Feel free to be ME.

<<
พฤศจิกายน 2554
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
23 พฤศจิกายน 2554
 

เกมร้ายเกมรัก ตอนอวสาน (จบ)



เกมร้ายเกมรัก ตอนอวสาน (จบ)


เช้าวันใหม่สายชลหัวพิงกำแพงหลับอยู่ ชมพูแพรนอนซบไหล่หมอวัฒนาที่นอนหลับเช่นกัน ระหว่างนั้นป้าเนียมเดินเข้ามาหา
“คุณแพร คุณหมอ”
ชมพูแพรกับหมอวัฒนาตื่นเห็นป้าเนียม
“มาได้ยังไงคะ” ชมพูแพรแปลกใจ
“ผมโทรบอกป้าเนียมเองแหละครับ เพราะผมรู้ว่าคุณกับคุณชาร์ล ไม่มีทางยอมกลับบ้านแน่ๆ” หมอวัฒนาบอก
“ป้าเอาโจ๊กแล้วก็เสื้อผ้ามาให้คุณเปลี่ยนค่ะ แล้วนี่คุณฟ้าเป็นไงบ้างคะ”
“ยังไม่ฟื้นเลย”
ป้าเนียมหน้าเศร้า...พนมมือ
“คุณท่านทั้งสองช่วยคุ้มครองคุณฟ้าด้วยนะคะ”
ป้าเนียมหันไปเห็นสายชลก็เดินเข้าไปหา
“คุณชาร์ล”
สายชลขยับตัวหันมาเห็นป้าเนียมก็ชะงัก
“ป้าเอาเสื้อมาให้คุณเปลี่ยนน่ะค่ะ”
“ขอบคุณมากนะครับ”
สายชลหันไปสบตากับชมพูแพรพอดี ทั้งคู่ชะงักกันไป สักครู่ตำรวจเดินเข้ามา ทั้งหมดหันไปเห็น ชมพูแพรหน้าถอดสี รู้สึกหวาดกลัว ตำรวจเห็นสายชลเลยเดินไปหา สายชลลุกขึ้นยืน
“คุณชาร์ลครับ พอจะมีเวลาซักครู่มั๊ยครับ ผมอยากสอบปากคำถึงเหตุการณ์เมื่อวานนี้”
“ได้ครับ ต้องไปที่สถานีตำรวจรึเปล่า”
“ไม่ต้องครับ ผมขอใช้ห้องที่โรงพยาบาลเอาไว้ เชิญครับ”
ตำรวจกับสายชลเดินผ่านชมพูแพร เธอหลบตาเพราะกลัว สายชลเดินตามตำรวจออกไป ชมพูแพรเงยหน้ามองตามอย่างกังวลใจ
เวลาผ่านไป สายชลเดินออกมากับตำรวจ ชมพูแพรกับหมอวัฒนาหันไปมอง
“ขอบคุณมากนะครับ คำให้การของคุณเป็นประโยชน์กับรูปคดีมาก ผมไปนะครับ”
สายชลยิ้ม ตำรวจหันไปทางหมอวัฒนากับชมพูแพรที่ใจเต้นมาก ตำรวจผงกหัวลา หมอวัฒนายิ้มให้ ตำรวจเดินออกไป ชมพูแพรแปลกใจหันไปทางสายชล
“ผมให้การไปว่ายาซะกับผมเคยทะเลาะกันมาก่อน มันรู้ว่าผมกับนางฟ้ารักกัน มันก็เลยมาลักพาตัวนางฟ้าเพื่อแก้แค้น”
ชมพูแพรมองสายชลอย่างอึ้งๆที่เขาช่วยเธอ
“นี่คุณช่วยแพรเหรอคะ”
สายชลมองนิ่ง
“ผมไม่ได้ช่วยคุณ ผมช่วยนางฟ้า นางฟ้ารักคุณมาก เขาคงไม่ต้องการให้พี่สาวเพียงคนเดียวของเขาต้องเป็นอะไรไป ถ้านางฟ้าอยู่ตรงนี้ นางฟ้าก็ต้องทำแบบเดียวกับผม”
ชมพูแพรน้ำตาคลอ
“ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณจริงๆ แล้วก็ขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา”
สายชลหน้าสลดลง
“ผมเองก็ต้องขอโทษคุณเหมือนกัน ที่ผมใช้คุณเป็นเครื่องมือ การผูกพยาบาท เป็นการจองเวรที่ไม่มีวันสิ้นสุด ทำให้เราไม่มีความสุขเลยซักนิด”
ชมพูแพรพยักหน้าเห็นด้วย สายชลกับชมพูแพรยิ้มให้กัน หมอวัฒนายิ้มด้วยความสบายใจ

