กรกฏาคม 2554

 
 
 
 
 
1
3
4
5
6
7
8
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
29
30
31
 
 
All Blog
การชักนำการคลอด การเร่งคลอด
พอคุณหมอบอกคุณแม่ว่า ถ้าลูกไม่ยอมออกมาตามกำหนด คุณหมอจะเร่งคลอดให้ ทำให้คุณแม่ต้องศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการเร่งคลอดอย่างละเอียด ว่ามีผลดีผลเสียอย่างไร รู้แค่ว่าต้องเจ็บมากกว่าเดิม เจ็บนานกว่าเดิม จะเอายังไงดีน๊า แต่ยังดีที่ยังมีเวลาให้ตัดสินใจอีก 1-2 weeks

การชักนำการคลอด การเร่งคลอด

คือการทำให้เกิดการเจ็บครรภ์คลอด เพื่อจะให้การตั้งครรภ์สิ้นสุดลงเมื่ออายุครรภ์ของคุณแม่มากกว่า 28 สัปดาห์ หรือว่าทารกมีน้ำหนักตัวตั้งแต่ 1,000 กรัมขึ้นไป ในกรณีที่ไม่ทราบอายุครรภ์

การเร่งคลอด คือการทำให้การเจ็บครรภ์คลอด ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีการดำเนินการคลอดที่เร็วขึ้น

ประเมินก่อนการชักนำการคลอด

1. อายุครรภ์ที่แน่นอน โดยคุณหมอจะตรวจสอบประวัติการมีประจำเดือนครั้งสุดท้ายประวัติการฝากครรภ์ การดิ้นของทารกในครรภ์ และการตรวจด้วยอัลตราซาวนด์ เพื่อประเมินอายุครรภ์ได้อย่างถูกต้อง เพราะการประเมินอายุครรภ์ผิดพลาดอาจทำให้เกิดอันตรายต่อทั้งมารดาและทารก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชักนำการคลอดก่อนเวลาอันควร

2. ความพร้อมในการดูแลทารกแรกเกิดที่คลอดก่อนกำหนดมีสุขภาพไม่แข็งแรงหรือมีการเจริญเติบโตช้าในครรภ์ ซึ่งมักต้องอยู่ในความดูแลในหน่วยทารกแรกเกิดของสถานพยาบาลที่มีความพร้อมทั้งเครื่องมือ และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ
หากคุณหมอที่คุณแม่ได้ทำการฝากท้องอยู่พิจารณาร่วมกับกุมารแพทย์ แล้วเห็นว่ายังไม่มีความพร้อมในการดูแลทารกที่กำลังจะคลอดออกมา ก็อาจส่งตัวคุณแม่ให้ไปคลอดในโรงพยาบาลที่มีความพร้อม หรือกรณีที่เป็นไม่รุนแรงนัก ก็จะพิจารณาให้ดำเนินการตั้งครรภ์ต่อไป โดยจะนัดตรวจติดตามสุขภาพของมารดา และทารกในครรภ์อย่างใกล้ชิดครับ

3. สุขภาพทารกในครรภ์ การชัดนำการคลอดมักจะใช้เวลาหลายชั่วโมงจนถึงเป็นวัน คุณหมอจึงต้องประเมินว่าทารกในครรภ์มีสุขภาพแข็งแรงพอที่จะทนต่อความเครียดจากการขาดออกซิเจนในขณะมดลูกหดรัดตัวหรือไม่ และควรตรวจติดตามการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์อย่างใกล้ชิด หรืออาจพิจารณาผ่าท้องคลอดหากทารกในครรภ์ไม่สามารถทนต่อความเครียดจากการขาดออกวิเจนในระหว่างการเจ็บครรภ์ได้

4. สภาพของปากมดลูก ถ้าปากมดลูกยังไม่พร้อม การชักนำการคลอดจะมีโอกาสล้มเหลวสูง ซึ่งคุณหมอจะมีทางเลือก คือ ปรับสภาพปากมดลูกให้มีความพร้อมในการใช้ยา หรือผ่าท้องทำคลอด ถ้าไม่ใช่อาการเร่งด่วน คุณหมอก็จะรอให้การตั้งครรภ์ดำเนินต่อไป

