Bloggang.com : winos : When My leg was ate by Herpes ...???

When My leg was ate by Herpes ...???

ประมาณเช้าวันพุธ(7/11)ที่ผ่านมาเห็นจะได้ ผมตื่นขึ้นมาตอนเช้า พร้อมกับอาการปวดนิดๆที่ขาขวา ตั้งแต่เข่าขึ้นมา พอลูบๆแล้ว ก็รู้สึกแสบๆนิดๆ เหมือนกัน เวลาหน้าโดดแดดมากๆอ่ะ ผมก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร คิดไปว่า เดี๋ยวก็คงจะหาย ก็อาบน้ำไปรร.ตามปกติ

วันนั้นก็เล่นบอลมากที่สุดเท่าที่คาบว่างจะอำนวย กลับมาตอนเย็นก็ยังปวดอยู่ ก็คิดไปว่าคงเป็นเพราะเล่นบอลมากไปมั้ง แล้วก็พบผื่นแดงๆขึ้นมาบริเวณน่องขวาด้านใน สูงจากเข่าประมาณ 5 นิ้ว มีรัศมีประมาณ 2 เซน ผมก็กะว่าคงจะไม่เป็นไร เพราะผมก็ไม่เคยมีประวัติแพ้อะไร ผมก็เลยเอาครีมนวดเพนนิซิลินแบบเจล มาทากล้ามเนื้อน่อง เผื่อจะหายปวด แล้วแม่ก้อบอกให้เอาทีเอครีม มาทาผื่นด้วย

พอวันต่อมา อาการปวดก้อยังคงเหมือนเดิม แต่คราวนี้ ไอผื่นที่ขึ้นมามันกลายเป็นตุ่มใสๆเล็กๆขึ้นมาแทน ผมก้องง แต่ก้อไม่ได้คิดไร ก้อไปรร.ตามปกติ กลับมาก้อไม่ได้ยุ่งอะไรกับมัน

พอมาวันศุกร์ ตุ่มที่เกิดก้อเริ่มใหญ่ขึ้น จนเหนได้ชัด แล้วก้อมีผื่นขึ้นมาอีกจุด แล้วก้อยังมีอาการปวดน่องแบบเดิม แล้วผมก้อคลำพบก้อนเนื้อ บริเวณโคนขาหนีบ ผมก้อคิดว่า คงเป็นต่อมน้ำเหลืองโตขึ้นมาแหละ เพราะแม่เคยจับให้ดูที่คอครั้งนึง แต่ตอนนั้นก้อไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นกับผม

ผมคิดว่าจะบอกเรื่องนี้กับแม่ตอนเย็น แต่แม่ผมก้อไปอยู่เพราะไปเข้าเวรที่โรงพยาบาล

ผมก้อเลยบีบมานแตกไปสองหัว --" ดูว่ามานเปนอะไรกันแน่ ก้อเปนน้ำออกเหลืองๆนิดๆ

วันเสาร์ ผมก้อบอกเรื่องนี้ให้แม่ผมฟัง แม่ผมก้อกะว่าผมคงเป็นเริม ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสเดียวกับคนที่เป็นอีสุกอีใส ซึ่งจะเกิดกับคนที่เคยเป็นแล้ว เชื้อก้อจะยังอยู่ในร่างกาย เมื่อร่างกายอ่อนแอ เชื้อก้อจะทำงานอีกครั้ง เกิดเป็นอาการแบบเดียวกับผม ซึ่งถ้าเกิดที่เอว ก้อจะเกิดแบบนี้รอบเอว เรียกว่า งูสวัด แทน

แม่ก้อมาผมไปหาหมอที่คลีนิก หมอแกก้อไม่อยากให้แม่ผมเสียค่ายา เลยบอกให้ไปรับยาที่โรงพยาบาล เพราะแม่ผมสามารถเบิกได้ ไปถึงก้อรอ แล้วก้อได้ตรวจ หมอก้อบอกเป็นอย่างที่แม่พูดนั่นแหละ แล้วก้อสั่งยา A.C.V Cream มาทาแผล แล้วก้อ Amitriptyline มากินแก้ปวดก่อนนอน แล้วก้อพารา

