๛ ภูษาโยง ๛ (บทที่ 17 : คนละภาษา)
ขอบคุณภาพจาก //footage.shutterstock.com ... ... ... เพียะ ! ใบหน้าของนักนินหันไปตามแรงตบของอีกฝ่าย ทันทีที่ร่างของเกนโซหายเข้าไปในห้องผ่าตัดเพื่อให้แพทย์ทำการผ่าเอากระสุนที่ฝังในออก หญิงสาวสองคนที่ยืนรออยู่ด้านนอกได้หันไปคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง นักนินก้มหน้าขอโทษ และพอเงยหน้าขึ้น ฮานาโกะก็ตวัดมือใส่ใบหน้านวลเข้าอย่างจัง เพียะ ! เพียะ ! เพียะ ! การตบครั้งที่สอง สาม และสี่ ตามมา แต่ละครั้งคือสุดแรงเงื้อและฟาดลงบนแก้มบางอย่างไม่การตบครั้งที่สอง สาม และสี่ ตามมา แต่ละครั้งคือสุดแรงเงื้อและฟาดลงบนแก้มบางอย่างไม่ปรานีปราศรัย แม้ผู้ถูกกระทำจะไม่หลบและไม่ถอยหนี แต่แรงตบครั้งหลังๆ ก็ทำให้นักนินเซทรุด และในที่สุดก็เข่าอ่อนยวบลงไปกองกับพื้นตรงทางเดิน ฮานาโกะเอียงหน้ามองพร้อมกับโน้มตัวลงและเงื้อมือหมายจะลงแรงอีก พอได้แล้วมั้งครับ นพพรคว้าข้อมือเล็กนั้นไว้ ฮานาโกะหันไปตวัดตามองอีกฝ่ายแล้วพูดอยู่ในลำคอ นพพรไม่เข้าใจสิ่งที่หญิงสาวพูด แต่มองจากสายตาแดงก่ำและใบหน้าฉุนเฉียวนั้น เขาเองก็พอจะเดาได้ว่าเธอกำลังไม่พอใจที่เขาเข้ามายุ่มย่าม เธอเป็นต่างชาติน่ะค่ะ แล้วฉันก็ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ นักนินยันตัวลุกขึ้นพร้อมกับเดินไปโอบและลูบหลังฮานาโกะเบาๆ หญิงสาวจึงค่อยๆ ลดมือลงและสะอื้นฮั่กๆ นพพรถอยฉากออกไปอย่างไม่เข้าใจอารมณ์ผู้หญิง แต่หลังจากผละออกมาได้ไม่ไกล ฮานาโกะก็ผลักนันนินออกอย่างแรงจนกระเด็นไปติดกับผนังตึก หญิงสาวขยี้เท้าอย่างไม่พอใจก่อนจะสะบัดหน้าแล้วเดินเช็ดน้ำตาออกไปตามทางเดินโดยไม่รู้จุดหมาย เธอรู้แต่ว่า ต้องพาตัวเองออกไปให้ไกลๆ ก่อนจะทนไม่ไหวและลงมือลงไม้กับนักนินอีกครั้งหนึ่ง เดี๋ยวก่อนฮานาโกะ นักนินหันไปร้องเรียกและหมายจะเดินตาม แต่ทันใดนั้นเธอก็สัมผัสได้ถึงของเหลวอุ่นๆ ที่ไหลออกจากจมูกและหยดแหมะลงบนพื้นเป็นคราบสีแดง เลือดกำเดาของเธอนั่นเอง นักนินถอยไปนั่งตรงเก้าอี้ตรงริมทางเดินและเอามือเช็ดเลือดที่ไหลออกมาไม่มากนัก สักครู่หนึ่งก็หายไป ผ้าเย็นครับ นพพรเดินเข้ามาหาพร้อมกับส่งผ้าเย็นที่ไปขอมาจากพยาบาลยื่นให้นักนินที่จริงเขาตั้งใจให้มันช่วยประคบรอยแดงเป็นรูปนิ้วมือที่ประทับอยู่บนใบหน้าของหญิงสาวแต่ตอนนี้คงใช้ซับเลือดชั่วคราวก่อน ขอบคุณค่ะ นั่นไม่เจ็บหรือ ชายสูงวัยชี้ที่แก้มตัวเองนักนินก็ลูบแก้มตัวเองบ้าง พบว่ามันกำลังร้อนผ่าว เจ็บค่ะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ นักนินบังคับเสียงตัวเองให้เป็นปรกติ ทั้งที่ความจริงแล้วเธอก็ตกใจกลัวจนมือไม้สั่น