ในห้องไอซียู หมอตรวจอาการฟ้าลดาแล้วพอใจ ก่อนจะหันมาบอกสายชล หมอวัฒนา และชมพูแพรที่รอฟังอยู่...
“ผมดีใจด้วยนะครับ คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ผมต้องขอดูอาการเธออีกสักพักนะครับ”
สายชลรีบถามอย่างร้อนใจ
“แล้วนางฟ้าจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ครับ”
“ข้อนี้ผมตอบไม่ได้ มันขึ้นอยู่ที่ความพร้อมของคนไข้ แต่พวกคุณไม่ต้องห่วง ผมมั่นใจว่าคนไข้ต้องฟื้นแน่นอน”
ทุกคนสบายใจ สายชลเข้าไปมองฟ้าลดาด้วยความดีใจ
สายชลอยู่เฝ้าฟ้าลดาต่อ ขณะที่หมอวัฒนากับชมพูแพร ที่เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่กันแล้วพากันมาที่วัด
ชมพูแพรเอาแจกันดอกไม้มาวางตรงหน้าที่ เก็บอัฐิพ่อกับแม่ยกมือไหว้หน้าเศร้า รู้สึกผิด
“คุณพ่อคุณแม่แพรขอโทษนะคะ อโหสิกรรมให้แพรด้วย”
ชมพูแพรน้ำตาไหล ปาดน้ำตาแล้วก็ลุกขึ้น หันไปมองหมอวัฒนาที่ยืนอยู่ข้างๆ ทั้งสองพากันเดินไปตามทางเดินในวัด
“เมื่อก่อนแพรคิดว่าไม่มีใครรักแพร แต่ความจริงแล้วแพรได้รับความรักจากทุกคน เพียงแต่แพรไม่รู้จักพอ ทำให้แพรทำเรื่องที่เลวร้ายที่สุดลงไป และถ้ายัยฟ้าเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ แพรคงเหมือนตายทั้งเป็น”
ชมพูแพรถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกที่ได้พูดออกไป หมอวัฒนาจับมือเธอไว้...
“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นอดีต สิ่งที่แพรต้องคิดถึงคือปัจจุบัน และอนาคต เรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้มั้ยครับ...แพรอย่าเพิ่งปฏิเสธผมเลยนะ ผมอยากให้แพรรู้ว่าผมรักแพร วันแรกผมรักแพรยังไง วันนี้ก็มีแต่จะรักมากขึ้น ผมมั่นใจว่าความรักของผม จะทำให้แพรเป็นผู้หญิงที่มีความสุขมากที่สุดในโลก ให้โอกาสผมอีกครั้งนะครับ”
ชมพูแพรนิ่งไป หมอวัฒนามองลุ้น สักครู่เธอก็ดึงมือออก หมอวัฒนาใจเสีย
“แพรขอบคุณพี่หมอมากนะคะที่ยังรักแพร แต่แพรทำผิดกับพี่หมอไว้มากมายเหลือเกิน ถ้าจะให้แพรกลับไปคบกับพี่หมอ แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แพรทำไม่ได้ แพรขอโทษนะคะ ขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง”
“ผมไม่เคยโกรธแพร ผมจะรอแพรนะครับ ไม่ว่านานเท่าไหร่ ผมก็จะรอแพรตรงที่เดิม”
ทั้งคู่ยิ้มให้กัน ต่างก็รู้สึกสบายใจขึ้น...


สายชลเซ็นเอกสารต่างๆ ที่สหัสเอามาให้อยู่ ร้านกาแฟในโรงพยาบาล
“ขอบใจนายมากที่ช่วยเหลือฉันทุกอย่าง นายทำเกินหน้าที่มากไปแล้วรู้มั้ย”
สหัสยิ้ม
“สิ่งที่ผม...ผมไม่ได้ทำเพราะว่ามันเป็นหน้าที่ ผมทำด้วยความเต็มใจ คุณชาร์ลก็เป็นเหมือนน้องชายผมคนนึงนั่นแหละครับ”
สายชลชะงัก สหัสหน้าเสีย
“เออ ผมคงจะพูดมากไปผมขอโทษ”
สายชลยิ้มตบบ่าสหัส
“ฉันก็เห็นนายเป็นพี่ชายเหมือนกัน...พี่ชาย”
สายชลกับสหัสยิ้มให้กัน แล้วสายชลก็เห็นจดหมายลาออกของเพลินตา
“ยัยตาจะกลับอเมริกาเมื่อไหร่”
สหัสหน้าจ๋อย
“พรุ่งนี้ครับ”
“นายไปส่งพวกเขาที่สนามบินด้วยก็แล้วกัน”
“ครับ”
สายชลมองสหัสแปลกใจ
“เป็นอะไร”
“เปล่าครับ”
“เปล่าอะไร...อยู่ดีดีก็ซึม”
สหัสพูดไม่ออก สายชลมองสงสัย แล้วก็นึกอะไรได้
“อย่าบอกนะว่านายเสียใจ ที่ยัยตาจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว”
สหัสถอนหายใจ
“มันรู้สึกใจหาย ยังไงก็ไม่รู้”
สายชลยิ้มมองอย่างรู้ใจ
“ถ้านายไม่อยากให้เขากลับ นายต้องรั้งเขาเอาไว้ให้ได้ นายยังมีโอกาส อย่าปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไป นายจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจตลอดชีวิต”
สหัสมองสายชลอย่างครุ่นคิด

เสียงกดออดหน้าบ้านดังขึ้น เพลินตากับพิสมัยเดินออกมาดูว่าใครมา แล้วก็เห็นว่าสหัสยืนอยู่
“นายสาหัส”
เพลินตากับพิสมัยมองหน้ากันด้วยความสงสัย แล้วเดินออกมาพร้อมกัน
“นายมาทำไม” เพลินตาถามเสียงเข้ม
“เออ...”
สหัสอึกอัก...เหล่มองไปที่พิสมัย
“ไม่อยากให้ฉันอยู่ด้วย”พอสมัยถามทันที
สหัสรีบตอบทันที
“ใช่ครับ”
พิสมัยสะดุ้ง
“แต่ฉันจะอยู่”
สหัสหันไปมองเพลินตา
“คุณแน่ใจนะว่าจะให้แม่คุณอยู่”
เพลินตาหงุดหงิด
“นี่แม่ฉัน...ทำไมฉันต้องไม่แน่ใจ มีอะไรก็คุยมาเร็วๆ สั้นๆ เพราะฉันยังจัดกระเป๋าไม่เสร็จ”
สหัสรวบรวมความกล้า
“ผมคิดว่าผมชอบคุณ”
เพลินตากับพิสมัยผงะ อ้าปากค้าง นิ่งงันไปทั้งแม่ทั้งลูก สหัสแปลกใจ
“คุณเพลินตา คุณพิสมัย”
เพลินตากับพิสมัยได้สติ เพลินตาโวยใส่ทันที
“ฉันจะไปอยู่แล้ว นายยังไม่เลิกยั่วโมโหฉันอีกเหรอ”
“ผมพูดจริง”
พิสมัยมองไม่เชื่อ
“ไม่มีทาง แกจะมาชอบลูกสาวฉันได้ยังไง”
“ผมยอมรับว่าตอนแรกผมไม่ชอบคุณ เพราะว่าคุณพูดมาก”
เพลินตาสะดุ้ง สหัสพูดต่อ
“เรื่องเยอะ ชอบเถียง เกี่ยงงาน ไม่มีสาระ”
เพลินตาถึงกับหน้าม้าน พูดไม่ออก พิสมัยเองก็อึ้งไปเช่นกัน
“แต่หลังจากวันที่ผมรู้ว่าคุณกำลังจะกลับอเมริกา มันทำให้ผมรู้ว่า ถ้าผมไม่ได้ยินเสียงคุณ ผมคงเหงา ถ้าไม่มีคนเรื่องมากอย่างคุณมาสั่งให้ผมทำโน่นทำนี่ ผมคงหว้าเหว่ ถ้าไม่มีคนคอยเถียงผม ผมคงเป็นใบ้ และถ้าไม่มีคนอย่างคุณที่ชอบทำตัวไร้สาระ ชีวิตผมคงขาดสีสัน ผมขาดคุณไม่ได้ครับคุณเพลินตา”

