Group Blog All Blog |
ปักกิ่ง หนาวเหน็บในความทรงจำ วันแรก เทียนถาน, สนามกีฬารังนก ปักกิ่ง หนาวเหน็บในความทรงจำ Beijing 27 Dec 12 - 2 Jan 13 แผนการเดินทาง 27/12/2012 Tiantan, Olypic Sports Center, Wangfujing โปรมแกรมวันแรกสวยหรู แต่เจอความหนาวของวันจริงผวาเลยค่ะ วันเดินทางจริง 27 ธันวาคม 2555 เดินตามแผนที่ของที่พัก แต่หลงทาง ยืนหนาวถามทางอยู่ครู่ใหญ่ นึกว่าจะแข็งตายแล้วววว หนาวสุดๆ เดินเลยทางเข้าไปนิดนึง ระหว่างทางไม่คิดจะยกกล้องถ่ายรูปมาถ่ายทิวทัศน์เลยค่ะ หนาวมาก เป็นการเดินทางที่เก็บบรรยากาศรอบตัวได้ค่อนข้างน้อย ไม่อยากถอดถึงมือ หรือเอามือออกจากกระเป๋าเสื้อเลย ประมาณ 9.00 น. เช็คอินเข้าห้องพักที่จองไว้ พนักงานน่ารักมาก พูดภาษาอังกฤษรัวเชียว - -' ในห้องเปิดเครื่องปรับอากาศ Nuanqi(หน่วนชี่) ไม่อุ่นเลย เห็นปรับอุณหภูมิที่ 30 องศา ยังหนาวเหน็บ พักเก็บของแล้วออกเดินทางไป Tiantan นั่งสาย 5 สายเดิมไปลง Tiantandongmen ทางออก A2 เดินทางจากที่พักไป Tiantan สะดวกมาก ตามโปรแกรมเป๊ะ เมื่อออกจากสถานีรถไฟฟ้า มองไปฝั่งตรงข้ามของถนนก็จะเห็นตลาดไข่มุกหงเถียว หันไปทางขวาเดินตรงไปก็เจอ Tiantan แล้ว ไม่มีภาพประกอบนะคะ วันแรกที่มาถึงปรับตัวไม่ได้เย็นมากกกกก ต่ำกว่า -4 ซะอีก เหมือนอยู่ในตู้เย็น วันแรกอาเฮียก็สร้างวีรกรรมซะแล้ว ระหว่างทางที่เดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน อาเฮียก็ทำบัตรรถไฟฟ้าหายค่ะ หล่นตรงไหนก็ไม่รู้ ดีที่ไม่ซื้อเป็นอี้ข่าทง Yikatong มา ตลอดการเดินทางใช้บัตรเที่ยวเดียว เที่ยวละ 2 หยวนค่ะ หากไม่อยากซื้อด้วยเครื่องขายบัตร สามารถซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ก็สะดวกค่ะ เล่าต่อเรื่องบัตรหายนะคะ ตอนแรกก็ตกใจมากว่าจะโดนปรับอะไรไหม มาถึงวันแรกก็ทำหล่นซะแล้ว อาจเพราะเอาเฮียพะรุงพะรังกับทั้งผ้าพันคอ เป้ หมวก ถุงมือ ที่ไม่เคยชิน อุอุ จขบ.เดินออกมาก่อน มาถามเจ้าหน้าที่ตรงเคาน์เตอร์ขายบัตรบอกว่าบัตรหาย ทำอย่างไรดี แล้วก็ชี้ไปที่อาเฮีย ซึ่งยืนรออยู่ที่ประตูทางออกค่ะ สรุปแล้วไม่เป็นไร แล้วเจ้าหน้าที่ก็เปิดประตูให้ออก 555 เลยยิ้มออก โล่งใจไปที
บรรยากาศที่ทางเข้า Tiantan
ในฤดูหนาว ค่าบัตรเข้าชม 30 หยวน รวมทั้งสามแห่งแล้ว Tiantan ในปี ค.ศ.1998 ที่นี่ได้รับเลือกเป็นมรดกโลกค่ะ ไม่เล่าประวัติเรื่องราวของแต่ละสถานที่มากนักนะคะ เพราะ จขบ.จำได้บ้างไม่ได้บ้าง เพื่อนเคยบอกว่าวัยนี้แล้ว เริ่มเปลี่ยนแปลง กินแปะก๊วยทั้งต้นก็ไม่รู้ว่าจะหายขาดไหม ลืมตลอด พูดถึงเรื่องลืมมาเล่าต่อเลยนะคะ จากทางเข้าซื้อบัตรเข้าชม ก็มีเครื่องบรรยายนำเที่ยวให้เช่า ถามอาเฮียว่าเอาไหม แหม...