ตั้งแต่ตอนที่โดนพัลลภขู่กรรโชกจนกระทั่งเกนโซมาถึงและพลัดหลงโดนยิง แต่ก็ต้องควบคุมสติของตนเองเอาไว้ ไม่ให้แตกกระเจิงไปเหมือนฮานาโกะที่พอถึงโรงพยาบาลแล้วหมอบอกว่ากระสุนฝังใน ต้องพาเกนโซเข้าห้องผ่าตัดโดยด่วน เธอช็อคไปครู่หนึ่ง พอได้สติก็หันมาจ้องมองนักนิน หญิงสาวที่จู่ๆ ก็เข้ามาในชีวิตของพี่ชายและทำให้เกนโซต้องมาประสบเคราะห์กรรมโดยใช่เหตุ ทำไมถึงยอมให้เขาตบเอาๆล่ะ ทำเป็นนางเอกหนังไทยไปได้ นพพรพยายามปล่อยมุกซึ่งไม่ได้ผลเท่าใดนัก แต่นักนินฝืนยิ้มแล้วตอบ ฉัน เอ้อ หนู นักนินเปลี่ยนสรรพนามเรียกตนเองเมื่อพิจารณาอายุของอีกฝ่ายซึ่งน่าจะห่างกันร่วมยี่สิบปี หนูผิดเองค่ะ หนูบอกว่าถ้าเธอโกรธคนที่ยิง ก็ให้มาลงกับหนูแทน นั่นเพราะนักนินคิดว่าเธอเองเป็นต้นเหตุทั้งหมด การลงโทษของฮานาโกะยังน้อยไปด้วยซ้ำกับความผิดที่เธอสมควรได้รับ ส่วนฮานาโกะคิดว่าหญิงสาวปกป้องคนผิดเพราะฝ่ายนั้นเป็นญาติของคนรักเก่า สรุปคือไม่ว่าจะมองมุมไหน นักนินก็ผิดทั้งขึ้นทั้งล่อง หญิงสาวกำผ้าเย็นเปื้อนเลือดเอาไว้และบังคับมือไม่ให้สั่นก่อนจะเช็ดเลือดออกจากจมูก และหันด้านที่ไม่เปื้อนมาประคบสองแก้มที่ร้อนผ่าว จากนั้นจึงค่อยๆ หันมาพึมพำเบาๆ กับคนที่ทรุดตัวลงมานั่งด้วย หนูจำคุณได้ คุณเป็นคนช่วยชีวิตพวกเราในอุบัติเหตุคราวนั้นใช่ไหมคะ นพพรพยักหน้า นาฬิกาฝังเพชรของภาคิมอยู่ในกระเป๋ากางเกง เขายังไม่ได้หยิบมันออกมา สภาพคู่กรณีในเวลานี้ช่างดูย่ำแย่พอกันทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ภาคิมนอนนิ่งไม่กระดิกตัวอยู่ในห้องไอซียู ส่วนนักนินก็ดูอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ดีจังค่ะ ที่ได้เจอ คุณอาจจะช่วยบอกหนูได้ ว่าจะไปตามหาครอบครัวของคนที่โดนรถชนตายได้ที่ไหน หลังจากผ่านเรื่องร้ายมามาก นักนินคิดว่าตัวเองเข้มแข็งพอที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งที่ตามมาได้ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเสียงของตนเองจึงแผ่วลงและแผ่วลง โถงทางเดินเบื้องหน้าช่างดูโคลงเคลงและพื้นดินดูอ่อนยวบ อย่าเพิ่งไปไหนนะคะ อย่าเพิ่งไป... ผ้าเย็นในมือร่วงหล่นลงกับพื้น หญิงสาวสลบซบกับบ่าของชายในชุดซาฟารีของหน่วยกู้ภัย นพพรขยับร่างบางนั้นให้เอนลงบนตักเขาอย่างนุ่มนวลที่สุด ในเวลานี้หญิงสาวไม่ควรได้รับความกระทบกระเทือนใดๆ มากไปกว่านี้อีก ภาพที่ปรากฏในสายตาของคนเดินผ่านไปมาในโรงพยาบาลไม่ขัดขัดตาเท่าใดนัก ดูไปคล้ายกับภาพของลูกสาวนอนพักกับตักพ่อในช่วงที่รอผลการผ่าตัด นพพรถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วนึกตำหนิตัวเอง เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอเสียแล้วสินะ...