เพลินตาแทบจะระทวยตรงนั้น พิสมัยเองก็พูดไม่ออก สหัสเดินมาใกล้ประตู จ้องหน้าเพลินตาแววตาจริงใจสุดๆ
“ผมไม่ขอให้คุณเชื่อผมตอนนี้ แต่ผมอยากขอโอกาส ที่คุณเคยบอกว่าคุณอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ คุณอาจจะได้เจอใครบางคนที่รักคุณอย่างที่คุณเป็น ผมมั่นใจว่าผมคือผู้ชายคนนั้น”
สหัสมองเพลินตานิ่งนาน เพลินตาใจเต้นไม่เป็นส่ำ แล้วสหัสก็หันหลังเดินออกไปหน้าเศร้า พิสมัยมองเพลินตาอย่างรู้ว่าลูกคิดอะไร เพลินตาเห็นแม่มองก็รีบกลบเกลื่อนสีหน้า
“ไอ้หมอนั่นพูดบ้าอะไรก็ไม่รู้นะคะแม่”
เพลินตารีบหันหลังจะเดินเข้าบ้าน พิสมัยครุ่นคิด แล้ว็ตัดสินใจเปิดประตู เพลินตาได้ยินเสียง หันมามองแปลกใจ
“นายสหัส”
สหัสหยุดเดิน หันมาเห็นพิสมัยเปิดประตูอยู่
“พูดมากขนาดนี้ ไม่คอแห้งเหรอ เข้ามาดื่มน้ำก่อนซิ”
สหัสอึ้งไปพัก เพลินตาก็หันมองแม่ด้วยความอึ้ง
“จะเข้ามามั๊ย” พิสมัยดุ
สหัสสะดุ้ง
“เออ...ครับ...ครับ”
สหัสยิ้มออกมาด้วยความดีใจ หันไปมองเพลินตาที่ดูเก้อๆเขินๆ พิสมัยมองสองคนแล้วก็อมยิ้ม สหัสรีบเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับเพลินตาและพิสมัย

ในห้องไอซียู เจมส์ ธงไทย วีรเดช มามิ แป๊ะ และ จุ๊ ยืนอยู่ข้างเตียงฟ้าลดา ขณะที่สายชลยืนอยู่ตรงข้าม
“หมอบอกว่าวันพรุ่งนี้จะย้ายนางฟ้าเข้าไปอยู่ห้องปกติ” สายชลบอก
มามิดีใจ
“งั้นก็หมายความว่านางฟ้าใกล้จะฟื้นแล้ว”
สายชลส่ายหน้า
“ยังไม่ใช่เร็วๆนี้”
“แล้วหมอบอกรึเปล่าครับว่าฟ้าจะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่” เจมส์ถามอย่างเป็นห่วง
“มันอยู่ที่ว่าร่างกายของนางฟ้าพร้อมเมื่อไหร่ เมื่อนั้นนางฟ้าก็จะฟื้นเอง”
วีรเดชมองฟ้าลดาอย่างสงสาร
“ไอ้ฟ้าเอ๊ย เคราะห์ซ้ำกรรมซัดแท้ๆ นี่ถ้าฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ คุณชาร์ลต้องรีบพาไปทำบุญเก้าวัด ทำสังฆทาน ปล่อยนกปล่อยปลาให้เจ้ากรรมนายเวรนะครับ อ้อ แล้วก็ทำบุญไปให้ไอ้คนที่มันจับนางฟ้าไปด้วย อโหสิให้เขา จะได้ได้บุญเยอะๆนะครับ”
“ครับ”
วีรเดชหันไปบอกทุกคน
“พี่ว่าพวกเรากลับกันได้แล้ว ไอ้ฟ้าจะได้พักผ่อน”
ธงไทยเข้าไปจับเตียง
“หายเร็วๆนะฟ้า”
แป๊ะหันไปลาสายชล
“แป๊ะกับจุ๊ไปนะพี่ แล้วจะมาเยี่ยมใหม่”
“ขอบคุณทุกคนมากนะครับ”
ทุกคนพยักหน้าแล้วก็เดินออกไป สายชลเอื้อมมือมาลูบหัวฟ้าลดา เจมส์หันไปมองเห็นความห่วงใยของสายชลที่มีต่อฟ้าลดาก็จ๋อยๆ มามิหันไปเห็นสีหน้าเจมส์

