Trip : เชียงราย นอนหนาวที่บ้านพี่ ตอนที่ 1 เวียงกาหลง
Trip : เชียงราย นอนหนาวที่บ้านพี่ ตอนที่ 2 น้ำพุร้อนแม่ขะจาน
Trip : เชียงราย นอนหนาวที่บ้านพี่ ตอนที่ 3 ต้มเลือดหมู จิงจูฉ่าย

Trip : เชียงราย นอนหนาวที่บ้านพี่ ตอนที่ 4 ชิมขาหมูหมั่นโถว ดอยแม่สลอง

 วันนี้พาไปเที่ยวลำปาง กันบ้างค่ะ  คราวนี้ไม่ได้พาไปนั่งรถม้าแอ่วเมืองลำปาง  หากแต่จะพาไปสัมผัส 2 บรรยากาศ ทั้งน้ำตก ที่เย็นฉ่ำ และ  น้ำพุร้อนที่เฉลี่ยนความร้อนถึง 73 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว  ที่ อุทยานแห่งชาติ แจ้ซ้อน

การเดินทาง

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนอยู่ห่างจากตัวเมืองจังหวัดลำปางประมาณ 75 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปอุทยานแห่งชาติได้ดังนี้

• จากตัวเมืองลำปาง ไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1035 (ลำปาง-วังเหนือ) จนถึงปากทางเข้าอำเภอแจ้ห่มไปประมาณ 3 กิโลเมตร จนถึง กม.ที่ 58 เลี้ยวซ้ายมาตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1287 ซึ่งผ่านอำเภอเมืองปาน และเลี้ยวไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1252 (ข่วงกอม-ปางแฟน) เป็นระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าอุทยานแห่งชาติตามทาง รพช.อีกประมาณ 3 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน 

• จากตัวเมืองลำปางไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 11 (ลำปาง-ห้างฉัตร) เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1157 (ลำปาง-ห้วยเป้ง-เมืองปาน) ระยะทาง 55 กม. เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1287 (เมืองปาน-แจ้ห่ม) ประมาณ 2 กิโลเมตร เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1252 อีกประมาณ 11 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าอุทยานแห่งชาติตามทาง รพช.อีกประมาณ 3 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน

อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอเมืองปาน อำเภอแจ้ห่ม อำเภอวังเหนือ และอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด มีสภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร มีสัตว์ป่านานาชนิด และมีทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง เช่น น้ำตก แอ่งน้ำอุ่น บ่อน้ำพุร้อน ซึ่งสามารถเป็นหลักฐานหนึ่งที่แสดงว่าใต้พื้นโลกเรายังมีความร้อนระอุอยู่ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง มีเนื้อที่ประมาณ 480,000 ไร่ หรือ 768 ตารางกิโลเมตร   ภายในที่บ้านพักบริการด้วย แต่หากพาเที่ยวพักผ่อนอย่างเดียว ที่นี่ก้อมี ลาดจอดรถกว้างขวางเชียวค่ะ

ลานน้ำพุร้อนของที่นี่เป็นลักษณะลานหินกระจายอยู่ทั่วไป  มีกลิ่นกำมะถัน ลอยอยู่ทั่วๆไป แต่ไม่ฉุนมากนัก

เพื่อนที่เดินเข้าไปชม ควรจะใช้ความระมัดระวังนิดนึงนะคะ  ไม่ควรอยู่นอกเส้นทางที่ทางอุทยานทำไว้ให้  เพราะหาก พลัดหล่นขาจุ่มลงไปละก้อ  มีหวังขาหมดสวยแน่ๆ ค่ะ

และก้อเป็นถามธรรมเนียมปฎิบัติค่ะ  น้ำพุร้อน ก้อต้องคู่กับไข่ต้ม  แต่ที่เพิ่งเคยเห็นนี่ คือ ต้มกันเป็นถาดๆ แบบนี้เลย สงสัยว่าจะเอาไปทำไข่พะโล้ รึงัยน๊า ^^

เราเดินลัดๆๆ มาเรื่อย  ๆ ก้อจะเป็นโซน สำหรับอาบน้ำแร่แช่น้ำร้อนกันหล่ะค่ะ มีทั้งห้องอาบแบบแช่ ซึ่งมีอ่างสำหรับลงแช่อาบ จำนวน 11 ห้อง และห้องอาบน้ำแบบตักอาบ โดยแยกระหว่างห้องอาบชายหญิง จำนวน 16 ห้อง อุณหภูมิของน้ำแร่ ประมาณ 39 - 42 องศา  เค้าว่าจะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น  แต่ถ้าคนเป็นความดันโลหิต ควรระมัดระวังนิดนึงนะคะ อย่าแช่นานเกินไป