|
ตอน14 คำสั่งจากฟ้า
เรื่องชุด เทวดาประจำกาย / ศรีจันทารา ตอน 14 คำสั่งจากฟ้า
อีกสักพักคงรู้สึกตัว เสียงร่ำไห้จากทางโน้นดังระงม หลายคนพยายามเรียกชื่อเขา คนพวกนั้นวิ่งตามรถเข็นซึ่งนำร่างของเขาบึ่งไปที่ห้องไอซียู นี่ก็ผ่านมาสามคืนโลกมนุษย์แล้ว นับแต่วันที่ชายหนุ่มได้รับอุบัติเหตุ จากการขับรถตกคลองข้างทาง
ปรินดา คราวนี้ผมเป็นฝ่ายเรียกเขา เป็นการหลับไปนานพอสมควร คงได้เวลารู้สึกตัวแล้ว
ผมชื่อประภาธารา เทวดาหน่วยประจำกายเพื่อคุ้มครองมนุษย์ที่ทำความดี แต่ขณะนี้ได้รับมอบหมายจากเบื้องบนลงมาช่วยเหลือคุณ กายในของคุณแตกซ่านอย่างรุนแรง อาจมีผลให้กายเทวดาของคุณพลอยได้รับแรงสะเทือนไปด้วย ผมมาช่วยให้สติคุณนะ สภาพกายทิพย์หรือกายในของเขาที่ผมยืนคุยอยู่ด้วยตอนนี้ ลืมตาขึ้นมามองผมแนะนำตัวอย่างเป็นทางการอย่างอิดโรย ดูแล้วค่อนข้างขาดพลังน่าเป็นห่วงจริงๆ
กายในของปรินดา เริ่มถอดตัวเองจากร่างมนุษย์หรือกายหยาบนั่น ด้วยกายทิพย์ที่ละเอียดกว่าตามจิตบันดาล ออกมายืนข้างเตียงคนละฝั่งกับที่ผมยืน จ้องมองร่างตัวเองที่นอนสลบไสลอยู่
ความที่เขาตื่นกลัวอย่างรุนแรงขณะก่อนจะดับวูบลงไปภายในคลอง หลังพยายามเปิดกระจกเพื่อทะยานตัวออกมา ทว่าต้องเปิดอย่างยากลำบาก น้ำดำในคืนมืดทะลักเข้ารถที่จมดิ่งสู่ก้นคลอง ทำเขาสำลักและมืดมน พาตัวเองออกมาจากรถไม่ได้ จิตตื่นกลัวขณะนั้นของเขาซึ่งอยู่ในสภาวะเกือบหลุดออกจากร่าง จดจำแต่ภาพเหตุการณ์น่าสะพรึงที่ต้องต่อสู้กับมันด้วยความตกใจสุดขีดขั้ว การสะเทือนหรือแตกซ่านด้วยความตกใจอย่างหนักของกายทิพย์ จะมีผลต่อกายนอก ซึ่งนอกจากตอนนี้เขาจะมีกายภายนอกเป็นมนุษย์แล้วยังมีกายเทวดาอยู่อีกมิติหนึ่ง หน่วยกู้ภัยผ่านมาโดยบังเอิญลงเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็ว คุณไม่เป็นไรนะ เขาละจากการมองร่างกายหยาบบนเตียงหันมาทางผม ที่พยายามทักทายให้สติ เพื่อช่วยให้เขาเข้มแข็งขึ้น หลุดจากความทรงจำเลวร้าย ซึ่งที่จริงเหตุการณ์นั้นดับไปนานแล้ว แต่เขาก็ยังดูหม่นหมอง รัศมีจากกายทิพย์ที่ส่งออกมาเป็นสีเทา แต่สภาพกายทิพย์ภายในยังคงเรืองรองพอควร เพราะเขาไม่ใช่เป็นเพียงมนุษย์แต่มีความเป็นเทวดาซ่อนอยู่ด้วย จะว่าไปเขาควรกลับไปเป็นเทพเทวาทันทีที่ร่างนี้ตายลง