ในร้านกาแฟ เจมส์นั่งหน้าเศร้า อกหัก ระหว่างนั้นมามิเอากาแฟมาให้
“กาแฟดำรสเข้ม ดื่มแล้วรับรองหายอกหัก”
เจมส์หันขวับ มามินั่งลง
“พูดอะไร”
มามิยิ้มๆ
“ไม่ต้องมาปิดฉันหรอก ฉันรู้ว่าพี่เจมส์ชอบนางฟ้า”
เจมส์อึ้งหน้าถอดสี
“เธอรู้ได้ไง”
“ทำไมฉันจะไม่รู้ แววตาที่พี่เจมส์มองนางฟ้ามันปิดไม่มิด”
“ตอนนี้ฉันกำลังพยายามตัดใจ”
“ถ้าพี่เจมส์อยากตัดใจจากนางฟ้าได้เร็วๆ ฉันมีวิธี”
เจมส์สนใจ
“อะไร”
มามิยื่นหน้ามาตรงหน้าเจมส์
“มาชอบฉันแทนไง”
เจมส์อึ้งรีบลุกขึ้นยืนหันหลัง
“อย่ามาพูดเล่น”
มามิลุกเดินมาตรงหน้า
“ไม่ได้พูดเล่น พูดจริง ฉันชอบพี่ ชอบตั้งแต่วันแรกที่เจอกันแล้ว ตกลงเอาไง พี่คิดว่าพี่จะชอบฉันได้รึเปล่า”
“ให้ตอบตอนนี้เนี่ยนะ”
“เออ...ตอบมาเลย ฉันไม่อยากรักใครข้างเดียวอีกแล้ว ถ้าพี่มั่นใจว่าพี่ไม่มีทางชอบฉัน ฉันจะได้ไปหาคนอื่น”
เจมส์นิ่งอึ้งพูดไม่ออก มามิจ้องหน้า
“ว่าไง”
“ถ้าต้องการคำตอบตอนนี้ ฉันบอกได้เลยว่าฉันไม่ชอบเธอ”
มามิจ๋อยไปเลย
“แต่!”
มามิชะงัก
“ถ้าหลังจากวันนี้ ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ ฉันว่าฉันน่าจะชอบเธอได้ไม่ยาก”
มามิยิ้มเพราะมีลุ้น
“จริงนะ”
เจมส์พยักหน้า
“อื้อ”
“อย่าหลอกกันนะ”
“อื้อออออ”
มามิดีใจสุดๆ กระโดดกอดเจมส์ คนทั้งร้านหันมามอง เจมส์ยิ้มด้วยความเขิน รีบแกะมือมามิออก มามิหันไปเห็นคนมองก็ยิ้มเขินไปอีกคน

ค่ำคืนนั้น ป้าเนียมตุ๋นน้ำซุป แหวนยื่นหน้ามาข้างๆ
“หอมจังป้า อะไรอ่ะ”
“ไก่ดำตุ๋นยาจีน พรุ่งนี้ข้าจะฝากคุณแพรเอาไปให้คุณฟ้า”
“แล้วคุณฟ้าทานได้แล้วเหรอป้า”
ป้าเนียมนึกได้
“เออจริงด้วย โธ่เอ๊ย...ข้าก็ลืมนึกไป”
“ป้าไม่ต้องห่วงว่ามันจะเสียของ เพราะว่าฉันจะกินเอง”
แหวนหยิบทัพพีจะตักกิน เจอป้าเนียมตีมือเพียะ แหวนสะดุ้ง
“โอ๊ย! ป้าอ่ะ เจ็บนะ”
แหวนเหลือบไปเห็นชมพูแพรยืนอยู่ก็ชะงัก
“เมื่อไหร่ป้ากับแหวนจะเลิกทะเลาะกันซักที”
ป้าเนียมหันไปเห็นชมพูแพรก็ตกใจ
“คุณแพรลงมาที่ครัวทำไมคะ”
“แพรมีเรื่องอยากคุยกับป้าค่ะ”
ป้าเนียมแปลกใจ ชมพูแพรเหล่แหวน แหวนรู้ตัว
“เออ...แหวนนึกได้ว่ายังไม่ได้ปิดบ้าน แหวนไปปิดบ้านก่อนนะคะ”
แหวนออกไป ชมพูแพรเดินมาหาแล้วก็โผกอด ป้าเนียมตกใจ
“แพรขอโทษนะคะที่แพรเคยพูดไม่ดี แล้วก็ทำตัวไม่ดีกับป้า ทำให้ป้าต้องเสียใจ ทั้งๆที่ป้ารักแล้วก็ดูแลแพรมาตั้งแต่เด็กๆ ป้าอย่าโกรธแพรนะ”
ป้าเนียมน้ำตาไหล กอดแพรตอบ
“ป้าไม่โกรธคุณหรอกค่ะ ไม่ว่าคุณจะเป็นยังไงคุณก็ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อยๆที่น่ารักในสายตาของป้าเสมอ”

ชมพูแพรผละออกมายิ้มทั้งน้ำตา ป้าเนียมเองก็ร้องไห้ แล้วก็เช็ดน้ำตาให้ ชมพูแพรเช็ดน้ำตาให้ป้าเนียมบ้าง สองคนกอดกันอีก

+++++++++++++++++++++++++

วันรุ่งขึ้น สายชลเช็ดตัวให้ฟ้าลดา เช็ดไปก็พูดไป

“สายชลจะเล่าเรื่องของเราให้นางฟ้าฟัง พอนางฟ้าฟื้นขึ้นมา นางฟ้าจะได้จำสายชลได้”
สายชลมองฟ้าลดาด้วยความรัก แล้วเล่าโดยเริ่มจาก ช่วงที่อยู่ด้วยกันที่เกาะมินตั้งแต่เจอกันครั้งแรก...ฟ้าลดาก่อความวุ่นวาย...ฟ้าลดาแก้ผ้าลงไปอาบน้ำกับสายชลที่น้ำตก...ตอนประกวดธิดาเจ้าสมุทร ตอนเต้นฮาวาจนถึงตอนแต่งงานกัน...

หลายวันต่อมา ฟ้าลดาสีหน้าดีขึ้นทุกๆวัน สายชลคอยดูแลเธออย่างดี คอยพลิกตัวให้ นวดแขน นวดขา ฟังเพลงด้วยกันโดยเอาหูฟังใส่หูตัวเองข้างหนึ่งใส่หูฟ้าลดาข้างหนึ่ง...

