ค ว า ม รั ก ดี ๆ อ ยู่ ร อ บ ตั ว เ ร า
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
3 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 

เร็วหรือช้า สักวันมันต้องมาถึง

ทุกๆวันเวลาก็ทำหน้าที่ของมันไปเรื่อยๆ และไม่เคยเปลี่ยน

พระอาทิตย์ยังขึ้นทางทิศเดิมเสมอ มีแต่คนที่เฝ้ามองพระอาทิตย์เท่านั้น

ที่เปลี่ยนหน้าตาคนมองไปเรื่อยๆ และกาลเวลาก็ยังอยู่คู่กับเราทุกนาที

เพียงแต่ที่รอเวลาเท่านั้นที่เวลาไม่เคยรอคนเหล่านั้นเลย บางทีหลายๆคน

อาจจะเจ็บปวดเสียใจแล้วรอให้เวลาช่วยรักษาอาการให้ดีขึ้น แต่กลับบางคน

เวลาไม่ได้ช่วยรักษาอะไรเลยนอกจากการนับถอยหลังเท่านั้น

เพราะเป็นแบบนี้ผมถึงมองว่าผมทำดีที่สุดทุกวันแล้วหรือยัง วันนี้ผมไปบ้าน

ลูกค้าที่กำลังทำงานให้เค้าอยู่ เค้าเดินมาหาผมแล้วจับที่บ่าผมเบาๆว่า "Warum gehst du nicht vom Rest deines müde Sie sind dabei, von Zeit zu arbeiten ausführen.

แปลว่า คุณดูเหนื่อยๆนะ ทำไมไม่หาเวลาพักบ้างละ คุณกำลังใช้เวลาหมดไปกับการทำงาน"

ผมมานั่งคิดดู ก็คงจะจริงนะ แต่ผมเองจะทำยังไงได้ละในเมื่อถ้าไม่มีงาน

ชีวิตผมเองคงขาดอะไรไป เพราะตั้งแต่เล็กจนโตผมเองก็รู้จักที่จะทำงาน

หาเงินเองเสมอ รบกวนที่บ้านให้น้อยที่สุด บ้านผมไม่ใช่คนร่ำรวยอะไรเลย

เพราะงั้นเราต้องทำงานเพื่อหาเงินและรู้จักเก็บออมตั้งแต่เล็กๆ แต่ผลที่ตาม

มาของการทำงานคือร่างกายที่พักผ่อนไม่เพียงพอ การนอน การทานอาหาร

ที่ไม่ถูกวิธี เลยทำให้ผมเองต้องกลายเป็นคนป่วยอยู่แบบนี้ ปี 2543-2550

รวมระยะเวลาก็ประมาณ 8 ปีที่ทำงานอย่างหนัก ในช่วงปี 2543

ผมกลับมาเชียงใหม่อีกครั้ง เพื่อการที่อยากได้เดินผ่านใครบางคนบ้าง

ได้เห็นหน้าบางครั้ง ผมตัดสินใจทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง พร้อมทั้งเริ่มต้นงาน

ด้านอื่นด้วย ด้วยความที่ผมรู้จัดคนคนข้างเยอะพอสมควรในเชียงใหม่

ผมเองรู้จักกับลูกค้ารายหนึ่งของบริษัทผมเองปรึกษาว่าผมอยากทำงาน

เพิ่ม เค้าก็ชวนผมไปทำงานด้วยกัน เป็นผู้ช่วยเค้าที่หนังสือพิมพ์แห่งหนึ่ง

ซึ่งมันไม่เกี่ยวอะไรกับสายงานที่ผมเรียนจบมาเลย แต่ด้วยความชอบและ

อยากรู้อยากลองของผมถือว่ามันเป็นงานที่ท้าทายพอสมควร

ผมทำที่นั่นเริ่มจากผู้ช่วย จนผันตัวมาทำงานข่าวให้เคเบิ้ลทีวีแห่งหนึ่ง

และก้าวต่อคือ งานด้านวิทยุที่รุ่นพี่คนหนึ่งที่เรารู้จักกันที่หนังสือพิมพ์

ชัดชวนมา โลกมายากำลังเริ่มมันคือมายาจริงๆผมเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ

