All Blog
|
อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ในความทรงจำ (Doi Suthep-Pui National Park)
ใครรู้จักอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย กันบ้างคะ? เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ข้าพเจ้าได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนที่แห่งนี้ ไปคราวนี้ตั้งใจขี่มอเตอร์ไซค์ขึ้นไปค่ะ :) ขอบอกว่าสนุกมากเลย แต่ต้องระวังกันมากๆ นะคะ เพราะถนนขึ้นดอยลื่นและมีรถมาก และโค้งก็เยอะมากๆ ด้วย.. ความจริงแค่ขับรถมองสองข้างทางก็รื่นรมย์ดีแล้ว.. แต่พอไปถึงยอดดอย และได้สัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม.. หายเหนื่อยเลยค่ะ ^^ แต่เอ..สิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขียนบล็อกนี้ขึ้นมา..ไม่ใช่แค่ความงดงามตามธรรมชาติค่ะ คิดว่าเพื่อนบางคนที่เก่งๆกัน ทำได้ดีกว่าอยู่แล้ว เรื่อง Review อะไรแบบนี้ แต่ในฐานะที่เป็นมือบล็อกฝึกหัด.. ก็อยากจะนำเสนอในแบบที่พอจะทำได้นะคะ สิ่งสำคัญจริงๆ ของเรื่องราวบล็อกนี้อยู่ที่การเดินทางค่ะ.. การเดินทางคราวนี้เป็นการขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นดอยครั้งแรกด้วยตัวเอง.. และเป็นการตัดสินใจที่ไม่ได้คิดล่วงหน้าเลยว่าจะขึ้นดอยปุย แต่จะเป็นอย่างไรนั้น.. ลองอ่านดูนะคะ.. ถ้ายังมีอะไรบกพร่องอยู่ก็ขออภัยล่วงหน้าด้วยค่ะ อันที่จริงการขี่มอเตอร์ไซค์ทำให้เราเก็บภาพไม่ได้มาก แต่ซึมซับบรรยากาศรอบตัวได้ดีเลยนะคะ ก็เลยลัดคิวด้วยภาพบนดอยซะเลย ^_^ เป็นทิวสนยามบ่ายสะท้อนแสงอาทิตย์..หลังจากผ่านความเหนื่อยยากระหว่างทางอันซับซ้อน เปียกแฉะ และความอ่อนล้าที่ทิ้งไว้เบื้องหลัง มุ่งไปข้างหน้า เพียงเพื่อจะมองเห็นยอดดอยอีกสักครั้ง "บนเนินดอร์โธเนียนสูงล้น..ข้าป่ายปีนสู่ดงสนในยามเหมันต์ สายลมและคาคบไม้ขาวเลื่อมดำ.. เสียงข้านั้นสะท้อนก้องฟ้า.. เหนือโอร็อดนาธอน" อันนี้เป็นบทกลอนที่มาจาก The Lord of The Rings ฉบับภาษาไทย แปลโดยคุณวัลลี ชื่นยงค่ะ เป็นตอนที่พวกเอ็นท์เล่าถึงประสบการณ์ของตนให้พวกฮอบบิทฟัง.. แค่หยิบยกมาให้พอได้บรรยากาศน่ะค่ะ ^^ การมาถึงยอดดอยปุยในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 ในชีวิตค่ะ :) คราวนี้เกือบหลงทางเพราะดันเลือกเส้นทางเดินธรรมชาติ ..เอ่อ..แถมอุตริมาเดินคนเดียวด้วย กว่าจะถึงยอด.. -_-'' มัน..