คนใจดีก็บอกว่าตามใจ เครื่องบรรยายนำเที่ยวราคาค่าเช่าจะเหมือนทุกสถานที่ท่องเที่ยวค่ะ ค่าเช่า 40 หยวน มัดจำ 100 หยวน ได้รับคืนเมื่อนำเครื่องมาคืน สำหรับที่ Tiantan อาเฮียบอกว่าไม่ค่อยคุ้ม เพราะบรรยายอะไรคนฟังสองคนนี้ก็จำไม่ค่อยได้ค่ะ แถมอุปกรณ์ที่ปกคลุมร่างกายเยอะอยู่แล้ว เวลาพกเครื่องบรรยายไปด้วยก็เลยรู้สึกพะรุงพะรังไม่สะดวก กลัวว่าจะทำอะไรตกหล่นเสียหายอีก ที่น่าสงสัยที่สุดก็คือ เดินมาด้วยกัน แต่เสียงบรรยายมาไม่พร้อมกันค่ะ เราสองคนก็เลยงงมาก บางครั้งรออยู่นาน อีกเครื่องบรรยายจบแล้ว อีกเครื่องจึงจะเริ่มบรรยายอีก และเดินไปเดินมาเครื่องก็เงียบไปเฉยๆ แต่อีกเครื่องยังบรรยายจุดท่องเที่ยวอยู่ สรุปแล้วอาเฮียไม่ประทับใจกับเครื่องนี้เลย สถานที่หลังๆ ก็เลยอดค่ะ กางหนังสือที่นำติดตัวไปแล้วเดินไปตามจุดต่างๆ ตามใจฉันแทน มาชมที่แรกกันค่ะ จากจุดที่แลกตั๋วกับเครื่องบรรยาย เดินเรื่อย ผ่านประตูมาก็ถึงจุดแรกค่ะ ภาพด้านหน้าตำหนักสักการะ (ฉีเหนียนเตี้ยน Qinian Dian) ฉีเหนียนเตี้ยนเป็นสถานที่สำหรับบวงสรวงฟ้า เพื่อให้พืชพรรณอาหารอุดมสมบูรณ์ สร้างเมื่อปี ค.ศ.1420 ในปีที่ 18 ของจักรพรรดิหย่งเล่อ ราชวงศ์หมิง
ถ่ายระยะไกล จะเห็นร่องรอยของหิมะที่อยู่ด้านหน้า
ภาพด้านใน ตำหนักทรงกลมโครงไม้ หลังคาไม่มีคาน เสาต้นใหญ่สี่ต้นด้านในหมายถึง 4 ฤดูกาล
ด้านในตัวอาคารที่อยู่ด้านข้างจะมีนิทรรศการเล็กๆ ให้ชม
จากนั้นก็เดินผ่านสะพานตานปี้ Danbi Qiao สะพานนี้ ยาว 360 เมตร เชื่อมระหว่างฉีเหนียนเตี้ยนกับตำหนักหวงฉงอี่
ห้องเปลี่ยนเครื่องทรงของจักรพรรดิที่อยู่ด้านข้างของสะพาน ใช้เปลี่ยนเครื่องทรง ล้างมือ และรอก่อนไปบวงสรวง และกลับมาเปลี่ยนเครื่องทรงอีกครั้ง (หากใช้คำไม่ถูกต้องก็ขออภัยด้วยนะคะ)
จากเครื่องบรรยาย บอกว่าตรงกลางนี้เป็นทางเดินของจักรพรรดิค่ะ แต่หนังสือบางเล่มที่เป็นคู่มือนำเที่ยวกลับบอกแตกต่างกันไป ถนนด้านซ้ายเป็นของจักรพรรดิ ขวาเป็นของขุนนาง เรื่องทางเดินตรงกลางเป็นของจักรพรรดินั้น วันต่อมาที่ไปพระราชวังฤดูร้อนก็ได้ยินมาแบบเดียวกัน ฉะนั้น น่าจะสรุปได้ว่าตรงกลางเป็นทางเดินของจักรพรรดิค่ะ มาสู่สถานที่ต่อไป ตำหนักหวงฉงอี่ Huang Qion Yu หรือหอเทพสถิต สร้างปี ค.ศ.1530 ใช้สำหรับประดิษฐานแผ่นป้ายองค์เทพ หลังจากนั้นมีการสร้างปรับปรุงใหม่อีกหลายครั้งค่ะ
แท่นบูชาฟ้ามี 3 ชั้น ขออภัยที่ต้องเอารูปนายแบบลง เพราะไม่มีภาพอื่นแล้ว อุอุ หนาวมากค่ะ ไม่อยากกดถ่ายภาพสักเท่าไหร่ หนาวจนมือชา จากใจกลางกลางแท่นบูชา จำนวนหินเรียงกันแผ่ออกคล้ายรูปพัด ที่นี่สร้างผูกพันกับเลข 9 หินเพิ่มทีละ 9 แผ่น รวมเป็น 3,402 แผ่น ที่นี่จะมีคนไปยืนกลางแท่นบูชา เพื่อขอพร หรืออธิษฐาน? ไม่แน่ใจ บางคนหันไปไหว้รอบทิศเลยทีเดียว และเราสองคนก็ต้องไปขอพรบ้าง... ส่วนกำแพงเสียงสะท้อนเดินผ่านแล้วไม่ได้ทดลองค่ะ หนาวยะเยือกมากๆ บอกกับอาเฮียว่า "ฉันพอแล้ว มาถึงแล้ว" 555 เก็บภาพไปเรื่อย ตามเท่าความอึดที่มี ไม่เหนื่อย แต่หนาว หินเจ็ดดาว