ที่น่ารังเกียจจนผมเองรู้สึกว่าผมมาทำอะไรที่นี้ไม่ใช่ที่ของผมเลย

อีกงานคืองานรับเหมาที่ผันตัวเองโดยไม่เอาเวลางานมาเกี่ยวแต่ใช้

วันหยุดของผมและคนที่ไว้ใจได้ด้วยกันดูแล และงานคุณท้ายคือเป็น

อาจารย์สอนวิชา เคมี (ในตำแหน่งอาจารย์พิเศษ สอนอาทิตย์ละ 4 คาบต่อ
อาทิตย์) 5 งานในระยะเวลา 5 ปี ผมทำแบบนี้ทุกวัน มีเวลานอนวันละ

2-3 ชั่วโมง เอาง่ายๆ เริ่มต้นวันจันทร์ถึงศุกร์ ตื่นนอนตอนดี 4 ครึ่งทุกวัน

4.30-6.00 ทำงานที่เคเบิ้ลทีวี

6.30-7.00 กลับมาบ้านอาบน้ำแต่งตัว

7.00-7.30 ขับรถไปทำงานเพราะที่ทำงานอยู่ลำพูน

8.00 - 11.30 ทำงานที่บริษัท (อาจจะมีไปหาลูกค้าบ้างบางวัน)

11.30 - 12.30 เวลาพักเที่ยง แต่ผมเอาเวลามาจัดรายการวิทยุที่สถานีแห่งหนึ่ง บางวันติดงานต้องกลับมาอัดรายการไว้มีเวลาว่าง

12.30 - 16.30 กลับมาทำงานตามปกติ

16.400- 18.00 ไปดูหน้างานที่เป็นงานรับเหมาของตัวเอง

18.00-20.30 มอบหมายงานให้ทีมและพูดคุยถึงปัญหาเรื่องงาน และทานอาหารไปพร้อมกันเลย แต่ก็ไม่ทุกวันครับ ส่วนใหญ่ผมจะคุยเรื่องงานก็จะต้องไปเตรียมงานอื่นต่อถ้าไม่มีปัญหาอะไรและงานเป็นไปตามที่เรามอบหมาย

20.30 - 21.00 ครึ่งชั่วโมงสำหรับเตรียมหัวข้อข่าว อ่านและคิด

21.00-22.00 งานที่ทำงานมีอะไรค้างและต้องเตรียมเสนอลูกค้าพรุ่งนี้

22.00-23.00 เตรียมสอนเพื่อฆ่าเวลาออกไปทำงานอีกรอบ (บางทีก็แอบงีบหลับ)

23.30-24.00 อาบน้ำและเดินทางมาสถานทีวิทยุ เพราะมีจัดรอบดึกอีกรอบก่อนปิดสถานี

24.00-02.00 จัดรายการและปิดสถานนีและปิดห้องส่ง เขียนโน๊ตสรุปเพื่อง่ายต่อผู้จัดที่จะต่อตอนตี 5

02.20 - 0.430 อาบน้ำนอน เพื่อเริ่มต้นใหม่พรุ่งนี้

ส่วนวันที่สอนมีสองวัน คือวันพุธ และศุกร์ โดยจะเป็นช่วง 10.15-11.50

ส่วนวันศุกร์จะเป็น 13.15 -14.50 สองเวลานี้ผมเอาเวลางานไปทำ

แต่ขออนุญาติและทำหนังสือแจ้งต้นสังกัด เรียบร้อยถูกต้องทุกอย่างครับ

ทางบริษัทเห็นว่าเป็นงานที่เหมาะสมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพียงแต่