คุณขาดสติอย่างแรงก่อนหมดสติ เบื้องบนกลัวว่าคุณจะฟื้นขึ้นมาในสภาพกระเจิดกระเจิง กลับสวรรค์ไม่ถูก บุญคุณยังไม่หมดนะ ผมถูกส่งมาช่วยให้เขาได้สติเร็วขึ้น สภาพของเขายังดูมึนงง ไม่รู้สากับสิ่งที่ถูกเตือน
สลาตัน เป็นชื่อของเขาในภูมิเทวดาชั้นดาวดึงส์ หลังเข้าฌานอยู่ในสวนจิตรลดาวันเพื่อลงมาท่องเที่ยวบนโลกมนุษย์ ไม่ใช่เป็นการจุติ(ตาย)ลงมาเกิด แต่แบ่งภาคลงมาเกิดเป็นมนุษย์ชื่อปรินดา ซึ่งเทวดาหลายองค์ชอบทำกันนัก หากแต่เขาได้รับอุบัติเหตุกับร่างมนุษย์ ตามกฎโลกและกรรมปัจจุบันที่เกิดขึ้นเพราะความประมาทเขาจะต้องตาย จิตภายในต้องกลับสวรรค์ แต่ด้วยเหตุเพราะดวงจิตยังยึดติดในความเป็นปรินดาอย่างเหนียวแน่น กายทิพย์ตอนนี้จึงเป็นปรินดาตามการที่คิดไปเช่นนั้น ทำให้เส้นสายใยวิญญาณ จากร่างมนุษย์ที่เชื่อมต่อกับกายทิพย์ตอนนี้ยังไม่ขาดจากกัน ร่างของเขาจึงยังไม่ตาย
อาจเป็นเพราะกำลังจิตของตัวเขาเองยังผูกพันรักใคร่กับบุคคลรอบตัว ยึดมั่นในความเป็นปรินดา ทั้งกำลังจิตของคนรอบตัวที่รักเขาก็ยังยื้อฉุดเขาไว้ไม่ปล่อยให้เขาไป พลังความรักมีอำนาจเหนือคณานับ มันรายล้อมเป็นเกราะรอบตัวเขาอยู่ เขาจะตายหรือฟื้นขึ้นมาแบบไหน ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยเหล่านี้ด้วย อุปาทานเป็นเหตุแห่งการเกิดเช่นกัน
และแม้เขายินยอมทิ้งจากร่างที่ไร้ประโยชน์นี้ แต่ทว่าเนื่องจากสภาพความตื่นตระหนกก่อนดับวูบไปนั้น เบื้องบนเกรงว่าสลาตันจะรำลึกถึงภาคเทวดาไม่ได้ เพราะหากเขาฟื้นขึ้นในสภาพไร้สติ ซึ่งเทียบได้กับคนปัญญาอ่อนบนโลก แทนจะคืนสู่ร่างเทวดา อาจกลายไปเป็นสัมภเวสีพเนจร เพราะยังไม่ถึงคราวตายของกายเทวดา อายุขัยของความเป็นสลาตันยังมีเวลาอีกหลายร้อยปีทิพย์ (อายุเทพชั้นดาวดึงส์มีอายุขัย 1,000 ปีทิพย์ 1 วันทิพย์เท่ากับ 100 ปีโลกมนุษย์)
