ปฎิรูป-ถอยอย่างไรไม่ให้ล้ม*** WHITESPACE.CO.LTD

whitespace
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




เมื่อไม่มีสิ่งใดจริง จึงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น
.....อ่านเรื่องพุทธบารมี
.....ลีลาสมเด็จพุฒาจารย์โต
.....ปฏิปัตติปุจฉาวิสัชนา-หลวงปู่มั่น

Google..
.....................พ่อของแผ่นดิน...
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
12 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add whitespace's blog to your web]
Links
 

 
ความผิดพลาดในสายลมแรง

*เรื่องสั้น ความผิดพลาดในสายลมแรง
srijuntara


“ฉันรักพี่มาก”

อาภากาศก้มหน้าพูดกับกัลปา น้ำตาแห่งความรักเอ่อคลอ ถ้าหล่อนเอามีดยาวคมวาวแทงกระซวกเข้าอกของกัลปาพร้อมถ้อยคำนั่นด้วย พนันได้ว่าหล่อนพูดจริง แต่ถ้าอาภากาศพูดด้วยความโล่งใจ หันกายจากไปอย่างไม่ใยดี หล่อนกำลังพูดจริงเช่นกัน การปลดปล่อยก็หมายถึงความรักอีกรูปแบบ แต่ความเกลียดชังนั่นคือความรักยิ่งกว่า

“ฉันคงอยากถูกเธอแทงตายอยู่ตรงนี้ ถ้าเธอเป็นคนที่ฉันรัก”

กัลปาคิด มองกาศที่หันหลังเดินออกไปหลายก้าวแล้ว เสียงรถไฟดังเข้ามาเรื่อยๆ เหมือนแผดเสียงประกาศว่าจบเกม เธอน่าจะโล่งใจมากกว่าขมขื่นไม่ใช่หรือ

คนขายข้าวเหนียวไก่ย่างเตรียมตัวจ่อหน้าต่างด้วยรอยยิ้ม หัวค่ำแบบนี้ อาหารแบบนี้ไม่ถูกดูถูกจากคนใช้แรงงาน นักศึกษาผู้กำลังท่องเที่ยว และคนชั้นกลางหรือชั้นสูงที่ต้องการอาหารซึ่งเปรียบเป็นสัญลักษณ์คู่กับพาหนะดั้งเดิมโดยเคยใช้เครื่องจักรไอน้ำมาช้านาน มันร้อนระอุน่าลองลิ้ม

กัลปามาส่งกาศไปพักร้อนภูเก็ตที่สถานีสามเสน มีคนรอรับเธออยู่ที่ปลายทาง กาศไม่พูดถึงเพื่อนที่มารับแม้แต่ครึ่งคำ กัลปาก็เป็นคนไม่ช่างซักแม้แต่เสี้ยวคำ คนช่างพูดช่างฉอเลาะหยุดพูดได้ทันทีเมื่อหมดเยื่อใย แต่คนไม่ช่างพูดอย่างกัลปาจะหมดเยื่อใยหรือยังมีเยื่อใยมีหรือที่จะพูด หากจะพูดนั่นก็เพราะมีจุดมุ่งหมายมากกว่ามาจากการใช้อารมณ์ การมีอารมณ์เสียอีกที่จะทำให้กัลปายิ่งหยุดพูด

รถไฟเทียบอยู่ไม่นาน อาภากาศก็ก้าวขึ้นประตู ไม่แม้แต่หันมามอง ความเกลียดที่อิสระเกินเกลียดแบบนี้ไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความเกลียดชนิดกรวดน้ำคว่ำขัน

กัลปามองสิ่งที่ได้รับจากการกระทำของตัวเอง คิดว่าตัวเองคงจะเล็กลงเรื่อยๆ หากอาภากาศมองกลับมา จนกลายเป็นเพียงจุดและจะหายไปในที่สุด แต่เธอรู้ว่าอาภากาศจะไม่หันกลับมามองมากกว่า

* * * * * * * * * * * * * * * *

กัลปาชอบยืนนิ่งๆ มองออกไปไกลๆ มันเป็นเรื่องสุดวิสัยจะคาดเดาออกว่าเธอทำเช่นนั้นทำไม คิดอะไร เพื่ออะไร แม้นแต่ตัวเธอเองก็ไม่ทราบ