กลับมาถึงผมก้อทายาแล้วก้อไปเรียน ผมก้อทายาตามที่หมอสั่ง พอตอนนอน หลังจากที่ดูลิเวอร์ถล่มฟูแล่ม 4-0 ต่อด้วยไทยพ่ายกาตาร์ 0-3 แล้ว ผมก้อนอน ซึ่งผมรู้สึกปวดขาขวาทั้งคืน ซึ่งไอผื่นชุดแรกก้อกลายเป็นตุ่มเต็มที่ ชุดสองเริ่มเป็นตุ่มใส แล้วยังมีชุดสาม ชุดสี่อีก โอ๊ย จะบ้าตาย

ตื่นมาวันนี้ ตอนหกโมง เหมือนจะไม่ได้นอน ก้ออาบน้ำแล้วทายา ไอตุ่มบ้านี้ก้อเจริญขึ้นมาเป็นชุดเลย -- ปวดขาโคด

หลังจากวันนั้น ที่ผมมาอัพหน้านี้อีกครั้งก้อเปนตอนนี้ก้อ วันที่ 13 ละ ตอนนี้อาการของขาผมก้อดีขึ้น ไม่ปวดมากแล้ว ตุ่มบางตุ่มก้อเริ่มแห้งไป แม่ก้อบอกว่าใกล้จะหายแล้ว

วันนี้ผมก้อลองไปเสิร์ชเนื้อหาในเว็บดู ว่าผมเป็นอะไรกันแน่ ระหว่างงูสวัดกะเริม (ตอนไปรร.ผมบอกเพื่อนว่าเป็นงูสวัดไป เพราะชื่อมานฟังดูดีกว่าเริม)

แล้วกูเกิลก้อไม่ทำให้ผมผิดหวังอีกครั้ง ^^

ผมเช็กอาการของทั้งสองโรคแล้ว ก้อสรุปได้ว่าผมเป็นงูสวัด ตอนนี้ผมก้อพอมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างแล้ว ก้อจะขอบรรยายเรื่องงูสวัดซักหน่อยแล้วกัน คงจะไม่ยาวเกินไปเนาะ เพราะเพื่อนผมส่วนใหญ่ก้อไม่รู้จักกัน เผื่อใครเข้ามาแล้วอ่านเป็นเรื่องประดับสมองเล่นๆก้อได้

โรคงูสวัด
สาเหตุ :: ก้อเกิดจากเจ้าเชื้อโรค Herpes zoster ซึ่งมันก้อเป็นเชื้อเดียวกะที่ทำให้เราเป็นอีสุกอีใสกันนั่นแหละ สำหรับคนที่เคยเป็นอีสุกอีใสแล้ว ถึงโรคจะหาย แต่เชื้อก้อจะซ่อนอยู่ตามปมประสาทสันหลัง ก้อถ้าเรามีสภาพร่างกายอ่อนแอลง เจ้าเชื้อเนี่ย ก้อจะกลับมาแผลงฤทธิ์อีกครั้งในเวอร์ชั่นใหม่ โดยคราวนี้จะไม่เหมือนอีสุกอีใส มันจะไม่กระจายเท่า เพราะมีเชื้อค้างอยู่แล้ว

สิ่งบ่งชี้ ::: ผื่นหรือตุ่มที่ขึ้นตามแนวประสาท และต่อมน้ำเหลืองที่ใกล้ที่สุดจะโต

จุดที่มักจะพบ :: ก้อบริเวณลำตัว หน้า แขนขา คอ เป็นต้น

อาการ :: เริ่มต้นบางรายจะมีอาการปวดกล้ามเนื้อใกล้แนวเส้นประสาท แล้วแต่จุดที่มันจะเป็น บางรายก้อจะปวดหัว หรือมีไข้

หลังจากนั้น 2-4 วันต่อมา ก้อจะมีผื่นแดงๆขึ้นตาจุดที่ปวด แล้วอีกไม่กี่วันก้อจะเป็นตุ่มใสๆขึ้นมาแทนรอยผื่นนั้น อีกสองสามวัน ตุ่มก้อจะเริ่มเป็นสีเหลืองขุ่นๆแทน ต่อมาก้อจะค่อยๆแตกหรือแห้งไปเป็นสะเก็ด และโรคนี้จะหายไปใน 2-3 สัปดาห์ และเป็นข่าวดีที่ว่า โรคนี้เกิดครั้งเดียวแล้วจะไม่เกิดอีก ซึ่งไม่เหมือนเริมที่จะเป็นซ้ำได้เรื่อยๆ

