ลั๊ลลาบนดอยแม่สลอง...เปิดทริป “พระเจ้าให้ขาไว้เดิน” ฉบับปฐมฤกษ์ ตอน 1


อยู่ๆ โอกาสจะได้ไปลั๊ลลาก็มาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
เมื่ออยู่ๆ หัวหน้าก็สั่งให้ไปปฏิบัติภารกิจที่เชียงราย ในวันศุกร์-เสาร์ ที่จะถึง
แถมเมื่อดูตารางงานก็พบว่า จริงๆ เสร็จงานตั้งแต่เช้าวันเสาร์
ด้วยสมองอันชาญฉลาด (แบบงกๆ 555) ก็ปิ๊งแว๊บบบ ไอเดียขึ้นมาทันที

“เฮ้ยย งั้นก็ขอตั๋วกลับวันอาทิตย์แทน แล้วเที่ยวต่อได้อะดิ หุๆๆ”

....... ดอยแม่สลอง...... คือสิ่งแรกที่ปิ๊งๆๆๆ ขึ้นมาในสมอง
ของคนที่หลงใหลใบชาอย่างเรา


!!! แต่ !!!

…“แกจะไปดอยแม่สลองทำไมง่ะ ตอนนี้ไม่หนาว นางพญาเสือโคร่ง
ยังไม่บาน ไม่มีไรหรอก”...

... “บ้าป่าววว ไปเที่ยวดอยคนเดียว ต้องเหมารถไปนะเอ็ง แพงๆๆๆ
ไม่มีตังค์อยู่ไม่ใช่ฤ”...

... “เฮ้ยยยย ขี้โรคอย่างเอ็ง ไปคนเดียว น็อคไปทำไงฟะ ห้าวไปแล้วเอ็ง
รอให้พวกตูว่างก่อนดีกว่า”

มารนกกระจิบ ขาเม้าท์ บล๊าๆๆๆๆ บลาๆๆ กันเซ็งแซ่



ยิ่งย้ำให้หวั่นๆ ใจว่า ตูจะไหวไหมหนอ ช่วงนี้สภาพร่างกายยิ่งไม่เต็ม 100
แถมตั้งแต่รู้ตัวว่าAnatomy ตัวเองไม่ปกติเหมือนมนุษย์ทั่วไป
มีความเสี่ยงอยู่บ้างที่จะน็อคได้ง่ายๆ ก็ไม่เคยจะไปเที่ยวไหนคนเดียว
อีกเลย...(ป๊าดดด พูดได้เนอะ จริงๆ คือไม่เคยไป “เที่ยว” คนเดียว
ที่เคยไปคนเดียวคือไป “ทำงาน” ทั้งนั้น แถมเป็นงานที่ไปแต่ตัว+สมอง
นอกนั้นมีคนเตรียมการ+จ่ายตังค์ให้ทั้งหมดอีกต่างหาก )

แต่ในใจก็คิดว่า “เอาฟะ ถ้าไม่ไปงานนี้ ไม่รู้ชาตินี้จะได้ไปอีกหรือเปล่า”
เพราะชีวิตวุ่นวายยากจะวางแผนอนาคตได้







ตัดมาวันเดินทาง ด้วยอิทธิฤทธิ์จากการจัดสัมมนาใหญ่ของหลายกระทรวง
ทำให้ตั๋วการบินไทยเต็ม!!! ทุกไฟลท์ในวันนั้น (มารู้ทีหลัง เพราะโรงแรมที่
ไปพัก เต็มไปด้วยมนุษย์สูทดำ และป้ายต้อนรับ )

นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เราต้องเดินทางด้วย “แอร์เอเชีย” !!!!
ทำให้หมู่เพื่อนมารงงมากมาย เพราะคิดว่าที่รู้ลึกรู้ดีถึงเทคนิคในการจองตั๋ว
โปรหางแดง น่าจะมาจากการบินกับหางแดงบ่อยๆ

แต่!!! เปล่าเลยคร้าบบ พี่น้อง ศึกษาข้อมูลจากหมอยุ่งฯ
และสารพัดกระทู้ในห้องบลูฯ เท่านั้นเอง ก็เลยสอยตั๋วโปรให้เพื่อนได้เสมอ
ไม่เค๊ยไม่เคยจะบินเอง