เหนื่อยมากค่ะ ไม่รู้ว่าท้อไปกี่ครั้ง ครั้งที่แล้วใกล้กว่ากันเยอะ แต่จำไม่ได้แล้วว่าขึ้นตรงไหน.. แต่มาทางนี้แล้ว มันก็หันหลังกลับไม่ได้ค่ะ ก็อยากจะไปให้ถึงยอดดอยนี่นา.. และในที่สุดก็สำเร็จ ! แต่ขากลับนี่สิ ! หลงทาง.. เป็นเส้นทางที่เดินลงเขา นึกว่าทางลัด แต่..ยิ่งเดินลึกเข้าไป ทางยิ่งชัน และรอยทางก็หายไป..รอบข้างมืดครื้มขึ้น..ดูนาฬิกา สี่โมงครึ่ง.. ตายละ ถ้าแสงหมดล่ะก็ แย่แน่ๆ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าเมื่อไหร่จะถึงทางไปแคมป์.. และอย่างที่คาดไว้.. ฝนก็ตกลงมา.. รอบตัวมืดดำไปหมด.. กระเป๋าที่แบกไว้ก็หนัก.. หน้าผาที่เริ่มลาดทำให้เราร้อนใจ.. ยิ่งรีบ ก็ยิ่งลน และก็.. พรืดด.. (การล้มบนดอยเป็นอะไรที่มันส์มาก ขอบอก) เหอะๆๆ - -'' และแล้ว.. ทุรนทุรายเดินมาได้สักพัก หาเส้นทางเก่า แต่ตอนนั้นไม่มีสติแล้ว ใช้แต่สัญชาตญาณล้วนๆ เท้ามันเดินไปเอง.. ปากตะโกนเรียกคน (ซึ่งก็รู้ว่าคงไม่มีใครอยู่แถวนั้นแน่ๆ) และในที่สุด..ขาของเราก็พาตัวเองเดินกลับไปเจอทางแยกเก่าที่ทำให้เราหลงตะกี้.. T-T เดินกลับไปอีกทางหนึ่งที่มีรอยทางชัดกว่า (แล้วเมื่อกี้มาเส้นนี้ทำไมเนี่ย??) บอกกับตัวเองโกรธๆ เฮ้อ..อย่างน้อยก็รอดตายจากการหลงป่าแล้วเรา แต่ก็ยังไม่หมดแค่นั้น.. เราก็มุ่งหน้าเดินต่อไปแม้ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถึงลานกางเต็นท์.. และแล้ว ก็มองไปเห็นป้ายแตกๆ ตรงเท้า ก็เลยทำให้เรารู้ว่าเดินมาถูกทางแล้ว "ไชโย" ในหัวโล่งไปหมด เฮ้อ !!! ประสบการณ์ครั้งนี้สอนให้รู้ว่า "อย่าบ้าดีเดือดไปขึ้นเขาคนเดียว" ถ้าไม่ใช่มืออาชีพละก็.. =_='' ใครๆ เค้าก็รู้กันมั้ง ฮ่ะๆๆ (ขำตัวเอง)
รอดตายกลับที่พักได้อีกครั้ง.. ยังกะฝันไปแน่ะ ! ขอบอกชื่อสักนิดนะคะ ชื่อ Bussaba Bed and Breakfast Chiangmai ค่ะ อยู่ริมถนนเจริญราษฏร์ ข้างวัดเกตการามค่ะ :) คืนนั้นเจ้าของห้องพักแนะให้ไปกินหอยทอดเจ๊ฮั๊ว บริเวณแจ่งกะต๊ำ ที่มีลักษณะดังภาพ.. อร่อยดีนะคะ
อันนี้เป็นรูปพี่พักตอนเช้าเวลาที่มาถึง และตอนค่ำค่ะ หลังจากลงดอยมาค่ะ :)
ข้าพเจ้าคิดว่าการเดินทางครั้งนี้สั้นไปหน่อย.. เพราะมันจบลงด้วยอุบัติเหตุในเช้าวันรุ่งขึ้น ข้าพเจ้ารถล้มบนนถนนข้างแจ่งศรีภูมิ.. เพราะเบรคกะทันหันเลยทำให้รถเสียหลักล้ม คราวนี้เสียค่าซ่อมให้เจ้าของไป 1000 บาท และความรู้สึกผิดที่ทำให้รถเค้ามีรอย.. แต่ถึงอย่างไร.. การเดินทางครั้งนี้ก็น่าจดจำ และทำให้ข้าพเจ้ารู้ค่าของคำว่า "สติ" มากยิ่งขึ้น ขอโทษนะเชียงใหม่.. คราวหน้าเราจะอยู่ให้นานกว่านี้ :) สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้นะคะ.. ขอจงมีความสุข และมีสติอยู่เสมอนะคะ :) ขอบคุณที่แวะเข้าไปเยี่ยมที่บล็อกนะคะ
