|
สิ่งที่น่ากลัวคือคำพูด
สิ่งที่น่ากลัว คือคำว่า ภัยอันตราย ภัย แปลว่า สิ่งที่น่ากลัว เมื่อเจอพบเจอมักจะทำให้เกิดความเสียหาย
ภัย คือสิ่งที่นำเอาความ วิษัติมาสู่เรา เมื่อไหร่ที่เราสวดมนต์
ขอพระจากพระ ไม่ว่าจะที่ดีหรือใครให้พรก็จะอยากให้ปัดเป่าภัย
อันตราย อย่าให้เกิด อย่าให้มีอย่าให้เจอ วันนี้ผมเองก็ปกติที่ทุกอย่าง
ทั้งเรื่อง การงาน และเรื่องความรักนะครับ แต่ผมแค่คิดถึงเรื่องที่ผม
อย่างเขียน(อีกแล้ว) เลยคิดจะเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา ความน่ากลัวของ
ภัยต่างๆไม่ว่าจะภัยธรรมชาติ ภัยใกล้ตัว ไกลตัว ไม่มีใครอยากเจอทั้ง
นั้นแหละครับ แต่ภัยที่หน้ากลัวคือภัยที่เรารู้สึกว่ามันไกลตัว ก็เลยไม่
ระวังพอมันเกิดขึ้นมันกลับเกิดขึ้นแค่ปลายจมูกเท่านั้นเอง แต่เราคิด
ไม่ถึง ปลายจมูกของคนต่ำลงมาอีกนิดก็คงเป็นที่รู้กันว่ามันคือ ปาก ถึงมีคำพูดต่อกันมาว่า
พูดดีเป็นศรีแก่ปาก พูดมากปากจะมีสี พูดดีเป็นสีแก่เหงือก ถ้าพูดไม่เลือก เหลือแต่เหงือก ไม่มีฟัน พูดดีเป็นศรีแก่ตัว ถ้าพูดชั่ว ก็เอาตัวมันไปเผา สำเนียงส่อภาษา หน้าตาส่อจังหวัด สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล
หลายๆเรื่องที่เกิดขึ้นก็เพราะปากทั้งนั้น เราควรคิดในสิ่งที่จะพูด
แต่ไม่ใช่พูดทุกสิ่งที่คิด พูดทุกสิ่งที่คิด อาจติดคุกเพราะคำพูด
เพราะปากไม่ดีอาจจะพาให้ใบหน้าเดือดร้อน ในชิวิตประจำวัน
จึงควรระมัดระวังคำพูด เพราะเมื่อไหร่ที่พูด คำพูดมักจะเป็นนายเรา
ต้องระวังให้มากในคำพูด อย่าพูดเพราะตัวเองชอบ แต่ถ้าไม่ภูกใจผู้
อื่นก็ไม่ควรพูด การพูดสามารถทำให้ศัตรูกลายเป็นมิตรได้ แต่ก็ทำให้
มิตรกลายเป็นศัตรูได้เช่นกัน คนเรามักใช้ปากในทางที่ไม่ค่อยถูกต้อง
เรื่องของตัวเองจะเงียบไว้แต่เรื่องของคนอื่นต้องขยาย ใครเล่าอะไร
ให้ฟัง ถ้าบอกว่าอย่าพูดนะอย่าเล่านะ รับรองเลยว่าไม่ทางที่จะเก็บได้
หมด การรักษาความลับได้ดีที่สุดคืออย่าพูดก็จบ ไม่มีใครรักเราเท่าตัว
เราเอง ไม่มีใครหวังดีกลับเราเท่าตัวเราเอง อย่าทำร้ายคนที่เรารัก
