สำหรับมือใหม่ตะลุยสิงคโปร์แบบไฮโซย่ำต๊อกๆๆ

555 ในที่สุดก็ได้ฤทธิ์ปั้นบล็อกตะลุยสิงคโปร์กะเขาเสียที
หลังจากดองเก็บไว้จะ 2 เดือนแล้ว ด้วยสารพัดเหตุผล
ก็ดั้นเป็นช่วงชีพจรลงเท้าทำให้ต้องลากกระเป๋าไปทำงานต่างแดน
จนโดนไวรัสเล่นงานขี้มูกยืดดดดด ดูบอลโลกไปจามไปให้สุดแสนเซ็ง



แต่อะๆๆๆ !!! อย่าหวังว่าจะชี้แนะในฐานะผู้เชี่ยวชาญสิงคโปร์
เพราะ ณ โลกสีน้ำเงิน มีระดับเทพอย่างคุณทองเอก + etc อยู่แล้ว
(วิทยายุทธ์ข้ายังอ่อนด้อย...ข้าน้อยมิบังอาจ)
ก็เลยแค่จะมาบอกสิ่งที่แปลกใหม่ในมุมมองของตัวเอง
ที่แม้จะไปสิงคโปร์หลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่มีโอกาสได้รู้

เพราะไปที่ไรก็ไม่เคยพ้นตึกซันเทคและโรงแรมที่อยู่ใกล้ๆ
(แค่ข้ามสะพานลอยก็ถึงแล้วง่ะ) จะได้ออกมาข้างนอกบ้าง
ก็เมื่อถูกต้อนๆๆ ให้ขึ้นรถไปโน้นนี่

(รูปข้างล่างถ่ายจากห้องนอน...ตึกรูปหนามๆ = ซันเทค..ที่ทำงาน)



อย่างดีก็แค่ได้มีโอกาสตะกายออกมาดมๆแถวซิตี้ฮอลล์
(แลกมาด้วยการตื่นเช้ามากๆๆๆ)
ก่อนจะรีบจ้ำๆ กลับมาทำงานถึงค่ำมืด -__-‘
555 เป็นการไปต่างประเทศที่คุ้มค่าจริงๆ ป๊าดดด






แต่ในที่สุดทริปที่รอคอยก็มาถึง
เหตุเพราะไปทำงานหนนี้ ไร้ซึ่งคนมาดูแล
ต้องตะกายช่วยเหลือตัวเองทุกอย่าง
มีแค่ตั๋วเครื่องบินกับห้องพักที่จอง(+จ่าย)ไว้ให้แล้วเท่านั้น

555 โค-ตะ-ระ ดีใจ ที่ไม่ต้องมีคนคอยโทรตาม คอยจิกๆๆ

พร่ำเพ้อเสียนาน...สรุปความ ย้ำอีกทีเลยว่า นี่ “ไม่ใช่รีวิว”
แต่จะมาบอกในสิ่งที่เซียนสิงคโปร์ไม่ค่อยได้บอก...
เพราะมันไม่ใช่ “แนว” ของเซียน



โซลูชั่นที่จะนำเสนอในวันนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่

1> เพิ่งเคยไปสิงคโปร์ และอาจจะไม่ได้ไปอีกในเร็วๆ นี้
(ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงก็คงไม่ได้ไป...หรือจริงๆแล้ว ไม่มีใครคบ 555)

2> มีเวลาเที่ยวอย่างจำกัด(มาก)ในสิงคโปร์
แต่ก็ไม่เน้นเที่ยวแบบเก็บแต้ม หรือทัวร์ตดดม
แบบตดยังไม่ทันหายเหม็นก็รีบตะกายไปที่ใหม่เสียแล้ว
(บังเอิญเป็นคนธาตุลม นิยมผายลมอยู่ตลอดเวลา เลยได้นิยามนี้มา 555)
และที่สำคัญไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะ “จ่ายน้อยที่สุด”






เริ่มแรกเมื่อรู้แน่ๆ แล้วว่าจะไปสิงคโปร์
สิ่งที่บรรดาผู้เคยท่องในโลกสีฟ้า ณ พันทิป มักจะทำคือ
ตั้งกระทู้ขอยืมสารพัดบัตร อาทิ บัตร EzLink และน้องใหม่อีกหลายๆ ชื่อ
เพื่อใช้ในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินและรถเมล์ของสิงคโปร์
ซึงเป็นพาหนะที่ช่วยให้เดินทางรอบเกาะได้ด้วยเวลาแค่แป๊บเดียว
แถมสบายกระเป๋าสุดๆ