แวะเข้ามาตอบค่ะ จีนี่ใช้โปรแกรมแต่งภาพช่วยน่ะค่ะ เพิ่มขอบ เพิ่มกรอบ เพิ่มตราประทับ (ทำเอง) เพิ่มตัวอักษรลงไป ส่วนใหญ่ภาพในบล็อกจะใช้ธีมนี้เกือบทั้งหมดค่ะ ส่วนโปรแกรมก็ photoscape ค่ะ ใช้ง่ายดี เห็นภาพดอยปุยแล้วก็คิดถึง ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้มีโอกาสไปอีก เก่งจังเลยนะคะ ขึ้นดอยคนเดียวด้วย ส่วนจีนี่ แค่นึกถึงว่าทางขึ้นดอยมันแคบแค่ไหนแล้วก็ทำใจให้ขับรถขึ้นไปไม่ได้สักที เลยเลือกไปที่อื่นแทน ^^ โดย: จีนี่ในกระจกแก้ว วันที่: 29 พฤษภาคม 2556 เวลา:11:51:39 น.
สวัสดีค่ะน้องจูน
เสียดายที่เรารู้จักกันน้อยไปเน๊อะ จริงๆ พี่ก็เพิ่งขึ้นดอยสุเทพ ช่วงต้นเดือน ไปนอนพักที่นั่น 1 คืน ถ้ารู้จักกันมากกว่านี้เราอาจจะได้เจอกันตัวเป็นซะไม่รู้ ^^ ต้องขอนับถือด้วยแหละ ที่สามารถขึ้นดอยคนเดียวได้ พี่เองก็เคยหลงป่า ตอนลงพื้นที่เก็บข้อมูลทำ thesis จำได้ว่าในป่าเย็นมาก...แต่เหงื่อเต็มตัว เพราะกลัวสุดขีด พระอาทิตย์ก็กำลังจะตก แถมไม่ใช่เขตอุทยานด้วย ...นึกแล้วยังขำ น้องจูนคงสบายดีนะคะ ไม่ได้คุยกันซะนาน คิดถึงนะคะ โดย: mutcha_nu วันที่: 29 พฤษภาคม 2556 เวลา:13:02:44 น.
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณที่แวะเยี่ยมกัน สงสัย จขบ ชอบท่องเที่ยว BG สวยค่ะ โดย: pantawan วันที่: 29 พฤษภาคม 2556 เวลา:17:10:26 น.
ถ้าชอบภาพอาหารน่ารักๆ ที่บล็อกนี้ก็มีค่ะ (ดอยแม่สลอง)
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=j-jinny&month=10-2012&date=25&group=35&gblog=1 ปกติเวลาไปเที่ยว ก็มักจะแต่งหน้าอาหารแบบนี้เสมอค่ะ ยังมีภาพเก็บเอาไว้อีกเยอะเลยค่ะ โดย: จีนี่ในกระจกแก้ว วันที่: 30 พฤษภาคม 2556 เวลา:20:54:25 น.
สวัสดีจ้าคุณจูน . . .
โหตวให้กำลังใจกับงานเขียนชิ้นนี้ ในหมวดท่องเที่ยวนะคะ . . . วันนี้ปอมมีข้าวหน้าหมูทอดมาฝากจ้า มีความสุข และ พักผ่อนอย่างเต็มที่นะคะ โดย: กาปอมซ่า วันที่: 31 พฤษภาคม 2556 เวลา:18:55:29 น.
|
mossymoon
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?] Hello Everyone!! Thank you for visit me here :) I've had enjoy in my life as I am.. aren't you? I would like you to have a great day in you life in everyday..!! Luv <3 <3 <3
Friends Blog
Link |
ว้าว..ดอยปุยสวยจังค่ะ