Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
18 ธันวาคม 2557
 
All Blogs
 
นิยายรัก ตอนที่ 10 มื้อแสนหวาน (ตย.ตอนสุดท้าย)

COPY WRIGHT : สงวนลิขสิทธิ์ทั้ง ปกหนังสือ และ เนื้อหาค่ะ

ดวงใจเจ้าเวหา


ผู้เขียน :วรรณรวี

พิมพ์ครั้งแรก : กรกฎาคม ๒๕๕๗

copy.jpgสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ ๒๕๓๗

ไม่อนุญาตให้คัดลอกเนื้อหาส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดเพื่อสร้างฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เป็นเอกสารรูปเล่ม หรือเพื่อการใดๆเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น

ISBN : ๙๗๘ – ๖๑๖ – ๓๖๑ - ๙

ราคา ๒๕๐ บาท



***********************************************************

ตัวอย่างตอนสุดท้ายค่ะ

๑๐

มื้อแสนหวาน

ระยะทางจากเดอะสยามนิวส์ไปเยาวราชใช้เวลาพอสมควร พญาอินทรีหนุ่มพอใจเป็นพิเศษกับการอยู่บนท้องถนนยาวนานที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะตุ๊กตาหน้ารถแสนสวยของเขา คนที่แสดงท่าทางเรียบเฉยตลอดทาง ซึ่งเขารู้ดีว่าความรู้สึกแท้จริงของเธอคงจะกำลังปั่นป่วนกับการปรนนิบัติเอาใจอย่างใกล้ชิดของเขา

เริ่มตั้งแต่การที่เขาพาตัวเองเข้าไปใกล้ชิดกับหญิงสาวแล้วยังถือวิสาสะจับจูงมือของเธอให้เดินไปที่รถยนต์คู่กัน เปิดประตูรถให้เธอนั่ง แล้วยังโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ก่อนจะคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอถึงแม้จะโดนหญิงสาวเอ็ดไปหนึ่งครั้งกับการกระทำของเขา หากคำว่า 'มันใกล้มากไปหรือเปล่าพี่ อึดอัด หายใจไม่ออก'ของเธอ สำหรับคนที่มีประสบการณ์โชกโชนอย่างเขาประเมินไม่ยาก เพราะฟังจากน้ำเสียงที่เคยห้าวหากเบาลงเล็กน้อยกับดวงตาเฉี่ยวอย่างไม่ยอมคนของเธอรีบหลบตาเขาราวกับเขินอายและยังไม่รวมถึงผิวสีชมพูระเรื่อบนแก้มขาวที่ดูเหมือนจะนอกเหนือการควบคุมของเธอโดยสิ้นเชิงเป็นโอกาสทองที่เขาจะต้องรีบทำคะแนน

ก่อนที่บทเพลงในซีดีจะวนเป็นรอบที่สามคนขับก็เลี้ยวรถยนต์คันหรูเข้าไปจอดยังชั้นสามของโรงแรมบูติกแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่บนถนนเยาวราชแน่นอนมีภัตตาคารอาหารจีนอยู่ในโรงแรมหรูแห่งนี้ ซึ่งคนที่นั่งนิ่งมาตลอดทางก็เป็นคนระบุร้านด้วยตัวเองโชคดีที่เขาเคยมาที่นี่กับโสภิตนภามาแล้วสองสามครั้ง จึงไม่หลงทาง

“ถึงแล้วครับ”คนที่โน้มร่างใหญ่เข้าไปปลดเข็มขัดนิรภัยให้หญิงสาวปลุกเธอขึ้นจากความเงียบ

“ก็บอกว่าอึดอัดไม่ต้องใกล้มากก็ได้มั้งพี่” เสียงห้าวและเข้มของคนที่ทำตาโต เธอเอนตัวไปด้านหลังราวกับแผ่นหลังจะจมหายไปในเบาะที่นั่ง

“เรียบร้อยแล้วครับเราไปกันเถอะ” คนที่ไม่นำพากับคำเตือนของหญิงสาวเอ่ยพร้อมส่งยิ้มหวานแล้วเขาก็เดินลงไปจากรถยนต์ทันทีเมื่อเห็นว่าจอมขวัญเปิดประตูรถ

พญาอินทรีหนุ่มกับนักข่าวสาวเดินเข้าไปในภัตตาคารอาหารจีนในเวลาสองทุ่มถึงแม้ว่าจะเป็นคืนกลางสัปดาห์ก็มีแขกหนาตา หากมันก็ยังมีที่ว่างพอสำหรับสองคน

มีโคมไฟกระดาษสีแดงส่องสว่างไปตลอดทางเดินกับบรรยากาศภายในร้าน ทั้งเฟอร์นิเจอร์หลากหลายชิ้น แม้กระทั่งลวดลายบนฝาผนังและเพดานดูคล้ายๆกับสถานที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ที่เธอเคยดูชุดกี่เพ้าบนรูปร่างงดงามของพนักงานที่เดินนำทั้งคู่ไปยังที่ว่างสร้างเสน่ห์ให้กับภัตตาคารแห่งนี้

ที่สำคัญไปกว่านั้นสำหรับจอมขวัญแล้วราคาต่อหัวสำหรับบุฟเฟ่ต์เพียงไม่กี่ร้อยบาทนั้นไม่แพงและคุ้มค่าที่จะจ่าย หากเธอเองไม่แน่ใจว่าคนที่มาด้วยจะเห็นด้วยหรือไม่และเวลานี้สิ่งที่เขาแสดงออกคือเดินยิ้มน้อยๆ พร้อมมือแกร่งของเขาประคองพลางแตะที่ข้อศอกของเธอเบาๆแทนการกุมมือที่เธอเองเป็นฝ่ายปฏิเสธด้วยท่าทางโดยการรวบสองมือของตัวเองไปจับกันที่ด้านหลัง

“ตอนอยู่ในรถคุณบอกว่าเคยมาที่นี่แล้วสองสามครั้งแล้วคุณชอบรสชาติอาหารของที่นี่หรือเปล่า”หญิงสาวเอ่ยถามเมื่อบริกรสาวเดินมาส่งที่โต๊ะ