เพราะคำพูด เพราะพูดออกมาแล้วมันยากที่จะแก้ไขอะไรได้ มีหลาย
คนในสังคมที่เสียเพราะคำพูดก็มีให้เห็นเยอะไป ดาราถ้าพูดจาไม่ดีก็
ไม่มีใครเค้าชอบ นักการเมืองพูดจาดีคนก็เลือกเข้าไปทำงานแทน
บางคนพูดจาไม่ดีแต่ทำงานอย่างจริงจังแต่ก็ไม่มีใครเลือก แต่ผิดกับ
คนที่พูดดีต่อให้ทำงานเพียงน้อยนิดคนส่วนใหญ่จะมองว่ามันยิ่ง
ใหญ่ โดยเฉพาะเรื่องในครอบครัว ความในอย่าออกความนอกอย่าเอา
เข้า เพราะถ้าความในยังเอาออกมาพูดแล้วคนเค้าไม่ได้มองหรอกว่า
ทำไมถึงทำแบบนี้ แต่ที่เรามองคือตัวคนเล่านั่นแหละ ขนาดครอบ
ครัว พ่อแม่ คู่ผัวตัวเมีย ยังเอามาพูดนับประสาอะไรกับตัวเราที่เค้ามา
พูดให้ฟัง เค้าจะไม่นินทาว่าเราลับคนแบบนี้อยู่ให้ไกลดีกว่าครับ
ไปที่ไหนก็คงเน่าที่นั่น นินทาว่าร้ายคนอื่นแต่ลืมมองตัวเองว่าดีพอ
แล้วรึยัง ถ้าดีพอจริงๆทำไมถึงพูดเรื่องคนอื่นละ อีกพวกคือฟังไม่ศัพท์
จับมากระเดียด พวกนี้ก็ยิ่งไปกันใหญ่ คิดเองเอ่อเองตัดสินกันไปว่า
เค้าต้องเป็นแบบนั้นพูดแบบนี้ อีกพวกคงเป็นพวกหูเบา
เชื่อไปหมดไม่แยกแยะโดยใช้สติ มีอยู่เยอะในสังคมที่ตัดสินเค้าไป
แล้วว่าคนนี้ไม่ดี คนนี้ชั่ว แต่พอมารู้จักตัวตนจริงแล้วไม่ได้เป็นแบบที่
คิด ที่ผ่านมาน้ำลายของแต่ละคนแต่งเสริมเติมแต่งให้คนนั้นจากคน
ธรรมดากลายเป็นโจรไปได้ แบบนี้ยังจะเรียกตัวเองว่าคนดีอีกเหรอ
การมองคนมองที่ไหน ตัดสินว่าใครไม่ดีจากอะไร จากคำพูดคนอื่น
คิดแล้วผมนึกถึงเพลงหนึ่งของซิลลี่ฟู น้ำลาย พูด จะพูดให้คน
เกลียดหรือคนรักมันไม่ยาก แต่พูดให้คนรักมันยากกว่าพูดให้คน
เกลียด และพูดเรื่องคนอื่นมันสนุกที่สุด ส่วนใหญ่พวกที่ชอบพูดเรื่อง
คนอื่น นินทาคนอื่นเท่าที่ผมสังเกตเค้ามักจะมีปมด้อยทั้งนั้น ไม่ว่า
จากตัวเค้าเอง หรือครอบครัว สามี ลูก หน้าที่การงาน หรืออะไรหลายๆ
อย่างอีกหลายเหตุผลที่เราเองอาจะจะไม่เข้าใจและสงสัยว่า
นั่นนะเหรอคือเหตุผล แต่ส่วนใหญ่มักจะตบท้ายเหตุผลว่า
ก็เพราะรัก เพราะเป็นห่วง ไม่อยากให้....................."