ค่ำคืนหนึ่ง ขณะที่สายชลกำลังหวีผมให้ฟ้าลดา ระหว่างนั้นพยาบาลเดินเข้ามา
“ถึงเวลาฉีดยาแล้วค่ะ”
สายชลพยักหน้ายิ้มรับ หลีกทางให้พยาบาลเอายาฉีดตรงสายน้ำเกลือ ครู่หนึ่ง พยาบาลหันมาบอก...
“ภรรยาคุณสีหน้าดีขึ้นมากเลยนะคะ”
“แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะฟื้นขึ้นมานะครับ”
“คุณเคยลองกอดภรรยาเหรอยังคะ”
สายชลแปลกใจ
“กอด”
พยาบาลยิ้ม
“ค่ะ เขาบอกว่าการกอด เป็นยาที่ดีที่สุด โดยเฉพาะอ้อมกอดจากคนที่เรารัก ลองดูนะคะ”
พยาบาลพูดจบก็เดินออกไป สายชลหันไปมองฟ้าลดา ค่อยๆพยุงเธอขึ้นมา แต่ไม่ถนัด เขาวางเธอลงบนเตียงแล้วตัดสินใจขึ้นไปนอนบนเตียงกับเธอ เอาแขนข้างหนึ่งสอดไปข้างใต้ตัวเธอแขนอีกข้างกอดเอาไว้

เช้าวันใหม่ ฟ้าลดาค่อยๆลืมตาขึ้นมา ยังเบลอๆงงๆ หันไปเห็นสายชลกอดตัวเองอยู่ก็ชะงักมองเขาอย่างรู้สึกดี สักครู่สายชลขยับตัวตื่น เห็นฟ้าลดาลืมตาก็ดีใจมาก
“นางฟ้าฟื้นแล้ว”
สายชลรีบลุกจากเตียง แล้ววิ่งออกไปเปิดประตู ตะโกนเรียกหาหมอ
“หมอ...หมออยู่ไหนหมอ เมียผมฟื้นแล้ว เมียผมฟื้นแล้ว”
ฟ้าลดามองสายชลแล้วก็ยิ้มออกมา หมอเข้ามาตรวจฟ้าลดา แล้วหันไปบอก...
“อาการคุณฟ้าลดาดีขึ้นมาก อยู่โรงพยาบาลอีกสักสองสามวัน ก็น่าจะกลับบ้านได้ครับ”
สายชลยิ้มดีใจ
“ขอบคุณมากครับ”
หมอเดินออกไป สายชลเดินมาหาฟ้าลดา สองคนมองหน้ากัน ฟ้าลดาดีใจที่ได้เจอเขาอีกครั้ง สายชลกำลังจะจับมือเธอ แต่ยังไม่ทันจะทำอะไร ชมพูแพรกับหมอวัฒนาก็เข้ามา
“ยัยฟ้า!” ชมพูแพรดีใจ
สายชลรีบดึงมือกลับ ฟ้าลดาหันไปมอง
“พี่แพร”
ชมพูแพรเข้ามากอดฟ้าลดา ทำให้สายชลต้องถอยออกไป หมอวัฒนาเข้ามาสะกิด
“เราออกไปข้างนอกกันดีกว่าครับ”
สายชลพยักหน้า มองฟ้าลดาเสียดายนิดๆเพราะอยากอยู่กับฟ้าลดาสองคน
เมื่ออยู่กันตามลำพัง ชมพูแพรจับมือฟ้าลดาอย่างรู้สึกผิด
“พี่ขอโทษ ขอโทษที่พี่คิดทำร้ายฟ้า เพราะความเห็นแก่ตัวของพี่ ทำให้พี่ขาดสติ ทำเรื่องเลวร้ายกับน้องสาวเพียงคนเดียวของพี่ ฟ้าอภัยให้พี่ได้มั๊ย”
“พี่แพรไม่จำเป็นต้องขอโทษฟ้า ฟ้าเข้าใจพี่แพรทุกอย่าง และฟ้าไม่เคยโกรธพี่แพรเลยค่ะ”
ชมพูแพรดีใจมากลุกขึ้นกอดน้องสาว สองพี่น้องกอดกันแน่น สักครู่ชมพูแพรก็ผละออกมา เอากระเป๋ามาเปิดแล้วหยิบสร้อยที่สายชลให้ฟ้าลดาออกมา
“พี่เอาสร้อยมาคืน “
ชมพูแพรเอาสร้อยใส่มือฟ้าลดา
“สร้อยเส้นนี้เป็นสร้อยที่คุณชาร์ลให้ฟ้า ตอนที่ฟ้ากับคุณชาร์ลแต่งงานกันที่เกาะมิน คุณชาร์ลเก็บมันเอาไว้ตลอด...เผื่อซักวันเขาจะเจอนางฟ้าของเขา และมันก็ถึงเวลาแล้วที่สร้อยจะได้อยู่กับเจ้าของของมัน”
ฟ้าลดาเอาสร้อยขึ้นมาดู รู้สึกเต็มตื้นในหัวใจ