“เรียกพี่เหมือนเดิมดีกว่าครับเรียกคุณมันห่างเหิน”

คนที่ต้องตอบคำถามเอ่ยไปอีกเรื่องเขาตระหนักดีว่าคำว่า‘พี่’ ที่เธอเรียกเขาแต่แรกเป็นการเรียกที่ประชดประชันหากเขาก็ชอบให้เธอเรียกแบบนั้นมากกว่า และเมื่อบอกความประสงค์ออกไปแล้วเขาก็กลับมาตอบคำถาม

“ชอบครับความจริงพี่กินง่ายอยู่ง่ายจอมก็เห็น ยิ่งอาหารจีนด้วยแล้ว ถึงบางอย่างจะจืดและเลี่ยนไปบ้างคอลเลสเตอรอลก็สูง แต่กินนานๆ ครั้งก็อร่อยดีครับ”

หญิงสาวพยักหน้าก่อนนั่งลงแล้วเธอก็ต้องตะลึงกับการกระทำของพญาอินทรีหนุ่มอีกครั้งเพราะแทนที่เขาจะนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเธอเขากลับหย่อนร่างสูงใหญ่ลงนั่งเบียดจนเกือบชิดกับร่างบอบบางของเธอ

“คุณ”

“พี่”พญาอินทรีหนุ่มรีบแก้ฉับ

“ที่ตั้งกว้างจะมานั่งเบียดกันทำไมฝั่งนี้” เสียงห้าวของคนที่ทำได้เพียงกระเถิบร่างบางเข้าไปด้านในพลางเอ่ยถาม

“เรานั่งฝั่งเดียวกันดีกว่าครับร้านนี้มีแสดงดนตรีสด นั่งหันหลังพี่มองไม่เห็น”

“ถ้างั้นเราก็สลับที่กันฉันฟังอย่างเดียวไม่ดูก็ได้ หรือไม่ก็บอกให้เขาหาที่ว่างให้ใหม่”จอมขวัญเสนอพลางมองหาบริกร

“ไม่เป็นไรจอมดูสิครับ แขกค่อยๆ ทยอยกันมา พี่ว่าคงจะหาที่นั่งใหม่ลำบาก สงสารบริกรเรานั่งฝั่งเดียวกันดีกว่า แล้วพี่ก็ไม่อยากเอาเปรียบจอม พี่ไม่อึดอัดเลยครับ”เสียงทุ้มที่เคยห้าวเปลี่ยนเป็นหวานขณะหันมาส่งสายตาอย่างเช่นผู้ใหญ่ตำหนิเด็กราวกับว่าเธอเอาแต่ใจจนทำให้คนอื่นลำบาก

เมื่อเห็นสายตาเช่นนั้นของคนที่เธอรู้ดีว่าอายุมากกว่ามากจอมขวัญจึงกวาดตามองไปโดยรอบอย่างอัตโนมัติเพื่อสำรวจ เป็นจริงอย่างที่เขาบอกเพราะแขกที่ทยอยกันเข้ามาก็จับจองโต๊ะที่ว่างทั้งที่มาเป็นกลุ่มและได้รับกรรมสิทธิ์โต๊ะยาวซึ่งสามารถนั่งได้หลายคนส่วนคนที่มาเป็นคู่ก็เดินมานั่งที่โซนเดียวกับเธอ

หญิงสาวหันกลับไปมองคนที่กำลังเผยรอยยิ้มเพียงมุมปากดวงตาคมเข้มของเขามองเธอไม่วางตา เพียงครู่เสียงห้าวก็เอ่ยเบาๆ ด้วยใบหน้าเรียบเฉย

“อือ...ก็ได้แต่ไม่ต้องชิดมาก มันอึดอัด ตัวโตอย่างกับยักษ์วัดแจ้งยังจะมานั่งเบียด”

“ครับผม”ชายหนุ่มเอ่ยเพียงแค่นั้น หากรอยยิ้มที่เหมือนจะกั๊กเอาไว้แต่แรกก็เผยให้เห็นอย่างชัดเจน

หลังจากตกลงกันได้เรื่องที่นั่งบริกรสาวในชุดกี่เพ้าก็เดินมาส่งเมนูสองเล่มให้ทั้งคู่โดยมีบริกรหนุ่มอีกคนเดินตามหลังมาเพื่อเสิร์ฟชา หลังจากนั้นสองหนุ่มสาวก็ค่อยๆเปิดเมนู โดยคนที่บอกว่ากินง่ายอยู่ง่าย ยกหน้าที่สั่งอาหารให้หญิงสาว เขายิ้มอย่างเอ็นดูเมื่อเห็นเธอตื่นเต้นกับเมนูหลากหลายอย่างความน่ารับประทานของอาหารทำให้จอมขวัญลืมท่าทางนิ่งเฉยในยามปกติ เธอหันมาชี้ชวนเขาดูเมนูนั้นเมนูนี้แล้วยังไม่ลืมถามความเห็นของเขา

“พี่ชอบกินติ่มซำไหมเราสั่งบุฟเฟ่ต์ติ่มซ่ำกันดีกว่า เสิร์ฟเรื่อยๆ ไม่แพงด้วยฉันเคยมากินกับเพื่อนบ่อยๆ” เธอหันไปถามพลางส่งยิ้มหวานอย่างลืมตัวพูดจบก็ก้มลงไปอ่านเมนูอีกครั้ง ก่อนเงยหน้าขึ้นมาบอก “ขาหมูหมั่นโถที่นี่ก็อร่อยหมั่นโถแป้งนุ่มหนึบๆ ฉันชอบ แล้วขาหมูก็ต้องสั่งแบบมันน้อยๆ ด้วยนะรสชาติติดหวานหน่อย รสโปรดของฉันเลย”