ทุกเช้าเมื่อขับรถมาถึงที่ทำงานบนลานจอดชั้นเจ็ด หลังออกจากรถเธอจะยืนนิ่งมองออกไปเบื้องหน้าแสนไกล มีแต่ภาพตึกชนตึกสูงระฟ้าหม่น ไม่มีท้องฟ้าใสๆ เต็มไปด้วยก้อนเมฆขาวหรือทุ่งหญ้าเขียวขจีเบื้องล่าง มีเพียงสายลมที่ยังเป็นสายลม ซึ่งอาจพัดพาตัวเองมาจากสถานที่นั้นเพื่อกระซิบถึงเรื่องราวธรรมชาติจากอีกขอบฟ้าข้างๆ ใบหูและผิวกาย

ลมเดินทางไปมาทุกที่บนโลก เธอมองออกไปไกลกว่าภาพตึกตรงหน้าก็เพราะสายลมชวน แต่ที่จริงไม่เห็นอะไรนอกไปเสียจากตึกอีกอาคารใกล้ๆ และตึกอีกหลายอาคารไกลๆ ซ้อนเป็นมิติมหานครที่เปลี่ยนวิถีคนรุ่นใหม่ให้ต่างจากคนรุ่นก่อน เธอสูดเอาลมนั่นเข้าไปหมุนเวียนในท้องเบาๆ

บรรยากาศสบายของสายลมบอกความเป็นยามเช้า ส่วนเสียงสะท้อนจากอาคารดังออกมาเป็นเสียงทุบนั่นทุบนี่เสมออยู่ไม่ขาด บ่งฟ้องความเจริญนั้นไม่เคยยอมสงบ รถยนต์ส่งเสียงครางเข้ามาเทียบจอดบนอาคารให้สำนักงานเช่าคันแล้วคันเล่า เสียงผู้หญิงผู้ชายพูดคุยด้วยอารมณ์แรงกว่ายามปกติถึงงานที่ร้อนระอุทุกวัน ทะเลยังหลับง่ายตื่นยากกว่าเมืองเสียอีก

ถ้าภาพของผู้หญิงผิวออกเหลือง สูงเพราะความผอมมีส่วนให้เห็นเช่นนั้น เพราะที่จริงผู้หญิงสูงไม่ถึง 165 ซ.ม. ไม่จัดว่าสูงนัก จมูกโด่งชัดโดยเฉพาะด้านข้าง ออกมายืนชมยามเช้าบนลานจอดรถเพื่อทดแทนความเร่งรีบขณะรีบออกจากบ้าน บางทีเพื่อปรับสภาพจิตก่อนเดินเข้าสู่ที่ทำงานอันน่าเวียนหัว จะทำให้ใครคนหนึ่งแอบมองอย่างรักใคร่ กัลปาคงไม่มัวยืนให้เสียเวลา มันอาจน่าค้นหาสำหรับใครอื่น แต่ที่จริงการยืนนั่นไม่มีความหมาย เธอไม่ได้เศร้าสร้อยอะไรกับชีวิตนักดอก แค่ปล่อยความเงียบเหงาคืนออกไปให้โลกที่วุ่นวาย...

เป็นอีกวัน ที่เดินเหยียบเข้าสถานทำงานซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องต้องสะสาง งานผลิตสารคดีตอนสั้นๆ ในรายการโทรทัศน์ดีตรงเหนื่อยเป็นเรื่องๆ และได้พักเมื่อผลิตจบลง หากเป็นเรื่องยาวขนาดหลายตอนจบและต้องตะลุยไปไกลๆ กัลปาคงไม่ไหวถ้าทางบริษัทจะไม่ซัพพอร์ตและดูแลอย่างดี เพราะเท่าที่ทำอยู่ก็หนักจนแทบไม่ได้พัก