ผมถูกรับหน้าที่มาช่วยให้สติ และทำให้เขาตัดใจจากร่างนี้คืนสู่ร่างเดิมโดยง่าย อย่างน้อย ถ้าเขารำลึกได้ ยอมละร่างมนุษย์ปล่อยให้ร่างนั้นตายไปเสีย แล้วกลับร่างเดิม ไม่เป็นวิญญาณปรินดา วิญญาณมนุษย์ที่ตายแล้วเพราะไม่ปล่อยวางความเป็นปรินดาลงเสีย เจ้าหน้าที่หน่วยอื่นๆ คงลดภารกิจไปอีกมาก เขาคงไม่ต้องล่องลอยไร้ที่อยู่ ยมทูตต้องมาพาตัวไป เข้าสู่ขั้นตอนตัดสินพิจารณาไต่ถามความจากพญายมราช กว่าจะรู้ว่าเป็นเทวดาก่อนถูกส่งตัวกลับสวรรค์ เจ้าหน้าที่ที่หลงเข้ามาจัดการคดีนี้คงวุ่นวายในการไต่สวนพิลึก และคงเม้าท์กันกระหน่ำ ที่พวกเทวดาหาเรื่องเที่ยวเล่นกันอยู่มิขาด เบื้องบนคงไม่อยากเสียหน้า ยิ่งถ้าเขาหลบหนี เรื่องคงยิ่งบานปลายจนพัลวัน อับอายกันไปทั่วฟ้า โดยเฉพาะหัวหน้าหน่วยผมคงไม่อยากถูกองค์อินทร์เขม่นเอา
คุณเป็นเทวดานามว่า สลาตัน กายทิพย์ของเขามีอาการดีขึ้น คงถอนตัวจากความตกใจบ้างแล้ว แต่ยังดูมีสีหน้ากังวล คล้ายเขาพยายามหาทางกลับเข้าร่าง ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าร่างนี้ไม่รอดเมื่อไร เขาจะยอมไปเป็นเทวดาซึ่งมีกายละเอียดกว่ากายทิพย์ของเขาตอนนี้ หรือว่าจะอยากไปเป็นผีเร่ร่อน คอยหลบหนีการจับกุมจากยมทูต เขาจะปล่อยวางในความเป็นมนุษย์ ความรักความผูกพันอย่างมนุษย์ได้หรือไม่ ทุกอย่างจะเป็นไปโดยฉับพลันเพราะจิตเท่านั้น การเกิดของโอปปาติกะ ไม่จำเป็นต้องอาศัยพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด โลกของกายละเอียดนั้นภาวะจิตเป็นไปโดยรวดเร็ว
ผมไม่ใช่สลาตัน ผมชื่อปรินดา เป็นลูกของแม่ไน้ ผมคิดถึงแม่ คิดว่าได้สติแล้วเสียอีก แต่มาไม้นี้เล่นเอาผมตื้อกับคำตอบของเขา ความผูกพันมัดใจเขาไว้ไม่ให้เห็นความจริงอื่น การยึดติดย่อมไม่อาจปลดปล่อยตัวเอง มันก็ไม่ผิดหรอกที่เขาจะเป็นปรินดาด้วย แต่เขาจะรู้ตัวหรือเปล่าว่าสลาตันยังคงมีชีวิตอยู่ คนบางคนกล่าวเตือนไม่ยากก็เข้าใจความจริง ส่วนบางคนไม่ยอมรับรู้ ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ตาม เขาเชื่อแค่สิ่งที่รู้สึกเบื้องหน้าอย่างผิวเผิน การเชื่อมายาแค่ตรงหน้า ความจริงอื่นจะปลาสนาการสูญสิ้น
ผมยังไม่อยากตาย ผมคิดถึงแม่ คิดถึงพ่อ.. กายทิพย์หวั่นไหว เป็นเหตุให้น้ำตาที่กายมนุษย์ไหลซึมออกมา พวกพยาบาลรีบกระวีกระวาดมาดูและตรวจเช็คความดัน วุ่นวายกันพอสมควร ผมจูงมือพาเขาออกมาด้านนอก เราลอยขึ้นสู่ดาดฟ้าของตึก ขณะนี้ผมต้องรีบคิดหาวิธีใหม่ต่อไป..
