Macau Trip 31/05/2012-03/06/2012 ตอนที่ 4 วันที่สี่เก็บตกวันสุดท้าย

วันสุดท้ายของการเดินทาง ก่อนจะต้องขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพฯ เวลา 14.20 น. มาดูโปรแกรมดั้งเดิมที่วางไว้

*วันจริงเปลี่ยนทั้งโปรแกรม 
3/6/2012 (วันที่ 4) ชมเวเนเชี่ยน ก่อนเดินทางกลับ
6.00 น. อาหารเช้า ชมร้านค้าและตัวเมือง ก่อนกลับไปเก็บกระเป๋า
8.30 น. ออกจากที่พักไปเวเนเชี่ยน
10.00 น. ฝากของที่เวเนเชี่ยน ก่อนเดินชมด้านใน
11.30 น. ออกจากเวเนเชี่ยน ไปสนามบิน
14.20 น. ออกเดินทางจากมาเก๊า

 สรุปแล้วเมื่อคืนตัดสินใจวางโปรแกรมใหม่ หลังจากที่แผนที่มาเก๊าหายไปเมื่อวาน โชคดีที่พิมพ์คู่มือมาเก๊ามาจาก pdf ไฟล์ ติดมือมาด้วย แม้สีจะซีดๆ เพราะพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์หมึกใกล้หมด แถมสั่งพิมพ์ใช้กระดาษหน้าหลัง แล้วจัดเรียงไม่ลงตัว หน้าสลับกัน แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรติดตัวมา

 วันนี้อาเฮียบอกว่าจะเดินไปวัดเจ้าแม่กวนอิม เพราะไม่น่าจะไกลจากแถวสวนคาซาจากที่ไปเมื่อวานนัก ถ้าเป็นไปได้หลังจากนั้นถ้าเวลาพอจะไปต่อที่สวนฟลอร่า เพื่อขึ้นกระเช้าไปป้อมปราการเกีย

 ตั้งต้นเดินจากเซนาโดเหมือนเดิม วันนี้ยามเช้าฝนตก กางร่มเดินฝ่าฝนไปอย่างไม่ย่อท้อ ดีที่ฝนเม็ดเล็กบางๆ น้ำไม่ได้ขังเฉอะแฉะ ลมไม่แรง เดินกางร่วมไปสบายๆ โชคดีเดินไปยังไม่ทันถึงสวนคาซาฝนก็หยุดตกเก็บร่มได้

 

เซนาโดยามฝนพรำ

ผ่านโบส์เซนต์ปอลยามไร้ผู้คน

 เดินหาวัดเจ้าแม่กวนอิมอยู่นาน กลับเจอสวนอีกแห่งที่น่าสนใจมาก สวนสาธารณะเลาลิมเอี๊ยด(Lou Lim leoc Garden) ที่นี่เป็นสวนสาธารณะสไตล์จีนๆ ประวัติตามคู่มือใหม่ซึ่งเพิ่งได้รับหลังจากกลับมาจากเที่ยวมาเก๊าแล้ว รายละเอียดมีเพิ่มเติมจากเล่มเก่าที่พิมพ์จาก pdf ด้วยค่ะ สร้างโดยหลู่เกาชนชั้นสูงชาวจีน ปลายศตวรรษที่ 19 เป็นสวนแบบซูโจว สวยงามดั่งภาพวาดจีน สวนมีขนาดไม่ใหญ่ แต่มีความงามดั่งภาพวาดสวนแบบจีนๆ จริงๆ น่านั่งและเดินทอดน่องชมวิวมาก มีชาวมาเก๊ามารำไทเก๊า ร้องเพลง และมีสระบัวด้วยค่ะ บรรยากาศผ่อนคลายชวนพักผ่อนและมาออกกำลังกายยามเช้า

ป้ายชื่อสวนสาธารณะเลาลิมเอี๊ยด(Lou Lim leoc Garden)

ทางเข้าสวน

 

