Petchaboon : ร้านสุนีย์ ไก่ย่าง
เวลาผ่านไปไวจริงๆค่ะ พรุ่งนี้แล้วที่เราจะเดินทางกลับกรุงเทพฯกัน ซึ่งวันนี้เราก้อทานกันที่เดิมค่ะ แม้ในช่วงออกทริปตอนกลางวันจะอากาศร้อนมาก แต่ช่วงค่ำลงอากาศกลับเย็นสบาย นี่ถ้ามาช่วงหน้าหนาวบรรยากาศดีกว่านี้แน่ๆ
วันนี้เราก้อทานกันที่ห้องอาหารของรีสอร์ทเหมือนเดิมค่ะ เลยเอาบรรยากาศตอนกลางคืนมาฝากกันบ้าง ฟ้ากำลังสวยเชียว
ในมื้อนี้ทางรีสอร์ทจัดเป็นอาหารยุโรปมาให้เราค่ะ
จานแรกเลย เราคิดว่าใครมาทานที่นี่ไม่ควรพลาด สลัดบลูสกาย เราว่ารสชาติดี กินแล้วออกสดชื่นๆ อ่ะค่ะ มีไก่ฉีกและแอปเปิ้ล 180 บาท
ซุปครีมเห็ดเข้มข้น ขนมปังกระเทียมอร่อยค่ะ 95 บาท
แซลมอนสเต็ก ธรรมดานะ เราว่ามันแห้งๆ ไปค่ะ 280 บาท
สปาเก็ตตี้แอพพารากัส จืดๆไปหน่อยนะ อาจจะรสชาติฝรั่งมั๊ง 180 บาท
สปาเก็ตตี้เส้นดำปลาเค็ม เส้นสุกกำลังดี แต่ปลาเค็มยังไม่ค่อยเข้ากันดีค่ะ แต่นับว่ารสชาติโอเคค่ะ 180 บาท
พอคชอป อร่อยนะคะ แต่ไม่ได้ถึงกับที่สุดอ่ะบอกไม่ถูก
250 บาท
เพนเน่ จานนี้อร่อยค่ะ รสชาติเข้มข้น ส่วนตัวเราว่าอร่อยสุดอ่ะ มันดูเข้ากันดี 150 บาท
คาโบนาร่าเส้นแบน เละไปหน่อย อาจจะเป็นเพราะว่าเราถ่ายรูปกันนานไปรึเปล่าไม่รู้ แต่รสชาติดีนะ ถ้าเปลี่ยนเป็นเส้นกลมอาจจะดีกว่านี้ 220 บาท
ปิดท้ายมื้อค่ำด้วย บานาน่าบลูเบอรี่ กินคู่กับวิปครีม อร่อยค่ะ เบาๆไม่หนักมาก 75 บาท
สรุปว่า เราว่าที่นี่อาหารไทยจะเด่นกว่านะคะ ยังไงต้องลองกันเองนะ อาจจะไม่ถูกปากเรา แต่อาจจะถูกปากคนอื่นก้อได้
ก่อนที่เราจะกลับไปรับผิดชอบขนมที่ซื้อมาตุนไว้ที่ห้องอีก ทริปนี้พุงจะแตกจริง ๆ
อรุณสวัสดิ์ตอนเช้า วันนี้ต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯแล้ว มีโอกาสอยากจะกลับมานั่งๆ นอนๆ กินๆ ที่นี่ เราชอบบรรยากาศและการตกแต่งที่นี่มากนะ ดูเค้าใส่ใจรายละเอียดในทุกๆ อย่างดีทำให้รู้เลยว่าทำไมใครๆ ก้อติดใจ บลูสกายที่ เกาะพยาม อาหารก้ออร่อย ราคาก้อเหมือนกับเรากินข้าวที่ร้านอาหารทั่วไปนั่นหล่ะไม่ต้องขับรถด้วย สรุป ถือว่าเป็นที่พักอีกที่ใน List ที่จะกลับมาเยือนอีก
มื้อเช้านี้ทางรีสอร์ทจัดเป็นข้าวต้มให้เราค่ะอร่อยใช้ได้เหมือนกัน ก่อนกลับเราถ่ายรูปเล่นกันรอบๆรีสอร์ท ซึ่งต้องขอบคุณทาง Blue Sky, คุณบี และพี่เต้ยที่ชวนมาเที่ยวนะคะ
บ๊ายบาย บลูสกาย