เพราะแท็กซี่แม้มารยาทจะ OK การโกงมิเตอร์ยังไม่เคยเจอ
(จากสนามบินไปตึกซันเทคกี่รอบในช่วงเวลาเดียวกันก็ราคาเท่ากันเด๊ะๆ)
แต่ในช่วงเช้า-เย็นมีปัญหารถติดพอสมควร
และการเดินทางในแต่ละเวลายังจะมีการชาร์จเพิ่มจากมิเตอร์
เป็นกฎกติกาที่รัฐกำหนดไว้เพื่อลดการใช้ถนน(ออกใบเสร็จได้)
ซึ่งส่วนใหญ่จะแพงเสียด้วย (ไปไม่ครบ 3 คน ยากจะคุ้ม)




จริงอยู่ที่การยืมบัตรจากสมาชิกในโลกสีฟ้า เป็นทางออกที่ประหยัด
แต่หลายครั้งก็ไม่ได้มีให้ยืม (คิวมันยาว หรือ เดินทางแบบปุ๊บปั๊บ)
แถมคุณเองก็ต้องมีเวลามากพอที่จะรับผิดชอบด้วย
เพราะยืมเขาไปแล้ว เงินก็ต้องเติมคืนให้ (กรุณาอย่างกเกิน)
บัตรก็ต้องไปรับ-ไปส่งคืนให้เจ้าของอย่างปลอดภัย
(เหมือนจะง่าย แต่ถ้างานคุณไม่เป็นเวลา มันก็หนักหนาเหมือนกัน
ที่จะต้องส่งคืนเจ้าของในเวลาอันรวดเร็ว...และว่างตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย)
ยกเว้นแต่คุณจะมองว่ากฏกติกามารยาททางสังคมเป็นสิ่งที่ “อย่าได้แคร์”





สิ่งที่อยากจะบอกคือ แม้ไม่มีบัตร EzLink
หรือบัตรอื่นๆ ที่ใช้เป็นบัตรแทนเงินสดสำหรับจ่ายค่ารถโน้นนี่

คุณก็สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินในสิงคโปร์ได้
(ขอแนะนำการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า แม้จะแพงกว่ารถเมล์นิดหนึ่ง
แต่เข้าใจได้ง่าย+งงน้อยกว่าการหาเส้นทางรถเมล์ให้แมชช์กับจุดขึ้นรถได้
...เราเองยังแมชช์ไม่สำเร็จ เจอป้ายที่เป็นวันเวย์เข้าไป... ก็เลยยังไม่ได้ใช้บริการ 555)

และก็ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องจ่ายค่าเดินทางมากกว่า
คนที่ใช้บัตรมากมายนัก (บางครั้งรวมๆ แล้วอาจจะประหยัดกว่าด้วย)
เพราะแต่ละบัตรมีเงื่อนไขที่ต่างกัน ซึ่งกว่าจะคุ้มค่าได้
อาจหมายถึงคุณต้องอยู่ที่สิงคโปร์มากกว่า 2 วัน
หรือเดินทางแบบขึ้น-ลง ต่อรถมากกว่า 6 ครั้งในแต่ละวัน
ไม่งั้นเงินในบัตรก็สูญเปล่า(ยกเว้นจะใจดีเอามาให้คนห้องบลูฯ ยืมต่อ)

ลองดูข้อมูลเบื้องต้นจาก
//topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2010/04/E9135837/E9135837.html
(อาจต้องเช็คข้อมูลที่อัพเดทสักหน่อย แต่มันก็มีลิงค์ให้ค้นต่อได้นะ)

ลองดูค่ารถได้จากลิงค์นี้ ..ค่ารถใต้ดินในสิงคโปร์(เลือกสถานีขึ้นลงได้)
//www.smrt.com.sg/trains/fares.asp

ถ้าไม่ใช้บัตรก็ = เรท Standard
(คำนวณไปมาแล้ว ถูกกว่าค่ารถในกรุงเทพอีก แต่บ้านเรามีรถเมล์ฟรี 555)