*..,..,.. * * ..,..,.. * * ..,..,.. ** ..,..,.. *
หงุนส่องกระจกในห้องน้ำของโรงพยาบาลแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองเท่เหลือกำลัง
เสื้อยืดคอวีสีขาวตราห่านคู่ สวมทับด้วยแจ็คเก็ตเข้ารูปสีดำ บวกกับกางเกงยีนส์ขาเดฟทรงทันสมัยที่เขาซื้อมาจากตลาดเมื่อเช้า เพิ่งลองสวมได้ไม่ทันไร นพพรก็โทรหา ให้ไปรับรถจากโรงพยาบาลไปคืนมูลนิธิ เพราะเจ้าตัวคงจะยังไม่กลับในเวลาอันใกล้ ครั้นจะจอดรถทิ้งไว้ก็เกรงว่าจะมีอุบัติเหตุอื่นแล้วรถของมูลนิธิจะไม่พอใช้กัน และที่จริงคืนนี้ไม่ใช่เวรของเขา แต่หงุนก็ว่างอยู่เรื่อยๆ ตามประสานักศึกษาอาชีวะปีสุดท้ายที่ไม่ค่อยมีอะไรทำ เขากระโดดขึ้นรถเมล์มาเพราะค่าแท็กซี่ดูท่าจะไม่พอจ่าย แต่พอถึงโรงพยาบาลก็ยังพอวางมาดได้ เพราะชุดยังไม่ยับเกินไปนัก รถจอดอยู่ประตูสี่มีกุญแจสำรองใช่ไหม ฝากขับไปคืนแปะซ้งด้วยนะ นพพรสั่งมาทางโทรศัพท์สั้นๆ ตั้งใจให้หงุนนแวะมาเอารถแต่เพียงอย่างเดียว แต่ด้วยความที่นั่งรถเมล์มาหลายป้าย ทำให้ถูกข้าศึกโจมตีจนต้องแวะเข้าห้องน้ำของรพ.เสียก่อน ครืดดดดด!!! เสียงล้วงกระดาษทิชชู่และกดอุปกรณ์ชำระดังฟืดฟาดกึงกังอย่างคนใช้สุขภัณฑ์ไม่เป็น ดังมาจากห้องน้ำหญิงในฝั่งตรงกันข้าม หงุนแอบนึกในใจว่าคงจะเป็นคุณป้าแก่ๆ จากต่างจังหวัดมาเยี่ยมหลาน ดูท่าทางจะงกๆ เงิ่นๆ น่าดู ถึงขนาดเฟอะฟะ ปึงปัง จนทำให้เสียงอุปกรณ์ครวญครางดังมาถึงห้องน้ำชายได้ ชายหนุ่มทำธุระเสร็จในช่วงเวลาเดียวกับคุณป้าในห้องน้ำอีกฟากทันใดนั้น เขาได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงเดินกระทบพื้นกระเบื้องดังก๊อกๆ แก๊กๆพร้อมด้วยเสียงสูดน้ำมูกฟึดฟัดระหว่างเจ้าตัวเดินออกมาจากห้องน้ำ หงุนชะโงกหน้าออกจากฝั่งของตัวเอง เมื่อคล้อยหลังเสียงรองเท้าส้นสูง เขาเห็นแค่แผ่นหลังสะโอดสะองของหญิงสาวนางหนึ่งเดินเปะปะไปตามทางเดิน และดูเหมือนจะมีเรื่องกลัดกลุ้มใจอะไรบางอย่างจึงก้มหน้าก้มตาเช็ดน้ำมูกน้ำตาอยู่เป็นระวิง สงสัยจะป่วยเป็นโรคประสาท เขาพึมพำกับตัวเองแล้วถอยหนีออกมา โรงพยาบาลคงไม่ใช่สถานที่ที่เขาจะเจอสาวๆ สวยๆ ได้ง่ายนักมิสู้เอารถกลับไปส่งแล้วไปเดินเล่นตามตลาดหรือห้างสรรพสินค้า แบบนั้นความเป็นไปได้น่าจะสูงกว่าหลายเท่า หงุนส่ายหน้าและเดินแยกจากมาทางที่จอดรถ ส่วนฮานาโกะเหลียวมองดูทางหนีไฟแล้วเกิดความคิดว่า อยากไปขึ้นไปยืนรับลมบนดาดฟ้าสักหน่อย ทั้งสองคนเดินแยกจากกันไปคนละทางเหมือนถนนคนละสายที่ไม่มีวันมาบรรจบกันได้ เว้นแต่จะมีทางลัดตัดผ่าน...