คุณแม่คงพอจะเข้าใจเรื่องการชักนำการคลอด และการเร่งคลอดพอสมควร การขอข้อมูลเพิ่มเติมโดยปรึกษาคุณหมอที่ฝากครรภ์ จะช่วยให้คุณแม่รู้ถึงประโยชน์และอันตรายต่อคุณแม่และลูกในครรภ์ และในฉบับหน้าผมจะเล่าถึงวิธีการชักนำการคลอดและการใช้ยา

การชักนำให้เจ็บครรภ์คลอด

การชักนำให้เจ็บครรภ์คลอดคือ การใช้ยา หรือการเจาะถุงน้ำคร่ำเพื่อให้มดลูกหดรัดตัวเกิดการเจ็บครรภ์คลอด ในขณะที่คุณแม่ยังไม่เริ่มเจ็บครรภ์เลย สำหรับการเจาะถุงน้ำคร่ำจะได้กล่าวโดยละเอียดในหัวข้อต่อไป นวัตกรรมนี้ นับว่าเป็นจุดพลิกผันทางสูติกรรม เนื่องจากมนุษย์เราสามารถกำหนดให้เกิดการเจ็บครรภ์ได้ โดยใช้ยาออกซิโทซิค (oxytocic drug) ยาในกลุ่มนี้มีหลายชนิด เช่น ยา syntocinon ยาในกลุ่ม prostaglandin เป็นต้น ยาเหล่านี้จะทำให้มดลูกหดรัดตัว คล้ายกับหน้าที่ของฮอร์โมนออซิโทซิน

มีอยู่กรณีหนึ่งที่อาจทำให้มีความสับสนในการใช้คือ “การเร่งคลอด” ซึ่งหมายความว่า การที่คุณแม่เจ็บครรภ์เอง แต่ปากมดลูกเปิดขยายเพิ่มไม่ดี โดยมีสาเหตุจากการที่มดลูกหดรัดตัวไม่ดี ซึ่งต่างจาก “การชักนำให้เจ็บครรภ์คลอด” ที่คุณแม่ยังไม่เริ่มเจ็บครรภ์ แต่เราสามารถทำให้เริ่มเจ็บครรภ์ได้ดังที่กล่าวมาแล้ว ดังนั้นจึงเป็นข้อบ่งชี้ของการใช้ยาออกซิโทซิค ซึ่งผมขอเรียกว่า “ยาเร่งคลอด” เนื่องจากยานี้สามารถใช้ได้ทั้งชักนำให้เจ็บครรภ์คลอดและเร่งคลอด

แต่เดิมนั้น การให้ยาเร่งคลอด ถูกสงวนเอาไว้ใช้เพื่อชักนำให้เจ็บครรภ์คลอดในคุณแม่ที่มีความเสี่ยงต่อบางภาวะซึ่งควรจะต้องให้คลอด เช่น ตั้งครรภ์เกินกำหนด หรือเป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์ เนื่องจากว่ายาเร่งคลอดอาจก่อให้เกิดโทษได้ เช่น ภาวะมดลูกหดรัดตัวถี่กว่าปกติ (hyperstimulation) ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อทารกได้ ภาวะมดลูกแตก อุบัติการณ์ของการเกิดภาวะบิลิรูบินสูงในเลือดของทารก และการคลอดก่อนกำหนด เนื่องจากประเมินอายุครรภ์ผิด คิดว่าครรภ์ครบกำหนดแล้ว

ในปัจจุบันนี้ มีการนิยมใช้ยาเร่งคลอด เพื่อให้คุณแม่คลอดในเวลาที่เหมาะสม คือในวันและเวลาทำการปกติที่แพทย์อยู่ในโรงพยาบาลโดยส่วนใหญ่แล้วก็คือเวลาราชการนั่นเอง ซึ่งบางคนเรียกว่า “daylight obstetrics” ซึ่งผมตั้งชื่อว่า “สูติศาสตร์แสงตะวัน” ซึ่งการกระทำเช่นนี้อาจก่อให้เกิดการกระทำต่อไปนี้ เช่น เมื่อให้ยาเร่งคลอด ซึ่งปกติจะทำให้คุณปวดมากกว่า คุณแม่ที่เจ็บครรภ์คลอดเอง ทำให้เราต้องใช้ยาแก้ปวด ซึ่งอาจทำให้คุณแม่อ่อนล้าและเหนื่อยหรืออาจทำให้ทารกเกิดภาวะเครียดจากการให้ยาเร่งคลอดเกินขนาด ซึ่งอาจจะต้องช่วยคลอดโดยใช้คีม หรือเครื่องดูดสุญญากาศ หรือผ่าตัดคลอด

