|
กำลังใจและความเชื่อ ทำให้เกิด "ปาฏิหาริย์"
กำลังใจและความเชื่อ หากเราเชื่อว่าตัวเราเองทำได้
และให้กำลังตัวเองอยู่เสมอว่าเรานี้แหละจะทำทุกอย่างตามความฝัน
ให้เป็นจริงได้ แน่นอนว่าความฝันที่เราเคยมองเห็นว่ามันห่างไกล
มันก็จะเกิดขึ้นได้จริง กำลังใจจากคนรอบข้างมีส่วนผลักดันให้เรา
เดินต่อไปข้างหน้า หลายครั้งที่ตัวผมเองล้มลง และมองทางข้างหน้า
แทบไม่เห็นเลยว่าจะต้องไปทางไหนต่อ จะมีคน 2 คนที่คอยให้กำลัง
ให้ผมเดินต่อไปข้างหน้า คอยบอกให้ลุกขึ้นสู้ และไม่เคยที่จะต่อว่า
หรือซ้ำเติมในสิ่งที่ผมทำผิดพลาด ไม่ว่าจะเรื่องใหญ่หรือเล็ก
คน 2 คนนี้คอยให้กำลังใจจนผมผ่านปัญหาเหล่านั้นมาได้เสมอ
วันนี้ใครคนหนึ่งไม่ได้อยู่กับผม แต่ผมรู้ว่าใครคนนั้นไม่ได้หายไปไหน
เค้ายังอยู่ในตัวผมเสมอ และคอยมองผมจากข้างบนฟ้าเมื่อไหร่ที่ผม
ท้อใจ และคอยให้กำลังให้ผมลุกขึ้นสู้เสมอ วันนี้ที่ผมก้าวเดินมาถึง
วันนี้บอกได้เลยว่า ครอบครัวที่เข้มแข็งและสิ่งที่คน 2 คนคือ พ่อกับ
แม่ผมสอนผมมาเสมอไม่ว่าจะเจอเรื่องหนักแค่ไหน ท้อแค่ไหนให้มอง
ว่าในความโชคร้ายมักจะยังมีสิ่งที่ดีเสมอ ต่อให้ตัวเราเองว่าไม่เหลือ
อะไรเลย แต่ถ้าคุณยังก้มมองว่าชีวิตคุณไม่เหลืออะไรเลย ก็แสดงว่า
คุณยังมีลมหายใจ ตอนเด็กผมและครอบครัวไปเที่ยวทะเล
ผมเองพยายามที่ก่อปราสาททรายให้สวยเหมือนในนิทาน และ
พยายามสร้างให้มันเป็นบ้าน ผมบอกว่าพ่อว่า
สักวันผมจะสร้างบ้าน และตึกใหญ่ๆให้ป๊าดู
พ่อผมมองและอมยิ้ม แต่หลังจากนั้นไม่นาน
ปราสาททรายที่สร้างใกล้จะเสร็จก็เจอคลื่นพัดเอาน้ำทะเลมา
จำได้ว่าผมยืนทำหน้างง แล้วทำท่าเหมือนจะร้องไห้
ก็ผมพยายามมาหลายชั่วโมงมากเลยนะ พ่อผมเดินเข้ามาก่อนที่
ผมจะกลายเป็นเด็กขี้แย ไงเราน้ำมาพังหมดเลยเหรอ
ผมก็แค่พยักหน้า พ่อผมพูดต่อว่า ดีแล้วไง (ในใจตอนนั้นอ้าวไงงั้นละป๊า)
ก็เรานะมาทำตรงนี้เมื่อกี้ก็เห็นแล้วว่าน้ำมันพัดมา
ลูกยังเอารองเท้าไปกั้นน้ำไว้เลย แล้วก็ทำต่ออีก
ถ้าลูกหยุดแล้วหาที่ทำใหม่ตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่เสียเวลาแล้ว
แต่ป๊าว่าดีแล้วละที่มันพัง เพราะต่อไปลูกจะระวังมากขึ้นและจะ