แถมเมื่อต้องเดินทางด้วยไฟลท์ 7 โมงเช้าของหางแดง
อาการหน้าจะมืดก็เกิดขึ้น ก็ “ตูจะตะกายไปสุวรรณภูมิยังไงวุ้ยยยย”

ก็รถตู้อนุสาวรีย์ชัย-สุวรรณภูมิ วิ่งเที่ยวแรก 6 โมงครึ่ง
ต่อให้ทำเว็บเช็คอินไปก่อนก็ตะกายวิ่งไปขึ้นเครื่องไม่ทันแน่นอน !!???!!!
เพราะสโลแกนของหางแดง คือ “ตูไม่รอเอ็ง แม้เอ็งจะเช็คอินแล้ว 555”

“เอาฟะ เสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน” เลยตะกายออกจากบ้านมาตอนตี 3
แล้วนั่งแท็กซี่มาอนุสาวรีย์ชัย รอรถเมล์ สาย 551 ดูแล้วกัน


คงต้องมีคนสงสัยว่า ทำไมไม่นั่งแท็กซี่ยาวไปเลย คำตอบคือ “งกอะดิ”
จากบ้านไปสนามบินไม่ต่ำกว่า 250 บาทแน่ๆ
(แต่ถ้านั่งไปแค่อนุสาวรีย์ฯ แค่ 65 บาทก็พอ)
แถมตลอดทางไปก็มืดๆ จะถูกตีหัวหมกข้างทางหรือเปล่าวุ้ย ไม่เอาดีกว่า

ไปถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ 3.10 น. ฆ่าเวลาด้วยการนั่งคุยกับเด็กมหาวิทยาลัย
ต่างจังหวัดที่ตกรถ เลยต้องนั่งรอรถเที่ยวเช้า พอตี 3 50 รถสาย 551 ก็มา

คุยกับคนขับรถได้ความว่า มีรถวิ่งตลอดคืน
แต่หลัง 4 ทุ่มจะออกชั่วโมงละคัน เท่าที่สังเกตก็ออกจากสนามบิน
ราวเลข 12 บนหน้าปัดนาฬิกา แล้วราว 45 นาทีก็ถึงอนุสาวรีย์ชัย
จอดรอแป๊บหนึ่งก็ออกแล้ว

ฉะนั้นจากอนุสาวรีย์ชัย ถ้าต้องไปไฟลท์เช้า ก่อนรถตู้วิ่งเที่ยวแรก ก็มาถึง
อนุสาวรีย์ชัยราว เลข 9 บนหน้าปัดนาฬิกา ก็ไม่ต้องเสียเวลารอนานแล้ว
(อย่าให้เกินนะ เดี๋ยวต้องรอเที่ยวต่อไปไม่รู้ด้วย)






แต่ก็ต้องมีเหตุให้ระทึกก่อนถึงสนามบิน
เมื่อรถเมล์กำลังจะไปถึงบัสเทอร์มินัลแล้ว อยู่ๆ ผู้ดูแลทริปก็โทรมาบอกว่า

“พี่เช็คอินให้ไม่ได้ง่ะ กราวน์บอกว่า คุณน้องต้องมาโชว์ตัวที่เคาน์เตอร์
พาสปอร์ตที่คุณน้องให้มา เขาไม่เอาง่ะ” ???!!!!

>>>> ป๊าดดดดด อีก 10 นาที 6 โมง แต่เคาน์เตอร์หางแดงปิดก่อน
45 นาที ป๊าดด ทันป่าวเนี้ย <<<<



มารดำเลยต้องงัดวิทยายุทธ์วิ่งสู้ฟัด !!! วิ่งจี๋ๆๆ กระโดดขึ้นชัตเตอร์บัส
แว๊บๆๆๆ ไปหน้าเคาน์เตอร์ D19

ยื่นบัตรประชาชนให้สาวงามชุดแดงแบบหอบแฮกๆๆ
ด้วยความเป็นมนุษย์อยากรู้อยากเห็นเลยถามไปว่า
ทำไมใช้พาสปอร์ตเช็คอินแทนไม่ได้หรือ

ปรากฏว่า สาวชุดแดงบอกว่า “ได้คะ แต่ผู้โดยสารต้องมาแสดงตัว”

.... อืมมมม แล้วถ้าทำเว็บเช็คอินผ่านเน็ตมาแล้ว
ต้องมาแสดงตัวด้วยป่าวววว....

