มนั้นยังคงอยู่ แต่ถูกวางลืมไว้ในลิ้นชักหลายปี ทั้งที่ยังมีหน้าว่างท้ายเล่มหลงเหลืออีกหลายสิบแผ่น แต่ จขบ.ไม่คิดจะเขียนต่อให้หมดเล่ม ยังปล่อยให้ว่างอยู่อย่างนั้น และคงจะเป็นเช่นนี้ต่อไป...

ไม่รู้ว่าคนอื่นจะเป็นยังไง แต่ดูเหมือนว่ายิ่งโตเป็นผู้ใหญ่ จขบ.ก็ยิ่งจดจำเรื่องราวสมัยเป็นเด็กได้มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อนสมัยเด็ก ครูที่สอนตอนชั้นอนุบาลและประถม ไปจนถึงคุณตา ชายชราข้างบ้านที่เคยเก็บลูกโป่งที่ลอยไปติดต้นไม้ให้ตอน 4-5 ขวบ แผลเป็นจากการหกล้มครั้งแรก เรื่องรายละเอียดเล็กๆ น้อยที่ไม่น่าจดจำได้สำหรับสมองเด็กวัยนั้น กลับปรากฏแจ่มชัดเสียยิ่งกว่าเหตุการณ์ปัจจุบันที่เพิ่งเกิดเสียอีก

บ่อยครั้ง ที่เราจำไม่ได้แม้แต่ชื่อของคนที่เพิ่งพบหน้า และพูดคุยกันไปหยกๆ แต่จำชื่อ-นามสกุลจริงของเพื่อนที่เลขที่นั่งสอบติดกันสมัยประถมได้ เราจะเรียกมันว่าอะไร? ถ้าไม่ใช่ความทรงจำในวัยเยาว์ที่แสนงาม

ลึกๆ แล้ว ในตัวเราทุกคนอาจยังมีเด็กเล็กๆ อีกคนหนึ่งซุกซ่อนอยู่ พวกเขาไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล แต่กำลังนั่งมองดูชีวิตความเป็นไปของ "ผู้ใหญ่" อย่างตัวเราอยู่ข้างหน้าต่างบานหนึ่ง เหมือนที่เรากำลังมองกลับไปในอดีตผ่านหน้าบันทึกนี้ก็ได้

...........................

สมุดปกแข็งเล่มนั้นยังวางอยู่ก้นลิ้นชักเมื่อค้นเจอ

ปกสีเหลืองนวลเริ่มมีสนิมกระดาษจับเป็นจุดๆ เพราะความชื้นและอากาศ หนังยางเปื่อยยุ่ยจนแทบไม่เหลือความยืดหยุ่นเมื่อทดลองดึง แต่เมื่อเปิดอ่านข้างใน ตัวหนังสือยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างซื่อสัตย์ ถ่ายทอดอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดของตัวเราในช่วงเวลาหนึ่งไว้

บางเรื่องก็น่าขัน บางครั้งก็น่าอับอายจนไม่น่าเชื่อว่าครั้งหนึ่งเราเคยคิดและรู้สึกอย่างนั้น

แต่บางเรื่อง-ก็ชวนให้ตระหนกและตระหนักว่า ช่วงชีวิตที่ผ่านมา...เราได้ละทิ้งความฝัน ความหวัง และความเชื่อมั่นในบางสิ่งบางอย่างไปพร้อมกับวันเวลาที่เติบโตไปมากเพียงใด?

จะดีไหม-ถ้าหากหมั่นหยิบบันทึกเก่าๆ ออกมาเปิดอ่านดูบ้าง แทนการทอดทิ้งและมุ่งมั่นแต่จดบันทึกเล่มใหม่ๆ เพียงอย่างเดียว

ในห้วงเวลาที่คุณสับสน มองหาหน้าต่างสักบานไม่เจอในชีวิต ยังมีลิ้นชักและสมุดบันทึกเก่าๆ รออยู่อย่างซื่อสัตย์ และจริงใจไม่แพ้กระจกบานใด




 

Create Date : 08 เมษายน 2552
2 comments
Last Update : 8 เมษายน 2552 1:43:39 น.
Counter : 721 Pageviews.

 

ชักอยากอ่านบ้างแล้วสิ อิอิ


บันทึกของหนูนี่ก็น่าอายใช่ย่อยครับพี่จิ๊บ แหะๆ

 

โดย: waidhaya 8 เมษายน 2552 3:01:51 น.  

 

หวัดดีค่ะกิฟท์

อย่างที่บอกว่าพี่เป็นคนไม่ค่อยเขียนบันทึก ทำให้บางครั้งพลาดเรื่องราวดีๆ ที่น่าประทับใจเหมือนกัน แถมระยะหลังรู้สึกเป็นคนความจำสั้นไงไม่รู้ ห้องนี้เลยอาจเอาไว้บันทึกเหตุการณ์หรือสิ่งที่ผ่านมากระทบในบางช่วง

ไม่เชิงไดอารี่ แต่บ่นบ้าไปเรื่อยเปื่อยตามประสา จขบ.อ่ะค่ะ

 

โดย: วิวิธวินท์ 8 เมษายน 2552 12:20:29 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


วิวิธวินท์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add วิวิธวินท์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.