“พูดแทนตัวเองว่าจอมสิน่ารักดี พี่ชอบ”คนที่เท้าข้อศอกลงบนโต๊ะแล้ววางกำปั้นลงบนแก้มข้างซ้ายของตัวเองเอ่ยเสียงนุ่ม และน้ำเสียงนั้นก็ส่งผลให้หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองเขา

คนที่เงยหน้าขึ้นมองสำรวจใบหน้าของชายหนุ่มราวกับกำลังค้นหาอะไรบางอย่างเพียงครู่เธอก็ก้มลงไปอ่านเมนูอีกครั้ง

“สั่งเป็ดย่างด้วยดีกว่าพี่กินเนื้อนะ จอมชอบกินหนังกรอบๆ แบ่งกัน แล้วก็สั่งบะหมี่หยกด้วย”

สรรพนามแทนตัวเองของจอมขวัญทำให้พญาอินทรีหนุ่มเผยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจเขามีความรู้สึกต่อเธอหลายอย่างแม้พบกันได้ไม่นาน ความรู้สึกเอ็นดูอย่างประหลาดกับท่าทางที่สุดแสนจะเป็นธรรมชาติในวันนี้แน่นอนเขาชอบเธอมาก มากเสียจนถ้าหากจะเรียกว่า ‘รัก’ ก็คงได้ เพราะเขารู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ๆ เธอวันนี้ทั้งวันเขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูหลายๆ ครั้งและเร่งเวลาเพื่อที่จะได้เจอเธอเร็วๆ และรู้ตัวว่าคนที่ยิ้มยากอย่างเขามีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้ามาหลายครั้งแล้วเช่นกันในวันนี้

“จอมอยากดื่มอะไรเป็นพิเศษไหมครับ”พญาอินทรีหนุ่มเอ่ยถามเมื่อหญิงสาวสั่งอาหารครบตามที่เธอต้องการแล้วกำลังจะพับเมนู

“ดื่มชาจีนธรรมดาแล้วกันปกติจอมไม่ดื่มแอลกอฮอล์กับคนแปลกหน้าหรอก แต่ถ้าพี่จะดื่มก็ไม่มีปัญหาถ้าขับกลับไม่ไหวจอมขับให้ รถหรูเครื่องแรงน่าลอง”

คำพูดซื่อๆและท่าทางที่เป็นธรรมชาติของหญิงสาวเรียกรอยยิ้มจากชายหนุ่มได้อีกครั้งเขาไม่รู้สึกเบื่อที่จะมองใบหน้าขาวที่ปราศจากเครื่องสำอางและริมฝีปากบางที่เอ่ยคำออกมาแม้น้ำเสียงของเธอจะไม่อ่อนหวานเช่นหญิงสาวทั่วๆ ไป หากก็ไม่กระด้าง สำหรับเขาแล้วมันน่าฟังเสียจนเขาอยากจะให้เธอกระซิบเล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เธออยากจะเล่าให้เขาฟังทุกๆคืน

กำแพงซึ่งซ่อนอยู่ภายใต้ความแรงและห้าวหาญของจอมขวัญเพื่อพยายามปกป้องตัวเองแต่แรกค่อยๆ ถูกทลายลงทีละนิด หากมันไม่ได้พังครืนลงมาในคราวเดียวเพราะถึงอย่างไรเธอก็มีสติพอที่จะเตือนตัวเองว่า พญาอินทรีหนุ่มร่างยักษ์ผู้นี้ คนที่กำลังทำเนียนโดยการค่อยๆเบียดร่างของเขาเข้ามาใกล้ชิดเธอทีละนิดนั้นอาจจะเป็นบุคคลอันตรายและต้องห้ามสัญชาตญาณแห่งความระแวงกระซิบบอกเธอว่า หนุ่มใหญ่ผู้ซึ่งมีโปรไฟล์อลังการงานสร้างผู้นี้หรือจะสนใจผู้หญิงธรรมดาที่ไม่อ่อนหวานและเป็นกุลสตรีอย่างเธอ

ถึงแม้จะเตือนตัวเองมากเท่าไรหญิงสาวก็ลำเอียงด้วยการเปิดรับเขา ถึงจะเป็นเพียงแค่คำพูดที่ลดความห่างเหินหากการที่เธอยอมให้เขาจูงมือต่อหน้าธารกำนัลเธอไม่ปฏิเสธว่าตกใจไม่น้อยกับการกระทำของตัวเองเช่นกัน

ขณะที่หญิงสาวกำลังสับสนกับตัวเองเสียงทุ้มห้าวปนหวานของพญาอินทรีหนุ่มก็เอ่ยขึ้นข้างหู

“เราไม่ใช่คนแปลกหน้ากันอีกต่อไปแล้วนะครับต่อไปจอมดื่มแอลกอฮอล์ได้ถ้ามากับพี่ จอมจะกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยครับพี่สัญญา”

ดวงตาคมเข้มที่เปลี่ยนเป็นหวานฉ่ำของคนพูดทำให้คนฟังยิ่งต้องตระหนักให้มากขึ้นเพราะถึงจะไม่แปลกหน้าต่อกันก็จริง แต่ถ้าหากเธอจะเมาหรือกรึ่มๆจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์แล้วล่ะก็ คนที่จะต้องระมัดระวังตัวมากกว่าใครก็คือตัวเธอเองถึงแม้จะไม่เมาอย่างเช่นเวลานี้เธอยอมรับอย่างไม่อายว่ามีปฏิกิริยาทางเคมีในร่างกายบางอย่างเมื่ออยู่ใกล้ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบซึ่งกลิ่นกายของเขาคือกลิ่นหอมสุดโปรดของเธอ

แม้สาวห้าวอย่างจอมขวัญจะไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องผู้ชายมาก่อนหากสายตาของเขาที่แทบจะกลืนเธอลงท้องแทบตลอดเวลาก็ส่งผลต่อความรู้สึกบางอย่างของเธอเช่นกัน

“ไม่ดีกว่าพี่เป็นผู้หญิงเมาปลิ้นจะดูไม่ดี” คำปฏิเสธเพียงสั้นๆ ด้วยใบหน้านิ่ง หากภายในใจของเธอรู้สึกปั่นป่วน