การที่มีการแทรกแซงอันถัดๆ มา หลังจากการแทรกแซงครั้งแรกนี้เรียกว่า cascade of intervention ดังนั้น หากไม่แทรกแซงตั้งแต่ต้นแล้ว ก็สามารถตัดการแทรกแซงอันถัดๆ มาได้ทั้งหมด นอกจากนี้การใช้ยาเร่งคลอดก็จะทำให้คุณแม่สามารถกำหนดวันคลอดของลูกได้ ตามฤกษ์ยามที่ต้องการ ข้อเสียของยาเร่งคลอดประการต่อมา การใช้ยาเร่งคลอดในรายที่ปากมดลูกยังเปิดไม่พร้อมต่อการคลอด อาจจะมีโอกาสถูกผ่าตัดสูงขึ้น โดยที่หากเจ็บครรภ์คลอดเองแล้วอาจจะคลอดเองได้ ประการสุดท้าย คือคุณแม่ที่ได้รับยาเร่งคลอดจะเจ็บครรภ์มากกว่าคุณแม่ที่ไม่ได้รับยา เนื่องจากฮอร์โมนเอนดอร์ฟีน ไม่ได้เพิ่มมากขึ้นได้สัดส่วนกับฮอร์โมนออกซิโทซินที่ได้รับจากภายนอก

ความจริงแล้ว การที่คุณแม่เจ็บครรภ์เอง เป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดตามธรรมชาติสำหรับคุณแม่ ดังนั้น การคลอดจึงไม่ควรถูกชักนำให้เกิดขึ้น เพื่อความสะดวกสบายของผู้ดูแลการคลอด หรือฤกษ์ยามที่ดีที่สุดจากการทำนายของหมอดู การชักนำให้เจ็บครรภ์คลอดนั้น ควรจะถูกจัดไว้เฉพาะที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์เท่านั้น

แต่เดิมนั้น การให้ยาเร่งคลอด ถูกสงวนเอาไว้ใช้เพื่อชักนำให้เจ็บครรภ์คลอดในคุณแม่ที่มีความเสี่ยงต่อบางภาวะซึ่งควรจะต้องให้คลอด เช่น ตั้งครรภ์เกินกำหนด หรือเป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์ เนื่องจากว่ายาเร่งคลอดอาจก่อให้เกิดโทษได้ เช่น ภาวะมดลูกหดรัดตัวถี่กว่าปกติ (hyperstimulation) ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อทารกได้ ภาวะมดลูกแตก อุบัติการณ์ของการเกิดภาวะบิลิรูบินสูงในเลือดของทารก และการคลอดก่อนกำหนด เนื่องจากประเมินอายุครรภ์ผิด คิดว่าครรภ์ครบกำหนดแล้ว

ในปัจจุบันนี้ มีการนิยมใช้ยาเร่งคลอด เพื่อให้คุณแม่คลอดในเวลาที่เหมาะสม คือในวันและเวลาทำการปกติที่แพทย์อยู่ในโรงพยาบาลโดยส่วนใหญ่แล้วก็คือเวลาราชการนั่นเอง ซึ่งบางคนเรียกว่า “daylight obstetrics” ซึ่งผมตั้งชื่อว่า “สูติศาสตร์แสงตะวัน” ซึ่งการกระทำเช่นนี้อาจก่อให้เกิดการกระทำต่อไปนี้ เช่น เมื่อให้ยาเร่งคลอด ซึ่งปกติจะทำให้คุณปวดมากกว่า คุณแม่ที่เจ็บครรภ์คลอดเอง ทำให้เราต้องใช้ยาแก้ปวด ซึ่งอาจทำให้คุณแม่อ่อนล้าและเหนื่อยหรืออาจทำให้ทารกเกิดภาวะเครียดจากการให้ยาเร่งคลอดเกินขนาด ซึ่งอาจจะต้องช่วยคลอดโดยใช้คีม หรือเครื่องดูดสุญญากาศ หรือผ่าตัดคลอด