สายชลเดินไปเดินมาหน้าห้องพักคนไข้ หมอวัฒนามองตามสายชลแปลกใจ
“คุณชาร์ลเดินไปเดินมานานแล้วนะครับ เป็นอะไรรึเปล่า”
สายชลหยุดเดินหันมา
“คุณแพรคุยกับคุณฟ้านานจังเลยนะครับ”
“ก็คงมีเรื่องคุยกันเยอะแหละครับ”
สายชลพยักหน้า แล้วก็นั่งลง พลางถอนหายใจ
“คุณชาร์ลเป็นอะไรกันแน่ บอกผมมาเถอะครับ”
สายชลหันไป
“ผมอยากรู้ว่านางฟ้าจำผมได้รึเปล่า เมื่อกี๊ผมกำลังจะถามแต่คุณแพรกับคุณหมอมาซะก่อน”
หมอวัฒนายิ้ม
“ใจเย็นครับคุณชาร์ล คุณมีเวลาคุยกับน้องฟ้าอีกนาน ผมรับรองว่าน้องฟ้าไม่หนีคุณไปไหนอีกแน่ๆ”
หมอวัฒนาพยักหน้าให้ความมั่นใจ สายชลพยักหน้ารับสบายใจขึ้น
ทางด้านชมพูแพร ยังคุยอยู่กับฟ้าลดา...
“ฟ้ายังจำเรื่องที่เกาะมินไม่ได้เหรอ”
“จำได้ไม่ทั้งหมดค่ะ ฟ้าเห็นภาพ...ไม่ปะติดปะต่อ แต่ฟ้ารู้สึกบางอย่างกับคุณชาร์ล”
“ความรู้สึกนั้น คือความรักใช่มั๊ย”
ฟ้าลดานิ่งไปพักแล้วก็พยักหน้า ชมพูแพรยิ้มดีใจ
“ถ้างั้นฟ้าก็บอกคุณชาร์ลเลยซิ”
“ฟ้า...เออ ฟ้าไม่รู้จะพูดยังไง”
“คำว่ารัก มันพูดง่ายมากนะฟ้า”
ฟ้าลดาลำบากใจ รู้สึกเขินๆ

หน้าห้องพัก สายชลหันมาทางหมอวัฒนา
“หมอว่านางฟ้าจะจำทุกอย่างได้เหรอยัง”
“ผมว่าน้องฟ้าคงจำได้บ้าง แต่อาจจะไม่ทั้งหมด”
“แล้วหมอว่านางฟ้า จะกลับมารักผมอย่างเดิมมั้ย”
หมอวัฒนายิ้ม
“อันนี้ผมตอบไม่ได้ คุณต้องถามน้องฟ้าเอง”
สายชลถอนใจ แล้วชมพูแพรก็เดินออกมา สายชลกับหมอวัฒนารีบลุกเดินมาหา
“แพรกับยัยฟ้า...เราเข้าใจกันแล้วค่ะ”
หมอวัฒนากับสายชลยิ้มดีใจ
“ดีใจด้วยนะครับ ถ้างั้นผมขอเข้าไปหานางฟ้านะครับ”
“ยัยฟ้าหลับไปแล้วค่ะ”
สายชลผงะ ชมพูแพรยิ้มๆ
“แล้วคืนนี้แพรจะอยู่เฝ้ายัยฟ้าเอง คุณชาร์ล กลับไปพักเถอะค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ให้ผมอยู่ด้วยนะครับ ผมนอนตรงนี้ก็ได้”
สายชลหันไปที่โซฟาหน้าห้อง ชมพูแพรกับหมอวัฒนามองหน้ากัน ไม่พูดอะไร

ค่ำคืนนั้น ฟ้าลดาตื่นขึ้นมา หันมาเห็นสายชลนั่งอยู่ข้างๆ ก็ชะงัก สายชลยิ้มให้
“นางฟ้า...”
ฟ้าลดามองหาชมพูแพร
“พี่แพร...”
“คุณแพรไปทานข้าว นางฟ้าจะเอาอะไร”
“น้ำ...”
สายชลรีบเอาน้ำมาให้ดื่ม ฟ้าลดาปากเลอะ สายชลก็เช็ดให้
“นางฟ้ายังเจ็บแผลอยู่รึเปล่า”
“นิดหน่อย”
“แล้วนางฟ้าจำอะไรได้บ้างมั๊ย”
แววตาสายชลมีความหวังมากๆ ฟ้าลดายังไม่ทันตอบ ชมพูแพรก็เดินเข้ามา
“ตื่นแล้วเหรอยัยฟ้า”
ฟ้าลดาพยักหน้า สายชลเซ็งที่ชมพูแพรกลับมาเร็ว เลยเดินไปนั่งที่โซฟามองฟ้าลดาห่างๆ

เช้าวันใหม่ สายชลนอนอยู่บนโซฟา ชมพูแพรออกมาจากในห้อง เห็นสายชลก็เข้ามาปลุก
“คุณชาร์ล”
สายชลสะดุ้งเฮือก รีบลุกขึ้นนั่ง
“นางฟ้าเป็นอะไรครับ”
“ยัยฟ้าไม่ได้เป็นอะไรคะ แพรจะฝากคุณชาร์ลเข้าไปอยู่ข้างในที แพรจะลงไปซื้อของข้างล่าง”
สายชลยิ้ม
“ได้ครับ”
ชมพูแพรเดินออกไป สายชลสะบัดหัวไล่ความง่วงออกไป แล้วเข้าไปในห้อง เห็นฟ้าลดานอนหลับก็อมยิ้ม แล้วก็ลากเก้าอี้แบบที่ปรับเอนนอนได้ มานั่งข้างเตียงรู้สึกยังง่วงอยู่
สายชลเปิดทีวี เสียงดังมากเขาตกใจ รีบกดลดเสียง หันไปมองฟ้าลดายังหลับอยู่ก็ถอนหายใจโล่งอก สายชลเอาหัวพิงพนักเก้าอี้ หาว แล้วตาก็ค่อยๆปิดหลับไป...
ฟ้าลดารู้สึกตัว หันมาลืมตาเห็นสายชลนอนอยู่ข้างๆก็ลุกขึ้นมานั่งมองเขานิ่งนาน มองอย่างที่คนรักมองกัน พลันเสียงมือถือของสายชลดังขึ้น ฟ้าลดาตกใจแกล้งหลับต่อ สายชลสะดุ้งตื่น หยิบมือถือออกมากดปิดเสียง หันไปมองฟ้าลดาเห็นยังหลับก็โล่งใจ รีบเดินออกไปรับสาย
“ฮัลโหล...พรุ่งนี้เครื่องบินโบอิ้งที่เราซื้อจะมาส่ง นายก็ไปดูแทนฉันแล้วกัน ฉันต้องดูแลนางฟ้า...ไม่ได้เหรอ ฉันต้องไปด้วยตัวเอง พรุ่งนี้กี่โมง”
ฟ้าลดาลืมตาได้ยินทุกอย่างครุ่นคิด

