ปฎิรูป-ถอยอย่างไรไม่ให้ล้ม*** WHITESPACE.CO.LTD

whitespace
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




เมื่อไม่มีสิ่งใดจริง จึงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น
.....อ่านเรื่องพุทธบารมี
.....ลีลาสมเด็จพุฒาจารย์โต
.....ปฏิปัตติปุจฉาวิสัชนา-หลวงปู่มั่น

Google..
.....................พ่อของแผ่นดิน...
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2551
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
22 พฤษภาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add whitespace's blog to your web]
Links
 

 
ตอน7 การกลับมาที่รอคอย



เรื่องชุด เทวดาประจำกาย / ศรีจันทารา
ตอน 7 การกลับมาที่รอคอย



ฟองจันทร์สาวชาวเกาะ เหม่อมองไปสุดขอบฟ้าตรงที่ตัดกับเส้นขอบทะเล เหมือนทุกเย็นพระอาทิตย์จะทิ้งตัวลงจากภาระอันหนักหน่วง ดิ่งล่วงลงสู่ห้วงน้ำลึกเพื่อคลายความอ่อนล้าในยามราตรี แล้วไปโผล่ยังเทือกเขาอีกฝากยามเช้าด้วยความกระปี้กระเป่า ทอแสงอบอุ่นของตะวันรุ่งอรุณ ก่อนจะขึ้นไปแผดเผาอยู่บนท้องฟ้ายามเที่ยงเพื่อประกาศศักดาเกรียงไกรจนอ่อนแรง จึงเคลื่อนตัวลงเพื่อพักผ่อนที่ขอบฟ้าติดทะเลในยามเย็นแบบนี้อีกครา ชั่วนาตาปี

เธอเองก็ยังคงยืนอยู่ที่ริมทะเลทุกวัน เฝ้ารอคอยการกลับมาของใครบางคน เขาอาจจะโผล่ขึ้นจากริมโค้งขอบน้ำ เพื่อจะล่องเรือกลับมาหาเธอที่ชายฝั่ง สาวน้อยชาวเลทิ้งตัวลงนั่งกับกองทรายขาว อาทิตย์ตกอีกแล้ว วันแล้ววันเล่า..คืนแล้วคืนเล่า..

“พระจันทร์จะขึ้นอีกฟาก เมื่อฉันต้องกลับบ้าน จันทราซึ่งพักผ่อนในยามกลางวัน พร้อมจะหน้าที่แทนสุริยายามค่ำคืน และจะทำหน้าที่แทนฉันด้วย” กล่าวคล้ายฝากฝังหน้าที่สำคัญนี้เอาไว้ให้ดวงจันทร์นวลบนท้องฟ้า เพราะคงไม่อาจหักใจกลับบ้าน แล้วทิ้งภาระไว้โดยไม่มีใครสานต่อ

“พระจันทร์จะไปบอกฉันทันทีที่เห็นเธอ” สาวน้อยตัดใจหันหลังเดินย่ำทรายกลับบ้านอย่างยากเย็น ไม่อาจกลั้นหยาดน้ำใสๆ ที่ไหลผ่านพวงแก้ม ร่วงจากปลายคางลงสู่พื้นทราย แม้ผืนพสุธายังไม่อาจไม่รับรู้ในการรอคอยอันยาวนานของเธอ โดยเธอมิได้เจตนา

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

คราวนี้ผมกับโอภาสฯ เทวดาผู้ปฏิบัติหน้าที่ประจำกายมนุษย์ ไม่ยอมพลาดโอกาสเข้าคอร์สฝึกหัดการแปลงร่างเป็นมนุษย์ ที่เปิดขึ้นในรอบนี้อีก หลังจากรอคอยมาจนทุกอย่างประจวบเหมาะ ปลอดจากหน้าที่ และเมื่อมีการจัดอบรมใหม่ขึ้น พวกเราเตรียมพร้อมสำหรับบทเรียนนี้ทันที หลังจากคราวที่นางฟ้ารัตนกายี ผู้จบการฝึกหัดไปก่อนหน้าแล้ว อุตส่าห์มาสาธิตการแปลงกายเป็นมนุษย์ ซึ่งมีรูปร่างหน้าตา รวมถึงฐานะต่างๆ มากมายให้ดู