ความจริงแล้ว การที่คุณแม่เจ็บครรภ์เอง เป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดตามธรรมชาติสำหรับคุณแม่ ดังนั้น การคลอดจึงไม่ควรถูกชักนำให้เกิดขึ้น เพื่อความสะดวกสบายของผู้ดูแลการคลอด หรือฤกษ์ยามที่ดีที่สุดจากการทำนายของหมอดู การชักนำให้เจ็บครรภ์คลอดนั้น ควรจะถูกจัดไว้เฉพาะที่มีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์เท่านั้น

การเจาะถุงน้ำคร่ำ

ในหลายๆ โรงพยาบาล การเจาะถุงน้ำคร่ำเป็นหัตถการอย่างหนึ่ง นิยมทำกันอย่างเป็นกิจวัตร เพื่อเร่งคลอดโดยมีความเชื่อว่าจะทำให้ระยะเวลาการคลอดสั้นลง จากการศึกษาก็พบว่าทำให้ระยะที่ 1 ของการเจ็บครรภ์คลอดสั้นลง 30-60 นาที แต่ไม่มีผลในระยะที่ 2 ของการเจ็บครรภ์คลอด และการเห็นสีของน้ำคร่ำว่ามีขี้เทาหรือไม่ นอกจากนี้การเจาะถุงน้ำคร่ำเป็นการชักนำให้เจ็บครรภ์คลอดได้ แต่โดยทั่วไปมักจะนิยมใช้ควบคู่กับการใช้ยาเร่งคลอดด้วย

ก่อนอื่นคุณแม่ควรจะทราบก่อนว่า ถุงน้ำคร่ำมีประโยชน์อย่างไรต่อลูกน้อย ถุงน้ำคร่ำมีหน้าที่สำคัญหลายประการ เช่น ทำหน้าที่เหมือนเบาะคอยป้องกัน มิให้ส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะสายสะดือถูกบีบรัด เวลาที่มดลูกหดรัดตัวในขณะเจ็บครรภ์คลอด โดยจะกระจายแรงบีบนี้ไปทั่วๆ ทั้งถุงน้ำ ป้องกันการติดเชื้อต่อทารก นอกจากนี้ยังทำให้มีสภาวะเป็นเหมือนลิ่ม ช่วยขยายปากมดลูกในช่วงต้นๆ ของระยะที่ 1 ของการเจ็บครรภ์คลอด
การเจาะถุงน้ำคร่ำมีข้อเสียหลายประการ กล่าวคือ อาจทำให้เกิดภาวะสายสะดือย้อยออกมา โอกาสติดเชื้อต่อมารดาและทารกเพิ่มขึ้น การเจาะถุงน้ำแต่เนิ่นๆ อาจทำให้เกิดอุบัติการณ์บวมของหนังศีรษะ และไขมันที่อยู่ใต้หนังศีรษะ (caput succedaneum) ตลอดจนเกิดการผิดรูป (misalignment) ของกะโหลกศีรษะสูงขึ้น

โดยปกติ การพบขี้เทาในน้ำคร่ำแบบน้อย (mild meconium-stained amiotic fluid) อาจพบได้ในทารกปกติที่ไม่มีปัญหา แต่หากพบขี้เทาในน้ำคร่ำ แบบปานกลางหรือข้น (moderate, thick meconium-stained amniotic fluid) อาจพบในทารกที่อาจมีปัญหาสุขภาพ เช่น ภาวะเครียด เป็นต้น ซึ่งในกรณีดังกล่าว เราสามารถตรวจได้จากการฟังเสียงหัวใจทารก มีความผิดปกติหรือโดยการใช้เครื่องอิเลคทรอนิค (electronic fetal monitor) บางครั้งภาวะขี้เทานี้อาจพบร่วมกับการมีน้ำคร่ำน้อย ดังนั้นเมื่อเจาะถุงน้ำแล้ว อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสายสะดือ ดังที่กล่าวมาแล้วมากขึ้น

