เที่ยวเมืองสุพรรณบุรี

เนื่องมาจากคุณนายแม่ ต้องการสำรวจที่จะพาเด็กนักเรียนไปทัศนศึกษา หลังจากไปวาดลวดลายไว้ที่สุโขทัย-ศรีสัชนาลัยเมื่อหน้าหนาวที่ผ่านมา คุณนายแม่เลยวางโครงการณ์สำหรับปี 52 ว่าจะพาเด็กมาเที่ยวสุพรรณบุรี-อยุธยา แต่เนื่องจากอยุธยาเชี่ยวแล้ว หลับตาเดินยังได้ เลยตกลงกันว่าเจะไปสำรวจสุพรรณกันก่อน

เราเลยนัดแนะกันว่าจะเดินทางวันที่ 31ม.ค-1 ก.พ เพราะเราได้แตะเอียและมีเงินพาแม่เที่ยวได้ (แหะ แหะ) ไม่งั้นคงกร่อย

31 ม.ค 52 : ออกเดินทางเช้า ไม่ตรู่ เดินทางแบบตามแผนที่ใช้เส้นทางบางบัวทอง-สุพรรณฯ พเข้าใกล้สุพรรณฯเราก็ถกเถียงกันว่าจะไปไหนก่อน เนื่องจากเราไม่มีวางplan กันเลย 5555 ดังนั้นเราเลยคิดกันว่าเที่ยวนอกเมืองกันก่อนแล้วค่อยกลับมานอนในตัวเมืองเช้ารุ่งขึ้นค่อยเที่ยวในตัวเมืองกัน เมื่อเห็นพ้องต้องกัน เราเลยดิ่งไปสักการะสมเด็จพระณเรศวรที่อนุสรณ์ดอนเจดีย์ก่อน ซึ่งวันที่ไปตรงกับงานดอนฯพอดีแต่ยังเป็นช่วงกลางวันคนเลยไม่เยอะ เราก็เข้าไปไหว้สมเด็จพระณเรศวร แล้วไปดูนิทรรศการที่ทำเป็นอาคารครอบเจดีย์ไว้ เค้าก็ว่ากันว่าเจดีย์นี้ทำครอบศพพระมหาอุปราชาที่แพ้รทำยุทธหัตถี แต่พม่าบอกไม่ใช่ ตอนนั้นเอาศพกลับพม่าไปแล้ว อืม..เราจะเชื่อใครดี เกิดก็ไม่ทัน

เสียดายมากๆๆ ที่รูปที่ดอนเจดีย์อยู่ในกล้องแม่อีกแล้ว แล้วจะเอามาลงวันหลังนะคะ

ออกจากดอนเจดีย์ เราก็จะไปบึงฉวากกัน เราผ่านอ.สามชุกที่มีตลาด 100ปีอันลือลั่นทำให้เราอกและไม่ได้เพราะได้ข่าวว่าของกินเพียบ หุหุ





ของกินเพียบจริงๆๆ เต็มไม้เต็มมือ และได้ไก่ไม้ตัวนึง หน้าตาเหมือนเข้มข้นเลย

ออกจากสามชุก อิ่มทั้งท้องอิมทั้งใจ อยากมีเวลาที่นี่นานๆๆจัง เพราะยังเดินไม่ทั่ว เอาไว้คราวหน้านะ วันนี้ต้องรีบไปบึงฉวากก่อนจะปิด

เราตางดิ่งไปบึงฉวาก สวยมากๆ บรรยากาศดีสุดๆ มีบ้านพักริมบึงด้วย ยังคุยกันเลยว่าหรือเราจะนอนที่นี่ .... ไม่ได้ยอนเสียงจากสวรรค์เลยไปต่อ เฮ้อ อดเลย

วิ่งผ่านสวนสัตว์ เข้าไปถึงส่วนที่แสดงพันธ์สัตว์น้ำจืด ก่อนเข้าชมปลา แวะถ่ายรูปกับมังกรก่อน

ในที่จัดแสดงพันธุ์ มีปลาสวยงามมากมาย ทำได้ดี แต่จะบอกว่าตรงอุโมงเล็กก่วที่ร้อยเอ็ดอ่ะค่ะ



ปลาม้า ปลาขึ้นชื่อของสุพรรณฯ มาแล้วไม่ได้กินเหมือนว่ามาไม่ถึง แต่ไม่อร่อยอ่ะ ขอบอก ขอบอก