“โอ.. มันยอดเยี่ยมมากประภาธารา เราไปฝึกกันบ้างเถอะ” โอภาสฯตื่นเต้นเสียเกินเหตุ แค่การแปลงกายง่ายๆ อ่านเอาจากตำรับตำราเองก็ได้ แต่จะว่าไป การไปฝึกกับผู้ที่มีประสบการณ์มามากก็ดี เผื่อจะได้เรียนรู้เทคนิคอื่นๆ จากครูเทพที่ผ่านการอาบน้ำทิพย์มาก่อน

“ตกลง” ผมรับปากรับคำ เห็นดีเห็นงาม หลังจากนิ่งคิดไปนานสองนาน

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“ชายฝั่งทะเลอ่าวไทยของเรา ทะเลจะเป็นสีฟ้า ไม่เขียวอย่างทางภาคใต้”

“เหรอ”

“อืม.. ก็เคยไปมานี่ ที่สมุย พงัน ไปอยู่ตั้งหลายวัน”

“ฟองอยากไปเที่ยวบ้าง”

“แต่ทะเลที่ไหน ก็ไม่สวยเท่าบ้านเรา” น้ำเสียงของสายชลเพื่อนชายขื่นปร่า หากเป็นของกินได้คงขมจัด

“คนที่ใต้ ก็คงจะพูดแบบเธอ” ฟองจันทร์ สาวน้อยตาโตแก้มเนียน กะพริบตาและแย้มยิ้ม แต่ทว่าหัวอกตรมไม่แพ้น้ำเสียงของเพื่อนชายตรงหน้า ชลคงไม่อยากพูดถึงเกาะภูเก็ตให้กระทบใจตัวเอง และคงไม่รู้ว่ามันรวมถึงใจเธออีกคนด้วย เพื่อนไม่เคยรู้ว่าเพื่อนตรงหน้าคนนี้เป็นสาวแล้ว ไม่ใช่เด็กกระจ้อยร่อยที่เคยวิ่งเล่นกันอย่างทุกเมื่อเชื่อวัน เธออยากบอกเขาให้รู้ว่าวันวานไม่ใช่วันนี้ เธอเองก็โตเป็น ไม่ใช่เขาคนเดียวเสียหน่อย

ว่าที่จริง กว่าฟองจะรู้ตัวว่าชอบสายชล ก็หลังจากที่เขากลับมาจากภูเก็ตคราวนั้น และชื่อของผู้หญิงอีกคนก็กลายเป็นคำติดปากของเขาและติดหูของเธอไปโดยปริยาย ฟองถึงได้สังเกตเห็นว่าเด็กชายคนเมื่อวานหายไป เขาแตกหนุ่มเมื่อไรกัน แถมยังทราบใจตนอีก ว่าหากได้ยินชื่อของผู้หญิงคนนั้นจากปากของเพื่อนทีไร หัวใจมันสะเทือนเจ็บปลาบ แม้แค่ได้ยินชื่อจังหวัดที่หล่อนอยู่ ก็ยังทำให้พลอยเจ็บไปด้วยอยู่ดี

ครั้นพอกลับมาจากไปเที่ยวเกาะภูเก็ต หนุ่มปอนๆ อย่างสายชลก็กระวีกระวาดลุกมาดูแลตัวเองอย่างน่าอัศจรรย์ วันๆ พูดได้แต่เพียงเรื่องภูเก็ตเกาะโน้นที่สวยนักสวยหนา ทั้งหาดทั้งอ่าวทั้งแหลมทั้งเกาะเล็กเกาะน้อย คงจะน่าตื่นตาตื่นใจกว่าเกาะเสม็ดที่มีหาดมีอ่าวมีแหลมมีเกาะเล็กเกาะน้อย แต่ไม่มีผู้หญิงคนนั้น เพราะเกาะนี้มีเพียงฟองจันทร์ผู้หญิงคนนี้ ซึ่งตอนนี้เป็นได้ แค่ที่ระบายอารมณ์ของคนตกอยู่ในบ่วงเสน่หา การผจญภัยในวัยเด็กของชลกับฟอง ไม่เคยถูกรื้อขึ้นมาคุยให้เสียเวลาเขาอีก เพราะเวลาทั้งหมดต้องใช้ไปกับการพรรณนาความงามของเกาะที่อยู่ไกลถึงชายฝั่งทะเลอันดามัน เพื่อโยงไปถึงใครบางคน พวกเขานอกจากจะโทรฯหากัน ยังเขียนจดหมายหากัน โรแมนติกย้อนยุคเสียเต็มประดา