*..,..,.. * * ..,..,.. * * ..,..,.. ** ..,..,.. *
ว.2 ว.7 ว.2 ว.7 มีผู้หญิงโทรมาที่สถานีตำรวจ บอกว่ากำลังจะฆ่าตัวตายบนดาดฟ้าโรงพยาบาล... หงุนชะงักกุญแจที่กำลังบิดเพื่อสตาร์ทรถค้างเติ่ง เครื่องยังไม่ทันติด เสียงจากวิทยุสื่อสารก็ตะเบ็งขึ้นมาเสียก่อน ว.7 ว.7 มีผู้หญิงโทรมาที่สถานีตำรวจ บอกว่ากำลังจะฆ่าตัวตายบนดาดฟ้าโรงพยาบาล... ตำรวจกำลังคุยไกล่เกลี่ย ระหว่างนี้ขออาสาสมัครที่อยู่ใกล้ถนน...กม. 14 ไปเคลียร์พื้นที่โดยด่วน หงุนฟังชื่อโรงพยาบาลแล้วแทบอยากเอาหัวโขกพวงมาลัย นี่มันโรงพยาบาลที่เราเพิ่งเดินออกมาเลยนี่หว่า... ว.2 ศูนย์กู้ชีพปราบดาหาญ กำลังไป เสียงตอบจากอาสาสมัครที่สังกัดอีกมูลนิธิหนึ่งตอบเข้ามาในสาย หงุนเลยเงียบเสียงไม่กดตอบรับ วันนี้เป็นวันพักปล่อยเขามาจัดการไปก็แล้วกัน... นึกในใจอย่างนั้น แต่มือก็หมุนกระจกลงตัวก็ชะโงกขึ้นไปมองบนตึก เฮ่ย!! เขาเห็นหญิงสาวคนหนึ่งยืนหันหลังอยู่บนดาดฟ้าตรงราวระเบียง ลมบนยอดตึกพัดกรูให้ผมหยิกและฟูฟ่องของหญิงสาวปลิวสยายเหมือนก้อนเมฆแตกกระจายเวลาเจอพายุหมุน นั่นอาซิ้มรองเท้าส้นสูงที่เจอหน้าห้องน้ำนี่นา หงุนหมุนกระจกลง เปิดประตู แล้วกระโดดลงจากรถ เขาปิดประตูปังโดยไม่รอฟังรายละเอียดอื่นๆในวิทยุสื่อสาร ไปที่ตึก 2 ชื่อตึกวชิราพรนะครับตั้งสติให้ดี เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม อย่าหลงตึก... หงุนไม่ได้ฟังประโยคนั้นและยังเดินตรงแหน่วไปยังตึก 1 ที่เพิ่งจากมา ชายหนุ่มวิ่งขึ้นบันไดหนีไฟจนหอบแฮ่ก อากาศร้อนสะบัดจนเหงือแตกหงุนถอดแจคเก็ตออกจนเหลือแต่เสื้อยืดสีขาวตราห่านคู่พร้อมกับถีบประตูหนีไฟตรงดาดฟ้าและตะโกนก้อง อาซิ่ม หยุดก่อน!! ฮานาโกะซึ่งกำลังเกาะระเบียงดาดฟ้ากินลมชมวิวเพลินๆหันไปตามเสียงเรียกโดยที่เธอก็ไม่รู้ภาษา เห็นแต่หน้าตาตื่นๆ ของชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันที่กำลังหอบแฮ่กและตะโกนโหวกเหวกอะไรสักอย่าง あなた は 誰 ですか?[ii] ฮานาโกะตะโกนถามว่าเขาเป็นใครและค่อยๆถอยหลังหนีไปตรงระเบียง เธอระแวงคนแปลกหน้าอย่างหนัก ต้นเหตุมาจากพัลลภ นักนิน และเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปหยกๆ ซวยล่ะ ไม่ใช่อาซิ่ม แถมสวยอีกต่างหาก...