Life is Beautiful.
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
18 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 
## Autumn in Paris again.



วันแรกถึงสนามบิน Orly airport เวลา 9.00 น เดินทางเข้าปารีสไปสถานี Gare de Lyon สถานีแห่งนี้ใหญ่มาก จากชั้นบนพื้นถนนนี่ลงใต้ดินไปอีก 3 ชั้นได้ ด้านในใหญ่มาก โรงแรมไม่ได้บอกไว้ว่าออก exitที่เท่าไร วนไปมาออกมาเจอด้านข้างไปทางด้านหลังที่บริเวณจอดรถบัสสาย 63 พอดี จำได้จากที่เคยดู Google street view มาแล้ว เลยเดาได้ว่าต้องเดินไปโรงแรมอย่างไร ทางเข้าโรงแรม สองข้างเป็นร้านอาหาร

ตามรูปด้านล่าง



เดินไปไม่ไกล ผ่านร้าน Monop ร้านสะดวกซื้อ ฝากกระเป๋าไว้ยังเช็คอินไม่ได้ ต้อง 13.00 น. แต่หิวแล้ว ตามที่ตั้งใจไว้ว่าพักแถวนี้จะต้องมาที่ตลาด Place d’ Aligre ให้ได้



แผนที่ทางไป ตลาด Place d’ Aligre




มีทั้งตลาดที่เป็นอาคารถาวรและ open market ขาย 9.00-13.00 น ขายทุกวันยกเว้นวันจันทร์ เจอฝนตกพอดี ไม่ได้เอาร่มไปต้องหลบฝนข้างทางเอา ตกเบาๆนิดหน่อยๆ ฝนหยุดก็เดินไปถึงตลาดพอดี




ตลาดนี้ขายของเยอะมาก ผัก ผลไม้ ดอกไม้








มีร้านขายไก่อบ/ย่างหลายร้าน กินอาหารมื้อแรกที่ปารีสที่ร้านอาหารอิตาเลียนที่ตลาดนี้ สั่งไก่ย่างตัวเล็กๆ 1 ตัว กับ ข้าวรีซอทโต้(น่าจะใช่ข้าวสีเหลือง ใส่เครื่องเทศเยอะๆ ดูรายการ พวก Master chef Hell Kitchen บ่อยๆ) ผัดมะเขือม่วงอบชีส ไก่ย่างก็อร่อยแต่...ไม่มีซอส กินเหลือเยอะเพราะจานใหญ่มาก และไม่ถูกปากเลย จ่ายไปประมาณ 20 ยูโร ร้านนี้คนท้องถิ่นก็มาซื้อกลับบ้านกันเยอะ ขายดีเชียวแหละ



จากนั้นซื้อผลไม้แอปเปิ้ล ส้ม แอปเปิ้ลหวานกรอบอร่อยมากไม่เหมือนกินที่บ้านเราเลย




แล้วกลับไปเชคอิน ที่โรงแรม ระหว่างทางผ่านจุดจอด Velib




จากนั้นไปที่สถานี Gare de lyon ซื้อ T-ticket แบบชุด 10 ใบ จากตู้ (ตู้ส่วนใหญ่รับแต่เหรียญ)

พยายามหาซื้อซิม Lebara ที่ร้าน Relay (ร้านสะดวกซื้อเล็กๆในสถานี) แต่ส่วนใหญ่ มีแต่ Top up ( เติมเงิน) ไม่มีซิม บางที่มีซิม แต่หมด ดูเหมือน Lebara ที่ปารีสไม่ค่อยเป็นที่นิยม คนขายของที่ร้าน Relay แห่งหนึ่ง บอกว่าเห็นมีตั้งโต๊ะแจก แต่ต้องลงไป อีก 3 ชั้น Down and down and down ลงไปก็หาไม่เจอ เสียเวลาพอควร เลยเลิกหา ไปเที่ยวต่อดีกว่าไป Trocadero เพื่อชมไอเฟล



ที่เที่ยวปารีสจะซ้ำๆกับที่มาเมื่อปี 2009 แต่ก็ไปซ้ำเพราะพาลูกมาเที่ยว เป็นครั้งแรกของลูกๆ พยายามให้ลูกได้ทำอะไรเอง ซื้อตั๋วรถไฟ ซื้ออาหาร ฯลฯ


วันนี้มีเมฆ ต้องรอเป็นพักๆให้ท้องฟ้ามีสีฟ้าบ้าง ไม่งั้นถ่ายรูปมามัวซัวไม่แจ่มใสเลย การมาเที่ยวประเทศ 4 ฤดู นี้ช่วงตุลาคม ถ้าวันไหนท้องฟ้าแจ่มใจนี่โชคดีสุดๆ เพราะกว่าพระอาทิตย์จะขึ้นเกือบ แปดโมงแล้วถึงจะมีแสง ในวันที่มีเมฆนี่ต้องเลยเที่ยงไปแล้ว ลุ้นว่าจะมีแสงแดดโผล่ออกจากเมฆบ้าง
ตามสถานีที่สำคัญจะพบการแสดงแบบนี้ ได้ทั่วไปในปารีส