กระทั่ง จดหมายฉบับสุดท้ายที่สายชลได้รับจากเธอ ผู้หญิงที่เกาะโน้น บอกว่าได้เจอคนรู้ใจแล้ว สายชลผู้ต้องมนต์ให้กลายเป็นคนช่างเจรจา จึงกลับมาเป็นดังคนถูกสาบให้เงียบขรึม เหม่อลอย นี่มันบ่งบอกถึงการตัดเยื่อขาดใยกันชัดๆ คนรู้ใจของหล่อนคนนั้นจะมีจริงหรือไม่จริงไม่อาจทราบ ฟองจันทร์เองก็คาดเดาไม่ออก ว่าเพื่อนเผลอสนทนาอะไรผิดพลาดไป ขนมจีบจึงกลายเป็นซาลาเปาไร้ไส้ แห้งคอและยากต่อการเจรจาสานสัมพันธ์ นอกจากจะโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ สื่ออักษรที่เคยส่งถึงกันมาเสียนานหลายเดือน ก็เดินทางมาพบจุดจบ พังครืน! มีแต่ส่งไป ไม่มีตอบกลับ

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

แต่เพื่อนดื้อยังไม่ยินยอมปักใจเชื่อ เขาคงคิดว่ามันเป็นเรื่องล้อเล่นเพื่อทดสอบพลังแห่งรักจากสาวเจ้ากระมัง วันนึง ชลเพื่อนรักก็ทำท่าคล้ายจะไปพิสูจน์อะไรบางอย่าง เพื่อให้แน่ใจจริงๆ ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน มันแค่บททดสอบของคนไม่ที่มั่นคงที่ไม่มีผู้หญิงหน้าไหนต้องการ เขาคงต้องหาข้อมูลเพิ่มเพื่อการตัดสินใจอย่างเด็ดขาด แค่จดหมายมันคงไม่พอ

“ปลายปีว่าจะไปเที่ยวภูเก็ต” ลูกทะเลอ่าวไทยที่เอาใจไปทิ้งไว้ที่ทะเลอันดามัน บอกเพื่อนสาวอย่างเหงาหงอย มั่นใจว่าต้องมีเหตุอะไรในการเปลี่ยนไปของหญิงสาว เขาคงกระหายจะรู้ความจริง

“จะไปดูหน้าแฟนใหม่เขาเหรอ”

“เขาอาจยังไม่มีก็ได้” ความหวังลึกๆ ฉายตัวออกมาจากแววตาสายชล ใครๆ ก็มีสิทธิ์จะหวังทั้งนั้น

“หลงตัวเองไปเปล่า? แล้วคิดว่าพ่อแม่บังคับให้เลิกแบบนิยายน้ำเน่ารึไง จะไปรู้เรื่องของลูกสาวขนาดไหนกัน พ่อแม่สมัยนี้” แม้สงสารที่เห็นท่าละห้อยละเหี่ยของหนุ่มอกเดาะ แต่ท่าทางแบบนั้นยิ่งทำให้ฟองไม่พอใจเพิ่ม ใยเพื่อนมาเป็นบ้าและโง่อยู่ฝ่ายเดียว นี่มันยุคไหนกัน ไม่ใช่นิยายจินตนาการเล่มละห้าบาท

“หมายความว่าไง”

“หมายความว่า จะไปทำไม ไปให้เสียใจเปล่าๆ มันก็ชัดอยู่แล้ว ว่าเธอตัดชลออกจากรายชื่อบรรดากิ๊กไง โธ่.. ทะเล อารมณ์ และความแปรปรวน ป่านนี้แม่สาวหน้าหวานคงเจอคนใหม่ๆ ให้หัวใจระทึกเล่นเอาบ่อยๆ คนเก่ามันก็แค่คลื่นที่จมหายไปในชายหาด ไม่เร้าใจเหมือนคลื่นลูกใหม่ที่กำลังวิ่งเข้ามา..” ฟองร่ายยาว จนเพื่อนสะอึก หัวเราะลืมเศร้าไปชั่วขณะ

“เฮ้ย แม่นางเอกลิเก ร่ายเป็นลำนำคนช้ำรัก ไปว่าคนอื่น ทำยังกับตัวไม่ได้อยู่ทะเล”

