Beach Front Pool Villa - Paradee Samed
Nov 27-29, 09ทริปนี้เกิดจากความไม่ได้ตั้งใจเท่าไร พอดีไปเดินงานไทยเที่ยวไทยเมื่อต้นเดือนกันยาแบบไม่มีจุดหมาย กะว่าเจอรีสอร์ทไหนมี promotion ถูกใจก็จะเก็บไว้พิจารณา และไม่สามารถซื้อได้เยอะหลายที่ เพราะเพิ่งจะย้ายที่ทำงาน แล้วก็เลยดันไปเจอะ Samed Resort ที่ทำราคารีสอร์ทในเครือได้ถูกใจ ก็เลยได้ไปเที่ยวเสม็ดอีกครั้งหลังจากไม่ได้ไปมานานกว่า 5 ปี และไม่เคยไปกะคุณสามีเลย เราออกจาก กทม ประมาณ 10 โมงเช้า เพื่อจะไปให้ทัน shuttle speedboat รอบบ่ายโมง ถ้าไปไม่ทันต้องเสียค่าเรือไปเกาะเองเป็นเงิน 3,000/way เพราะอ่าวนี้เป็นอ่าวส่วนตัวไม่มีเรือโดยสารไปเทียบท่า ต้องเป็นเรือของรีสอร์ทเท่านั้น เราว่าขับไปบ้านเพง่ายดีนะ ระยะทางก็ไม่หนีกะไปหัวหินเท่าไร แต่รถใหญ่วิ่งเยอะเหลือเกิน ขับไม่ชินทางก็รู้สึกมันอันตรายใช้ได้เลยพูดมานาน มาดูรปกันดีกว่าค่ะต้องไปขึ้นเรือที่ท่าเรือจเด็จนะคะ เป็นท่าเรือส่วนตัวของทางรีสอร์ทเองเลย ซึ่งมีที่จอดรถในร่มไว้ให้บริการฟรีค่ะ เพราะฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วงรถนะคะ มีพี่ยามดูแลให้ค่ะ เราต้องไปถึงก่อนเวลาเรือออกประมาณครึ่งชั่วโมงเพื่อทำการ check in ที่ office ที่ตรงท่าเรือจเด็จเนี่ยแหละค่ะ และนี่คือท่าเรือและเรือที่จะพาเราไปยังอ่าวกิ่ว ซึ่งเป็นที่ตั้งของปารดี รีสอร์ทค่ะเราใช้เวลาเพียง 15 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ รูปด้านล่างเป็นท่าเรือที่ปารดีแล้วค่ะ ท่าเรือจะอยู่ด้านหลังของรีสอร์ทนะคะ เสียดายว่า ไม่ได้ถ่ายรูปตอนถึงท่าเรือที่ปารดีมาให้ดูค่ะ เค้าจะมีพนักงานมาคอยต้อนรับพร้อมผ้าเย็นค่ะ รูปด้านล่างจากท่าเรือมองไปบนฝั่งเมื่อมาถึงค่ะ ส่วนที่เห็นเป็นเป็นบ้านด้านซ้ายมือคือ sunset bar ค่ะ เราสามารถเลือกมาดื่ม welcome drink ที่นี่ตอน 5 โมงเย็นเป็นต้นไปค่ะ ซึ่งที่ sunset bar นี่ได้รับการตอบรับจากแขกที่มาพักมากมาย เพราะดื่ม welcome drink ไปก็นั่งชมพระอาทิตย์ตกไปหลังจากนั้นพนักงานก็พาพวกเราและสัมภารกของเราขึ้นรถกอล์ฟ เพื่อพาไป villa ที่จองไว้ และนี่เป็นรูปหน้าบ้านค่ะเลข Villa ที่ได้ก็เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็จะเห็น เตียงข้างสระน้ำในบ้านของเราก่อนเลย สระจะอยู่ถัดไปข้างในค่ะด้านขวาเป็นมุมที่เราสองคนไว้นั่งดื่ม afternoon tea ทุกวันที่พักค่ะ (เค้าบริการเสริฟชาและอาหารว่างฟรีในตอนบ่ายค่ะ) นั่งดื่มชาไปก็จะเห็นทะเลและได้ยินเสียงคลื่นเลยค่ะเข้าบ้านจริงๆ กันดีกว่าเนอะเปิดประตูเข้าบ้านไปก็ เจอห้องนั่งเล่นก่อนเลยมีคานาเป้ และไวน์ 1 ขวดไว้รอต้อนรับ(ฟรี)ค่ะส่วนนี่ก็ mini bar ที่มีเครื่องทำกาแฟไว้ให้เลยค่ะ มีกาแฟมาเติมไว้ให้ทำทุกวัน คุณสามีชอบมาก ชมทุกวันที่ดื่มกาแฟว่า กาแฟอร่อยถัดไปก็ห้องนอนค่ะปลายเตียงก็เป็นทีวีที่เราและสามีบ่นว่ามันเล็กไปหน่อยสิ่งหนึ่งที่เราชอบเตียงของปารดีก็ตรงที่เค้ามีไฟหัวเตียงให้แบบนี้ค่ะ เวลาอ่านหนังสือบนเตียงจะได้ไม่รบกวนคนที่หลับไปแล้วถัดจากห้องนอนก็ห้องน้ำค่ะ แต่ของโชว์ตู้เสื้อผ้าก่อนนะคะ ถ้าเลื่อนเปิดตู้เสื้อผ้า ก็จะเป็นการปิดประตูระหว่างห้องนอนกับห้องน้ำ อ่างล้างมือที่อยู่ด้านข้างตู้เสื้อผ้าสบู่สองก้อนนี้ทางรีสอร์ทให้เราเลือกคนละอัน ซึ่งมีหลายกลิ่นให้เลือกค่ะแล้วก็ห้องอาบน้ำค่าผ้าเช็ดตัวมีให้แบบแบ่งสีด้วยค่ะว่า สีขาวใช้ในบ้าน สีแดงไปใช้ที่ชายหาด สีน้ำเงินใช้ที่สระว่ายน้ำในบ้านนอกจากสระว่ายน้ำแล้ว เค้ามีอ่างอาบน้ำ outdoor ไว้ให้ด้วยค่ะ (ซึ่งเรากะคุณสามีไม่ได้แช่หรอกค่ะ เพราะอากาศมันเย็น)รูปอ่างชัดๆวิวเมื่อนั่งจากระเบียงบ้านนี่ก็ชุด afternoon tea ที่มาเสริฟทุกวันค่ะรูปนี้ไปยืนตรงชายหาดแล้วถ่ายเข้ามาที่ตัวบ้าน ถ้ามานั่งข้างๆ สระก็ไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัวเท่าไรนะคะ เพราะคนเดินผ่านไปผ่านมาหน้าหาดก็สามารถมองเข้ามาตอนเราเล่นน้ำหรือแช่น้ำในอ่างน้ำได้ค่ะออกจากบ้านไปถ่ายความใสของทะเลอ่าวกิ่วกันดีกว่าแล้วก็วิวทะเลบางส่วนค่ะVilla หลังนี้เป็นหลังที่แพงที่สุดของปารดีค่ะ เซลล์บอกว่าขายอยู่คืนละแสนสอง อ่ะชัดๆ อีกรูปนึงแล้วเราก็เดินไปดู sunset bar ก่อนที่เค้าจะเปิดบริการตอนห้าโมงเย็นไหนๆ มาแล้ว ก็ขอถ่ายป้ายรีสอร์ทหน่อยดีกว่าปิดท้ายด้วยภาพนี้ ภาพจากท่าเรือก่อนนั่งเรือกลับเข้าฝั่งค่าหลายคนคงมีคำถามเกี่ยวกับอาหารเช้านะคะ อาหารเช้าที่นี่มีทั้งบุฟเฟต่และ a la cart ค่ะ คือเค้าจะจัดพวกสลัดผัก เครื่องดื่ม ผลไม้ และพวกไส้กรอก เบคอน อยู่ในบุฟเฟต์ และสามารถสั่งพวกข้าวไข่เจียว ผัดไท ติ่มซำ และอื่นๆ ได้จากเมนู a la cart อีกด้วยค่ะ คือทานข้าวเช้าแล้ว ไม่ต้องทานข้าวกลางวันค่ะ ไปทานมื้อเย็นได้เลยทีเดียวค่ะ บอกคุณสามีไว้เหมือนกันว่า ถ้าคราวหน้าเสม็ดรีสอร์ทจัดโปรโมชั่นของปารดีอีก ก็ว่าจะซื้อกันอีกค่ะ เพราะมันได้ไปพักผ่อนจริงๆ แต่ให้ซื้อราคาเต็ม ก็ซื้อไม่ไหวอ่ะ แพงเกิน
ขอบคุณครับ