แค่เจ้าหน้าที่ไม่ติดต่อประสานงานให้ดีๆ เธอก็แทบคลั่ง ความผิดพลาดจะเพิ่มความหนักให้งานเป็นหลายเท่า บ่อยครั้งที่สาวโปรดิวเซอร์คนนี้ลงมือติดต่อทุกอย่างเอง คนพวกนั้นบางครั้งชอบทำเรื่องง่ายให้ยาก ทำเรื่องยากให้เธอแก้ปัญหาไม่รู้จบ

น้องอ้อฝ่ายพรีโพรดักส์ชั่นยิ้มให้มาเธอมาถึง รอยยิ้มฉายแววไม่น่าไว้ใจ บางครั้งเด็กคนนี้ก็เหมือนอยู่ข้างโปรดิวเซอร์ คอยเอาเรื่องกฎแปลกๆ ของฝ่ายบุคคลมาเล่าทั้งแสดงอาการโกรธแทน บางครั้งเธอกลับคอยรายงานฝ่ายบุคคลเพื่อจับผิดการทำงานของพนักงาน

“พี่ไม่ได้เบิกเทปไว้ถ่ายวันนี้” เด็กนั่นพูดกับกัลปายิ้มๆ

“เหรอ งั้นเอากุญแจมาซิ พี่จะได้เข้าไปเอา”

“แต่พี่ไม่ได้แจ้งฝ่ายบุคคลไว้ก่อน แล้วพี่ก็ไม่ได้ทำใบเบิก” ทันทีที่ประโยคนี้สะกิดเข้า กัลปาก็คลายจากอารมณ์ราบเรียบ ลมร้ายกำลังพัดมาป่วนผิวทะเลให้หายจากอาการสงบ ดูท่าเธอไม่เล่นล้อหรือหยอกเอินเหมือนต่อรองกับอีกฝ่ายเป็นแน่ แม้บ่อยครั้งจะชอบพูดสนุกกับคนอื่นๆ แต่ต้องเป็นกรณีที่ไม่มีเจตนาร้าย

“แล้วไง..” เสียงเน้นเนิบ เชื่อได้ว่าเธอพยายามรักษาอารมณ์

“ทำทีหลังไม่เห็นยาก ให้ไปเอากุญแจมา จ้างกองถ่ายข้างนอกด้วย พี่จะยุ่ง ไปเอามาเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงหลุดจนกร้าว นอกจากจะไม่บอกถึงความเป็นรอง ยังพร้อมพัดคนตรงหน้าให้ล้มระเนระนาด น้องอ้อหน้าซีดเผือดกับความแปรปรวนรุนแรง ผู้หญิงนิ่งๆ คนนี้ไม่เป็นแบบนี้บ่อยนอกจากเหนื่อยเข้าขั้นแล้ว บางครั้งยังชวนน่าแกล้งให้เธออึดอัดใจเล่นด้วยคำกระทบกระเทียบเพราะเธอไม่ช่างพูดพอจะโต้กลับ แต่ระยะหลังๆ กัลปากลับคล้ายจะหลุดได้ง่าย

คงเป็นเพราะเรื่องต้องจ้างกองถ่ายข้างนอกและตัดต่อข้างนอกเมื่อคิวงานในออฟฟิตเต็ม โปรดิวเซอร์จะเหมือนผลิตงานคนเดียวทั้งกระบวนราวถูกทิ้ง ต้องรับผิดชอบคนเดียวโดยไม่มีช่องทางพึ่งพิงให้ใครช่วยได้ พวกไม่หวังดีเฝ้ารอจังหวะแบบนี้คอยดูกัลปาพลั้งพลาด เธอรู้ว่าเรื่องโง่ๆ กำลังจะเกิดหลังเธอออกไปทำงานนอกสถานที่

แต่เธอไม่สนเรื่องราวไร้สาระ แค่เรื่องกุญแจ แค่เรื่องลืมเบิกเทป ปัญหาที่บริษัทต้องช่วยเหลือคนทำงานหนักไม่ใช่มาคอยจับผิด ถ้างานพังบริษัทจะพังยิ่งกว่า พวกคนทำงานนี่ก็แปลก ไม่ช่วยแล้วยังคอยชอนไชเรื่องไม่เป็นเรื่อง ฟ้องเรื่องไร้สาระแบบนั้นไม่ได้ทำให้ชีวิตก้าวหน้าขึ้นมาได้ และเจ้าของบริษัทนี้ก็ทราบดี บ่อยครั้งที่ผู้จัดการฝ่ายบุคคลคนสวยจ้องเล่นงานเธอไม่ได้ พี่ธานีเจ้าของบริษัทยังคอยอำนวยความสะดวกให้เธออีกด้วย มันจึงเป็นหน้าที่ที่ฝ่ายบุคคลจะต้องหาทางกลั่นแกล้งสาวผู้ไม่อ่อนน้อมคนนี้ให้ได้ต่อไป