“ก็มันจริงนี่” น้ำเสียงยังขุ่นไม่เท่าแววตา ซ้ำร้าย คนใกล้ตัวไม่ยักรู้ใจเสียที

“ฮั่นแน่ แอบไปชอบใครอยู่ล่ะซิ” ชลเริ่มตะหงิด สงสัยเพื่อนจะมีความรัก ฟองหน้าแดงกล่ำ อยากจะบอกว่าชอบแกนั่นแหละอ้ายบ้า แต่ทำได้แค่หน้างอ อยากจะร้องไห้ให้กับความโง่บริสุทธิ์ ที่ชอบเกิดขึ้นอย่างใสซื่อกับคนบางคนที่เธอไม่ต้องการ

“ชอบใครอยู่เหรอ” ถามซ้ำ แต่น้ำเสียงเริ่มส่อแววสั่น พอรู้ว่าคนใกล้ตัวจะมีคนอื่นขึ้นมา เขากลับเหมือนหัวใจเบาโหวง เกิดอาการเดียวกันกับที่ฟองจันทร์รู้ว่าเพื่อนแอบไปมีใครอื่นแล้วดันพิเศษกว่าเพื่อนเก่า คงเป็นอาการหวงเพื่อน ไม่อยากให้เพื่อนเห็นใครสำคัญกว่าตัวเองดอกกระมัง หันไปมองหน้าฟองอีกที ดังเพิ่งเคยสังเกตเห็นว่าเด็กหญิงคนเมื่อวานหายไป เธอแตกเนื้อสาวเมื่อไรกัน แล้วก็ดันเพิ่งสำเหนียกในบัดดลนี้นี่เอง ว่าฟองหน้าหวานขนาดไหน ป่านนี้ คงมีใครมาห้อมตอมกันเสียเกลียว ทำเอาไม่อยากนึกรู้แล้วว่าเพื่อนสาวแอบชอบใครอยู่ เอาเสียดื้อๆ

“ก็มีแล้วกันล่ะน่า” ฟองงอนตอบ แต่สะเทือนหัวใจชลให้ตกไปอยู่ตาตุ่ม ต้องเดินจากไปเงียบๆ รู้สึกจับไข้ครั่นเนื้อครั่นตัวฉับพลัน ผู้หญิงคนที่สองก็กำลังจะจากเขาไปเหมือนคนแรก ไอ้ฟองมันมาเป็นคนรักของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วจะทำเขาอกหักได้อย่างไร? ก็ไม่เคยชอบกันแบบนั้น ยิ่งคิดก็ยิ่งเดินเร็วเหมือนตัวเบาไม่มีน้ำหนัก ฟองต้องวิ่งกระหืดหระหอบไล่ตามเขาไปให้ทัน

“จะรีบกลับบ้านไปถึงไหน บ้านมันไม่หนีไปไหนหรอกชล” สาวชาวทะเลเลิกวิ่ง ใช้วิธีเดินไป บ่นด่าไล่หลังไป

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ผมเริ่มทำสมาธิและนึกถึงรูปร่างหน้าตามนุษย์ที่ต้องการจะแปลง หากมีตัวตนจริงบนโลกมนุษย์แล้ว ก็จะยิ่งยากกว่าที่นึกจินตนาการเอาเอง ความละเอียดสมจริง ไล่เลียงไปตามรูปร่างลักษณะ หน้าตาผิวพรรณ กิริยาท่าทาง อาการเคลื่อนไหว รวมไปถึงโทนเสียงการพูด ต้องใช้ความจดจำค่อนข้างสูง

“โอม...” ผมดิ่งลงสู่สมาธิลึก หมุนตัวหนึ่งรอบ จินตนาการไปถึงคนมีฐานะ หน้าตาดี ผิวพรรณเป็นผู้ดี มันเป็นบททดสอบเดียวกันกับโอภาสฯ ตามหัวข้อที่ต้องแปลงร่างเป็นเศรษฐีรุ่นใหม่ รัตนกายีเห็นตัวแปลงของผมแล้วขำจนตัวงอ เธอสรุปว่า หน้าตาดีเกินไป หุ่นก็ดีเกินไป น่าจะเป็นดารามากกว่าเศรษฐีนักธุรกิจ ส่วนโอภาสฯไม่ต้องพูดถึง ผมว่าเขาเหมือนพวกยิปปี้ยุคบุปผาชนที่เฟื่องฟูเมื่อปี ค.ศ.1960-70 ผอมแห้งแรงน้อย แววตาชวนฝัน