หงุนสบถพร้อมกับเบิ่งตาค้าง เมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้าชัดๆ ใบหน้าหวานขาวละมุนผุดผ่องและดวงตาโฉบเฉี่ยวเปล่งประกาย แล้วไหนจะปากจิ้มลิ้มพริ้มเพราราวกับผลเชอรี่นั่น นึกได้ดังนั้นหงุนต้องรีบตบหน้าตัวเองพร้อมกับกางขาอ้าแขน เตรียมพร้อมเต็มที่ที่จะเข้าไปประชิดและดึงเธอออกมาจากระเบียงก่อนที่หญิงสาวจะตัดสินใจกระโดดลงไปโดยใช้เวลาให้น้อยที่สุด 怖い[iii] ถึงจะแปลไม่ออก แต่หน้าเบ้ๆและสายตาที่ฮานาโกะส่งมา ให้ความหมายที่ใกล้เคียงกับ... คนบ้า! หญิงสาวนึกภาษาไทยที่เรียนมางูๆ ปลาๆออกแล้วรีบตะโกนใส่ เอ้ย ผมไม่ได้บ้าสักหน่อย คุณน่ะสิบ้า ไอ้บ้า! ไอ้บ้าๆๆๆ นี่คุณ เป็นสาวเป็นนาง พูดจาแบบนี้ได้ยังไงที่สำคัญ อย่าคิดสั้นเลยนะ มา ออกมาเถอะ หงุนพยายามใช้ไม้อ่อน แต่ฮานาโกะเองยังมองเลิ่กลั่กและไม่เข้าใจที่ชายหนุ่มกล่าว เธอถอยหนีไปติดระเบียงเข้าไปใหญ่ และทันใดนั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นดาดฟ้าของตึกถัดไป ฝั่งนั้นมีหญิงสาวท่าทางตื่นกลัวและกลุ่มคนชุดฟอร์มแปลก รวมทั้งแพทย์และพยาบาลไปออกันอยู่ที่นั้น ต่างส่งเสียงร้องห้ามกันอย่างโกลาหล เข้าใจล่ะ... ฮานาโกะพึมพำเป็นภาษาตัวเอง ตาซื่อบื้อคนนี้คงจะนึกว่าเรากำลังจะกระโดดตึกตายสิท่า คนที่จะกระโดดจริงๆ น่ะ อยู่บนดาดฟ้าของตึกโน้นต่างหาก คิดได้แล้วก็ทำเป็นขยับซ้ายที หงุนก็ขยับตามพอเปลี่ยนไปขยับขวา หงุนก็เยื้องตัวตามอีกเช่นกันฮานาโกะเห็นท่าทางของชายหนุ่มแล้วอดหัวเราะคิกขึ้นมาไม่ได้ ท่าทางจะอาการหนักไม่ใช่เล่นหน้าตาก็น่ารักดี ไม่น่าคุ้มดีคุ้มร้ายเลย หงุนเองก็นึกอยู่ในใจและพยายามหาทางแก้ไข พร้อมกับสอดสายสายตามองว่ามีใครตามมาช่วยบ้างหรือยัง ปรากฏว่าข้างหลังก็ไม่มีข้างล่างก็ว่างเปล่า และทันใดนั้น สายตาก็ไปปะทะกับตึกข้างๆ เอ้ย! หงุนเข้าใจในเวลาต่อมา ว่าเขาขึ้นมาผิดตึก ฮานาโกะกอดอกมองตาซื่อบื้อยิ้มเบี้ยวๆ เอามือเคาะและเกาหัวตัวเองแกรกๆ ก่อนจะหันหลังเตรียมเดินจากไปฮานาโกะหัวเราะคิกคักอยู่ข้างหลัง จากนั้นเดินตามมาคว้าแขนหงุนเอาไว้ ไป ส่ง หน่อย หืม ช่วย ไป ส่ง หน่อย นะ คะ ฮานาโกะพูดภาษาไทยได้กระท่อนกระแท่นแต่ก็น่ารักน่าชังและชวนให้หัวใจอ่อนไหวพอๆ กับเต้นรัวหงุนเปลี่ยนมาจูงมือเธอแล้วพยักหน้าแรงๆ อื้อ ถึงจะต่างภาษาแต่ก็เห็นอกเห็นใจและเข้ากันได้อย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มและหญิงสาวจูงมือกันลงมาจากดาดฟ้าเพื่อจะเดินกลับไปยังห้องผ่าตัดที่มีนักนินรอดูอาการของเกนโซอยู่ ... ... ... - โปรดติดตามตอนต่อไป [i]余計なお世話。 อ่านว่า Yokeinaosewa. แปลว่า ไม่ใช่เรื่องของคุณสักหน่อย [ii]あなた は 誰 ですか? อ่านว่า Anata wa dare desu ka? แปลว่า คุณเป็นใครน่ะ [iii]怖い อ่านว่า Kowai แปลว่า น่ากลัวจัง
Create Date : 01 มกราคม 2556 |
|
11 comments |
Last Update : 4 มกราคม 2556 15:55:37 น. |
Counter : 1511 Pageviews. |
|
|
|