ถามว่า ถ้าไม่มีบัตรแล้วจะทำไง???
สิ่งที่ต้องทำคือ คำนวณดูว่าจะเดินทางแบบต้องต่อรถมากน้อยแค่ไหน
ถ้ามากมายนักต่อวันก็ลงทุนซื้อบัตรก็แล้วกัน

ถ้าไม่ใช่ก็ซื้อตั๋วเป็นครั้งๆ ไป วิธีซื้อตั๋วก็เป็นตู้ๆหน้าตาเหมือน MRT บ้านเรา
(ไปลองฝึกใช้ก่อนก็ได้ สำหรับคนเคยใช้บัตรสะสมเงินแตะติ๊ดๆๆ ที่ทางเข้าอย่างเดียว)

แต่สิ่งต้องรู้คือ ถ้าซื้อตั๋วเป็นครั้งๆ ไป จะต้องจ่ายค่ามัดจำบัตร 1 เหรียญด้วยทุกครั้ง
อาทิ ถ้านั่งจากสถานีที่สนามบินชางฮี มาที่สถานีแรฟเฟิล ค่ารถ = 2 เหรียญ
แต่เวลาหยอดเงินซื้อตั๋วที่ตู้ จะต้องใส่เงินไป 3 เหรียญ(ได้ทั้งเหรียญ+แบงค์)
ตู้ก็จะเด้งบัตรแข็งสีเขียวออกมา ให้เราเอาไปติ๊ดๆ ที่ทางเข้าสถานี

พอขาออกหลังจากติ๊ดบัตรที่ทางออกแล้ว
ก็เดินมาที่ตู้ที่ซื้อตั๋ว หน้าจอ(จอสัมผัส)ของตู้ จะมีปุ่มให้แตะ refund
พอแตะแล้วก็สอดบัตรคืน ก็จะได้เงินคืนมา 1 เหรียญ



สำหรับคนที่ใช้เวลาเที่ยวแต่ละจุดนาน(บ้าถ่ายรูปว่ากันตรงๆ ) +ไปไม่กี่วัน
(จริงๆ ที่เที่ยวสำคัญในสิงคโปร์ อยู่ใกล้ๆ กันชนิดที่เดินต่อๆ กันไปได้
แถมบางจุดมักจะมีชัตเติ้ลบัสฟรีไปโน้นนี่ได้ด้วย)
วิธีนี้น่าจะคุ้มค่ากว่า อย่างเราไป 2 วัน
มีเวลาพอไปแค่ สนามบิน ซิตี้ฮอลล์ ไชน่าทาวน์ = ขึ้นรถ 4 ต่อ
ค่ารถก็ราวๆ 6 เหรียญเท่านั้น
แต่ถ้าซื้อบัตรขั้นต่ำก็มักอยู่ที่ 10 – 15 เหรียญ




สิ่งน่ารู้อย่างที่ 2 ที่จะมาสะกิดบอกในวันนี้คือเรื่อง “ฮัลโหลๆ”
จริงๆ ก็เป็นเหมือนหัวข้อเมื่อกี้ คือ
ในห้องบลูก็มี Sim card ของสิงคโปร์ให้ยืมได้
แต่ถ้ายืมไม่ได้ ทางเลือกที่เหลือคือ “ซื้อเอง” กับ “โรมมิ่ง”

จริงๆ ใช้ซิมสิงคโปร์ค่าโทรจะถูกว่ามากมาย
(3 – 5 บาทเท่านั้นเวลาโทรกลับไทย) ที่ซื้อก็มีมากมาย
แต่ปัญหาคือ ส่วนใหญ่ที่หาซื้อได้ง่ายจะเป็นซิมพรีเพดราคา 15 เหรียญ
แม้บรรดาค่ายมือถือจะมีซิมแบบ 8 เหรียญด้วย
แต่ตามร้านสะดวกซื้อหลายแห่งจะไม่มีราคานี้ขาย



ส่วนการเปิดโรมมิ่งจากบ้านเรา เนื่องจากเป็นสิงคโปร์ ค่าโทรเลยพอทน
แต่ถ้าจะให้ดีลองเช็คโปรโมชั่นของแต่ละค่ายก่อนเดินทางก็จะดี
เพราะราคาไม่เท่ากัน แถมบางค่ายชอบออกโปรโมชั่นเป็นช่วงๆ
ฉะนั้นราคาอาจจะมีขึ้นมีลง ไม่ใช่อย่างที่เราจำได้เสมอไป