“เนี่ยนะ เศรษฐีรุ่นใหม่” น้ำเสียงของนางฟ้าผู้จบคอร์สนี้ไปแล้วด้วยเกรดเฉลี่ย 3.8 ดูแคลนโอภาสฯเสียเต็มประดา ผมมองดูโอภาสฯ โอภาสฯมองดูผม ต่างเงื่องหงอยเห็นใจกันอยู่ในที ไม่แปลก! ที่รัตนกายีจะซ้ำเติมพวกเรา

“ไม่ใช่เรื่องยาก” ผมมั่นใจ กระตุ้นต่อมกำลังใจตัวเองให้คึกคัก

“พวกเธอต้องมีภาพอยู่ในหัว ภาพใกล้เคียงที่สุดกับโจทย์ที่ให้มา” ครูเทพเอานิ้วจิ้มที่ศีรษะ เสียงเนิบทว่าหนักแน่น บอกเคล็ดลับที่ไม่ลับ ซึ่งผมเองก็พยายามสร้างภาพตามโจทย์อยู่ในหัวอยู่แล้ว

“ประภาธารา ลองแปลงเป็นหนุ่มชาวเลดูหน่อย” ท่านหมุนตัวหลายที ก่อนมาโป๊ะเช๊ะหยุดตรงหน้าผมและสั่งผม โธ่ โจทย์หมูๆ ผมสร้างบรรยากาศถึงเกลียวคลื่น ทะเล ชายฝั่ง และหนุ่มลูกน้ำเค็ม เสื้อเชิ้ตสีฟ้า กางเกงเลสีเขียวเข้ม..

“โอม…” ผมทำสมาธิทันที ดิ่งเข้าสู่จิตเป็นหนึ่ง สิ่งเดียวสิ่งนั้นที่ผมจะเป็น..

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ภาพข่าววันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2547 คลื่นยักษ์สึนามิซึ่งเกิดจากผืนแผ่นดินไหวใต้ทะเล ด้วยแรงสะเทือนถึง 9.0 ริกเตอร์ ที่เกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย ก่อตัวในน้ำลึกตามแรงแยกของแผ่นดินใต้น้ำในแนวดิ่ง จนน้ำลดฮวบลงอย่างแรงหลังอาฟเตอร์ช็อค [after shock] ก่อนทยอยกลายเป็นคลื่นสูงท่วมอาคาร เคลื่อนตัวเข้าซัดถล่มชายฝั่งหกจังหวัดภาคใต้ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล ทำให้ฟองจันทร์ตัวชา สายชล ๆ ๆ เธอตะโกนก้องในใจตลอดเวลา ชายหาดต่างๆ ถูกซัดด้วยคลื่นมหึมาที่ถั่งโถมมาด้วยแรงคุ้มคลั่ง เศษอิฐเศษไม้กระจายเกลื่อน อาคารบ้านเรือนกลายเป็นซากปรักหักพังอยู่ใต้กองโคลน

ศพไร้วิญญาณดาษดื่นอยู่ทุกซอกทุกมุม ทั้งกลางทะเล ใต้ตึก ใต้อ่างน้ำ ใต้โคลน ตั้งแต่เกิดมา ฟองไม่เคยเห็นมหันตภัยร้ายกาจมาจากทะเลอันเป็นที่รักมากได้ขนาดนี้ คนไทยทั่วประเทศตกใจกับเหตุการณ์ร้ายแรงที่พี่น้องชาวใต้ต้องเผชิญ เธอร้องไห้ตกใจ สงสารคนตายจับจิต สงสารญาติพี่น้องคนตายและอีกหลายคนที่สูญหาย รวมถึงสายชลที่ไปพิสูจน์ความรักของตัวเอง เพื่อให้สาวหาดป่าตองจังหวัดภูเก็ตได้ประจักษ์

…สองเดือนกว่าแล้ว ที่ฟองมาดูตะวันลับฟ้าที่ชายทะเล เผื่อช่วงที่ดวงอาทิตย์กลมโตจะลับหาย อาจมีปาฏิหาริย์ จะมีใครบางคนโผล่ขึ้นมาท่ามกลางดวงตะวัน และคนๆนั้นเป็นคนที่เธอเฝ้ารอ