เมื่อพิจารณาดูผลได้ผลเสียของการเจาะถุงน้ำแล้ว จะพบว่าการเจาะถุงน้ำแต่เนิ่นๆ อย่างเป็นกิจวัตรเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น การเจาะถุงน้ำคร่ำควรมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ เช่น ในกรณีรกลอกตัวก่อนกำหนด การเจาะถุงน้ำคร่ำเป็นการลดความกดดันต่อมดลูก การชักนำให้เจ็บครรภ์คลอดโดยใช้ร่วมกับยาเร่งคลอด หรือกรณีที่ปากมดลูกเปิดขยายไม่เพิ่มตามเกณฑ์ที่เหมาะสม การเจาะถุงน้ำคร่ำก็เป็นการเร่งคลอดอย่างหนึ่ง


การที่มีการแทรกแซงอันถัดๆ มา หลังจากการแทรกแซงครั้งแรกนี้เรียกว่า cascade of intervention ดังนั้น หากไม่แทรกแซงตั้งแต่ต้นแล้ว ก็สามารถตัดการแทรกแซงอันถัดๆ มาได้ทั้งหมด นอกจากนี้การใช้ยาเร่งคลอดก็จะทำให้คุณแม่สามารถกำหนดวันคลอดของลูกได้ ตามฤกษ์ยามที่ต้องการ ข้อเสียของยาเร่งคลอดประการต่อมา การใช้ยาเร่งคลอดในรายที่ปากมดลูกยังเปิดไม่พร้อมต่อการคลอด อาจจะมีโอกาสถูกผ่าตัดสูงขึ้น โดยที่หากเจ็บครรภ์คลอดเองแล้วอาจจะคลอดเองได้ ประการสุดท้าย คือคุณแม่ที่ได้รับยาเร่งคลอดจะเจ็บครรภ์มากกว่าคุณแม่ที่ไม่ได้รับยา เนื่องจากฮอร์โมนเอนดอร์ฟีน ไม่ได้เพิ่มมากขึ้นได้สัดส่วนกับฮอร์โมนออกซิโทซินที่ได้รับจากภายนอก

ที่มา //sites.google.com/site/thaicenterinfrance/kar-chakna-kar-khlxd-kar-reng-khlxd


จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อต้องเร่งคลอด

ตามธรรมชาติแล้ว คุณแม่จะเริ่มเจ็บครรภ์เมื่อมีอายุครรภ์ระหว่าง37- 41สัปดาห์ค่ะ ดังนั้นคุณแม่จึงควรที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับ“การเร่งให้คลอด”ในกรณีที่อายุครรภ์เกินกำหนด เพราะหากได้รับรู้รายละเอียดเกี่ยวกับทางเลือกในการชักนำให้เจ็บครรภ์คลอดทั้งหมดแล้ว คุณแม่จะรู้สึกสบายใจมากขึ้นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อเวลานั้นมาถึง และไม่ต้องวิตกกังวลนะคะ เพราะขั้นตอนในการชักนำให้เจ็บครรภ์คลอดนั้นไม่ทำให้รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด แต่จะทำให้การเจ็บท้องคลอดดำเนินไปอย่างรวดเร็ว หากคุณแม่มีข้อสงสัยใดๆ สามารถโทรศัพท์สอบถามดูเม็กซ์แคร์ไลน์ได้เสมอค่ะ

สาเหตุที่ต้องเร่งคลอด

สาเหตุที่ทำให้ต้องร่องคลอดหรือชักนำให้เจ็บครรภ์คลอดมีอยู่ด้วยกันหลายอย่าง เช่น

ถุงน้ำคร่ำแตกแล้ว แต่คุณแม่ยังไม่เริ่มมีอาการหดรัดตัวของมดลูก
อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนในครรภ์ ของคุณแม่ และจำเป็นจะต้องทำคลอดลูกน้อยโดยเร็ว
เกินกำหนดคลอดมานานแล้วแต่ยังไม่คลอด