ร่างกายของคุณเบามากใช่ไหม และคุณก็เป็นอิสระ เราทั้งสองลอยขึ้นมายืนอยู่บนชั้นสูงสุดของโรงพยาบาล
อากาศเป็นอิสระขนาดไหน แต่ยังไม่เท่าเรา ผมอธิบายถึงสมรรถภาพจากายเทวดา คุณไม่ดีใจหรือ ไม่อยากกลับไปเป็นเช่นนั้นแล้วหรือ มันเป็นผลบุญของคุณแท้ๆ รีบหยิบยกเอาสถานะอันเป็นทิพย์ ที่เขาได้รับจากความดีที่เคยสั่งสมและกำลังเสวยอานิสงส์เป็นถึงเทวดานั้นมากล่าวอ้าง เพื่อกระตุ้นเตือนความทรงจำของเขาให้รำลึกได้
ผมเป็นห่วงแม่ เหมือนเขายังยึดได้แค่การเป็นมนุษย์
แน่นอน ผมพยายามเข้าใจคุณ แต่คุณคงไม่ลืม นั่นมันเพียงสมมุติอีกฉากบนโลก ญาติพี่น้องของคุณอีกมาหมายหลายชาติ และอีกหลายคนก็เป็นเทพอยู่เบื้องบนเช่นกัน มนุษย์บนโลกล้วนมีความสัมพันธ์กันมาทั้งนั้น คิดดูซิ มันน่าตกใจขนาดไหน ว่าลูกในชาตินี้อาจเป็นศัตรูกันในชาติก่อน ไม่ละความพยายามทำให้เขาเข้าใจสมมุติ และตัดใจเสียจากชาตินี้
ผมพอรู้ แต่ก็มีเรื่องมากมายที่ผมยังจัดการไม่เสร็จ สีหน้ากังวลนั่นทำให้ผมเห็นใจ สลาตันเป็นผู้ที่อ่อนไหวง่ายยิ่งนัก ขนาดบอกเรื่องภพภูมิให้ชาวเทวดาด้วยกันให้รู้ว่าเขาเป็นเทวดา ยังไม่ยอมเข้าใจ แล้วประสาอะไรจะไปพูดเรื่องนรกสวรรค์ให้มนุษย์หัวดื้อฟัง พวกนั้นคงไม่ยอมเชื่อง่ายๆ
คุณอาจยังไม่ได้ร่ำลาใคร หรือไม่ก็มีเรื่องติดค้างในใจกับใครหลายคน ช่วงที่คุณลงมาเกี่ยวข้องด้วยในร่างของปรินดา ลองคาดเดารื่องที่ทำให้เขาไม่อาจปล่อยวาง
ผมจะทิ้งแม่และพ่อไปได้อย่างไร ท่านมีผมเพียงคนเดียว บ๊ะ บทสนทนาแทนที่จะคืบหน้า เขากลับย้อนไปเรื่องโลกๆ อีกแล้ว ผมก็แค่หาทางให้เขาได้มีโอกาสร่ำลากับญาติทางโลกเท่านั้น อาจเป็นการเข้าฝันก็ได้ แต่ปรินดากลับพูดราวจะมีชีวิตต่อให้ได้ มนุษย์ก็แบบนี้ ชอบหวังว่า ชีวิตจะเป็นไปตามที่ตัวคิด เกิดมา เติบโต มีหน้าที่การงาน เลี้ยงดูพ่อแม่ สมหวังไปหมด.. เขาไม่ยินยอมปล่อยให้สายใยวิญญาณขาด
ก็คุณบอกเหมือนจะเข้าใจแล้วไม่ใช่หรือ มันเป็นไปตามกฎกรรมนะ ไม่มีใครได้ทุกอย่างตามที่ปรารถนาหรอก ผมหมายถึง ใช่ว่าทุกคนจะมีชีวิตสมบูรณ์พูนสุขแล้วถึงแก่ตาย ไม่ใช่ทุกคนจะมีชีวิตยืนยาว และชีวิตแสนยาวของคนบางคนก็ใช่จะสุขสบาย ชีวิตมนุษย์ก็เป็นแบบนี้มานานตั้งแต่ยุคไหนๆ แล้วนี่.. พุทโธ่ คำทัดทานของผมจะช่วยเขาได้ขนาดไหน แต่ผมก็ยังอธิบายต่ออีก ..