“ฉันคงต้องกลับบ้านแล้ว” สายลมพัดแรงจนเธอแทบปลิดปลิว ต้องต้านแรงลม เพื่อเดินกลับ แต่ครั้นหันไปทางทะเลอีก กลับเห็นอะไรไหวๆ อยู่ริมหาด นั่นมันร่างคนนี่ เป็นไปไม่ได้ คงไม่ใช่ร่างสายชล ที่พัดลอยมาจากอันดามันจนมาถึงอ่าวไทยหรอก ร่างๆ นั้น ก็ไม่ได้อืดพองอย่างที่เห็นในข่าวเมื่อหลายเดือนก่อนเสียด้วย


ผมอยู่ที่ไหน? ภาพทะเลยังผุดอยู่ในหัว มีผู้หญิงคนนึงกำลังตบหน้าผมเบาๆ

“คุณเป็นใคร” งัวเงียถามเมื่อลืมตาขึ้นมาเห็นหน้าผู้หญิงคนหนึ่ง

“ฉันชื่อฟองจันทร์ คุณลอยมาเกยฝั่ง ฉันเลยลากคุณขึ้นมา”

“อา.. ผมไม่เป็นไรแล้วหละ” รีบยันตัวลุกขึ้นยืน ใจหายวาบ ไหงดันมาโผล่บนโลกมนุษย์ รีบเอามือลูบหน้าลูบตาตัวเอง ยังนึกไม่ออกว่าหน้าตาผมจะเป็นอย่างไรในตอนนี้ แต่เห็นเสื้อเชิ้ตสีฟ้า และกางเกงทะเลเขียวเข้มที่ตัวเองใส่ ใช้ได้ ผมแปลงกายสำเร็จ แต่ทำไมมาลอยคออยู่กลางทะเล? ฟองจันทร์สาวน้อยที่เข้ามาช่วยเหลือออกอาการตกใจ ที่ผมฟื้นตัวแข็งแรงอย่างรวดเร็ว ทั้งยังลืมตัว ตรงรี่เข้าไปจับมือเธอด้วยความดีใจ

“หน้าตาผมเป็นไงบ้าง” ละล่ำละลักถาม เธอเงียบไม่ตอบ สีหน้าตระหนกอยู่ครามครัน คงยังไม่ทันตั้งตัว หรือว่าหน้าตาที่ผมแปลงอัปลักษณ์เกิน?

“ฟองจันทร์” เสียงตะโกนมาจากฝั่งบนแต่ไกล มันเป็นชื่อที่เธอเพิ่งแนะนำตัวเองไปเมื่อสักครู่ รีบดึงมือเธอเองออกจากมือผมที่จับกุมเอาไว้อย่างแรง ก่อนวิ่งไปตามเสียงเรียกนั้นด้วยท่าทางดีใจ

“สายชล” เธอกระวีกระวาดเรียกตอบด้วยเสียงที่ดังไม่แพ้กัน แต่ราวนึกได้ หันมายิ้มให้ผม “ก็ดีนี่” ก่อนเร่งวิ่งไปหาคนที่เธอเรียก ทันทีที่ทั้งสองถึงกัน ผมเห็นพวกเขาเข้ากอดกันกลม

คอร์สฝึกหัดการแปลงกายเป็นมนุษย์ของผม คงถึงเวลาจบพร้อมกับการรอคอยของสาวน้อยคนนึง ที่สิ้นสุดลงด้วยความสุขเสียที

“เธอไม่เป็นไร” เพื่อนสาวถามเพื่อนชายตรงหน้าทั้งน้ำตา

“ไม่หรอก ก็เราไม่ได้ไปภูเก็ต” ฟองประหลาดใจที่ชลเอ่ยเช่นนั้น

“เราตกรถที่ขนส่งสายใต้ รถทัวร์ออกก่อนเราไปถึง เลยตัดสินใจไปหมอชิด ขึ้นเชียงราย ไปอยู่บนดอย ไม่รู้เรื่องสึนามิเลยนะ ไปอยู่กับเย้าแบบว่าไม่มีทีวีเลย แล้วก็ไม่ได้ไปฟังวิทยุบ้านใครด้วย” ชลไปดอยที่เคยออกค่ายเป็นครูสอนเด็กชาวเขาสมัยเรียน

“ไปอยู่บนดอย” ฟองอุทานเสียงดังกลั้วหัวเราะ ก่อนนิ่งคิดและเกิดอารมณ์หมองไปตามที่ตัวปรุง “ไม่กล้าลงใต้ เพราะกลัวทำใจไม่ได้มากกว่า เลนหนีไปดามหัวใจ” เสียงเบาแทบขาดห้วง ทั้งที่ดีใจที่ชลรอดตายมาได้ขนาดไหน ก็ยังไม่วายกระงอด