คำตอบมาให้งงๆ ยิ่งกว่า
“อ๋อ ไม่ต้องคะ ถ้าปริ้นตั๋วมาแล้ว แล้วไม่โหลดกระเป๋า”

ป๊าดดด งงๆ เพราะปกติบิน TG . ก็ให้เลขานาย เอาพาสปอร์ต
ไปเช็คอินให้ก่อนได้ทุกที แล้วมารดำค่อยวิ่งไปรับตั๋วทีหลัง
(ก็ไปด้วยรถเมล์นิ ถึงช้ากว่านายทุกที 555)



555 อุตส่าห์วิ่งไปหน้าตั้ง ปรากฏว่า กว่าจะเรียกขึ้นเครื่องตั้ง 7 โมง
นั่งเล่นนอนเล่นหน้า gate ตั้งนานง่ะ

แถมพอขึ้นเครื่อง ง่ะ A320 (ง่ะ ไม่เคยนั่งรุ่นเล็กขนาดนี้)
เห็นที่นั่งตัวเองแทบช็อค 31E ตรงกลางแถวสุดท้ายพอดี

ป๊าดดดด ตูเป็นมารดำที่กลัวที่แคบง่ะๆๆๆ ชีวิต 31E มันแคบสุดๆๆ
เหงื่อเริ่มแตก !!!! ทำไงดีฟะ



สุดท้ายต้องกลั้นใจ เกาะแขนรุ่นน้องจากบริษัทอื่นขอแลกนั่งริมทางเดินแทน
แต่ถึงกระนั้นก็เป็น 1 ชั่วโมงที่ต้องนั่งสวดมนต์ตลอดทาง กันอึแตก 555









ป.ล. เอาภาพหน้าเคาน์เตอร์หางแดงมาฝาก ใครไปไฟลท์เช้าขอให้เตรียมใจ
+เผื่อเวลา รับมือกับมหกรรมจลาจล






Create Date : 13 ธันวาคม 2552
Last Update : 17 มกราคม 2553 0:06:54 น. 4 comments
Counter : 500 Pageviews.

 
โปรดติดตามตอนต่อไป 555


โดย: เสียงลมหนาว วันที่: 13 ธันวาคม 2552 เวลา:0:17:56 น.  

 
ิมาเยี่ยมชม ครับ


โดย: หมื่นลี้ ทวีโค้ง (JKKGRAPHIC ) วันที่: 13 ธันวาคม 2552 เวลา:8:10:44 น.  

 
รอชมตอนต่อไป


โดย: คนเมืองตำน้ำกิน (comnow1234 ) วันที่: 13 ธันวาคม 2552 เวลา:18:27:35 น.  

 
เข้ามาเกาะปีกเครื่องบินด้วยคนคร๊าบ


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 22 ธันวาคม 2552 เวลา:16:34:06 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เสียงลมหนาว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




winter's voice
มุมมองของฤดูหนาวที่ยังคงอยู่
แม้อุณหภูมิจะเปลี่ยนไป

เช่นเดียวกับจิตใจคน
แม้วันเวลาจะเปลี่ยนแปลงไป
แต่แก่นแท้ในจิตใจจะยังเหมือนเดิม???


นี่จึงเป็นเหตุผลที่ฉันเลือกจะอยู่เงียบๆ ตรงนี้
ในบ้านของตัวเอง ไม่ใช่โลกสีฟ้าใบใหญ่อีกต่อไป
หลังจากนี้จะแบ่งปันอะไรคงจะอยู่ในบ้านหลังนี้
ใครอยากจะถามอะไรก็แปะไว้ก็แล้วกันนะ



ป.ล. โปรดทราบทุกอมยิ้มที่แวะเวียนมา
เป็นที่ซาบซึ้งใจยิ่งนัก แม้ไม่ได้เม้นท์ตอบ
แต่ก็แอบอมยิ้มอยู่เงียบๆเสมอ \(^O^)/



ป.ล. 2 ขออภัยที่ไม่เปิดเผยใบหน้า
เพราะอยากให้อ่านกันที่เนื้องาน
มิใช่เปลือกที่อาจจะบังเอิญได้พบเจอ




Update !!!

Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
13 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เสียงลมหนาว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.