มีเกิดแก่เจ็บตาย พลัดพราก เศร้าโศกเสียใจ บางคนก็ตายแต่ในท้อง บางคนตายในวัยหนุ่มสาว บางคนก็พิการมีชีวิตลำเค็ญเป็นทุกข์.. สาธยายต่อ เสียจนรู้สึกซาบซึ้งกับกฎแห่งวัฏฏะเสียเอง จริงซินะ ภูมิมนุษย์เห็นทุกข์ง่ายกว่าภูมิเทวดามากนัก โลกมนุษย์ที่เทวดาอยากลงมาเกิดเพื่อให้เห็นภัยจนเอือมทุกข์ ทิ้งสุขที่ชวนหลงให้ได้สักที..แต่ปรินดาที่ประสบทุกข์อยู่แทนที่จะเข้าใจ กลับถูกอุปาทานยึดให้อยู่กับความเป็นห่วงกับบุคคลมากมาย ที่เขาลงมาข้องเกี่ยวตามระบบสมมุติไปตามวิบากกรรม
หากคุณกลับเข้าร่างที่สมองถูกทำลายไปหลายสิบเปอร์เซ็นต์ อาจต้องฟื้นขึ้นมาในสภาพพิการ เป็นเจ้าชายนิทรา นอกจากคุณจะไม่ได้ตอบแทนเลี้ยงดูพ่อแม่ ยังอาจเป็นภาระให้กับคนแก่ชรา ซึ่งทั้งสองต้องเลี้ยงดูซากของคุณ และหากถึงเวลาที่พวกเขาต้องตาย แทนที่ท่านจะได้ตายตาหลับ คงกลับต้องมาคอยเป็นห่วงร่างคุณซึ่งยังไม่ตาย ถ้อยคำหว่านล้อม พรั่งพรูออกมา ให้เขาตัดใจจากโลกที่แสนทุกข์นี้ แม้ภูมิเทวดาจะเป็นสมมุติไม่ต่างกัน แต่เขายังมีวาระความเป็นเทวดาอยู่ตามอายุขัย ไม่ใช่มนุษย์แอบเกิด เขาควรยอมรับในสิ่งที่จริงกว่า.. กับภาวะปัจจุบัน ที่ควรเลือกกระทำในสิ่งที่ดีที่สุด
ผมอยากฟื้นมาเป็นคนแข็งแรงอย่างเดิม สลาลันไม่สิ้นความวาดหวัง ผมคล้ายสิ้นหวังเสียเอง เข่าอ่อน อุตส่าห์พล่ามไปตั้งมากมายก่ายกอง เพื่อนไม่สนใจเอาเสียบ้าง
ผมไม่คิดว่าจะเป็นไปได้นะ ไม่มีใครกล้ายืนยันในสิ่งที่เขาขอหรอก ปาฏิหาริย์นอกจากจะเกิดจากพลังของจิตตัวเองที่แสดงพลังขึ้นมาฉับพลัน ก็ต้องอาจไปพึ่งจิตของผู้มีบารมีสูงส่งลงมาช่วย ซึ่งจะช่วยได้แค่ไหนก็ยังต้องอาศัยอีกหลายเหตุปัจจัย ไม่มีใครรับประกันได้
เอาอย่างนี้ ผมจะพยายามช่วยคุณให้ได้กลับไปเพื่อบอกลากับญาติๆ บรรจงบอกตัดบท ไม่อยากให้เขาหวังถึงว่าจะได้กลับไปมีชีวิตแบบเดิม ได้ตอบแทนบุญคุณพ่อแม่อะไรทำนองนั้น เขาเงียบงัน ความเงียบเป็นสิ่งดี เพราะทำให้รวบรวมสมาธิในการพิจารณาความคิด ไคร่ครวญ เขาคงได้สติมากขึ้นแล้ว