มุมหนึ่งของสวน

บรรยากาศริมน้ำ

สระบัว ทำให้นึกถึงเรื่อง ปู้ปู้จิงซิน

มีคนถือกล้องมาเก็บภาพมากมาย

 
 เห็นในลิงก์ขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวมาเก๊า คิดว่าเป็นเทศกาลถ่ายภาพดอกบัว และมีการจัดนิทรรศการค่ะ หากผิดพลาดต้องขออภัยด้วย กวาดตาอ่านอย่างรวดเร็วคร่าวๆ ด้วยภาษาอังกฤษที่ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าใด หนักไปทางอ่อนแอ

 

อีกมุมที่มองผ่านสระบัว เห็นร้านน้ำชาที่พูดถึงในคู่มือ สร้างแบบสถาปัตยกรรมโปตุเกส แต่ตกแต่งหลังคาแบบจีน

ก่อนออกจากสวน แถวหน้าสวนมีคุณป้าท่านหนึ่งมาออกกำลังกาย จึงถามทางแล้วเดิน(หลง)ทางไปยังวัดเจ้าแม่กวนอิม ยอมรับว่าคนมาเก๊าใจดีมาก นอกจากคุณป้าที่มาออกกำลังกายแล้ว มีคุณน้าอีกท่านหนึ่ง สละเวลาเดินวกกลับไปเพื่อพาจขบ.และอาเฮีย ไปส่งตรงถนนที่จะไปวัดเจ้าแม่กวนอิม ต้องขอบคุณมากค่ะ เหอๆ เดินหลงทางไปหลงทางมา นานมากๆ

 วัดเจ้าแม่กวนอิมเป็นวัดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า สร้างสมัยศตวรรษที่ 13 เจอทัวร์คนไทยมาเที่ยวที่นี่ด้วยค่ะ

วัดเจ้าแม่กวนอิม

ถ่ายจากอีกมุม

 

 จากวัดเจ้าแม่กวนอิม ก็คลำแผนที่ทุกอย่างที่อยู่ในมือ เพื่อกลับไปแวะกินบะหมี่เกี้ยวเจ้าอร่อยแถวเซนาโด แวะดูพิพิธภัณฑ์ Holy Hose of Mercy หากมีเวลาพอ

 แต่แล้วโชคชะตาก็ลิขิตให้พบกัน 555 มาเจอสวนฟลอร่าการ์เดน ทางขึ้นไปป้อมปราการเกีย ตรงใกล้ๆ ป้ายรถเมล์ ตัดสินใจดิ่งไปเลยค่ะ ตั๋วนั่งกระเช้าไปกลับ ราคา 3 MOP เที่ยวเดียว 2 MOP ซื้อไปกลับอยู่แล้ว อยากเดินกลับเหมือนกันแต่ไม่มีเวลาแล้ว

 

กระเช้าจากสวนฟลอร่าไปป้อมปราการเกีย

ตั๋วขึ้นกระเช้า

ป้ายมรดกโลกที่ป้อมปราการเกีย

ป้อมปราการเกีย ด้านในที่ให้เข้าชมมีภาพวาดบนฝนัง แต่ไม่ให้ถ่ายภาพค่ะ เสียดายบางส่วนเสียหายเพราะโดนความชื้นทำลาย

บรรยากาศเมื่อมองจากป้อมปราการเกีย

 ลงจากกระเช้าก็ไปรอขึ้นรถเมล์ ดูแล้วไม่แน่ใจว่าขึ้นคันไหนไป ดูรายละเอียดที่ป้ายแล้วงงๆ ถามสาวสวยแถวนั้น แนะนำให้ขึ้นสาย 18A ค่ะ ในที่สุดก็มาถึงเซนาโด ได้ชม พิพิธภัณฑ์ Holy Hose of Mercy ตามที่ตั้งใจไว้จนได้ ราคาค่าชม 5 MOP ค่ะ

 