หลังจากนั้นเราก็ไปดูจรเข้กัน มีจรเข้ผอมๆด้วยน่าสงสาร

ไกรทองน้อย
ขเมข้นอยากเล่นลูกลมลอยน้ำแต่พอได้เล่นจริงๆร้องไห้กลัวๆๆ เซ็งมัน

เผ่นจากบึงฉวากเราก็ดิ่งเข้าเมืองเพราะทุ่มกว่าแล้วยังไม่มีที่พักเลย ไปตายเอาดาบหน้าจริงๆเลยวุ้ย วิ่งวนไปวนมา เลยโทรถามอาร์ตรุ่นน้องที่ทำงานพี่ต่อเค้าเป็นเจ้าถิ่นสุพรรณฯ เค้าแนะนำ รร.ศรีอู่ทอง ใหม่ กับเก่า เราไปดูที่เก่าแล้ว บรึ๋ยย เก่าจริงๆๆ แค่ดูด้านนอกก็ไม่เอาแล้วกลัวมีแขกไม่ได้รับเชิญมาเยี่ยมตอนกลางคืน เลยไปนอนที่ศรีอู่ทองใหม่กัน ห้องพักดี อาหารอร่อย มีนวดด้วยแต่ไม่ได้ลองใช้บริการตอนกลางคืนนอนไม่ค่อยหลับเพราะหนูกลมนอนดิ้นและร้อง เราเลยเนรเทศลุกไปนอนบนพื้น เงียบเลยทีนี้

วันที่ 2 : 1 ก.พ 52 ตื่นกันแต่เช้า ลงมากินข้าวแล้ว check out จุดหมายต่อไป ไหว้พระวัดป่าเลไลย์ เราก็ไปทำสังฆทานกัน แล้วเดินดูภาพวาดฝาผนังเรื่องขุนช้างขุนแผนกัน สวยมากๆๆ แม่เราถ่ายภาพประกอบการสอนเพียบเลย
กลมตีระฆังค่ะ

ด้านหลังของวัดมีเรือนขุนช้าง เป็นเรือนไทยที่เก็บวัตถุโบราณและถ้วยชามเก่าๆ
ขุนช้างเข้ม

กลมชอบช้างพ่นน้ำมากเลย กว่าจะดึงกลมออกจากตรงนี้ด้ร้องแทบบ้านแตก

ออกจากวัดป่าเลไลย์ก้มาต่อที่ศาลหลักเมืองและพิพิธภัณฑ์ลูกหลานมังกร แต่ไม่ได้เข้าเพราะเราไปถึง 11 โมง เค้าแจ้งว่ารอบที่ได้จะเป็นรอบ 17.30 โหย.. ไม่รอล่ะค่ะ เพราะเค้าให้เข้ารอบนึง 20คน และรอบนึงใช้เวลาประมาณ 1ช.ม ครึ่ง เราเลยวนๆถ่ายรูปกันแล้วรีบเผ่นเพราะร้อนมากแถมควันธูปเพียบเข้าตา แสบม๊ากๆๆๆ


ออกเดินทางต่อไปวัดพระนอน(หงาย) ไม่ได้ถ่ายรูป่อะ รูปอยู่ในกล้องแม่ และวัดมหาธาตุ ที่เค้าขุดกรุพระผงสุพรรณฯ

ก่อนกลับบ้านแวะซื้อของฝากประเภทขนมสาลี่ที่ขึ้นชื่อของสุพรรณฯ ที่ร้านสาลี่เอกชัย มีรวบรวบขนมไทยเยอะแยะมากมาย ทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก และของโปรดเรา ข้าวเกรียบปลาช่อน อิอิ หลังจากใช้เวลาshopping เกือบๆชั่วโมง ได้ของฝากเพียบชนิดที่ถามกันว่าจะยัดใส่รถยังงัยดี 5555 แล้วป๊าต่อก็ค่อยๆพากเพียรยัด จนหมด แล้วจึงเดินทางออกจากสุพรรณฯ 16.00น

ถึงบ้าน เกือบๆทุ่ม Home Sweet Home

Create Date : 06 มีนาคม 2552		3 comments
Last Update : 24 มีนาคม 2552 9:40:59 น.
Counter : 1313 Pageviews.
Share Tweet