ผดผื่นและปัญหาหนังศรีษะในเด็กทารก

ปัญหาหนังศรีษะของเด็ก
ปัญหาที่เกิดกับหนังศีรษะของทารก ลองถ้าได้มีสะเก็ดอะไรสักนิดคุณพ่อคุณแม่ก็มักจะกังวลเป็นพิเศษ เพราะว่าลูกยังเล็ก พานไปว่าจะเกิดปัญหาลุกลามเข้าสู่สมองของลูกได้ เพราะกระหม่อมของลูกยังไม่ปิด จึงเกิดความกังวลนานัปการ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นใช่ว่าจะเป็นปัญหารุนแรงนะคะเพราะเมื่อรู้สาเหตุแล้วก็แก้ไขได้ไม่ยากค่ะ

คราบสะเก็ดหนาๆ
Caues
พบได้ตั้งแต่แรกเกิดค่ะ เป็นคราบไขมันตั้งแต่แรกเกิดที่แห้งกรังอยู่ที่กลางกระหม่อม ซึ่งบางครั้งจะหนาและเหลืองๆ
Do

** คุณแม่ควรใช้น้ำมัน (baby oil หรือน้ำมันมะกอก) ทาทิ้งไว้สัก 2-3 ชั่วโมงขึ้นไป แล้วสระผมล้างออกด้วยแชมพูเด็กอ่อนๆ นะคะ (ไม่ควรมีตัวยาฆ่าเชื้อหรือสารที่ใช้รักษารังแคในผู้ใหญ่)
** หากมีผื่นขึ้นตามตัวร่วมด้วย คุณแม่ควรพาไปพบแพทย์เพื่อแนะนำการใช้ยาลดอาการอักเสบของผิวหนัง
Don't

** อย่าขูดออกแรงๆ เด็ดขาดเพราะจะทำให้หนังศีรษะเป็นแผล เพราะสะเก็ดจะค่อยๆ หลุดไปเองภายใน 1-2 สัปดาห์
** อย่าซื้อยาทาเองโดยเฉพาะยาสเตียรอยด์ เพราะผิวหนังเด็กทารกบอบบาง ดูดซึมยาได้มาก รวมถึงมีผลแทรกซ้อนต่อลูกได้
concern ถ้าลูกมีผื่นแดงที่หน้าผาก แก้ม ซอกคอ ข้อพับ ขาหนีบ หลังหู ใบหู เหนือคิ้ว ร่วมด้วย อาจจะเป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากการทำงานมากกว่าปกติของต่อมไขมัน ทำให้ผิวหนังอักเสบ ซึ่งอาการมักจะดีขึ้นภายใน 3-6 เดือน นอกจากบางรายที่อาจจะเป็นนานกว่านั้นเล็กน้อย หลังจากต่อมไขมันทำงานน้อยลงและฝ่อลง

ผดผื่น
Cause
เด็กทารกต่อมเหงื่อยังทำงานไม่สมบูรณ์ ทำให้การขับเหงื่อไม่สะดวก เกิดการอุดตันของท่อเหงื่อ ผิวหนังจะเกิดการอักเสบเป็นผื่นแดงเล็กๆ ตรงกลางจะมีตุ่มน้ำใสๆ หรือบางครั้งอาจเห็นเป็นตุ่มหนองเล็กๆ ขึ้นได้
Do

** อาบน้ำหรือเช็ดตัวให้บ่อยๆ ควรจะตัดผมให้สั้นจะได้ไม่อบเหงื่อ
Don't

** อย่าให้ลูกอยู่ในที่อากาศร้อนอบอ้าว อย่าใส่เสื้อผ้าหนาหรือห่อหุ้มลูกมากเกินไป


กลากหรือเชื้อรา
Cause

ปกติจะไม่ค่อยพบโรคกลากที่ศีรษะในทารกเล็กๆ ค่ะ มักจะพบบ่อยกับเด็กวัยเรียนโดยเฉพาะเด็กผู้ชาย ซึ่งชอบเล่นคลุกคลีกัน หรือไปตัดผมสั้นเกรียน อาจติดเชื้อจากแบคทีเรียได้ แต่อย่างไรก็ดีทารกอาจติดเชื้อรา (กลาก) ได้จากผู้ใหญ่หรือคนในครอบครัวที่ใกล้ชิด โดยใช้ผ้าขนหนูหรือหวีร่วมกันกับคนที่เป็นได้
Do

** ลักษณะเชื้อกลากอาจมองเห็นไม่ชัด เป็นวง มีขอบเหมือนเชื้อราตามตัว
** อาจจะเห็นเป็นหย่อมผมร่วงหรือผมหัก อาจมีขุยที่รากผม หรือเห็นเป็นหย่อมผมร่วง คลุมด้วยสะเก็ดสีขาวๆ เทาๆ
Don't

