ปฎิรูป-ถอยอย่างไรไม่ให้ล้ม*** WHITESPACE.CO.LTD

whitespace
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




เมื่อไม่มีสิ่งใดจริง จึงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น
.....อ่านเรื่องพุทธบารมี
.....ลีลาสมเด็จพุฒาจารย์โต
.....ปฏิปัตติปุจฉาวิสัชนา-หลวงปู่มั่น

Google..
.....................พ่อของแผ่นดิน...
Group Blog
 
 
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
11 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add whitespace's blog to your web]
Links
 

 
ปาฏิหาริย์แห่งหัวใจ

*




เรื่องสั้น ปาฏิหาริย์แห่งหัวใจ
สุภาพิรานันท์


ห ญิ ง ช ร า ยื่ น เ งิ น ท อ น กลับมาให้อโณทัยสาวร่างผอมผู้มีหางตายาวคล้ายวาดด้วยดินสอเขียนตา พร้อมสายลมวูบใหญ่พัดมา

เธอหยุดซื้อของที่ร้านค้าริมทาง บนถนนสายที่คุ้นเคยเสมอไม่ว่าจะนั่งรถโดยสารผ่านหรือขับรถผ่านมาเอง มันเกือบจะถึงบ้านของเธออยู่แล้ว เพียงแต่ต้องอ้อมไปอีกทาง นับเป็นแยกถนนเข้าย่านการค้าเล็กๆ สลับคอนโดมิเนียมตั้งอยู่ด้านในทอดยาวไปเกือบกิโล ก่อนสิ้นสุดด้วยบ้านเดี่ยวและโรงงาน ร้านรวงต่างๆ ชวนให้น่าลงมาเดินเล่น แต่เธอก็ไม่เคยแวะลงเดินเลยสักครั้ง จนกระทั่งวันนี้ วันที่ฟ้ารำไร ดอกไม้ชวนกันร่วงลงพื้นตามสายลมเบาๆ แบบยินยอมด้วยยินดี

คล้ายแถวนี้จะคุ้นเคยมาตั้งแต่เกิดอย่างน่าพิศวง

ดอกตะแบกปลิวผ่านศีรษะไป เธอรับเงินทอนจำนวน 66 บาทมาไว้ในกำมือ ก่อนเก็บเข้ากระเป๋าเงินด้วยมือไม้เย็นเยียบและสั่นเทา ขนลุกซู่ชูชันทั้งมีอาการคล้ายอยากร้องไห้ ทั้งเจ็บอกปวดจี๊ดเข้าไปถึงหัวใจจนเกือบล้มทั้งยืน

โรคหัวใจอ่อนๆ แสดงอาการมาตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก ประการหลังนี้อาจเกี่ยวกับร่างกายที่ไม่แข็งแรง แต่ความอยากร้องไห้นั้นเธอไม่ทราบสาเหตุ หรือเป็นไปได้ว่าจิตคงสะเทือนกับอารมณ์อะไรสักอย่าง ความปวดใจ ใช่.. เธออาจหวั่นไหวกับบรรยากาศใกล้หนาว ความเคว้งคว้าง หรือเป็นเพราะร้านขายของร้านนี้ ป้ายชื่อหน้าร้านสีกะปิหม่นเห็นแล้วช่างอ้างว้างเศร้าสร้อย “นิรันดร” ร้านขายของเก่าที่ขรึมขลัง แม้นชื่อจะมีความหมายเป็นอมตะ แต่ความชราของคนขายนั่นบั่นทอนจิตใจในความไม่จีรัง รันทดในความงดงาม

เธอรับของที่ซื้อมาก่อนกล่าวขอบคุณผู้ขาย หญิงชราดวงตาหยีลงแทบปิดเพราะยิ้มให้ทั้งฟันดำ โบกมือเสมือนบอกว่าให้เธอรีบไปเถอะ อย่ามัวชักช้า คนเอ้อระเหยลอยชายอาจพลาดสิ่งสำคัญที่กำลังจะเกิดอยู่เบื้องหน้า