“ทำนองนั้นด้วยนะ” เขาพาลตอบซื่อ แม้จะตกรถจริง ยิ่งทำให้เพื่อนสาวหงุดหงิด

“แต่รู้ไหม เราไปดามหัวใจเพราะฟอง” คราวนี้ตอบหน้าตาย แถมยังแดงเป็นกระเจี๊ยบแก่ตามผิวเข้มๆ ด้วย เลยพาลก้มหน้าดูพื้นอยู่อีกนาน

“บ้า..” ฟองหน้าแดงกว่า ด้วยอาการไม่เชื่อหูตัวเอง

“ก็เราสับสน วันนั้นที่ฟองบอกว่ามีคนที่ชอบแล้ว เราถึงรู้ ว่าเราน่าจะชอบฟองมากกว่าใคร กะว่าทำใจได้เมื่อไหร่ ก็ค่อยลงมาจากดอย” ใครของชล เขาคงใช้แทนหญิงสาวอื่นๆ

“อ้าว.. แล้วทีเรา ทำไมไม่อยากมาดูให้รู้กับตาล่ะว่า มีใครอยู่จริงไหม หน้าตาเป็นไง เหมือนที่อยากลงใต้ไปพิสูจน์ให้ชัดๆ” ฟองยังไม่วายเปรียบเทียบ อยากเอาชนะ เลยพลอยคิดได้ถึงเรื่องร้ายสึนามิที่หาดป่าตอง จึงถามชลด้วยความเป็นห่วง ว่าเธอคนนั้นเป็นอย่างไรบ้าง?

“ก็สบายดี เค้าไม่เป็นไร เพิ่งโทรฯไปถามสักครู่เอง” คำตอบของชลเกือบจะเบากว่าสายลม ฟองไม่ทันสังเกตเขาแอบหลบสายตาเมื่อพูดโกหก อาจเพราะไม่อยากให้เธอเสียใจเท่านั้น


“ประภาธารา” ใครกันหนอมาเรียกผม จึงละสายตาจากหนุ่มสาวคู่นั้น หันมองตามเสียงเรียก ซึ่งดังมาจากสถานที่ไม่ไกล พิศดูก็เห็นเพื่อนเก่ายืนอยู่ไม่ห่าง

“เมธาพร” ผมไม่เพียงตกตะลึง แต่ยังดีใจเหลือประมาณ ที่พบว่าเพื่อนกลับมาเป็นเทวดา เมธาพรตกสวรรค์ลงไปเกิดเป็นมนุษย์ และไม่รู้ว่า.. ไปเกิดเป็นอะไรหลังจากนั้นบ้าง กว่าเขาจะกลับมาเกิดบนสวรรค์อีกครั้ง ช่างโชคดีเสียจริง ใช่ว่าใครจะกลับมาดินแดนสวรรค์กันได้ง่ายๆ มนุษย์หน้าตาดีรักษาศีลข้อสามได้ยากนัก เราคงมีเรื่องต้องคุยกันอีกยืดยาว

“ผมไปตามหาคุณที่ชมรมการแปลงกายด้วยหละ พวกเขาเอาแต่ขันกัน จนผมต้องลงมาตามหาคุณเอง คุณไม่เป็นอะไรมากนะ”

“ไม่เป็นอะไรหรอก” ตอบเพื่อนเทพไปทั้งที่อาย คงต้องกลับสวรรค์เสียที เดี๋ยวจะกลับไปไม่ทันปิดคอร์สอบรมการแปลงกายเป็นมนุษย์ น่าขายหน้าจริงๆ ป่านนี้โอภาสฯกับรัตนกายี คงหัวร่องอหาย หากรู้ว่าผมมาโผล่อยู่ริมทะเลเกาะเสม็ด

ส่วนฟองจันทร์ มนุษย์ผู้หญิงที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเทวดาอย่างผม แม้ผมจะไม่มีทางตายด้วยการจมน้ำทะเลบนโลกก็เถอะ แต่ก็ถือว่าเธอมีบุญคุณ และควรเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตอบแทนเธอด้วยการพิทักษ์คุ้มครองให้เป็นกรณีพิเศษ…







Create Date : 22 พฤษภาคม 2551
Last Update : 4 มิถุนายน 2551 11:46:33 น. 0 comments
Counter : 538 Pageviews.
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.