ขั้นตอนในการชักนำให้เจ็บครรภ์คลอด

สูติแพทย์และพยาบาลผดุงครรภ์สามารถชักนำให้เจ็บครรภ์คลอดได้หลายวิธี แต่ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็ตาม อย่างมากที่สุด คุณแม่จะรู้สึกเจ็บ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่การฝึกหายใจก็จะช่วยให้คุณแม่ผ่านพ้นขั้นตอนนี้ไปได้ด้วยดี โปรดจำไว้ว่าเมื่อชักนำให้เจ็บครรภ์คลอดแล้ว กระบวนการต่างๆ จะดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้น จึงควรเตรียมตัวให้พร้อม ในทางตรงข้าม บางครั้งก็อาจใช้เวลาถึง 2-3 วัน จึงจะเริ่ม มีอาการเจ็บครรภ์คลอด ดังนั้น จึงไม่ต้องตกใจหากไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยทันที

รายการด้านล่างนี้เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการต่างๆ ที่ใช้สำหรับเร่งคลอด

การกวาดปากมดลูก (Membrane sweep)– วิธีนี้คล้ายกับการตรวจภายในมาก สูติแพทย์จะใช้นิ้วกวาดปากมดลูกเพื่อค่อยๆ ขยายปากมดลูกและกระตุ้นให้เริ่มมีการเจ็บครรภ์ ถ้าทำสำเร็จ มักจะเริ่มมีการเจ็บครรภ์ภายใน 24-48 ชั่วโมง ( วิธีนี้อาจใช้ไม่ได้ผลเสมอไป จึงไม่ต้องกังวลถ้าไม่ประสบความสำเร็จ )

การเจาะถุงน้ำคร่ำ– แพทย์จะใช้เครื่องมือที่มีลักษณะเรียวยาวคล้ายเข็มถักโครเชเจาะถุงน้ำคร่ำให้แตกเพื่อกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก แต่วิธีนี้ก็ไม่สามารถรับประกันว่าจะได้ผลร้อย เปอร์เซ็นต์อีกเช่นกัน

การใช้ฮอร์โมนพรอสตาแกลนดิน (Prostaglandin)– เป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เกิดการเจ็บครรภ์ โดยอาจจะใช้ในรูปของเจลหรือยาเหน็บช่องคลอดโดยสอดเข้าไปที่บริเวณคอมดลูก

ยาเร่งคลอด (Syntocinon)– สามารถให้ผ่านสายน้ำเกลือ ถ้าคุณแม่รับยาผ่านสายน้ำเกลือ ขอให้ใช้สายน้ำเกลือที่ค่อนข้างยาวเพื่อที่จะได้ขยับตัวไปมาระหว่างที่มีการเจ็บครรภ์ ยาเร่งคลอดอาจกระตุ้นให้มีการหดรัดตัวของมดลูกค่อนข้างแรง ดังนั้น คุณแม่จึงอาจต้องใช้การฉีดยาเข้าช่องเหนือช่องน้ำไขสันหลัง เพื่อระงับความเจ็บปวดด้วย วิธีนี้ มักจะใช้ร่วมกับการเจาะถุงน้ำคร่ำ

ที่มา //www.dumex.co.th/pregnancy/labour_and_birth/article/what_if_i_have_to_be_induced



Create Date : 02 กรกฎาคม 2554
Last Update : 2 กรกฎาคม 2554 16:39:50 น.
Counter : 18125 Pageviews.

4 comments
  
การกวาดปากมดลูกอันตรายไหมครับ
โดย: อาทิตย์ IP: 110.77.209.188 วันที่: 28 พฤษภาคม 2555 เวลา:10:48:42 น.
  
อีก2 วันหมอนัดเหน็บยาเร่งคลอดรู้สึกกลัวมากเลยค่ะแต่ก็จะต้องอดทนเห็นหน้าลูกก้อคงหายเจ็บ
โดย: น้องมีคุณ IP: 125.26.127.86 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2556 เวลา:17:28:59 น.
  
ตรวจภายในเจ็บเหมือนกัน แต่ก็ผ่านไปได้
โดย: ว่าที่.. คุณแม่มือใหม่ IP: 171.7.58.138 วันที่: 8 กันยายน 2557 เวลา:20:37:03 น.
  
ดีมาก
โดย: นพ IP: 49.231.19.213 วันที่: 30 สิงหาคม 2560 เวลา:17:56:17 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

WiniStaR
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]