อโณทัยเดินออกมาจนพ้นย่านร้านแถวนั้นไม่กี่ก้าว ก็หย่อนตัวนั่งยองก่อนจะเซล้มลงเสียก่อน เพราะปวดหัวใจจนเกือบจะวูบเพราะหน้ามืด ยกมือซ้ายขึ้นทาบอกตรงกับอวัยวะชิ้นเท่ากำปั้นซึ่งเจ็บซ่อนอยู่ภายในจนต้องใช้ปลายนิ้วและสันมือขยุ้มกดลงไป ไอร้อนในตัวแย่งกันดันออกมาทางรูขุมขนของผิวกายที่เย็นผิดปกติ ทางเท้าพร่าเลือนชั่วครู่ เธอสะบัดหน้าไปมากะพริบตาหลายที อาการเจ็บหัวใจหายไปเมื่อสามปีก่อนแล้วแท้ๆ

ไม่มีใครผ่านมาตรงนี้นอกจากขยะสองสามชิ้นลอยไปตามแรงลม สาวหางตายาวประหลาดพยายามทรงตัวขึ้นมาใหม่ ปรับตาที่พร่าสักพัก อาการเปลี้ยไปทั้งมือเท้าบางครั้งก็มาจากอะไรบางอย่างไม่มีสาเหตุ รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างผ่านมาให้เรียกพอดี ประหนึ่งเพื่อทำหน้าที่ส่งผู้โดยสารกลับบ้านตามเวลา

หน้าบ้านมีดอกฟอร์เก็ตมีน็อตแตกช่อใหญ่ เสียงสุนัขข้างบ้านสั่นหางทักทายให้ทั้งที่เธอไม่ถูกกับเจ้าของบ้าน สุนัขฉลาดกว่าคนบางคนอย่างไม่น่าเชื่อ อโณทัยคิดแบบนั้น เธอเข้าบ้าน วางของที่ซื้อมาไว้บนโต๊ะ ขอบคุณพระเจ้าที่กลับถึงบ้านได้โดยยังมีชีวิต คนเราไม่ตายกันง่ายๆ หรอก แม้นบางทีจะตายง่ายๆ อย่างไม่สมเหตุสมผล ลมพัดเข้ามาในบ้านวูบใหญ่ ทว่าเธอราวไม่สนผิวกายเย็นวาบเมื่อสัมผัสแรงลม จิตใจกับร่างกายบางครั้งก็แยกกันอยู่คนละที่

เธอตรงรี่ไปเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ลืมเรื่องอื่นไปชั่วขณะ จมจ่อไปถึงใครบางคน หากไม่มีเรื่องอื่นใดต้องคิด ใจว่างลงทีไรใครคนนั้นก็ปรากฏแทรกเข้ามาได้ทันที

ตันตันนอนอ้วนอยู่บนโซฟา ถ้าไม่ป่วยเจ้าตันตันคงจะวิ่งเข้ามาเลียแข็งเลียขาของเจ้านายด้วยความดีใจ ความรักของสัตว์เปลี่ยนแปลงได้ยากกว่าคน รักใครก็รักได้มากอย่างวางใจ รักแล้วไม่เปลี่ยนใจ และคนแรกรักคือคนที่รักที่สุดไม่ว่าจะดีชั่วขนาดไหน มนุษย์เสียอีกประดิษฐ์ความรักด้วยเงื่อนไขมากมายแล้วกลับบอกว่าความรักไม่มีเงื่อนไข

“ไงตันตัน..” เธอเข้าไปกอดแมวอ้วน หลังเปิดคอมพิวเตอร์และเดินกลับมายังโซฟา ถ้าไม่มีใครคนนั้นอยู่ในสมอง ตันตันต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ผู้ซึ่งเธอคุยด้วยมากที่สุดในหลายปีที่ผ่านมา รู้สึกผิดต่อตันตัน เธอควรคิดถึงมันก่อนใคร