ราวกับระฆังช่วยชีวิตเพราะก่อนที่หญิงสาวจะรู้สึกราวกับมีมวลผีเสื้อหลายร้อยหลายพันตัวบินว่อนอยู่ในท้องพนักงานเสิร์ฟก็เข็นรถที่เต็มไปด้วยติ่มซำหลากหลายชนิดมาเสิร์ฟได้ทันเวลา

เพียงพริบตาเดียวบุฟเฟ่ต์ติ่มซำที่เพิ่งนำมาเสิร์ฟก็ถูกจัดการจนเกลี้ยงแน่นอนคนที่มีรูปร่างเล็กและบอบบางก็เป็นคนทำหน้าที่รับประทานเสียส่วนใหญ่ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะพญาอินทรีหนุ่มใหญ่ใจป้ำคอยเอาอกเอาใจและบริการเธอตะเกียบในมือแกร่งของเขาคอยคีบอาหารใส่จานให้หญิงสาวแทบตลอดเวลา แล้วเขาก็ก้มลงกระซิบถามคนที่มีความสุขกับมื้ออาหารว่า‘จอมกินอันนี้ไหม อันนั้นไหม เอาอีกไหม อิ่มไหม’แทบตลอดเวลา

ไม่เพียงเท่านั้นหญิงสาวก็ยกมือเรียกพนักงานที่กำลังเข็นรถให้หยุดที่โต๊ะแล้วเลือกติ่มซำสุดโปรดเพิ่มอีกไม่กี่อย่างเพราะตระหนักดีว่ายังมีอาหารอีกชุดรออยู่และเมื่อจัดการติ่มซำหมดเป็นรอบที่สอง เพียงไม่นานขาหมูหมั่นโถเป็ดย่างและบะหมี่หยกก็มาเสิร์ฟ โดยชายหนุ่มสั่งเครื่องดื่มให้ตัวเองเพิ่มนั่นก็คือไวน์Chang Yuซึ่งเป็นไวน์ที่มีชื่อเสียงของประเทศจีนที่ได้ร่วมหุ้นกับบริษัทผลิตไวน์คุณภาพจากต่างประเทศอย่างอิตาลีฝรั่งเศสและนิวซีแลนด์ จนได้ไวน์รสชาติเยี่ยมและเขาก็มักจะสั่งไวน์ยี่ห้อนี้ทุกครั้งเมื่อมาร้านนี้โดยคนสั่งไวน์ก็ไม่ลืมที่จะหันไปกระซิบบอกคนที่กำลังมีความสุขกับอาหารหลายอย่าง

“พี่ดื่มนิดหน่อย ขากลับจอมขับนะครับ ขับได้หรือเปล่า”

แน่นอนเมื่อได้ยินประโยคของคนที่ก้มลงกระซิบบอกจนเกือบชิดใบหูของเธอคนที่อยากจะทดสอบสมรรถนะของเครื่องยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์ SLK สุดหรูอยู่แล้วก็เผยรอยยิ้มหวานจนดวงตายิบหยีในทันทีแทนคำตอบ

คู่หนุ่มสาวกับเดตที่เรียกว่าเป็นทางการครั้งแรกมีความสุขกับมื้ออาหารพญาอินทรีหนุ่มใช้ตะเกียบคีบหนังเป็ดย่างกรอบๆ วางลงในจานของหญิงสาวแล้วเขาก็ได้รับรอยยิ้มเพียงเล็กน้อยกับแววตาเป็นมิตรของเธอแทนคำขอบคุณ เขาพยายามสังเกตว่าเธอชอบหรือไม่ชอบอะไรแทนการตั้งคำถามออกไปตรงๆ

ชายหนุ่มพึงพอใจกับปฏิกิริยาของหญิงสาวที่เคยแข็งกระด้างแต่แรกค่อยๆอ่อนลงอย่างเป็นธรรมชาติ หากมันยังเร็วเกินไปถ้าจะเรียกว่าเปลี่ยนแปลงราวกับพลิกฝ่ามือเพราะถึงแม้เธอจะยิ้มให้เขาบ้าง พูดจานุ่มนวลมากยิ่งขึ้นแม้จะไม่มีหางเสียง แต่เขาก็รับรู้ได้ตลอดเวลาและถึงแม้ว่าเขาจะพาร่างสูงใหญ่เข้าไปใกล้ชิดกับเธอมากเพียงใดหญิงสาวก็ยังคงมีกำแพงบางๆ เพื่อปกป้องตัวเองเธอพยายามนั่งให้ห่างจากเขาแม้จะยากลำบากเพราะพื้นที่จำกัดแล้วหลบสายตาในบางครั้งเมื่อเขาเจตนาเกี้ยวพา โดยเขาใช้คำพูดที่สุดแสนจะหวานและเอาอกเอาใจอย่างเป็นธรรมชาติซึ่งเขารู้ว่าถึงแม้คนที่แข็งๆ และไร้เดียงสาในเรื่องหนุ่มสาวอย่างเธอก็ย่อมตระหนักได้ว่านี่คือการ‘จีบ’ อย่างเป็นทางการ

พญาอินทรีหนุ่มไม่ได้เดินหน้ารุกเสียจนหญิงสาวรู้สึกอึดอัดหรือรำคาญใจหากความพอดีอย่างมีชั้นเชิงและการรู้จักผ่อนสายป่านของเขากับน้ำเสียงทุ้มห้าวอย่างมีเสน่ห์เปล่งออกมาอย่างสุภาพ กันเอง และความอบอุ่นอย่างแสนประหลาดที่แผ่ออกมาจากร่างสูงใหญ่จอมขวัญไม่ปฏิเสธว่าเพียงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา บวกกับอีกหลายๆ ครั้ง แม้ไม่กี่นาทีที่ทั้งคู่เคยเจอกันในสถานการณ์ซึ่งไม่รื่นรมย์มากนักก่อนหน้านี้ส่งผลต่อความรู้สึกและหัวใจแห้งๆ ของเธอไม่น้อย เธอเขินอายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนหากต้องพยายามนิ่งและมีท่าทางมั่นใจเหมือนในยามปกติแต่เธอคงจะไม่รู้ว่าผิวสีชมพูที่ซ่านบนใบหน้าขาวคือหลักฐานชั้นดีที่ทำให้พญาอินทรีหนุ่มพึงพอใจและเขาก็นั่งมองใบหน้าของเธอแทนการดูนักดนตรีสาวในชุดกี่เพ้าสีทองแสนสวยหน้าเวทีบรรเลงเดี่ยวคงโห[1]เครื่องดนตรีจีนโบราณ ซึ่งมันคือสาเหตุให้เขายกขึ้นมาเป็นข้ออ้างเพื่อที่จะได้นั่งฝั่งเดียวกับเจ้าของแก้มขาวนวลที่ระบายไปด้วยชมพูในเวลานี้