ทางเข้าพิพิธภัณฑ์

ภายในพิพิธภัณฑ์ อนุญาตให้ถ่ายรูปได้ค่ะ

 ถ่ายรูปอย่างรวดเร็ว แล้วรีบจากไปรับประทานบะหมี่เกี้ยว เพราะยังไม่ได้เช็กเอาท์เลย ใกล้เที่ยงแล้ว เริ่มใจไม่ดี จะทันไหมเนี่ย

อาหารจานเด็ดตบท้าย เกี้ยวอร่อย

 เช็กเอาท์แบกกระเป๋า ตัดสินใจขึ้นรถเมล์ไปสนามบิน เจ้าหน้าที่สาวตรงเคาน์เตอร์ที่พักแนะนำให้ไปสนามบินด้วยสาย 26A แต่อาเฮียไม่แน่ใจว่าสายนี้ไปได้หรือเปล่า เพราะไม่เห็นในคู่มือ จึงตัดสินใจแบกเป้เดินไปขึ้น MT1 MT2 ที่แถวๆ ใกล้ Wynn

 ป้ายรถเมล์ที่จะข้ามเกาะไปไทปา กลับมี 2 เลน ตกลงเลือกขึ้นผิดเลน(เลือกขึ้นเลนใน ที่ถูกต้องคือต้องขึ้นเลนนอก) รถเมล์ MT1 วิ่งกลับอู่ จึงกระโดดขึ้น MT2 ที่กำลังออก คนขับรถคันนี้ใจดีและน่ารักมากค่ะ อุตส่าห์รอตอนที่กำลังขอแลกเหรียญ และบอกว่าถึงสนามบินแล้วจะบอกจขบ. ตลอดเส้นทางไปถึงสนามบิน รถทั้งคันมีผู้โดยสารรวม จขบ.และอาเฮียด้วย ไม่เกิน 4 คน นั่งสบาย แต่กระวนกระวายเพราะกลัวตกเครื่องบิน

 มาถึงสนามบินที่นั่งในเครื่องคงเหลือน้อยเต็มที จขบ.กับอาเฮียนั่งแยกกันแสนไกล T T

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
 ค่าเครื่องบินชั้นประหยัดโปรแอร์เอเชีย  7,376 บาท
 ค่าที่พัก Kou Va 3 คืน   7,344 บาท (ค่าที่พักโดยเฉพาะวันศุกร์กับเสาร์แพงมากๆ)
 ค่าใช้จ่ายที่มาเก๊า+ซื้อของฝากไม่เกิน 3,000 บาท (คะเนจากเงินที่เหลือต้องแลกคืนเป็นเงินไทย)

รวม 2 คน    17,720บาท (เฉลี่ยคนละประมาณ 8,860 บาท)

สรุปแล้วที่มาเก๊า ที่พัก อาหาร จะแพง ต่างจากจีน ที่พักและอาหารจะถูกกว่ามาก แต่ที่จีนค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวแพงถึงแพงมาก

ขอบคุณทุกท่านที่แวะเวียนอ่านรีวิวของมือใหม่หัดทำบล็อกค่ะ

 จะเห็นได้ว่า ครั้งนี้เป็นการเดินทางที่หลงทางโดยตลอด เดินและเดินจริงๆ แต่สนุกและได้ประสบการณ์ดีๆ มากมาย เสียดายที่มีเวลาน้อย มาเก๊ายังมีอีกหลายสถานที่ที่น่าสนใจ เกาะโคโลอานก็ยังไม่ได้ไป คิดว่าเที่ยว 3 คืน กับอีก 3 วันครึ่ง อย่างทริปที่วางไว้ยังไม่เพียงพอ หากมีโอกาสจะไปอีกครั้งค่ะ
 

Create Date : 10 กรกฎาคม 2555 Last Update : 10 กรกฎาคม 2555 20:32:14 น. Counter : 3227 Pageviews.		0 comments
Share Tweet