ฉับพลัน.. อโณทัยกลับคร้านต่อเครื่องคอมพ์ที่เปิดขึ้น รู้สึกผิดอีกครั้งต่อการต้องหมดเวลาไปกับสิ่งไม่มีตัวตน ความจริงเธอควรจะพักผ่อนเพราะเพิ่งมาถึงบ้าน นึกอยากจะไปปิดมันทิ้งเสีย แต่แล้วก็ลังเล อาจเป็นเพราะเขาคนนั้น การว่ายวนอยู่ในโลกที่ไม่มีจริงดึงเวลาของเธอให้สิ้นสูญ วันเวลาและพลังงานของเธอหลายส่วนหายไปในหน้าจอนั่น ด้วยร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรงนัก เธอควรพักให้มากหรือออกกำลังกายมากกว่าจมอยู่กับแสงแสบตาหน้าเครื่องคอมพ์

แต่สุดท้าย เธอก็ทิ้งจอซึ่งเปิดคาไว้ ไม่ได้ปิด นั่งจมอยู่บนโซฟาข้างเจ้าตันตัน มองดูเครื่องมือสื่อสารกับใครๆ หลายคนที่รู้จักแต่เพียงชื่อแฝง โลกยุคไอทีไม่ทราบว่ามีคนจำนวนมากมายเท่าใดเที่ยวท่องอยู่ในโลกเสมือนแทนโลกจริง หรือเป็นเพียงเพราะความหงอยเหงา

ความเงียบและการตัดสินใจอันว่างเปล่ามาเยี่ยมผู้คนเป็นหนเป็นที หากไม่สังเกตก็ไม่รู้ตัว แต่ก็ชัดเจนต่อใครบางคนที่ปล่อยใจว่างบ่อยๆ อโณทัยจมอยู่กับความว่างมากขึ้นในช่วงนี้ มันชวนให้เธอเงียบ เงียบจนได้ยินเสียงหัวใจเต้น เธอกล่าวขอบคุณหัวใจที่ยังเต้นอยู่ เหมือนอยู่เป็นเพื่อนให้กันตลอดเวลา วางมือบนอกกระเพื่อม หลับตาเพื่อสัมผัสการเต้นของหัวใจชัดๆ ก็บังเกิดความอบอุ่นขึ้นมาแทนความโดดเดี่ยว จนบางทีเธออาจไม่ต้องการใครอีก

ความระแวดระวังตัวในการคบคนทั้งในโลกจริงและโลกไซเบอร์สเปซ มีผลมาจากประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ผ่านผู้คนมาไม่น้อย ก่อนหน้านี้ อโณทัยเคยเหงาจับจิตนับครั้งไม่ถ้วน แต่สามปีมานี้ เธอคล้ายทนทานได้กับการอยู่คนเดียวอย่างเงียบงัน มันอาจทำให้เหงาน้อยกว่าอยู่ท่ามกลางผู้คน กระทั่งเหงาน้อยกว่าท่องอินเทอร์เน็ต โลกกว้างใหญ่ในหน้าจอเล็กๆ

หลายคนนัดพบกันและอยากพานพบตัวตนจริงหลังพูดคุยมาสักระยะ แต่หลายคนก็ปล่อยให้มันเป็นภาพฝันต่อไป ไม่อยากให้ความจริงทั้งหลายทำลายความรู้สึกซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเฉพาะอโณทัยที่ไม่ชอบการติดต่อกับใครนัก สามปีมานี้เธอตระหนักถึงความเข้มแข็งและไม่ต้องเรียกหาเพื่อนฝูงที่มีแต่ความวุ่นวาย ซ้ำพอใจจะอยู่กับหัวใจตัวเองเงียบๆ โลกเสมือนกลายเป็นแค่โลกเสมือน ที่ไม่น่ามีผลกระทบอะไรต่อเธอได้ ไม่ต่างจากโลกจริง

เธอคิดว่าเธอสามารถเลิกเหงาได้แล้ว แต่แล้ว.. ทำไมยังแอบคิดใครคนนึงมาตลอดสามปีนี้ ทั้งอยากเจอและไม่อยากเจอ ทั้งต้องการและไม่ต้องการ