** หากสงสัยว่าลูกอาจมีเชื้อราที่ศีรษะ ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อวินิจฉัยให้แน่นอน เพราะถ้าเป็นกลากจริงจะต้องกินยาฆ่าเชื้อราเท่านั้นจึงจะหายขาด อย่าชะล่าใจ
** ไม่ควรใช้ของปะปนกัน ยิ่งกับเด็กทารกด้วยแล้วผิวหนังเปราะบางรับเชื้อง่ายทีเดียว
concern

เด็กทารกอายุ 3-4 เดือน อาจจะมีอาการผมร่วงแต่จะแตกต่างกับเด็กแรกเกิด คือ ผมด้านหลังร่วงหายไปเป็นแถบขวางๆ โดยไม่มีสะเก็ดหรือขุย ผมร่วงนี้เกิดจากการเสียดสีกับที่นอน ขณะระหว่างเด็กมองตามส่ายหน้าไปมาตามสิ่งที่เขาสนใจ

ติดเชื้อแบคทีเรีย
Cause

เกิดจาการติดเชื้อจากคนใกล้ชิดผ่านการใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัวร่วมกัน นอนหมอนเดียวกัน หรืออาจเกิดแทรกซ้อนบนรอยเกาที่ศีรษะก็ได้ โดยหนังศีรษะเป็นตุ่มหนองเล็กๆ บริเวณรอบรูขุมขนของเส้นผม หรืออาจเป็นฝี เป็นตุ่มแดงและตุ่มหนองขนาดใหญ่ ซึ่งอาจเกิดขึ้นตามหลังจากเป็นผื่นผด
Do

** หมั่นอาบน้ำสระผมให้เด็กบ่อยๆ โดยเฉพาะในหน้าร้อน เพื่อไม่ให้เกิดผื่นผด
** ถ้าเป็นหนองหรือฝี ต้องใช้ยาปฏิชีวนะชนิดรับประทานด้วย และควรพบแพทย์เพื่อสั่งยาให้ตรงกับเชื้อ และขนาดยาที่ถูกต้องนะคะ
Don't

** เลี่ยงการเกาศีรษะเพราะจะเปิดทางเข้าของเชื้อโรค

เห็นไหมคะว่าปัญหาหนังศรีษะที่เกิดขึ้นกับเด็กวัยทารก ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลจนเกินเหตุเลยนะคะ ปัญหาอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นกับลูกถ้าคุณพ่อคุณแม่รู้สาเหตุแล้ว ก็จะสามารถหาทางแก้ไขได้ตรงจุดถูกวิธีแล้วล่ะค่ะ

แชมพู-สบู่ ... เลือกให้เหมาะ

ทางหนึ่งที่จะช่วยรักษาไม่ให้เกิดปัญหากับหนังศรีษะของเด็กได้คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับเด็ก โดยทั่วไปการใช้สบู่หรือแชมพูสำหรับทารกคุณพ่อคุณแม่ก็มักทราบดีแล้วว่า ควรเป็นสบู่หรือแชมพูชนิดที่อ่อนที่สุด เนื่องจากผิวหนังเด็กทารกซึ่งบอบบาง เกิดการระคายเคืองได้ง่าย ไม่ว่าจะโดยสิ่งกระตุ้นที่เป็นสารเคมีหรือไม่ก็ตาม แต่ก็ไม่ควรมองข้ามถึงเรื่องต่อไปนี้ด้วย

1. ไม่ควรเลือกที่มีน้ำหอมกลิ่นรุนแรง เพราะจะระคายเคืองต่อจมูกและตาของเด็ก แต่ถ้าชอบที่มีกลิ่นควรเลือกที่เป็นกลิ่นอ่อนๆ

2. ไม่ควรมีสารเคมีหรือตัวยาที่ระคายเคืองกับเด็ก เช่น มีส่วนผสมของ Tricosan หรือเป็นสบู่ยา สบู่ฆ่าเชื้อโรคก็ยังไม่จำเป็นค่ะ ส่วนแชมพูก็ไม่ควรเป็นแชมพูแบบขจัดรังแคนะคะ เพราะจะแรงเกินไปสำหรับเด็ก

3. สบู่ควรมีความเป็นกรดอ่อนๆ หรือเป็นกลางมีค่า PH5.5 เพราะหากเป็นสบู่ที่มีความเป็นด่างมาก จะทำลายความเป็นกรดที่ผิวหนังทารกซึ่งเป็นตัวปกป้องผิวหนังจากเชื้อโรค

4. ไม่ควรเกาหรือเช็ดถูตัวเด็กแรงเกินไป จะทำให้ผิวหนังอ่อนแอ เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย

ที่มา : //www.tinyzone.tv/HealthDetail.aspx?ctpostid=2393

Create Date : 08 กันยายน 2554 Last Update : 8 กันยายน 2554 16:33:36 น. Counter : 44477 Pageviews.		4 comments
Share Tweet