การเข้าบริษัทแต่เช้า มีเวลาให้ไม่ต้องร้อนรนมาก เพียงพอจะราวีกับพวกจับผิดแทนที่จะช่วยคนทำงานหนักเบาแรง เธอชอบเผื่อเวลาเพื่อกันความผิดพลาดให้มากที่สุด

อาภากาศเด็กจบปวส.คอมพิวเตอร์กราฟฟิคลักษณะออกทอมบอย เป็นผู้ช่วยโปรดิวเซอร์หลายคน โดยหวังตัวเองจะขึ้นมาทำหน้าที่นี้บ้าง วิ่งจากอีกห้องมาดูเมื่อได้ยินน้ำเสียงเหมือนคนโต้เถียงกัน เธออยู่ที่นี่มานานกว่า รู้หลายเรื่องมากกว่า และรู้ที่รู้ทางดีกว่า เธอรีบไปค้นกุญแจมาให้กัลปา ผู้หญิงที่เธอแอบมองทุกเช้า ถ้าวันไหนหญิงสาวคนนี้ไม่มาทำงาน ทั้งบริษัทจะปกคลุมไปด้วยม่านหมอกแห่งความห่อเหี่ยว

อาศัยความฉอเลาะช่างคุยช่างเอาอกเอาใจ ช่วยงานกัลปาทุกอย่าง ก็ดูเหมือนเธอจะกลายเป็นเด็กของสาวโปรดิวเซอร์ผู้จองหองไปได้ และถ้าไม่ได้อาภากาศ ที่นี่ก็อาจกลายเป็นโรงงานนรกไปง่ายๆ สำหรับกัลปา

งานหนักแลกกับเม็ดเงินจำนวนน้อย ทำให้นักผลิตรายการหลายคนหลีกทางให้กับวงการที่เจ้าของรวยคนเดียวไปเสีย ผันตัวเองไปสู่อาชีพอื่นก่อนจะชราภาพ

ความลุ่มหลงรุนแรงของอาภากาศแสดงออกด้วยการช่วยงานของกัลปาชนิดถวายชีวิต ยอมอดตาหลับขับตานอนอยู่เป็นเพื่อนสาวโปรดิวเซอร์หลายงาน จนกัลปาใจอ่อนยอมเอาเธอกลับมานอนที่ห้องพักด้วย ไม่เช่นนั้นกาศจะต้องนอนออฟฟิตในห้องทำงานซึ่งไม่สบายตัวนัก

ความจริงกัลปาเกลียดการนอนกับคนอื่นที่สุด เธออยู่คนเดียวจนชาชินกับโลกส่วนตัว ต่างจากอาภากาศที่ดีใจจนหัวใจเต้นไม่เป็นส่ำที่ได้ใกล้ชิดกับคนที่เธอชื่นชม กาศมักแอบขยับตัวมากอดกัลปาจนเธอต้องตื่นขึ้นด้วยความอึดอัด ต้องขยับหนีหรือไม่ก็ไปนอนเสียที่อื่น มันทำให้เธอนอนไม่เต็มตื่น ในที่สุดก่อนที่กาศจะทำอะไรเธอ เธอกลับตัดสินใจชิงลงมือทำอะไรเด็กเสียเอง ด้วยจุดมุ่งหมายที่เธอคิดมานานหลายวัน หวังจะให้เด็กทอมบอยนี่กลับไปเป็นเด็กสาวธรรมดาอย่างคนอื่นเขา

กัลปาไม่ใช่ไม่ชอบมองผู้หญิง เธอเชื่อว่าหญิงสาวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ย่อมสามารถดึงความเป็นชายออกมาทั้งจากตัวผู้หญิงและตัวผู้ชายให้ตกหลุมรักได้ด้วยความรู้สึกหลงใหล ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่การมีอะไรกับผู้หญิงที่ไม่มีเสน่ห์อย่างหญิงสาวเพื่อให้เธอกลับมารู้สึกถึงเป็นหญิงของตัวเองเพื่อคืนสู่การใช้ชีวิตปกติ เป็นเหตุผลในแผนอันประหลาดของกัลปา!!