เขาคนนั้นปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมความรู้สึกว่ามีใครอยู่เคียงข้างเธอในความเงียบ มันเป็นความอบอุ่นไม่คาดฝัน แต่หากถ้าการพบกันจริงจะทำลายสัมพันธภาพ เขาก็ควรไม่มีตัวตนจริง แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว เธอเลือกจะอยู่กับเสียงหัวใจเต้นของตัวเองมากกว่าเขาแน่นอน

ที่สุดเธอก็ลุกมาเก็บของที่ซื้อให้เข้าที่เข้าทาง ทั้งจัดการอาหารและที่นอนให้ตันตันใหม่ สุดท้ายก่อนอดใจไม่ไหวต้องต่อสัญญาณเชื่อมโยงตัวเองเข้าสู่โลกเสมือนอีกครา โลกที่น่าสนใจในความมีตัวตนแต่ไม่มีจริงจากใครหลายคนหากไม่ต้องการเปิดเผยตัว บางครั้งเธอก็ชอบมัน สัมพันธภาพที่ไม่ต้องเป็นจริง และอาจมั่นคงกว่าความเป็นจริงอันเปราะบาง

แม้นในบางครั้ง เขาคนนั้นยิ่งลึกลับตามที่เธอต้องการ เธอกลับยิ่งอยากพบ อยากเห็นตัวจริงของเขาและอยากเอาตัวเองไปให้เขาเห็น เพื่ออะไรสักอย่าง อาจเป็นการกอดกันเพื่อแสดงความขอบคุณก็ได้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคนนั้นช่วยให้โลกหม่นๆ ของเธอสดใสและมีกำลังใจขึ้น เป็นเพื่อนคุยและช่วยแก้ไขปัญหาหลายอย่างให้ แต่ทั้งเขาและเธอต่างก็กลัวมิตรภาพจะแปรเปลี่ยนมิใช่หรือ จึงตกลงกันว่าจะไม่ให้โลกแห่งความฝันนี้ถูกคลอนแคลน โดยไม่ให้ความเป็นจริงเข้ามาทำลายมิตรภาพในโลกซึ่งต่างจะคอยเป็นกำลังใจให้กัน

“สวัสดีครับ” ทันทีที่เชื่อมเข้าโลกไซเบอร์ ข้อความต้องการอ่านที่สุดก็ปรากฏทางเอ็มเอสเอ็น เธอหัวใจพองโต

อโณทัยบอกความรู้สึกตัวเองขณะนี้ไม่ถูก พยายามปฏิเสธ แต่ก็ยากระงับอารมณ์ หากให้นึกไปถึงอาการอะไรสักอย่างเพื่อจะอธิบายได้ใกล้เคียงกับความรู้สึกของเธอ มันก็เปรียบดังการโหยหาใครสักคนที่ไม่ได้อยู่ร่วม คล้ายๆ แม่ซึ่งเจ็บหนักเพราะถวิลหาลูกที่ห่างอกเมื่อต้องฝากคนอื่นดูแล อโณทัยคิดว่าตัวเองรู้สึกคล้ายๆ แบบนั้น แต่ที่จริงเธอไม่รู้ว่ามันมากกว่านั้นมากนัก มันเหมือนเธอกำลังตามหาใครสักคนที่เป็นเจ้าของหัวใจของเธอขนาดนั้นทีเดียว

แค่เห็นคำทักทาย สมองก็คล้ายสั่งการให้มีแรงสะเทือนขึ้นที่ใจและร่างกายขึ้นมา มือก็สั่นไหวจนคุมไม่อยู่ หัวใจเต้นถี่แรง รอยยิ้มผุดในแววตาและมุมปากไปพร้อมกัน ลืมเรื่องที่ตัวเองพยายามจะไม่เปิดเครื่องคอมพ์ไป