ทำอีกกี่หลังมันก็ไม่มีทางพัง แต่ลูกรู้มั้ยเราก็จะเจอปัญหาเรื่องใหม่ไปเรื่อยๆ เป็นสิ่งที่ลูกได้เค้าเรียกว่า บทเรียน เอ้าจะมายืนมองทำไมละครับ จะทำใหม่รึเปล่าไหนบอกจะสร้างบ้านให้ป๊าไม่ใช่เหรอแค่นี้ท้อสะแล้ว มันพังได้ก็สร้างใหม่ได้ ทรายมีอยู่เต็มหาด กลัวอะไร
แต่ในวันนั้นผมอายุแค่ 7 ขวบไม่ได้รับรู้อะไรมากมายได้แต่ยืนมอง
แบบงง แล้วก็ปาดน้ำตาแล้วก็ทำใหม่ก็ได้ แต่ผมรู้รับรู้สึกได้กำลังใจ
จากพ่อของผม แต่ในตอนนี้ผมอายุขนาดนี้ผมก็รู้ว่า อืมจริงด้วยพอ
วันนี้นั่งนึกถึงคำพูดและคำสอนของพ่อผมวันนั้น มันทำให้ผมฮึดสู้ขึ้น
มาได้อีกรอบ และทั้งๆที่ก็สู้อยู่ทุกวัน แต่ก็ใช่มันก็เหมือนชีวิตผมตอนนี้
ที่ผมเองกำลังทำปราสาททรายต่อให้ผมจะเจอน้ำพัด
พายุฝนอีกกี่รอบผมเองก็จะมีประสบการณ์และแกร่งขึ้นไปเรื่อยๆ
หลายคนถามผมว่าผมอยู่ได้ยังไง เป็นเค้าคงอยู่ไม่ไหวแล้ว
ผมบอกแค่ว่าผมไม่ได้อยู่เพื่อตัวเอง
แต่ผมอยู่เพื่อคนที่ผมรักและรักผม เพราะถ้าลำพังตัวผม
แค่ความเชื่อ ผมคงไม่ไหวเหมือนกันกับสิ่งที่ผมเจออยู่
แต่ผมมีกำลังใจจากแม่ผมจากคุณหนิงผู้หญิงที่ผมรัก
ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่คน 2 คนบนโลกที่อยากให้ผมอยู่และสู้
แต่มันมากพอแล้วที่ผมจะทำเพื่อเค้าทั้ง 2 คน
P.s ป๊าครับผมยังไม่ว่างไปหาป๊านะครับ ผมรู้ว่าป๊ารีบเลยไปก่อนผม แต่ผมขออยู่หม่าและคุณหนิงก่อนนะครับ เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ
P.s 2 ขอบคุณหม่าที่คอยให้กำลังและอยู่ข้างผมมาตลอด ขอบคุณคุณหนิงที่ไม่เคยเลยที่จะปล่อยมือไปจากผม เรายังคงจับมือกันเสมอมาไม่ว่าผมจะต้องเจอกับเข็มฉีดยากี่เข็ม ไม่ว่าผมจะร่วงมากขนาดไหน ร่างกายจะเปลี่ยนไป ผมดำลงกว่าเดิมแค่ไหน คุณหนิงยังอยู่ข้างผมและคอยส่งยิ้มให้ผมสู้เสมอและทุกครั้งที่เกิดอะไรขึ้นคุณหนิงจะบอกผมว่า ไม่เป็นไรเนอะ คุณหนิงจะอยู่กับนายช่างนะครับ คำพูดสั้นง่ายๆแต่รู้ไหมครับมีความหมายสำหรับผมมาก
Create Date : 22 มกราคม 2554 |
|
3 comments |
Last Update : 25 มกราคม 2554 4:19:55 น. |
Counter : 1131 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: หน่อยอิง 22 มกราคม 2554 20:03:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: ภายใต้ 24 มกราคม 2554 15:03:29 น. |
|
|
|
|
|
|
|