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ร่างผู้เป็นลูกชายที่รักไม่ได้สติไปถึงเจ็ดวัน แต่หลังคืนที่สามที่ร่างแน่นิ่งนั้นมีน้ำตารินไหลออกมา หวังริบหรี่ของผู้เป็นแม่ก็มีแววสว่างเจิดจ้าขึ้น หวังว่าเขาจะฟื้น แม้บรรดาหมอจะสรุปว่าสมองที่ตายไปกว่าสามเปอร์เซ็นต์ หากผู้ป่วยฟื้นขึ้นมา ก็ไม่อาจรับประกันว่าจะคืนกลับมาต็มร้อย ดีไม่ดีอาจเป็นได้แค่เจ้าชายนิทรา แต่แม่ไน้ก็ยังหวังปาฏิหาริย์ และวันที่แปดเธอก็ได้เห็นปลายนิ้วของปรินดาขยับ พ่อเฮงก็ได้เห็นพร้อมกัน เป็นสิ่งยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้ตาฝาด ทั้งคู่ปราดมาที่เตียง น้ำตาของคนเป็นพ่อเป็นแม่บ่งบอกความดีใจ
ปริน ปริน เสียงแม่เรียกอยู่ใกล้ๆ ความเป็นห่วงแม่ทำให้เขาไม่รับรู้ภาวะความเป็นเทพ ทั้งที่เดิมเขาเพียงมีจุดมุ่งหมายแบ่งร่างลงมาเที่ยวเล่นบนโลกเท่านั้น
ฟื้นเถอะลูก จะฟื้นขึ้นมาอย่างไรแม่ก็รับได้
ปรินขยับเปลือกตาก่อนเปิดตามองแม่ แต่ยังไม่สามารถพูดอะไรได้ ร่างกายก็แทบขยับไม่ได้ ชายหนุ่มเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งตัว ผมเตือนเขาแล้ว กายมนุษย์ไม่ได้เบาละเอียดอย่างกายเทวดา เต็มไปด้วยความเจ็บปวดทุกรูขุมขน ลองไม่ขยับตัวนานหน่อยก็แทบง่อยเปลี้ยเสียขา ต้องคอยขยับร่างกายเพราะทนความเค้นของกฎทุกขังไม่ได้ เต็มไปด้วยโรคและความป่วยไข้จากเชื้อโรคร้ายที่จ้องจู่โจมอาศัย เราไม่ใช่เจ้าของร่างกายนี้เพียงผู้เดียว
ฟื้นแล้วพ่อ แม่ไน้เสียงสั่นเทา ร้องไห้ฟูมฟายด้วยปิติ ฟื้นแล้ว เธอพูดซ้ำก่อนเสียงขาดหายไปกับหยาดน้ำตาหยาดใหม่ที่แข่งขันกันรินออกมา พ่อเข้ามาบีบนวดตัวลูกเบาๆ กลัวลูกจะเจ็บ พยาบาลและหมอรีบเข้ามาดูอาการ เพื่อวิเคราะห์และหาทางรักษาเยียวยาในขั้นต่อไป
ผมดีใจที่เห็นแม่อีกครั้ง เขาสารภาพ ผมยังติดต่อกับเขาทางจิต ร่างกายของเขาเข้าข่ายย่ำแย่ กินอาการทางสายยาง โชคดีที่ร่างเขาสามารถหายใจเองได้ ออกซิเจนไม่ต้องใช้ แต่นานวัน ร่างเหี่ยวแห้งนั่นก็ยิ่งทวีความผ่ายผอม มีแต่ลูกตาเหลือกไปมาบนใบหน้าตอบแก้มโหล ความหวังว่าอาการจะดีขึ้นเป็นลำดับกลายเป็นเลวลงตามลำดับ ทุกวันมีพนักงานฝ่ายกายภาพบำบัดเข้ามาช่วยบีบนวดเพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อลีบ เขามีความสุขบ้างในวันที่รู้สึกเจ็บปวดน้อยลงสักนิด พ่อเฮงกับแม่ไน้เองก็ล้าลงทุกวัน แต่ก็ไม่เคยทอดทิ้งความหวัง ยังคอยรอปาฏิหาริย์ว่าวันนึงเขาจะพูดได้ และร่างกายค่อยๆ แข็งแรงขึ้น ลูกชายที่เป็นประดุจหวังทั้งหมด ที่จะมาเป็นหลักให้ในยามชรา กลับต้องมาป่วยซมให้พ่อแม่วัยเฒ่าดูแล หมดค่ารักษาพยาบาลไปมากมาย