วันนี้มีนัดทำกิจกรรม เสื้อสีแดง KFC มาเต้นๆ กัน 2 รอบ แล้วก็ไป อ่านไม่ออกมีแต่ป้ายภาษาฝรั่งเศส เลยไม่รู้ว่าืำเค้าทำอะไรกัน



รูปไอเฟลอีก





จากจุดชมวิวไอเฟลเดินข้ามแม่น้ำมาที่หอไอเฟล
เจอรถม้า ผ่านมาพอดี



ผ่านแถวยาวเหยียดที่รอขึ้นไปชมวิว เดินทะลุออกไปที่สวนติดกับหอไอเฟล Champ de Mars เดินมาถ่ายรูปจากมุมนี้บ้าง ฟ้าใสขึ้นมาจากเมฆลอยไป มุมนี้ก็สวยมากเหมือนกัน

รูปไอเฟลจากมุมสวน




อาคารด้านตรงข้ามสวน Champ de Mars




ระหว่างทางเดินไป Invalides พบปฏิมากรรม ตั้งแสดง ตามทาง





เดินต่อไปถึงหน้า Invalides ( Hotel des Invalides) ซึ่งเป็นที่ฝั่งพระศพของนโปเลียน และเป็นพิพิธภัณฑ์ทหารด้วย



บริเวณหน้า Invalides มีสนามหญ้าใหญ่ มาก ตรงกับสะพาน Pont Alexandre III ข้ามแม่น้ำ Seine เดินข้ามสะพานนี้ไปจะเจอ Grand Palais อยู่มุมด้านซ้าย






เราขึ้นรถบัสที่หน้า Invalides ป้ายด้านขวามือ ไม่ต้องข้ามถนน บัสสาย 63 หน้ารถบัสจะมีป้ายไฟบอกปลายทาง Gare de Lyon วิ่งผ่านย่าน Latin quarter ผ่านย่าน Saint German odeon ใช้t-ticket เวลาขึ้น ขึ้นประตูหน้า มีที่แปะบัตรสำหรับคนที่ใช้บัตร และมีกล่องเล็กอีกอันไว้สำหรับ t-ticket เหมือนเวลาเข้าเกทรถใต้ดิน ตั๋วจะถูกปั้มและคืนออกมา รถบัสมาสุดสายที่ด้านหลังของสถานี Gare de lyon .

ลงจากรถบัสสุดสายเจอร้าน Relay ที่มีป้าย Press สีเหลือง (เป็นที่ขายซิม Lebara) เข้าไปถามอีกครั้ง ปรากฎว่าที่นี่มี แต่เพิ่งหมดไป TT_TT สุดท้ายตลอดทริปก็ใช้แต่ Skype โรงแรมมี wifi ทุกที่ แต่ก็ไม่เหมือนมีซิมโทรศัพท์ ความสะดวกผิดกันเยอะ

เดินกลับโรงแรม แวะร้าน Monop* ซื้ออาหารเย็น สำเร็จรูป พิซซ่า บะหมี่จีน ขนม น้ำ ที่นี่มีmicrowave ตั้งไว้ให้ลูกค้าจัดการเอง ง่วงนอนมาก เพราะเวลาที่ไทย ตีหนึ่งแล้ว ยังปรับเวลาไม่ได้ 3 วันแรก ทุกเย็นจะง่วงมากๆ เที่ยวไปหาวไป อยากนอนตลอด เพราะอากาศเย็น จนถึงหนาว อุณหภูมิกลางวันประมาณ 15 องศาเซลเซียส แต่เวลาที่มีลมพัด หรือฝนตกจะหนาวขึ้น

-*ที่ Monop มีกาแฟสดขายด้วย 1.5 ยูโร เป็นตู้กดอัตโนมัติ แต่ต้องไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ก่อน แล้วจะได้เหรียญพลาสติกมาหยอดตู้

** ประตูรถไฟใต้ดินบางสายเป็นกระเดื่อง ต้องโยกขึ้นก่อนเพื่อให้ประตูเปิด รถไฟฟ้าใต้ดินในปารีส มีอายุ 100 + ปีแล้ว สายแรกคือ M1 แล้วก็ต่อขยายไปเรื่อย ถ้ารุ่นใหม่จะเป็นปุ่มกด ปุ่มสีเขียวเพื่อเปิดประตู ในสวิสก็เหมือนกัน เวลารถไฟจอดแต่ละสถานี ต้องกดปุ่มให้ประตูเปิด คงเพราะอากาศเย็นถ้าตู้ไหนไม่มีผู้โดยสารลง คงไม่อยากให้อากาศเย็นเข้ามาภายในตู้

รูปกระเดืองในรถไฟใต้ดินปารีส



จบวันนี้จ้า



Create Date : 18 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2554 15:05:17 น. 2 comments
Counter : 1891 Pageviews.

 
ปารีสมีเสน่ห์ตลอดเวลานะคะ ทุกฤดู...


โดย: ธารน้อย วันที่: 18 พฤศจิกายน 2554 เวลา:18:42:14 น.  

 
ว้าว ช่างเป็นเมืองที่งามสง่า และสวยทุกมุม


โดย: Ezy-SeaHill วันที่: 20 พฤศจิกายน 2554 เวลา:21:00:15 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

winter green berry
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ยินดีต้อนรับทุกคนค่ะ
Friends' blogs
[Add winter green berry's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.