การรักษา :: ในส่วนนี้ก้อคงต้องก๊อปมาบ้าง เพราะคงอธิบายลำบาก ผมเองก้อยังงงๆ

* ช่วงตุ่มใสใช้น้ำยา burow หรือ boric acid วางบนผื่นจะช่วยลดอาการ
* ผื่นเริมแห้งใช้ ครีมที่มีส่วนผสมของยาปฏิชีวนะทา
* ยาแก้ปวด เช่น aspirin
* ยารับประทานควรจะให้ภายใน 72 ชม.หลังจากผื่นขึ้นซึ่งจะทำให้ผื่นหายเร็ว ลดอาการเจ็บปวด และจำนวนเชื้อในตุ่ม ยาชนิดอื่นได้แก่ famcicovir,Valyclovir
* Acyclovir 800 mg วันละ 5 ครั้งเป็นเวลา 7-10 วัน
* Famciclovir 500 mg วันละ 3 ครั้ง 7 วัน
* Valacyclovir 1000 mg วันละ 3 ครั้ง 7 วัน
* ยา Famcicovir,Valyclovir จะให้ผลการรักษาดีกว่า acyclovir การให้ยารับประทานจะทำให้ผื่นหายเร็ว ลดอาการเจ็บปวด ยังไม่มีข้อห้ามในการใช้ยา ยังไม่แนะนำให้ใช้ในคนท้อง
* การใช้ยาทายังไม่ได้รับการยอมรับ
* การใช้ยา steroid มีรายงานว่าการใช้ยา steroid ร่วมกับยาต้านไวรัสจะทำให้แผลหายเร็วและลดอาการเจ็บปวด แต่ไม่แนะนำให้ steroid เพียงอย่างเดียว

หรือมีสมุนไพรไทยอย่างเสลดพังพอน ก้อนำมาคั้นเอาน้ำแล้วประคบได้เหมือนกัน หรือใช้ครีมพญายอซึ่งก้อสกัดมาจากเสลดพังพอนเหมือนกันก้อได้

การปฏิบัติโดยทั่วไปแล้ว ก้อคือ เราต้องไม่ไปยุ่งอะไรมัน อย่าไปทำให้ตุ่มมันแตก หรือเมื่อแตกก้อควรใช้น้ำเกลือสะอาดล้าง แล้วทำแผลให้เรียบร้อย เพราะอันตรายของเจ้างูสวัดนี้ จะไม่ได้มาจากตัวมัน แต่จะมาจากเชื้อแบคทีเรียที่เข้าไปในแผล และอาจจะมีโรคแทรกซ้อนได้ ในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือผู้สูงอายุ โดยเฉพาะถ้าเป็นที่ตาอาจจะทำให้ตาบอดได้เลยทีเดียว (น่ากัว

)
ที่ผมกล่าวมาจะเป็นอาการของผู้ป่วยทั่วไปเท่านั้น แต่จะมีกรณีที่เป็นแทรกซ้อนอีก

และเว็บส่วนนี้ จะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับโรคงูสวัดเพิ่มเติมนะครับ

//www.siamhealth.net/Health/Photo_teaching/herpes_zoster.htm

//www.thailabonline.com/sec41herpes.htm

ผมก้อหวังว่าผู้อ่านทั้งหลายคงจะได้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ไปบ้างนะครับ ^^

ลักษณะของแผล

ตัวอย่างยาทา

-------------------------------------------------

Create Date : 11 ธันวาคม 2549

Last Update : 12 มกราคม 2550 22:14:56 น.

1 comments

Counter : 4180 Pageviews.

ยังไงก้อหายเร็วๆนะคะ ส่วนเรื่อง Tag มันก้อติดกันเป็นลูกโซ่ ทางบล๊อกอ่ะค่ะ มันเป้นเกมส์ เท่านั้นเอง ไม่ติดเป็นแผลแบบอีสุกอีใส ที่แปะโดนปุ๊บติดปั๊บหรอกคร่า ยังไงก้อพักผ่อนมากๆนะคะ ร่างกายจาได้หายไวๆ

โดย: nepatak (Nepatak

) วันที่: 13 มกราคม 2550 เวลา:21:44:26 น.