ผมเจ็บปวดมาก แต่ก็ยังหวังว่าจะพูดได้ และกลับมาเป็นอย่างเดิม กายในของปรินดายังยืนกรานดื้อดึง
ผมไม่แน่ใจ ร่างกายคุณก็เหมือนเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่ง เสียหายจนยากแม้จะปะชุน
ประภาธารา คุณจะช่วยผมอีกสักครังได้ไหม
ผมก็ช่วยคุณให้ตัดใจอยู่นี่ไง ก่อนที่พ่อแม่คุณจะเดือดร้อนไปกว่านี้
ผมต้องการปาฏิหาริย์
คุณควรมองเห็นความจริงที่เกิดขึ้นมากกว่า ส่วนเรื่องปาฏิหาริย์เป็นเรื่องเล็ก เมื่อคุณกลับไปเป็นเทวดา ผมถอนใจ บอกกลวิธีง่ายๆ ของการแสดงปาฏิหาริย์ เทพอย่างเราทำอะไรเพียงน้อยมนุษย์ก็ตาโตจะแย่
แต่ผมอยากเป็นอย่างเดิม ร่างที่เหลือแต่โครงกระดูก น่าเกลียดราวซากศพแห้ง เกลือกตาจ้องผมอย่างวิงวอน มันเปี่ยมไปด้วยพลังมุ่งมั่น แต่ผมกลับอยากวอนขอให้เขาออกมาจากร่างนั่น ตัดสายใยวิญญาณ ทิ้งความเป็นปรินดาซะ และกลับไปเป็นสลาตันเสียที
ดูเถอะ มนุษย์หลายคนมีโอกาสที่กายในหลุดออกมาจากกายนอกที่แสนอัปลักษณ์ แต่สิ่งที่พวกเขาทำ คือเลือกกลับเข้าไปอาศัยมันอีก พวกเขากลัวตาย ในภาวะเป็นตาย ผู้คนเลือกจะมีชีวิต ทั้งที่ร่างกายบางคนแทบทนดูอีกไม่ได้แล้ว วิญญาณเลือกจะกลับเข้าร่างมาใช้ชีวิตที่เจ็บปวดยิ่งกว่าความตาย การตัดใจมันยากเย็นอะไรกันนักหนาเชียว
ประภาธารา ผมนั่งใจลอยอยู่บนดาดฟ้าของดรงพยาบาล จนได้ยินเสียงของเทพโอภาสฯ และนางฟ้ารัตนกายี ซึ่งโฉบผ่านมา เลยแวะลงมาเยี่ยมเยียนผม
เป็นไงบ้าง เพื่อนนางฟ้าสอยถามข่าวคราวของสลาตัน เรื่องของเขาตอนนี้ ดังระเบิดเถิดเทิงไปทั่วสวรรค์ชั้นเราเชียว
ก็เหมือนจะพอรู้ตัวแล้วนะว่าเป็นใคร แต่ใจนึงไม่ยอมรับ ซึ่งผมไม่แน่ใจ ว่าเท่ากับหมายถึงเขาไม่รู้ตัวหรือเปล่า พูดยอกย้อนวกวนโดยที่ผมเองก็ไม่ได้ตั้งใจ
เราจะช่วย สองเทพเอ่ยปากอย่างมีเลสนัย
แม่ไน้กับพ่อเฮง เดินเข้ามาที่เตียงลูกชายหน้าละห้อย มองร่างเขาอย่างคล้ายหมดหวัง ก่อนกลับไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง พูดคุยกันเบาๆ คิดเอาว่าลุกชายคงไม่รับรุ้