หรือนี่เป็นการตอบแทนความรักที่เด็กคนนึงยื่นให้

“เด็กหนอเด็ก” บางครั้งเธอนึกอยากปลอบโยนอาภากาศยามหลับใหลที่นอนกอดเธอด้วยความรักใคร่ แต่ใจจริงอยากด่าทอตัวเองมากกว่าที่ก่อปัญหาน่าชังนี้ขึ้น ต่อให้เป็นหญิงสาวซึ่งเธอรักหัวปรักหัวปรำ เซ็กส์ก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอแน่ใจนักว่าควรจะมี มันอาจเอาไว้แค่การสืบเผ่าพันธุ์มนุษย์เท่านั้นก็ได้

“พี่เก่งจังเลย” กาศครวญครางขณะถึงจุดเสียวซ่าน มันเป็นถ้อยคำแสลงชวนคลื่นเหียนจนกัลปาเกลียดทุกครั้งและอยากขอร้องให้เธอเลิกพูด เธอนอนหอบและมักขอให้กัลปาทำให้อีกและอีก จนสาวรุ่นพี่อยากร้องไห้ถึงการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง

อาภากาศตัวหนากว่าเธอมากแม้นจะเตี้ยกว่า กาศนอนกอดสาวร่างบางผู้เป็นดังความฝันที่ไขว่คว้ามาจนได้ ผู้หญิงคนนี้คนที่รักอย่างหมดจิตหมดใจ ยอมให้ทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นฝ่ายถูกกระทำ

“หมอคนที่มาชอบไปถึงไหน” กัลปาเอ่ยถามเรื่องนายสัตวแพทย์รายหนึ่งที่มาจีบเด็กสาวอยู่ และยังมีอีกบางรายที่เธอไม่ซักถึง มีความหวังเล็กๆ ว่ากาศจะเป็นฝ่ายรับความรักของคนอื่นได้

“ก็ไม่มีอะไรนี่”

“ผู้ชายดีๆ หาไม่ได้ง่ายๆ กาศอาจต้องเสียใจทีหลังนะ ชีวิตคนเราบางทีพลาดโอกาสไม่ได้กี่ครั้ง”

“ก็คุยกันอยู่บ้าง พรุ่งนี้พี่กัลป์อยากกินอะไรจะทำให้กินนะ” ทำเสียงน่ารักเสเปลี่ยนเรื่องมาออดอ้อนหวังตัดบท กอดกัลปากระชับขึ้น จนอีกฝ่ายค่อยๆ แกะมือของเธอออกแต่มันเป็นการค่อยๆ เพิ่มความร้าวรานให้ กาศรู้ดีถึงท่าทีที่กัลปาเป็นแบบนี้เสมอ ไม่แสดงความหลงรักเธอเลยแม้แต่น้อย อาจแค่สงสาร บ่อยครั้งต้องซ่อนน้ำตาขณะเผชิญหน้าแต่ไม่อาจตัดใจจากไป ใบหน้าเรียบๆ นั่นไม่เคยแสดงอาการอะไรมาก

บางครั้งกัลป์ก็เผลอพูดถึงคนที่เธอรักแล้วถอนใจ กัลป์เสียอีกที่น่าสงสารเพราะไม่มีความมั่นใจต่อวิถีรักร่วมเพศแบบนี้ แต่อาภากาศเจ็บปวดปางตายหากได้ยิน อยากบอกเธอว่าคนที่รักเธอยืนอยู่ตรงนี้ทำไมไม่มองให้เห็น มันช่างเป็นความสัมพันธ์ที่ทอดตัวลงมาอย่างไร้เยื่อใย แต่ก็ได้แค่ฟังโดยไม่เคยกล้าถามถึงคนที่กัลปารัก เพราะเธอจะชักสีหน้าเหมือนการสบถนั่นไม่ได้ต้องการความเห็น ถึงกัลป์จะแก่กว่าไม่กี่ปี แต่ท่าทางเรียบๆ จะน่ากลัวขึ้นมากหากมีอะไรขัดเคือง ใครว่าความเงียบไม่น่ากลัว กัลปาได้แสดงถึงความเงียบอันน่ากลัวอยู่เสมอ