วันต่อมา ฟ้าลดาให้ชมพูแพรพาออกจากโรงพยาบาล มาอยู่ที่บ้านหลังเล็กโดยที่สายชลไม่รู้ ป้าเนียมกับแหวนประคองฟ้าลดามานั่ง
“ค่อยๆนะคะคุณฟ้า”
“แหวนสวดมนต์ให้คุณฟ้าทุกคืนเลยนะคะ ดีใจสุดๆที่คุณฟ้ากลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม”
ฟ้าลดายิ้ม
“ขอบใจนะแหวน”
ชมพูแพรถือกระเป๋าตามมาวาง
“ป้าเนียมดุยัยฟ้าให้แพรหน่อยเถอะค่ะ ไม่รู้จะรีบกลับมาทำไม ร่างกายยังไม่แข็งแรง”
“ฟ้าไม่อยากนั่งๆนอนๆอยู่ที่โรงพยาบาลนี่คะ...พี่แพร พี่แพรช่วยพาฟ้าไปที่ที่หนึ่งได้มั๊ยคะ”
ชมพูแพร ป้าเนียม แหวน มองฟ้าลดาด้วยความสงสัย

หมอวัฒนาทำหน้าที่ขับรถ ขณะที่ชมพูแพรนั่งข้างๆ ส่วนฟ้าลดานั่งอยู่ด้านหลัง
“ตอบมาได้หรือยังว่า...ทำไมเราถึงไม่ให้พี่บอกคุณชาร์ลว่า เราออกจากโรงพยาบาลแล้ว รู้มั๊ยว่าคุณชาร์ลเค้าเป็นห่วงเรามากแค่ไหน”
ชมพูแพรถาม ฟ้าลดาหน้าสลด
“ฟ้ารู้ค่ะ ที่ฟ้าอยากไปทะเล เพราะว่าทะเลเป็นที่ที่ความรักของฟ้ากับสายชลเริ่มต้น ฟ้าอยากจำเรื่องราวของเราให้ได้ทั้งหมด ฟ้ารู้สึกว่าถ้าฟ้าจำไม่ได้ แล้วฟ้าบอกรักสายชล มันเหมือนฟ้าเอาเปรียบเขา เพราะความรักของสายชลที่มีให้ฟ้ามันช่างมากมายเหลือเกิน”
“โธ่...ยัยฟ้า”
ฟ้าลดาหันไปมองนอกหน้าอย่างต่างเศร้าสร้อย หมอวัฒนากับชมพูแพร หันมามองหน้ากันด้วยความกลุ้มใจ
บ่ายวันนั้น หมอวัฒนาขับรถมาจอดหน้าบ้านริมทะเล ทั้งสามคนลงจากรถ ฟ้าลดาหิ้วกระเป๋า ค่อยๆเดินเข้าไปในบ้าน ชมพูแพรจะตามเข้าไป หมอวัฒนารั้งแขนเอาไว้
“ผมว่าเราต้องช่วยคุณชาร์ล ขืนรอให้น้องฟ้าจำทุกอย่างได้ ก็ไม่รู้ว่าคุณชาร์ลต้องรอไปอีกนานเท่าไหร่ ตอนนี้ความทรงจำ ไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับน้องฟ้าแล้วก็คุณชาร์ลอีกแล้ว สิ่งสำคัญก็คือน้องฟ้ารักผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าเค้าจะเป็นชาร์ล หรือว่าสายชล”
ชมพูแพรมองหมอวัฒนาเห็นด้วย และตัดสินใจโทรบอกให้สายชลรู้...

ฟ้าลดาเดินออกมาจากในห้อง ไม่เห็นชมพูแพรกับหมอวัฒนา แต่เห็นกระดาษโน้ตที่วางบนโต๊ะ จึงหยิบขึ้นมาอ่าน
“พี่กับพี่หมอออกไปตลาด”
“ไม่รอเราเลย” ฟ้าลดาวางกระดาษลงที่เดิม
ทางด้านหมอวัฒนากับชมพูแพร เดินมาด้วยกันที่ชายหาดอีกด้าน
“ไม่รู้คุณชาร์ลมาถึงเหรอยังนะคะ ขอให้คุณชาร์ลกับยัยฟ้าลงเอยกันซักทีเถอะ”
ชมพูแพรหยุดเดิน หมอวัฒนาหยุดตามหันมาหา
“เขาสองคนเป็นเนื้อคู่กัน ถึงจะจากกันไปนานหลายปี แต่ในที่สุดเขาก็กลับมาเจอกัน เพราะความรักที่มั่นคงที่คุณชาร์ลมีให้น้องฟ้า ถึงทำให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี”
ชมพูแพรยิ้ม
“จริงค่ะ”
หมอวัฒนาหน้าเครียดขึ้นมา
“แล้วถ้าเกิดผมต้องจากแพรไป โดยที่ไม่รู้ว่าเราจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ แพรจะมีคนอื่นมั๊ย”
ชมพูแพรแปลกใจ
“พี่หมอหมายความว่ายังไง”
“ผมต้องไปอเมริกาวันมะรืนนี้”
ชมพูแพรชะงัก
“คราวนี้คงไปนานหลายปี ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาเมื่อไหร่”
หมอวัฒนาคว้ามือชมพูแพรมาจับ
“ผมอยากให้แพรรู้เอาไว้นะครับว่าความรักที่ผมมีให้แพร จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”
ชมพูแพรรู้สึกใจหาย เมื่อรู้ว่าเขากำลังจะไป
“แล้วถ้าเกิดแพรตามพี่หมอไป พี่หมอจะอนุญาตมั๊ยคะ”
หมอวัฒนาผงะ แล้วก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
“อนุญาตซิแพร ถ้าไงเราไปพร้อมกันเลยมั๊ย”
ชมพูแพรหัวเราะ
“แพรเตรียมตัวไม่ทันหรอกค่ะ แต่แพรจะตามไปหาพี่หมอแน่ๆ”
หมอวัฒนากับชมพูแพรยิ้มให้กัน อย่างมีความสุขที่สุด