โบนัสก็ได้น้อยกว่าคนอื่นนิดหน่อยครับ

ผมทำงานแบบนี้เพื่อสิ่งเดียวคือ บ้านที่ผมคิดว่าจะต้องซื้อให้ได้ด้วยเงินตัวเอง

ตอนอายุ 30 แต่ด้วยการที่ผมทำงานหนัก และเก็บมาเรื่อยๆ

ผมสามารถซื้อบ้านได้ตอนอายุ 28 เองครับ ก่อนที่คิดไว้ 2 ปี

ด้วยเงินสดที่ชนิดว่าปิดบัญชีเทกันเลย ผมเห็นโฆษณา

บ้านที่เจ้าของบ้านเข้าไปอยู่แต่ตัวเองไม่เหลืออะไรเลย

ผมหัวเราะทุกที เพราะผมเองก็คล้ายๆแบบนั้น วันที่ยืนอยู่กลางบ้านด้วย

ความภูมิใจ ในบ้านโล่งไม่มีอะไรเลยเพราะผมไม่เหลือเงินเลย

แถมด้วยห้องนอนที่มีแค่เตียง กับหมอนและผ้าห่ม ผมค่อยเก็บเงินหาซื้อ

ทุกอย่างเข้ามาในบ้านในเวลา 1 ปี ก็ครบทุกอย่าง เหมือนจะดีนะครับแต่

สิ่งที่ตามมาไม่ใช่เลย ผมเสียสุขภาพไปและไม่คิดถึงเลยว่าการทำงานหนัก

แบบนั้นจะทำให้ผมเองต้องมาป่วยแบบนี้ จริงๆที่เขียนก็ไม่ได้เพื่อยกหางตัว

เองหรืออวดอ้างอะไรนะครับ แต่อยากให้ดูให้เห็นให้คิดว่า

เป็นตัวอย่างที่แย่มากกว่า เพราะสิ่งที่ได้มาไม่คุ้มกันสักนิด

เพราะสิ่งที่ได้มาก็ต้องเสียไปเพราะคุณต้องใช้ในการรักษาตัว

มันคุ้มกันมั้ยครับ คนที่เรารักและคอยแอบดูเค้าอยู่ห่างๆเสมอ

ก็นับถอยหลังที่เราจะต้องจากกันอีกครั้ง

และเธอเองก็ต้องอยู่กับความสุขและกังวลเวลาที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันว่า

จะเป็นอย่างไรบ้างจะปวดหัวรึเปล่า จะวูบอีกมั้ย สารพัด ผมคิดแล้วเสียใจ

แต่ก็กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็พยายามทำทุกวันให้ดีที่สุดแหละครับ

P.s ขอบคุณนะครับคุณหนิงที่อดทนกับคนอย่างผม ผมสัญญาว่าผมจะอยู่ข้างคุณหนิงและจะดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้นะครับ จะไม่ทำตัวให้เป็นห่วงแบบนี้อีก สิ่งที่เราสองคนเจอ ผมรู้ว่าเราต้องอดทนและต้องรอเวลาให้ทุกคนยอมรับซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก แต่ผมก็อยากให้เราทั้งคู่อดทนและผ่านไปด้วยกันนะครับ คุณหนิงดูผมสิผมเองยังสู้เลยเพื่อให้มีวันนั้นที่เป็นวันของเราครับ

P.s 2 ขอบคุณกำลังใจจากเพื่อนๆทุกคนครับ ขอบคุณที่ยังแวะเวียนเข้ามาทักทายกัน





 

Create Date : 03 ธันวาคม 2553
9 comments
Last Update : 3 ธันวาคม 2553 8:13:53 น.
Counter : 808 Pageviews.

 

แวะมาทักทายยามเช้าระหว่างทำงานค่ะ

ขวัญก็คงคล้ายๆนายช่างนะคะที่เพิ่งมารู้ตัวว่า
ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐที่สุดแล้ว
แต่เมื่อเป็นแล้วก็สู้ๆกับมันนะคะ
แวะมาพร้อมกำลังใจเหมือนเดิมค่ะ

 

โดย: ในความอ่อนไหว 3 ธันวาคม 2553 8:59:26 น.  

 

สวัสดีเช่นกันนะครับน้องวิน


 

โดย: กะว่าก๋า 3 ธันวาคม 2553 9:38:20 น.  