ความรักของอาภากาศ สร้างความสงสารและทำให้กัลปาสับสน แต่มันก็แฝงไปด้วยความขยะแขยงเพราะกัลปาเกลียดคนโกหกไหลลื่น คนเจ้าชู้กับเรื่องโกหกมักเป็นของคู่กัน มันอาจไม่ใช่เรื่องโกหกก็ได้ แต่เป็นเรื่องพร่ำเพรื่อที่พูดกับคนหลายคนด้วยประโยคเดิมๆ

“ฉันเกิดมาเพื่อเป็นหมารับใช้พี่ เพื่อรักพี่คนเดียวนะ” สาวทอมบอยปากหวานและมักจะสัญญิงสัญญากับกัลปาอย่างน่าเอ็นดูเสมอ

“หึ....” กัลปาแค่นเสียงในลำคอ หลังเพิ่งสังเกตเห็นอาภากาศจะร้อนรนออกไปข้างนอกเสมอเมื่อมีใครบางคนโทรศัพท์มา คนเจ้าชู้มักจะโกหกเก่ง แม้ในเวลาที่เขาคิดว่าไม่ เด็กคนนี้ปากหวาน กัลปาเห็นภาพหญิงสาวบนโต๊ะทำงานและในกระเป๋าเงินของกาภากาศมานานแล้ว คงจะเป็นผู้หญิงที่กาศหลงรักอยู่ก่อนเจอเธอ แต่กาศคงจำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากบอกว่าเธอคนนั้นเป็นเพื่อน ที่สำคัญกัลป์ไม่สนใจเรื่องส่วนตัวของกาศ

อาภากาศลุกมาทำตัวให้สวยอยู่ได้ไม่นาน ก็กลับไปทำตัวอย่างเดิมๆ ซึ่งดูดีกว่า รู้ตัวว่าไม่สามารถรุกเร้าฝ่ายตรงข้ามให้รักได้ ซ้ำอีกฝ่ายยังติดยึดกับเรื่องอายุและแข็งจนไม่ยอมลงให้แม้แต่น้อย อาภากาศเริ่มเหน็ดเหนื่อยกับความรักของตัวเองพอๆ กับกัลปา ที่นับวันก็ยิ่งรู้สึกถึงความไร้สติของตน เธอไม่ได้อยากให้กาศสวยเพื่อเธอแต่เพื่อตัวเอง

เธอไร้เรี่ยวแรงจะนอนกับกาศอีกเพราะไม่เห็นความคืบหน้าในทางที่หวัง แม้นเด็กสาวทั้งรบเร้าและตัดพ้อทำนองพอได้เชยชมสมใจก็เบื่อหน่าย เธอสะอึก!! นี่เองคือผลลัพท์ของความหวังดี ช่างน่าเจ็บปวดสิ้นดี ซ้ำร้ายเด็กนั่นไม่ได้รักเธอคนเดียว กัลปาคิดว่าตัวเองโง่กว่าเด็กเสียอีก แถมยังชอบคิดแผนการโง่ๆ ด้วย

“ทำไมพี่ไม่ทำแบบเดิม” กาศลูบไล้ผิวกายของอีกฝ่ายปลุกอารมณ์เพื่อต้องการการสนองตอบ ไม่เคยมีคำตอบจากกัลปานอกจากลุกจากเตียงไปนอนที่อื่น

การนอนกับคนที่ไม่รักเป็นเรื่องทรมาน กัลปาไม่ใช่ผู้ชายซึ่งมีความต้องการด้วยความใคร่อย่างเดียวก็ได้ มันช่างน่ากระอักกระอ่วนเมื่อไม่มีจินตนาการในการร่วมรัก ไม่มีความรัญจวน เธอไม่ชอบกลิ่นกายของกาศยามร่วมรัก ผู้หญิงแต่ละคนจะมีกลิ่นพิเศษเฉพาะตัวและจะโชยกลิ่นแรงยามมีอารมณ์กระสันเพื่อทำให้ผู้ชายยิ่งตื่นตัว