เย็นวันนั้น สายชลขับรถมาจอดหน้าบ้านริมทะเล รีบลงจากรถ จะเข้าไปในบ้านแต่ประตูล็อค เขารีบวิ่งไปหลังบ้าน ประตูก็ล็อค มองผ่านหน้าต่างเข้าไปก็ไม่มีคนอยู่ สายชลใจเสียมาก รีบวิ่งออกมาที่ชายหาดมองหาฟ้าลดาไปรอบๆ อย่างกระวนกระวายใจ

“นางฟ้า อย่าหนีสายชลไปอีกนะ”
สายชลวิ่งหาฟ้าลดาไปตามชายหาดแต่ก็ไม่เจอ เขาหยุดวิ่งหอบเหนื่อย แต่แล้วสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเธอยืนแช่น้ำทะเลอยู่ จึงเดินมาหยุดข้างๆ
“นางฟ้า”
ฟ้าลดาชะงัก หันไปมอง
“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่”
“หมอโทรบอกผม...ทำไมถึงหนีสายชลมาอีก”
ฟ้าลดานิ่งไป แล้วก็หันหลังให้เขา
“นางฟ้าไม่รักสายชลเหรอ”
ฟ้าลดาหันไปมองหน้าเขา
“ฉันยังจำเรื่องระหว่างเราไม่ได้...”
สายชลรีบพูดขัด
“สายชลไม่สนใจ ว่านางฟ้าจะจำได้หรือไม่ได้ ความทรงจำสามารถสร้างด้วยกันใหม่ได้”
ฟ้าลดาคิดตามที่เขาพูด สายชลเดินมาจับมือของเธอทั้งสองข้าง เธอมองหน้าเขาหัวใจเต้นแรง
“สิ่งที่สายชลต้องการรู้ก็คือ นางฟ้ารักสายชลรึเปล่า”

สายชลมองฟ้าลดาลุ้น ฟ้าลดามองเห็นแววตาของเขาที่มองเธอด้วยความรัก ก็ฝืนใจตัวเองไม่ได้อีกต่อไป
“ยังดูไม่ออกอีกเหรอว่าฉันรัก หรือ ไม่รักคุณ”
สายชลแปลกใจเห็นฟ้าลดาใส่สร้อยอยู่ เขายิ้มออกมาด้วยความดีใจ
“นางฟ้าใส่สร้อย หมายความว่านางฟ้ารักสายชล”
ฟ้าลดายิ้มเขินๆ แล้วก็พยักหน้า สายชลดีใจสุดๆ กระโดดโลดเต้น ร้องดังลั่นตะโกนไปทางทะเล
“วู้วู้...นางฟ้ารักสายชล นางฟ้ารักสายชลได้ยินมั๊ย”
ฟ้าลดาหัวเราะชอบใจ สายชลเข้ามากอดหญิงสาวสุดที่รักไว้แน่น ฟ้าลดากอดตอบเขาอย่างรักสุดหัวใจ
“นางฟ้า...สายชลมีความสุขมากเหลือเกิน ชั่วชีวิตจะไม่มีวันลืมวันนี้”
สักครู่ทั้งสองก็ผละออกจากกัน ฟ้าลดายิ้มให้เขาอย่างสุขใจ
“นางฟ้าก็มีความสุขมากที่สุด ขอบคุณนะสายชล ขอบคุณที่รักนางฟ้า”
ฟ้าลดายื่นหน้า เอาหน้าผากมาแตะกับหน้าผากสายชล
“นางฟ้าสัญญาว่าต่อจากนี้ นางฟ้าจะไม่แยกจากสายชลแม้แต่วันเดียว นางฟ้ารักสายชล”
สายชลค่อยๆบรรจงจูบหน้าผากฟ้าลดาอย่างแผ่วเบา แล้วจูบแก้มสองข้าง จูบจมูก แล้วเอาปากมาแตะกันเบาๆ ก่อนจะกอดกันอยู่ริมทะเลด้วยความรัก และสุขใจที่จะไม่พลัดพรากกันอีกแล้ว...

จบบริบูรณ์





//www.manager.co.th/Drama/ViewNews.aspx?NewsID=9540000148421&Page=3




 

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2554
3 comments
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2554 10:30:42 น.
Counter : 3041 Pageviews.

 
 
 
 
ขอบคุณมากค่ะ....ซึ้งมากเรื่องนี้
แต่แอบใจหาย จบแบบนี้ ไม่เต็มอิ่มเลย
นางฟ้าน่าจะจำสายชลได้หน่อย ..จะได้ซาบซึ้ง...
ว่าความรักและความเจ็บปวดของเขามันมากมายแค่ไหน
 
 

โดย: nikanda วันที่: 23 พฤศจิกายน 2554 เวลา:14:38:35 น.  

 
 
 
แวะมาติดตาม จบเร็วจังนะครับ
 
 

โดย: **mp5** วันที่: 23 พฤศจิกายน 2554 เวลา:15:43:02 น.  

 
 
 
ขอบคุณมากค่ะ ตามอ่านจนจบ แอบใจหายเหมือนกัน ทำไมนางฟ้าจำสายชลไม่ได้
 
 

โดย: ThePaMan (puifaichan ) วันที่: 24 พฤศจิกายน 2554 เวลา:9:55:47 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

houyhnhnms
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Hello!
[Add houyhnhnms's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com