ถึงกระนั้นก็ตาม เธอก็ไม่เคยเชื่อว่าเจ้าหญิงจะพบเจ้าชายทางเน็ตได้หรอก ความสนใจต่อกันเมื่อแรกประทับใจไม่สามารถนับเป็นความรัก แค่มีอะไรดึงดูดกันเท่านั้น ไม่นานก็จะมีแรงผลักกันออกไป การรู้จักกันเป็นเรื่องน่าเกรงกลัว เขามักจะขบขันที่เธอมีความคิดคับแคบ และเตือนว่าชีวิตนั้นสั้นเกินจะเรียนรู้ความรักอีกหลายแง่มุม มันไม่ผิดที่คิดอย่างที่เธอคิด แต่เขาอยากให้เธอเข้าใจความหมายของความรักให้ได้มากที่สุด มิตรภาพจะยาวนานได้เมื่อใช้ความรักเป็นฐานรองรับ การให้ทำให้คนให้มีความสุข แม่รักลูกตราบจนหมดลมหายใจของตัวเองนั่นก็เพราะความรัก ผู้ที่เรียกร้องแต่ความรักและวิ่งหนีความจริงจะไม่สามารถเข้าใจความรักได้

ลมพัดแรงจากประตูหน้าต่างเกรียวกรูกันเข้ามา ผ้าม่านดิ้นสลัดตัวคล้ายจะให้หลุดจากราวแขวนเพราะแรงลมกระซิบให้เธอทำ ทั้งที่หลุดออกมาก็เพียงลงไปนอนกองกับพื้น แต่เธอก็ยังดื้อจะทำกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง อิสระกับความตายอาจเป็นสิ่งเดียวกัน

“สวัสดีค่ะ”เธอพิมพ์ตอบเขาจนได้

“ว่างแล้วหรือครับ”

“ค่ะ”

“แต่ว่า เพิ่งจะกลับเข้ามาในบ้านนะคะ”

“ไปข้างนอกมาหรือครับ”

“ค่ะ”

“วันนี้ สบายนะครับ”

“โรคหัวใจกำเริบอีกแล้วค่ะ ทั้งที่มันไม่เคยเกิดขึ้นมาสามปีแล้ว”

“เหรอ ผมตกใจมากเลยนะครับ หวังว่าคุณคงไม่เป็นอะไร”

“ไม่ค่ะ ไม่เป็นค่ะ” แอบพอใจที่เขาคอยแสดงความเป็นห่วง

“งั้นผมก็โล่งใจ ผมคงไม่อยากให้หัวใจของคุณเป็นอะไร”

เขาส่งไฟล์เพลงเข้ามาให้เธอเปิดฟัง เพลงสบายๆ ฟังแล้วอโณทัยอาจสดชื่นขึ้นบ้าง คงอยากให้เธอรู้สึกดีขึ้น และเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาก่อน แต่ไม่ทันต้องให้อีกฝ่ายฟังเพลงนาน

“ทายซิคะ.. ว่าวันนี้ฉันซื้ออะไรกลับมา” เธอรีบชิงคุยต่อ หากเขาได้ยินน้ำเสียงของอารมณ์ได้ คงรู้ว่าเธอสดชื่นมาก แต่ไม่ใช่เพราะเพลง เธอกลับไม่สนใจเรื่องเพลงเท่าไหร่ และไม่ได้สนใจร่างกายตัวเองด้วย

“ก ล่ อ ง เ ก็ บ หั ว ใ จ” เขาตอบมาทำให้อโณทัยแปลกใจมากเป็นพิเศษ

“ทำไมคุณรู้ล่ะคะ” เธอชอบเขาก็ตรงนี้ด้วย เหมือนรู้ใจเธอไปหมด

“จริงเหรอ ผมเดานะครับ เดาเอาว่า คุณคงอยากเป็นอมตะ เลยจะเอาก้อนหัวใจไปเก็บไว้เสียนอกตัว เหมือนหนังแฟนตาซี หนังจักรๆ วงศ์ๆ ใครก็ฆ่าไม่ตาย หากไม่มีหัวใจ” เขาพูดติดตลก หรือที่จริงเพราะอยากปลอบใจคนป่วยมากกว่าเมื่อทราบว่าอโณทัยมีอาการโรคหัวใจขึ้นมาอีก บ่อยครั้งที่ความห่วงใยแฝงอยู่ในข้อความของเขาอย่างลับๆ