ไม่คาดคิดว่าการตัดสินใจเพื่อคนที่มารักเธอด้วยเจตนาดีกลับสร้างความทรมานและหนักใจให้ภายหลัง กัลปาเป็นคนชนิดที่ไม่เคยเข้าใจว่าเหตุใดชอบสร้างความลำบากให้ตัวเอง การแสดงออกเรื่องความรักของกัลปาเป็นเรื่องคาดเดายากเสมอ เพราะรังแต่จะสร้างเงื่อนปมตามมาให้กลัดกลุ้ม

ทำไมต้องคิดแทนคนอื่นจนทำอะไรที่ไม่มีผลดีต่อใครขึ้นมา เธออยากจะฉลาดกว่าที่เป็นอยู่สักสิบเท่า แต่นั่นมันต้องแลกด้วยอายุของกาลเวลา เธอมักจะคิดถึงผู้หญิงบางคนที่เธอรักและแอบร้องไห้เงียบๆ เพราะไม่สามารถคาดหวังถึงชีวิตคู่กับผู้หญิงเหล่านั้น ต่างจากกาศที่รักใครก็ฝันแต่เรื่องสวยงามในอนาคต ถ้าชีวิตง่ายแบบนั้นก็คงดีหรอก ครอบครัวอบอุ่นและผู้นำเข้มแข็งต่างหากที่จำเป็นต่อผู้หญิงบอบบาง อาภากาศก็ควรกลับไปเป็นผู้หญิงธรรมดาๆ มากกว่าจะเป็นทอมบอยที่ไม่สามารถหาเลี้ยงผู้หญิงคนไหนได้

กัลปาผู้ไม่ยี่หระกับชีวิต กลับมองอนาคตด้วยความเครียดและจริงจังสุดโต่ง แต่สุดท้ายคนที่เธอลงทุนทำดีด้วยนั่นเอง จะกลับมาเกลียดเธอเพราะแผนการบ้าๆ ที่ช่างสรรหามาคิด ไม่มีใครต้องการเป็นตัวตลกหรือให้ใครมาสงสารหรอก

หรือถึงเวลาที่กัลปาต้องวางแผนประหลาดต่ออีกแล้ว กัลป์คิดเอาใหม่ว่า ยิ่งผลักอาภากาศออกจากตัวเร็วเท่าใดก็ยิ่งเป็นผลดีกับตัวกาศเองที่จะมีเวลาหาคู่แท้ของเธอได้มากขึ้น หากปล่อยให้เด็กสาวมาติดพันอยู่แบบนี้เท่ากับตัดโอกาสเธอลงไปเรื่อยๆ คราวนี้เธออยากจะเป็นอะไรหรือเลือกอนาคตอย่างไร ก็ไม่ใช่ธุระกงการของกัลปาอีก

“รู้ไหม เวลาเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหา” กัลป์เลือกเวลาตอนเย็นในวันเสาร์ที่จะคุยกับกาศ หากเด็กสาวผลุนผลันหนีกลับบ้านด้วยไม่สบอารมณ์จะได้ไม่ดึกเกินไป และเธอจะได้อยู่เงียบๆ ในวันอาทิตย์

“หมายความว่าไงคะพี่”

“ยิ่งเราแยกกันเร็วเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเพิ่มเวลาในการรักษาจิตใจของแต่ละฝ่าย” กัลปาไม่พูดว่าไม่อยากให้เธอมาเสียเวลาอยู่กับฉัน เวลาจะมีน้อยลงสำหรับโอกาสอื่นๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตของเธอ มันเลยเข้าทางอาภากาศที่จะทึกทักเอาว่ากัลปาได้เธอแล้วก็ไม่สนุกจะเล่นด้วยอีกต่อไป