ระเบียงยาวก่อนถึงทางออก มีภาพวาดสวยงาม ในเครื่องบรรยายมีบรรยายถึงค่ะ แต่ก็จำอะไรไม่ได้ = =' ดูแผนที่แล้วมีอะไรอีกหลายแห่งในสวนที่ยังไม่ได้ไปดู แต่ตอนนั้นเดินท้าลมหนาวไม่ไหวจริงๆ อยากหาที่อุ่นๆ กว่านี้ ช่วงเย็นๆ ประมาณ 4 โมงเย็นจึงเดินออกมาค่ะ ข้ามถนนซื้อของที่ตลาดไข่มุกหงเฉียว ที่นี่เจอคนไทยด้วยค่ะ เป็นชายหนุ่มนักท่องเที่ยวสองท่านกำลังปรึกษาหารือว่าจะไปกินแมคโดนัลกัน แต่ไม่ได้ไปทักทายนะคะ ชั้นบน ซื้อของที่ระลึก แต่ละร้านติดราคาไว้แพงน่ากลัวมาก โปรดต่อรองให้ติดดินในราคาที่อยากได้นะคะ ไม่ได้ก็ไม่เอา และชั้น 1 ซื้อซิมโทรศัพท์อี๋ต้งที่อยากได้ รวม 160 หยวนเชียว แพงมากกก มีค่าโทร. 100 หยวน 60 หยวนเป็นค่าบัตรสำหรับโทรกลับไทยในราคาพิเศษ มีรหัสสำหรับโทรกลับประเทศไทยได้ในราคาถูกค่ะ แต่ราคาค่าบัตรรวมแล้วไม่เบาเลย ไม่ได้ถ่ายรูปตลาดไข่มุกหงเฉียวนะคะ หนาวๆ แล้วเกิดอาการไม่ค่อยอยากถ่ายรูปค่ะ จากนั้นก็เดินทางไปโปรแกรมต่อไปค่ะ สนามกีฬารังนกค่ะ ดูจากแผนที่วางไว้งานนี้ต้องต่อรถไฟใต้ดินหลายสถานีทีเดียว อาเฮียบ่นอุบอิบ จขบ. (ไม่เข้าใจว่าเหมือนกันตรงไหน) สรุปแล้วได้มา แต่ก็ถึงจนได้ค่ะ กว่าจะถึงท้องฟ้ามืดแล้ว ลมหนาวยะเยือกเกินทน รีบๆ ถ่ายรูปและฝ่าลมหนาวกลับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน งดโปรแกรมสุดท้าย wangfujing ไปโดยปริยาย กัดฟันเดินไม่ไหวจริงๆ แถมโปรแกรมพรุ่งนี้ที่วางไว้เป็นกำแพงเมืองจีน กับสุสาน 13 กษัตริย์ที่ต้องออกนอกเมืองด้วย จึงตัดสินใจเปลี่ยนโปรแกรมสลับกับแผนการเที่ยวของวันอื่นแทน
สนามกีฬาโอลิมปิก ยามค่ำคืน โครงตาข่ายเหล็กคล้ายรังนก
สระว่ายน้ำแห่งชาติ รูปทรงสี่เหลี่ยมคล้ายฟองน้ำ โปรแกรมวันรุ่งเช้า 28 ธันวาคม 2555 เปลี่ยนสลับเป็น พระราชวังฤดูร้อนค่ะ Yiheyuan แทนกำแพงเมืองจีน งานนี้เจออาชีพใหม่ของคนจีน หรือเก่าแล้วก็ไม่แน่ใจ จะมาเล่าใหม่อีกทีนะคะ ภาพอาจไม่สวยเท่าไหร่ ใช้กล้องดิจิตอลธรรมดาค่ะ กล้องนี้มีปัญหากับการถ่ายภาพกลางคืนค่ะ นึกว่าจะเสียเพราะอากาศหนาวซะแล้ว ใช้ไปสองสามวันฝ้าขึ้นเต็มหน้าจอเลย มองไม่ค่อยเห็นภาพ กดถ่ายแล้วจึงขึ้นภาพมาเหมือนเดิม นึกว่าจะต้องเอากล้องอีกตัวมาใช้ ยังโชคดี กระเสือกกระสนถ่ายจนได้ *มีการแก้ไขขนาดภาพค่ะ |
วิรตี
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] Friends Blog |