ผ่านไปกว่าชั่วโมงแล้วจานเปล่าทั้งหมดบนโต๊ะอาหารก็ถูกเก็บออกไป มีเพียงแปะก๊วยนมสดหนึ่งถ้วยกับแก้วน้ำเปล่าของจอมขวัญและแก้วไวน์ของพญาอินทรีหนุ่มที่พนักงานทำหน้าที่รินไวน์ให้เขาสองสามครั้งหากฤทธิ์ของเครื่องดื่มเพียงแค่นี้ก็ไม่ทำให้เขาเมาได้ง่ายๆและที่เขาเสนอให้หญิงสาวทำหน้าที่ขับรถกลับที่พักก็เพราะเขาเห็นแววตาวาววับอย่างนึกสนุกและอยากลองของเธอซึ่งเขาเต็มใจอย่างยิ่งยวดอยู่แล้ว ถ้าจะยกเบนซ์สปอร์ตคันนี้ให้เธอใช้ถาวรไปเลยก็ย่อมได้หากเชื่อว่าถ้าเขาเสนอให้เธอง่ายๆ ไปเช่นนั้นคนที่หยิ่งในศักดิ์ศรีอย่างจอมขวัญคงจะตอบแทนความประทับใจกับเดตครั้งนี้ด้วยการอัดกำปั้นเล็กๆลงบนใบหน้าของเขาอย่างแน่นอน

“อิ่มแล้วกลับกันเถอะ ดึกแล้วด้วย” คนที่เสร็จสิ้นจากภารกิจทั้งอาหารคาวหวานเอ่ยชวน

“ฟังเพลงกันก่อนสิครับหลังจากนี้จะมีแจ๊ส พี่ชอบ” คนที่วางแก้วไวน์ในมือลงบนโต๊ะก้มลงมาตอบเสียงนุ่ม

หญิงสาวเงียบไปพลางมองหน้าเขาเพียงครู่เธอก็เอ่ยพร้อมกับยกข้อมือเล็กขึ้นมาดูเวลา

“สี่ทุ่มแล้วถ้างั้น...ครึ่งชั่วโมงพอไหมพี่ คงจะได้ฟังสักสามสี่เพลง ถ้าจะให้ดูจนจบคงไม่ไหวหรอกพรุ่งนี้จอมต้องทำงานแต่เช้า” หญิงสาวยืดเวลาให้เขาออกไปอีกนิดหนึ่งและถ้าหากจะให้นั่งชมดนตรีต่อจนเลิกก็ไม่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับเธอมากนัก เธอเคยนั่งทำงานยันเช้าติดต่อกันก็บ่อยไปหากเหตุผลสำคัญที่เธอให้เวลาเขาเพียงแค่นี้ก็เพื่อไม่ต้องการเผยไต๋ให้เขารับรู้ความรู้สึกและปฏิกิริยาของเธอมากกว่านี้‘เสียฟอร์มหมด’

“โอเคครับผม”

เสียงนุ่มเพียงสั้นๆพร้อมรอยยิ้มบาดใจบนใบหน้าคมเข้มของผู้ชายร่างยักษ์ข้างตัว จอมขวัญซึ่งเคยมีภูมิต้านทานเพศตรงข้ามได้ดีเสมอมามีอันต้องพังทลายลงในคืนนี้ ผู้ชายคนนี้แทบไม่ต้องทำอะไรเลย เสน่ห์อย่างเหลือล้นและทรงอำนาจที่ซ่อนความอบอุ่นก็แผ่กระจายออกมาจากตัวของเขาได้หากคืนนี้สิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเธอมันช่างพอเหมาะพอเจาะไปเสียหมด เขาเอาอกเอาใจดูแล ใส่ใจแม้กระทั่งเขาใช้ผ้าเช็ดหน้าของตัวเองแทนกระดาษทิชชู่ที่วางอยู่บนโต๊ะเช็ดเบาๆที่ริมฝีปากของเธอ มันเป็นความรู้สึกที่ยากเกินกว่าจะบรรยายออกมาได้เธอไม่เคยได้รับการปฏิบัติอย่างเช่นสาวน้อยบอบบางเช่นนี้มาก่อนเลยในชีวิตนี้และนั่นยังไม่รวมรอยยิ้มและแววตาของเขาถึงแม้จะหวานอย่างเผยเจตนาหากมันก็ไม่ทำให้เธอรู้สึกรังเกียจ จะอึดอัดบ้างก็เป็นเพราะเธอเองที่เขินอายและซ่อนความรู้สึกวาบหวามบางๆอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเช่นกัน

เสียงแซ็กโซโฟนกับเสียงร้องอันทรงพลังของนักร้องสาวบนเวทีไม่สามารถเรียกให้คู่หนุ่มสาวหันไปมองได้เพราะทั้งคู่นั่งมองหน้ากันเงียบๆ มาหลายนาทีแล้ว และคนที่ผิวขาวซ่านสีชมพูมากขึ้นเรื่อยๆก็เอ่ยเบาๆ

“เช็คบิลเถอะครบครึ่งชั่วโมงแล้ว”