คงต้องขายบ้านแล้วล่ะ พ่อกระซิบบอกแม่ ถ้าไม่พอ จะต้องกู้ยืมที่ไหนก็เอา ยังไงก็จะทำทุกวิถีทาง เสียงขาดห้วยจุกอก ตาแดงๆ ภายใต้ขอบตาบวมช้ำหันมองมาทางเตียงด้วยความรักใคร่
ห่วงก็แต่ว่า ถ้าเราตายก่อน ปรินจะทำอย่างไร คราวนี้แม่ปล่อยโฮ ความเป็นห่วงลูกทำใจแทบสลาย พ่อเข้ามาปลอบ แม่ไน้ซบไหล่พ่อสะอื้นเบาๆ แม้ดวงตาจะล่องลอยเสมือนไร้การรับรู้แต่สีหน้าของปรินดายิ่งซีดเซียวกว่าเดิม ดุจตระหนกตกใจ พยายามเบือนหน้ามาทางผมด้วยความยากลำบาก
ประภาธารา กายทพย์ภายในเรียกชื่อผม แต่คงมีความหมายให้ผมหาทางช่วย
ยิ่งตัดใจเร็วได้เท่าไหร่ยิ่งดี ผมเอามือไพล่หลังเดินกลับไปมาสองรอบราวครุ่นคิดหนัก สบโอกาสเหมาะ ช่วยบอกในสิ่งที่เขาควรทำมากกว่าสิ่งที่เขาอยากจะฝืนทำ ลองคิดดูนะ
และคืนนั้นนั่นเอง ปรินดาก็มีอาการโคม่าอีกครั้ง เขาคงตัดใจได้เสียที กรรมวิบากเข้าทำงานตามระบบ ร่างที่ถูกนำเข้าไอซียูอีกครั้ง ไม่มีโอกาสฟื้นอีกแล้ว
อย่าเรียกลูกกลับมาอีกเลยนะแม่ ปล่อยแกไปเถอะ ฝ่ายพ่อหักใจบอก แต่คนเป็นแม่คงทำใจยอมรับยาก ปาฏิหาริย์ถูกคาดหวังเสมอทั้งที่ผลของมันก็ใช่ว่าน่าอภิรมย์ วิญญาณปรินดายินยอมตัดสายใยวิญญาณเพื่อแสดงความกตัญญูเป็นครั้งสุดท้าย ผมขอบคุณโอภาสฯและรัตนกายี นักแปลงกายเป็นมนุษย์ชั้นเยี่ยม ตีบทแตกกระจาย แสดงได้สมบทบาทเนียนไม่มีที่ติ
แม้พ่อแม่ของปรินดาจะสนทนากันแบบนั้นจริง แต่ก็ไม่ได้เข้ามาพูดคุยกันในห้องผู้ป่วยแต่ประการใด ทั้งคู่ร้องไห้ปริ่มจะขาดใจตามลูกชายหัวแก้วหัวแหวน บทบาทสมมุติที่มนุษย์รู้ว่าเป็นสมมุติ แต่ไม่ยอมเข้าใจ ขืนผมปล่อยไว้ พ่อแม่เขาคงล้มละลาย ดีไม่ดีอาจตายไปก่อนลูกชายอีกต่างหาก ผมก็แค่ช่วยให้ปรินดาทำในสิ่งที่เขาควรทำที่สุด ในขณะที่ผมยังคอยอยู่ช่วยเหลือ งานของผมจบลงด้วยดี ไม่มีวิญญาณปรินดา ออกมาเร่ร่อนให้ยมทูตตนใดต้องเดือดร้อน
สลาตันใช้วิธีเข้าฝันบอกพ่อเฮงแม่ไน้ ชายหญิงสูงวัยเชื้อสายจีน ว่าเขากลับไปอยู่บนสวรรค์แล้ว ขอให้พ่อกับแม่เร่งทำความดีเยอะๆ ตอนที่มีโอกาสเป็นมนุษย์อยู่ ผมเลยได้เห็นคนแก่ในชุดขาวเพิ่มขึ้นอีกสองคนที่วัด โล่งใจจัง..
Create Date : 13 มิถุนายน 2551 |
Last Update : 15 มิถุนายน 2551 20:23:33 น. |
|
0 comments
|
Counter : 451 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|