“ที่จริงเราควรจะเป็นพี่น้องกันมากกว่า มิตรภาพนั้นยืนยาวกว่า.... กว่าความสัมพันธ์ทางร่างกาย” กัลปากลืนคำพูดท้ายประโยคหายไปในลำคอ

“ใช่เราควรเป็นพี่น้องกันมากกว่า พี่คงเสียใจที่มีอะไรกับกาศ” ตาแดงๆ ของกาศ ทำให้กัลปาคิดว่าครั้งนี้เธอทำถูกกว่าครั้งแรก มันควรจบลงเสียที ที่จริงมันไม่ควรเริ่มขึ้นด้วยซ้ำ เธอช่างสอดแทรกเรื่องของคนอื่นเกินไป และหากคนเราพูดจากันโดยมีเรื่องบนเตียงมาเกี่ยว มันจะยิ่งทำความเข้าใจกันยากเพราะต่างฝ่ายต่างหลงอารมณ์จนยากจะพูดกันได้อย่างจริงใจ

ใช่ เซ็กส์ทำลายมิตรภาพลงได้อย่างรวดเร็วที่สุด ทั้งที่ควรรักษามิตรภาพต่อกันให้ยาวนาน แต่บางครั้งฟ้าก็ไม่ได้มีแค่ก้อนเมฆ เราต้องยอมรับที่ฝนตกฟ้าร้อง ความรวดร้าวจะกลับกลายเป็นความรู้สึกที่ดีและถูกต้องในภายภาคหน้า เซ็กส์จะทำให้ความสัมพันธ์ต่อกันสั้นลงอย่างน่าใจหาย ทั้งที่การคบกันในลักษณะอื่นอาจมีการต่อสัมพันธ์ไปได้เรื่อยๆ แต่เซ็กส์จะตัดขาดชนิดที่เวลาไม่สามารถเยียวยา กระทั่งความตายมาถึงก็ยังอาจเยียวยาอะไรไม่ได้ กัลปาเลือกที่จะหยุด และครั้งนี้อาจไม่ผิดพลาด

อาภากาศหนีกลับบ้านไปจริงๆ กัลปาจมอยู่กับโลกของตัวเองอีกครั้ง เธอเป็นคนก่อเรื่องขึ้นมากมาย กับบทเรียนแห่งความหวังดีที่ไม่มีผลดีอะไรเลย

“ห้ามกำหนดชะตาชีวิตใครหรือเอาชีวิตตัวเองไปให้ใครกำหนด” กัลป์รู้ว่ากาศจะไม่กลับมาเหยียบที่นี่ หรือทุกที่บนโลกที่มีเธอยืนอยู่

เมื่อกัลปาลาออกจากงานที่เดิมเพื่อเริ่มงานที่อื่น ฝ่ายบุคคลสาวใหญ่จึงรู้ว่าเธอเองก็ไม่ได้ดีใจอะไรเลยที่เด็กสาวคนนี้ลาออก ส่วนอาภากาศลาพักร้อนเพื่อไปเที่ยวหลายวัน เด็กสองคนนี้คงจะมีเรื่องให้พนักงานอื่นๆ ได้พูดถึง แต่คงจะพูดอะไรได้ไม่มาก ทั้งยังสับสนระหว่างความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง อาภากาศเป็นเด็กอ่อนน้อมว่าง่ายและทุกคนในบริษัทรัก ต่างจากกัลปาที่ไม่มีใครกล้ายุ่งนัก เธอเหมือนทะเลสงบแต่ไม่ควรท้าทาย...



.............
ความรักของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
Over And Over / Nana Mouskouri


Create Date : 12 มิถุนายน 2551
Last Update : 12 มิถุนายน 2551 9:39:11 น. 3 comments
Counter : 461 Pageviews.

 
แวะมาอ่านอ่าน น่าสนใจและให้ข้อคิดดีทีเดียวค่ะ


โดย: teansri วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:17:09:13 น.  

 
รักหนอรักมักนำพามาซึ่งทั้งความสุขความทุกข์และความเกลียดชัง......


โดย: ปทิตตา วันที่: 12 มิถุนายน 2551 เวลา:23:09:20 น.  

 
ปี 53 แล้ว


โดย: เยเย IP: 124.121.221.150 วันที่: 1 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:00:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.