จบประโยคของหญิงสาวซึ่งปลุกทั้งคู่ออกจากห้วงจินตนาการของตัวเองมือแกร่งถือวิสาสะเอื้อมออกไปไล้แก้มของเธอเบาๆ แล้วเขาก็ยิ้มน้อยๆอย่างพึงพอใจเมื่อเจ้าของแก้มนุ่มเมินหน้ามองไปอีกทาง เขาตระหนักดีว่าเธอกำลังเขินอายและเวลานี้ตัวเขาเองทำคะแนนถึงกระนั้นพญาอินทรีหนุ่มก็ไม่ลืมสิ่งที่ต้องทำบางอย่างเขาจึงเอ่ยก่อนที่จะยกมือเรียกพนักงานมาเช็คบิล

“มื้อนี้ไม่แชร์พี่จ่ายนะครับ”

“ก็ตามใจสิ”

คำตอบเพียงสั้นๆของคนที่ไม่มองหน้าเขาเรียกรอยยิ้มอย่างเอ็นดูจากพญาอินทรีหนุ่มได้อีกครั้ง

เมื่อชำระค่าอาหารกับทิปให้แก่พนักงานไปจำนวนหนึ่งสองหนุ่มสาวก็เดินออกมาจากร้านอาหารด้วยท่าทางเช่นเดียวกับตอนเข้ามาจะต่างไปก็เพียงมือเล็กที่เคยรวบเอาไว้ด้านหลังของจอมขวัญเปลี่ยนตำแหน่งโดยมันได้รับความอบอุ่นอย่างแสนวิเศษเพราะอยู่ในการกุมของมือใหญ่จนมิดและเมื่อทั้งคู่เดินไปจนถึงที่ลานจอดรถซึ่งอยู่ชั้นเดียวกัน ชายหนุ่มก็ส่งกุญแจรถยนต์ให้คนที่ยิ้มรอรับอยู่แล้ว

คนที่รับกุญแจรถด้วยแววตาวาววับเดินไปเปิดประตูที่นั่งฝั่งคนขับในขณะที่เจ้าของรถยนต์ยืนมองท่าทางที่เป็นธรรมชาติของเธอพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ ก่อนที่เขาจะขึ้นไปนั่งในตำแหน่งตุ๊กตาหน้ารถให้เธอ

“คาดเข็มขัดนิรภัยด้วยพี่จอมจะซิ่งละนะ”

“ได้เลยครับผม”ชายหนุ่มคาดเข็มเข็ดนิรภัย “ไปกันเลย”

เมื่อได้ยินดังนั้นหญิงสาวที่ได้สตาร์ตเครื่องยนต์เตรียมพร้อมมาหลายนาทีแล้วก็ทะยาน SLK ออกไปจากลานจอดรถในทันทีด้วยความเร็วสูงถึงแม้เธอจะมีพาหนะคู่ใจเป็นมอเตอร์ไซค์คันใหญ่หากทักษะในการขับรถยนต์ก็เรียกได้ว่าไม่เป็นสองรองใคร

ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเบนซ์สปอร์ตสีบรอนซ์ซึ่งใช้ความเร็วสูงได้ตามสภาพของการจราจรก็เลี้ยวเข้าไปยังที่พักหากคนขับก็ไม่ลืมหันไปถามตุ๊กตาหน้ารถที่นั่งกอดอกมาตลอดทาง

“ปกติพี่จอดรถชั้นไหนจะขับไปจอดให้”

“ปกติจอดชั้นยี่สิบแต่คืนนี้จอดชั้นสิบหกก็แล้วกันครับ พี่จะได้เดินไปส่งจอม ไม่ต้องลงลิฟต์”

ได้ยินดังนั้นหญิงสาวก็ยักไหล่ตามความเคยชินมือบางหมุนพวงมาลัยรถยนต์แล้วเหยียบคันเร่งขับขึ้นไปจอดยังชั้นที่พักของเธอซึ่งมันไม่มีปัญหาเรื่องที่จอดรถ เพราะทุกชั้นของคอนโดฯ หรูแห่งนี้จะกันพื้นที่ว่างเอาไว้สำหรับบุคคลวีไอพีซึ่งหมายรวมถึงพี่ชายคนเดียวของหญิงสาวนามโสภิตนภา พินิจพงษ์ เช่นกัน

จอมขวัญส่งกุญแจรถคืนให้กับพญาอินทรีหนุ่มในทันทีเมื่อทั้งคู่ลงมาจากรถยนต์

“ขอบคุณมากนะที่ให้ลองขับรู้หรอกว่าพี่ไม่ได้เมา ไวน์เบาๆ แบบนั้นคงจะแรงสู้สี่สิบดีกรีของบ้านเราไม่ได้หรอก”เสียงห้าวเอ่ยขณะเดินตามทางเดินมาคู่กัน

“จอมจะขับเมื่อไหร่ก็ได้อยากขับคันไหนก็ได้ พี่มีรถยนต์เจ๋งๆ อีกสองสามคันจอดอยู่ชั้นบน”

“ตัวคนเดียวจะมีไว้ทำไมเยอะแยะ”

คนที่กำลังล้วงคีย์การ์ดในกระเป๋าสะพายเอ่ยค่อนขอดชายหนุ่มเบาๆและเธอก็หมายความตามที่พูด ตัวเขาคนเดียวมีรถยนต์ขับสองสามคันดูจะเกินความจำเป็นมากไปสักหน่อย และเมื่อเจอสิ่งของที่ต้องการในกระเป๋า หญิงสาวก็เงยหน้าขึ้นมองเขาอีกครั้ง

“หรือว่าจะเอาไว้แจก...”หญิงสาวละคำว่า ‘สาวๆ’ เอาไว้ได้ทัน เพราะจะว่ากันตามความจริงมันก็ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเธอที่จะต้องถามลึกลงไปในรายละเอียดเพราะเธอกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน ถึงแม้ว่าคืนนี้เธอจะยอมให้เขาจับมือถือแขนหลายครั้งและไม่ใช่ว่าตัวเธอเองจะไม่ตกใจกับการลดช่องว่างระหว่างกันหากเธอก็กล้าพอที่จะยอมรับว่ารู้สึกดีกับความรู้สึกนี้ไม่น้อยเช่นกัน