 

แวะมาทักทายจ้ะ...สู้ ๆ ..บางอย่างไม่อยากทำก็ต้องฝืนค่ะ เพราะ..นี่แหล่ะชีวิต ไม่มีงานก็ไม่มีเงิน.....

 

โดย: ไหมพรมสีสวย 3 ธันวาคม 2553 9:57:36 น.  

 

โห คุณวิน ทำงานหนักพักผ่อนน้อยมาก

ดูลักษณะงานเครียด ๆนะคะ

คุ้มไหม กับสิ่งที่ได้มา
สุขภาพที่สูญเสียไปนั้น

แต่ตอนนี้คุณวินรู้แล้วว่าเป็นเพราะอะไร ก็ควรถอยห่างและดูแล ยิ้มสู้กับมันนะคะ

ในเมื่อเรา ทุกคนมีเวลาเท่ากัน 24 ชม.

ใครบอกกันนะว่า ต้องใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด แต่รินเห็นว่าเวลาพักผ่อนก็คือเวลาพัก อย่าได้เอาเวลานั้นมาทำงานหนักเลยค่ะ

นาฬิกาชีวิตคนเราเสียมานักต่อนักแล้วด้วยเหตุนี้

ยังไงก็ยังคงเอาใจช่วยคุณวิน+คุณหนิงตลอดไปนะคะ


 

โดย: Rinsa Yoyolive 3 ธันวาคม 2553 10:24:02 น.  

 

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

 

โดย: ภายใต้ 3 ธันวาคม 2553 11:41:44 น.  

 

มาแบบอารมณ์ง่วงค่ะวันนี้ ไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่

มาเฉลยค่ะเมื่อก่อนนั้สมัยสาวๆเจนมีแฟนอยู่คนนึงและเค้าก็หนีเราไปแต่งงานกับคนอื่นตอนที่เพลงนี้ดังมากๆ เค้าไม่ได้เชิญเราไปงานแต่งหรอกค่ะ แต่เชิญเพื่อนเราไป ใจเราก็อยากไปเห็นเค้าเพราะอยากเจอเค้า อีกใจก็กลัวเราฟูมฟายมากกว่าเดิม

พอผ่านไปเกือบ 5 ปีเจนก็มาเจอพี่ช้าง(แฟนปัจจุบัน) มีครี้งนึงที่เราทะเลาะกันแล้วเราก็ฟังเพลงนี้แหล่ะค่ะ ในวันที่เค้ามาขอเจอเราก่อนกลับเมกา เราก็ไม่เอาไม่อยากเจอ อยากเลิก 555 พอเอาเข้าจริงๆก็ไปเจอเค้าอ่ะนะ ทำไงได้คะ ก็รักเค้าจนหมดใจนี่คะ อิอิอิ

เพลงเดียวแต่คนละอารมณ์เลยค่ะ เพลงนี้กับคนแรก เสียใจแค้นใจ
เพลงนี้กับคนที่สองคืออารมณ์น้อยใจล้วนๆค่ะ
(น้ำเน่าดีค่ะ)

ทักทายวันศุกร์ค่ะคุณวิน และฝากไปถึงคุณหนิงด้วยนะคะ

 

โดย: ภายใต้ 3 ธันวาคม 2553 11:53:39 น.  

 

เป็นกำลังใจให้พบกับความสงบและความสุขที่แท้จริงอย่างที่เราพบแล้วจะรู้ว่าความสุขไม่ต้องมีเงินมากมายเงินไม่สามารถซื้อความสุขให้เราได้

 

โดย: ต้นโมกกับโยกเยก 3 ธันวาคม 2553 12:15:32 น.  

 

Glitter Graphics




รักษาสุขภาพด้วยค่ะ อากาศหนาวแล้ว

 

โดย: Junenaka1 3 ธันวาคม 2553 13:43:07 น.  

 

สวัสดีค่ะน้องวิน พักผ่อนบ้างนะคะ

 

โดย: redclick 3 ธันวาคม 2553 14:07:04 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


wingang
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Life is always the default.
Facebook
Friends' blogs
[Add wingang's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.