อย่างตอนเราไป ทรูมูฟ ค่ารับสายอยู่ที่ 22.70 บาทแต่ดีแทคตั้ง 48 บาท
ค่า SMS ก็ถูกกว่า (อันนี้เคืองดีแทคมากมาย เพราะก่อนหน้านี้ไปโซนเอเชีย
ไม่เคยถึง 12 บาท แต่น้องฟ้าดั๊นเปลี่ยนมาใช้ 12 บาททั่วโลกเลยเซ็งง่ะ)



แต่ปัญหาหลักของการเปิดโรมมิ่งคือ หลายค่ายหลายประเทศ
แม้ missed call ก็สียตังค์ = 1 นาที
ไม่ว่าจะเป็นกรณี “ยิงไป หรือ โดนยิง” ต้องศึกษาให้ดีๆ

ที่น่ากลัวมากเวลาเปิดโรมมิ่งคือ
เจอพวกขายประกันโทรมาให้เราเสียค่ารับสายเนี้ยแหละ

ทางแก้ของบ้านเราคือ
มีซิมเฉพาะที่จะหยิบมาใช้ตอนไปโกอินเตอร์เท่านั้น
มีไว้ 2 ค่ายให้คนในบ้านเวียนเอาไปใช้ ห้ามให้เบอร์นี้กับคนอื่น
มันก็ช่วยแก้ปัญหาไปได้บ้าง ...พอแก้ขัดสำหรับคนเดินทางระยะสั้นๆ





และแล้วก็มาถึง “ไฮไลท์” ของวันนี้ นั่นคือเรื่องกินๆๆ
ปกติถ้ามาสิงคโปร์ คนในห้องบูลฯ ก็แนะนำโน้นนี่กันเยอะ
ตลาด Maxwell ก็เป็นที่ๆ สมาชิกแนะนำทั้งเรื่อง
“รสชาติ ราคาที่ไม่แพงมาก”






แต่วันนี้จะแนะนำ “Food Loft” ณ มารีน่าสแควร์
แม้ราคาจะเริ่มต้นแพงกว่าตลาด Maxwell สักหน่อย
คือเริ่มต้นที่ 3 เหรียญกว่าๆ (ส่วนใหญ่ประมาณ 4 – 5 เหรียญ)
แต่ความเด็ดของที่นี่คือ
เป็นศูนย์อาหารในห้างสรรพสินค้ากลางใจเมือง ที่อาจจะดูพื้นๆ
แต่วิว “แจ่ม” มากในยามเย็น-ค่ำ



เนื่องจากมารีน่าสแควร์เป็นห้างที่อยู่ตรงข้ามกับโรงละครเอสพลานาด
วิวของ Food Loft จึงเห็นทั้ง Marina Bay Sands Casino คาสิโนรูปเรืออลังการ
อ่าวมารีน่า สวนสิงโตทะเลเมอร์ไลออน
แถมในฟู้ดเซ็นเตอร์แห่งนี้ยังมีอาหารหลายสัญชาติ(รสชาติไม่เลวร้าย)
มีที่นั่งทั้งแบบติดแอร์เย็นสบาย และนั่งรับลมริมระเบียงได้
(รูปข้างล่างนี้ถ่ายตอนนั่งกิน ณ Food Loft รู้สึกจะอยู่ชั้น 3 มารีน่าฯ)



ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางแหล่งเที่ยวที่ It’s a must เมื่อมาสิงคโปร์
จึงเหมาะสำหรับเป็นที่พักขาหลังเดินเที่ยวโน้นนี่
แล้วก็กินแบบสบายๆ แต่ไม่แพงมาก ก่อนจะไปย่ำราตรีชมวิวอ่าวฯ
แบบแค่เดินข้ามถนนก็ถึง แถมย่านนี้หากเดินเลาะแม่น้ำไปเรื่อยๆ
ก็จะมีสารพัดที่เที่ยวยามค่ำคืนให้แฮงค์เอ้าท์กันได้หลายระดับ
แบบจะเดินไปเดินกลับสัก 4 – 5 ทุ่มก็ไม่เปิดโอกาสให้ชีวิต
...ได้สยองขวัญจนเกินไป...