อะไรก็ว่ากันไป แต่เคยคิดบ้างไหมว่าคนที่โดนนินทาหรือคนที่เค้ารับ
ฟังจะทุกข์หรือไม่ หรือแค่สะใจที่ได้พูดเรื่องคนอื่น นี้แหละนะจิตใจ
มนุษย์ที่เค้าบอกว่า
มหาสมุทรสุกลึกล้น คณนา สายดิ่งท้องทอดมา หยั่งได้ เขาสูงอาจวัดวา กำหนด แต่จิตมนุษย์นี้ไซร้ ยากแท้หยั่งถึง
และเมื่อคนที่เค้าพร้อมที่จะพิสูจณ์ตัวเองก้าวพ้นความกลัวที่ไม่กล้า
ออกมายื่นเพื่อบอกให้คนอื่นรู้ว่าที่ผ่านไม่ได้กลัวหรือไม่กล้า
แต่แค่ไม่อยากมีปัญหากับใคร แบบนี้พอออกมาน่ากลัวกว่ามากหลายเท่าเพราะเค้าบอกว่า
อย่าไล่สุนัขจนตรอก อย่าต้อนคนให้จนมุม เพราะที่สุดของความกลัวคือความไม่กลัว แต่ที่สุดของความกลัวคือความกล้าและความกล้าที่มาจากความกลัว น่ากลัวที่สุด
เพราะเหตุนี้เราควรใช้สติการในการใช้ชีวิตให้มากๆ
เพราะเพียงคำพูดเล็กๆน้อยอาจจะกัดกินใจใครหลายคนและอาจ
ทำลายและทำร้ายคนที่เรารักแบบไม่รู้ตัวเลยก็ได้อย่างน้ำผึ้งหยดเดียว
p.s ควรมีสติในสต๊อก มิฉะนั้น อาจถูกน๊อตและช๊อคก่อนหมดสติ P.s 2 เมื่อวานผมได้คำตอบจากคุณหนิงแล้วครับ เราเหลือเวลาที่จะนับถอยหลัง 4 ปีกับอีก 10 เดือน อาจจะดูว่านานเกินไป แต่สำหรับผมรอได้ครับ เพื่อให้คุณหนิงได้ทำเพื่อครอบครัวให้เต็มที่และสมบูรณ์สะก่อน ผมบอกคุณหนิงเวลาหลังจากนั้น ผมขอดูแลนะครับ จนกว่าใครคนหนึ่งไปตายก่อนกัน เราสัญญากันว่าถ้าใครคนหนึ่งจากไป ให้กลับมารับใครอีกคนในวันต่อมาเพราะคนที่อยู่ก็จะอยู่อย่างมีความทุกข์เพราะฉะนั้นเราขอให้เวลาที่อยู่ด้วยกันไปนานจนกว่าวันนั้นจะมาถึง
Create Date : 27 มกราคม 2554 |
|
23 comments |
Last Update : 27 มกราคม 2554 9:53:40 น. |
Counter : 1508 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ภายใต้ 27 มกราคม 2554 10:25:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 27 มกราคม 2554 14:45:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 30 มกราคม 2554 14:10:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: ภายใต้ 2 กุมภาพันธ์ 2554 16:42:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: SongPee 2 กุมภาพันธ์ 2554 19:55:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: ภายใต้ 3 กุมภาพันธ์ 2554 11:26:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 4 กุมภาพันธ์ 2554 9:54:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 8 กุมภาพันธ์ 2554 6:09:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: ภายใต้ 8 กุมภาพันธ์ 2554 14:03:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: ภายใต้ 9 กุมภาพันธ์ 2554 11:52:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: ภายใต้ 11 กุมภาพันธ์ 2554 11:15:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: redclick 11 กุมภาพันธ์ 2554 11:41:46 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 12 กุมภาพันธ์ 2554 6:18:16 น. |
|
|
|
|
|
|
|
สวัสดีค่ะหนิง
นำดอกไม้มาฝากจะได้สดชื่นค่ะพี่วิน
ช่วงนี้งานยุ่งๆค่ะพี่วิน อาจจะไม่ได้เข้ามาทักทายทุกวันนะคะเพราะจะต้องเคลียร์งานหยุดพักร้อน 2 วันค่ะ 31 มค-1 กพ. กลับมาอีกทีก็นู่นเลยค่ะ วันที่ 2 กพ.เริ่มงานตอนนั้นคงหัวหมุนนิดหน่อย ^_^
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