“ไม่ได้มีไว้แจกใครหรอกครับเป็นรถของคุณพ่อพี่ ท่านเก็บสะสมเอาไว้หลายคัน ตอนนี้ท่านไม่ได้ใช้มันอีกแล้วจอดทิ้งไว้เครื่องยนต์มันก็เสื่อมเปล่าๆ จะขายทิ้งก็เสียดาย”ชายหนุ่มตอบเสียงเรียบ

“เสียใจด้วยนะเรื่องคุณพ่อของพี่จอมชื่นชมท่านจริงๆ ท่านเป็นนักธุรกิจที่เก่ง ใจกว้าง แล้วก็เผื่อแผ่สังคม เด็กๆในโรงเรียนต่างจังหวัดที่ห่างไกลความเจริญก็ได้รับทุนจากมูลนิธิที่ท่านก่อตั้งทุกปีแล้วจอมก็หวังว่ามันจะต่อเนื่อง เด็กๆจะได้มีโอกาสทางการศึกษาแล้วเอาความรู้มาพัฒนาประเทศ”

“มูลนิธิของคุณพ่อท่านพี่จะสานต่ออย่างต่อเนื่องครับปีหน้าเรามีแผนจะเพิ่มจำนวนทุนให้มากขึ้น เพราะพี่เชื่อว่าเมื่อเราขยายตลาด รายได้เข้าประเทศก็ย่อมมากขึ้นพี่จะกันกำไรส่วนนั้นเป็นทุนการศึกษาให้เด็กๆ ครับ”

หญิงสาวมองหน้าคนที่มีแผนทำดีเพื่อสังคมถึงแม้เธอจะยังไม่แน่ใจว่าเขามีเจตนาจริงใจกับสิ่งที่เขาพูดมากน้อยเพียงใด แต่เธอก็อดที่จะชื่นชมเขาไม่ได้ ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าถึงแม้จะไม่มีการเพิ่มจำนวนทุนการศึกษาอย่างที่เขาบอกจำนวนทุนในปัจจุบันที่เด็กๆ ได้รับทุกปีก็ถือว่าไม่น้อยทั้งนี้ยังไม่รวมยอดบริจาคเป็นจำนวนเงินมหาศาลที่อาณาจักรฮอตอีเกิ้ล มอบให้แก่ผู้ประสบภัยในกรณีเกิดภัยธรรมชาติในแต่ละปีอีกด้วย

“ถึงแล้วขอบคุณมากนะสำหรับอาหารจีนที่สุดแสนอร่อย มื้อหน้าจอมขอเป็นเจ้ามือแล้วกันพี่จะกินหรูหน่อยก็ได้ไม่มีปัญหา” หญิงสาวเอ่ยพร้อมรอยยิ้มมือบางตบกระเป๋าสะพายเบาๆ

ชายหนุ่มยิ้มพร้อมพยักหน้าอย่างเอ็นดู

“วันหลังเรามาทำอาหารทานกันเองดีกว่าครับพี่ทำอาหารเก่งนะ ทำได้ทุกชาติ อินเดีย อิตาเลี่ยน เมดิเตอร์เรเนี่ยนอาหารไทยก็ได้นิดหน่อย พี่เชื่อว่าถ้าจอมได้ชิมแล้วจะติดใจ”

คนที่เพิ่มคุณสมบัติให้ตัวเองเอ่ยพลางมองหน้าคนที่มองหน้าเขาราวกับไม่เชื่อ

“อย่าลืมสิครับพี่อยู่ต่างประเทศคนเดียวมานาน ก็ต้องทำอาหารทานเองบ้างอยู่แล้ว อีกอย่างเราก็จะได้ประหยัดค่าอาหารนอกบ้านด้วยไงครับจอมกับพี่อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง”

หญิงสาวพยักหน้ายอมรับกับเหตุผลของเขา

“ดูก่อนก็แล้วกันถึงแล้วลากันตรงนี้เลยนะ”

ในขณะที่มือเล็กเสียบคีย์การ์ดลงบนกล่องที่หน้าประตูคนที่เป็นเจ้าของห้องก็รู้สึกถึงวงแขนแกร่งที่สวมกอดเธอทางด้านหลังแน่นเธอจึงตะโกนออกมาเสียงดังลั่น

“ปล่อยนะเดี๋ยวใครมาเห็น ที่ยอมให้จับมือถือแขนหลายครั้งก็ใช่ว่าจะง่ายนะเล่นกอดกันแบบนี้จะมากเกินไปหน่อยไหมล่ะ”

“พี่ไม่ได้คิดว่าจอมง่ายนะครับแต่พี่อยากกอด อยากหอม อยากทำอะไรด้วยตั้งหลายอย่าง จอมยอมคบกับพี่นะเรามาเป็นแฟนกันเป็นคนรักกันนะครับ”

พญาอินทรีหนุ่มที่กำลังกลายร่างเป็นหนุ่มใหญ่คลั่งรักไม่ยอมสูญเสียโอกาสแม้แต่วินาทีเดียวร่างสูงใหญ่ของเขากอดกระชับร่างของหญิงสาวแน่นขึ้นโดยไม่นำพาอาการขัดขืนของเธอ

“จะบ้าเหรอคุณเจอกันแป๊บเดียวจะขอคบเนี่ยนะ คราวก่อนก็ชวนไปอยู่ด้วยกันทีนึงแล้ว เห็นฉันเป็นอะไรวะเนี่ยะ”

หญิงสาวเปลี่ยนสรรพนามเรียกเขาและตัวเองเพราะกรุ่นโกรธที่โดนจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว

“พี่ก็เห็นเป็นจอมไงครับพี่อายุมากแล้วจอมก็รู้ ทำไมพี่จะไม่รู้ความรู้สึกของตัวเอง พี่ชอบจอมมากอยากอยู่ใกล้ๆ คิดถึงจอมทั้งวัน อยากเห็นหน้าจอมตลอดเวลา เรามาศึกษาดูใจกันก่อนนะครับจอมจะได้รู้ใจตัวเองด้วยว่าจอมจะชอบหรือรักพี่ได้ไหม ถ้าเราศึกษาดูใจกันไปสักระยะแล้วจอมรู้ใจตัวเองว่าไม่ได้ชอบพี่ไม่รักพี่ ถึงตอนนั้นเราก็ค่อยมาทบทวนกันใหม่ แต่พี่อยากขอร้องให้จอมเปิดโอกาสระหว่างเราเพื่อดูใจกันก่อนได้ไหมครับคนดี”

เสียงกระซิบอ่อนโยนของชายหนุ่มที่กอดกระชับร่างบางของหญิงสาวทำให้จอมขวัญหยุดดิ้นและรับฟัง เธอเองก็ไม่ปฏิเสธว่าสนใจข้อเสนอของเขาหากโปรไฟล์อลังการของเขาก็ทำให้เธอลำบากใจ หญิงสาวไม่เคยมีความคิดที่จะคบหากับคนในแวดวงไฮโซเพราะจากประสบการณ์ส่วนตัวและการทำงาน ทำให้เธอรู้ว่าคนที่ได้ชื่อว่าอยู่ในสังคมระดับนี้หลายคนไม่ได้มีภาพที่ดีหรือเบื้องหลังสวยหรูอย่างที่แสดงออกต่อสาธารณชนเสมอไปและยังเคยมีใครบางคนที่ได้สร้างความแค้นและทุกข์ใจอย่างแสนสาหัสให้กับครอบครัวของเธอในอดีตจนยากจะลืมเลือนถึงแม้น้องสาวคนเดียวของเธอจะจากโลกนี้ไปแล้วหลายปี และการที่เธอได้เอาคืนอย่างเจ็บแสบและสาหัสนายนพพลเทพทัศน์[2]ผู้ที่เคยสร้างบาดแผลในใจให้เธอตลอดมา มันก็ไม่สามารถรักษารอยแผลที่ตกสะเก็ดให้หายขาดไปได้แต่เธอก็ตระหนักดีว่าไม่ใช่ไฮโซทุกคนที่เป็นคนเลว และพญาอินทรีหนุ่มที่กำลังกอดรัดเธอแน่นผู้นี้ก็พัวพันกับเรื่องไม่ดีบางอย่างหากมันก็ได้ถูกพิสูจน์จากหลักฐานและผลสรุปก็คือเขาเป็นผู้บริสุทธิ์แต่เธอก็ไม่ปฏิเสธว่ายังคาใจ หากการจะปฏิเสธข้อเสนอที่น่าสนใจของเขาก็ทำใจลำบากเช่นกันหญิงสาวจึงรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เธอมีเอ่ยบอกเขาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

“ยังไม่อยากมีแฟนตอนนี้ไม่อยากมีพันธะ แล้วก็ขี้เกียจรับผิดชอบ”เสียงห้าวเอ่ยแล้วเงียบไปครู่ ก่อนจะหันกลับมามองคนที่กอดเธอแน่น“แต่ก็ไม่อยากหักหาญน้ำใจผู้ใหญ่ ถ้างั้น...จอมจะยอมให้พี่เป็นกิ๊กไปก่อนแล้วกัน”

ประโยคสั้นๆของหญิงสาวที่เอ่ยด้วยท่าทางมั่นใจทำให้พญาอินทรีหนุ่มหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นอย่างกลั้นไม่อยู่หนุ่มใหญ่ครบสูตรอย่างเขาต้องมาเป็นกิ๊กให้กับนักข่าวสาวร่างเล็กที่แกร่งกล้าเกินตัวผู้นี้หากมันก็ไม่เลวร้ายจนเกินไปนัก เพราะถึงอย่างไรเขาก็ต้องพัฒนาจนสามารถพาตัวเองไปได้ไกลเกินคำว่า‘กิ๊ก’ ของเธออย่างแน่นอน

คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มก็รีบเอ่ยในทันที

“ตกลงครับจอมจะให้พี่เป็นอะไรก็ได้ทั้งนั้น พี่ตามใจจอม”

เมื่อได้ข้อตกลงระหว่างกันทั้งคู่ก็กลับเข้าห้องของตัวเองไปอย่างรวดเร็วด้วยอารมณ์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงคนที่เอ่ยข้อเสนออยากจะกัดลิ้นตายเสียเดี๋ยวนั้นกับความปากกล้าก๋ากั่นของตัวเองหากพญาอินทรีหนุ่มใหญ่ก็มองเห็นภาพลูกน้อยตัวเล็กๆ หลายๆคนที่วิ่งเล่นในสนามภายในรั้วคฤหาสน์หลังใหม่ของเขา ณ ที่ใดที่หนึ่ง



[1] คงโหเป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายใช้ดีดสายพิณเก่าแก่ของจีนมีประวัติอันยาวนานกว่า 2,000 ปี นอกจากเป็นเครื่องเล่นดนตรีของวงดุริยางค์ในพระราชวังคงโหยังแพร่หลายในหมู่ประชาชนทั่วไปด้วยในสมัยที่เจริญรุ่งเรืองของราชวงศ์ถัง(ปีค.ศ.618 – 907)

[2] ติดตามความร้ายกาจของ นพพล เทพทัศน์ ได้จากเรื่อง“ดวงใจมัท”


***************************************************


มีวางจำหน่ายแล้วในรูปแบบ E-BOOK ค่ะ ตามลิ้งก์ค่ะ


//www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=9773


ส่วนรูปเล่มใครสนใจแจ้งเข้ามาได้ทีที่: wikky7ster@gmail.com ค่ะ

หรือแฟนเพจ 



**************************************



....บ่วงมะลิลา พร้อมส่งค่ะ สนใจติดต่อได้....


 









Create Date : 18 ธันวาคม 2557
Last Update : 18 ธันวาคม 2557 14:00:19 น. 0 comments
Counter : 866 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wikky_78
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add wikky_78's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.