ส่วนคนที่หลงใหลในการเดินชมพิพิธภัณฑ์ แต่ทรัพย์จาง
สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีสารพัดพิพิธภัณฑ์ และการไปเที่ยวในวันศุกร์
จะมีหลายแห่งที่ลดค่าเข้าชมเยอะมาก บางแห่งก็ให้เข้าได้ฟรี
ถ้าสนใจ แทบทุกแห่งจะมีเว็บไซต์ให้ค้นข้อมูลได้



นี่กำลังหาจังหวะจะไปดื่มด่ำกับบรรดาพิพิธภัณฑ์ที่เมืองสิงโตให้ได้
เพราะเพื่อนคอเดียวกันที่เคยไปมาบอกว่า “เลิศ”
ไว้หาวันลา+สอยตั๋วราคาถูกได้จะรีบไปตะลุย



ป.ล. 1>>ตั๋วราคาถูกไปสิงคโปร์ ไม่จำเป็นต้องรอแต่เจ้าหางแดง
ยังมีสารพัดเจ้าให้ได้ลอง ล่าสุดเพิ่งสอย “เจ็ทสตาร์” ให้คุณนายแม่
ไปกลับราว 2 พันกว่าบาท เกือบๆ 3 พัน(จำไม่ได้ง่ะ)
แต่เป็นแบบ สอยแล้วเดินทางเลยภายในอาทิตย์นั้น

เพียงแต่ข้อควรระวังในการสอยตั๋วราคาถูก
คือต้องอ่านเงื่อนไขให้ละเอียด โดยเฉพาะเรื่องสัมภาระ
จะต้องจ่ายเงินเพิ่มอะไรยังไง ต้องอ่านให้ชัดนะตัวเอง

ป.ล. 2>>>ถ้าเป็นทริป 3 คน ลองเทียบค่าเดินทางดู
บางจุดแท็กซี่อาจถูกกว่า แต่ค่าแท็กซี่สิงคโปร์มีชาร์จตามเวลาด้วย
เอาเว็บคำนวณค่าแท็กซี่สิงคโปร์มาฝาก
...อภินันทนาการจากคุณทองเอก สุดยอดผุ้รู้เรื่องสิงคโปร์


//www.taxisingapore.com/external/taxi-fare-calculator/

รูปข้างล่างนี่เป็นตัวอย่างที่ปลื้มมาก
ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติของสิงคโปร์ร่วมกับสนามบินชางฮี
จัดกิจกรรมให้เพลิดเพลินระหว่างนั่งรอที่เทอร์มินอล
เป็นการโชว์วัฒนธรรมเกี่ยวกับภาพพิมพ์และตราประทับต่างๆ
ใครจะช็อปก็ตามสบาย แต่มารดำอย่างเราขอแอ๊บเด็กสักวันเต๊อะ







สุดท้ายขอลาไปด้วยป้ายในห้องน้ำสาธารณะที่ฮาได้อีก





แล้วพบกันบล็อกต่อไป..."ควรรู้ก่อนไปเซี่ยงไฮ้เวิล์ดเอ็กซ์โป"





 

Create Date : 13 กรกฎาคม 2553
0 comments
Last Update : 22 มกราคม 2554 23:16:26 น.
Counter : 5476 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เสียงลมหนาว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




winter's voice
มุมมองของฤดูหนาวที่ยังคงอยู่
แม้อุณหภูมิจะเปลี่ยนไป

เช่นเดียวกับจิตใจคน
แม้วันเวลาจะเปลี่ยนแปลงไป
แต่แก่นแท้ในจิตใจจะยังเหมือนเดิม???


นี่จึงเป็นเหตุผลที่ฉันเลือกจะอยู่เงียบๆ ตรงนี้
ในบ้านของตัวเอง ไม่ใช่โลกสีฟ้าใบใหญ่อีกต่อไป
หลังจากนี้จะแบ่งปันอะไรคงจะอยู่ในบ้านหลังนี้
ใครอยากจะถามอะไรก็แปะไว้ก็แล้วกันนะ



ป.ล. โปรดทราบทุกอมยิ้มที่แวะเวียนมา
เป็นที่ซาบซึ้งใจยิ่งนัก แม้ไม่ได้เม้นท์ตอบ
แต่ก็แอบอมยิ้มอยู่เงียบๆเสมอ \(^O^)/



ป.ล. 2 ขออภัยที่ไม่เปิดเผยใบหน้า
เพราะอยากให้อ่านกันที่เนื้องาน
มิใช่เปลือกที่อาจจะบังเอิญได้พบเจอ




Update !!!

Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
13 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เสียงลมหนาว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.