“555 คุณคุยตลกจัง แบบนี้ไปเป็นหมอดูได้สบายๆ แต่ถึงฉันไม่คิดแบบนั้น วันนี้ฉันก็ไปเจอมันเข้าโดยไม่ตั้งใจ”

“ผมล้อเล่นต่างหาก มีของแบบนี้ในโลกด้วยเหรอ”

“มีซิ ฉันยังแปลกใจไม่หาย มันวางขายอยู่ที่ร้านขายของเก่าที่หนึ่งล่ะ”

“เป็นของเด็กเล่นกระมังครับ กล่องเก็บหัวใจที่รักษาหัวใจไม่ให้หยุดเต้น ส่วนเจ้าของใครฆ่าก็ไม่ตายเพราะหัวใจไม่ได้อยู่กับตัว จากหนังเรื่องอะไรสักอย่าง เรื่องอะไรดี เรื่องไพรเรทส์ออฟดิคารริบ์เบียน Pirates of the Caribbean ดีไหม..” เขาสนทนาต่อได้เรื่อยจนน่าสนุก เรื่องร้ายกลับกลายเป็นดี ความหนักกลายเป็นความเบา

“คงจะใช่ กล่องนี้อาจเป็นของทำขึ้นมาเพื่อใช้ประกอบในหนังก็ได้ แต่สวยนะ กล่องไม้เล็กๆ สีกะปิหม่น คลาสสิกดี ข้างในบุกำมะหยี่สีแดงสด” เธอคล้อยตาม เงียบไปชั่วครู่ก่อนส่งข้อความมาราวกระซิบ “...คุ ณ รู้ ไ ห ม ...ฉันเคยผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจมาก่อน ไม่ทราบว่าหัวใจนี้เป็นของใคร แต่อย่างนั้นก็ทำให้ฉันมีชีวิตมาอีกหลายปีแล้ว ต้องขอบคุณคนที่บริจาคหัวใจให้ฉันมา”

. . . . . .

“คุ ณ ค ง ต ก ใ จ” อโณทัยพิมพ์ต่อ หลังไม่มีข้อความตอบกลับเป็นเวลานาน
“ครับ แทบพูดอะไรไม่ออก” เขาคงตกใจมากจริงๆ แต่สักครู่เขาก็จะสรรหาเรื่องราวที่ทำให้เธอคลายกังวล คลายทุกข์โศก

“คุณรู้ไหม หัวใจดวงใหม่ ทำให้ฉันเรียนรู้โลกในแง่มุมใหม่ๆ” แต่เธออยากให้เขารับรู้ว่าเธอไม่ได้ทุกข์อะไรมากอย่างที่คิด

“เหรอครับ อย่างไรครับ” ท่าทางเขาอยากทราบไม่น้อย มีตัวการ์ตูนน่ารักๆ แสดงความสนใจใคร่รู้ถูกส่งมาหลายตัว ดูน่ารักน่าขัน เขาก็แบบนี้ ชอบทำให้เธอสบายใจ

“แ ต่ ก่ อ น ..ฉันเคยอยากตายเพราะเป็นโรคหัวใจ เป็นภาระหนักให้แม่ แต่พอจะต้องตายจริงๆ กลับกลัวมากค่ะ หลังได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจดวงใหม่ เชื่อไหม.. ฉันกลับไม่กลัวตาย แถมมีความรู้สึกว่าเราควรจะมีชีวิตอยู่เพื่อใครสักคน ไม่กลัวแม้ความเหงา โดยที่ฉันไม่ต้องทำอะไรเพื่อหนีมัน ไม่ต้องวิ่งหาใครหรือพยายามทำอะไรเพื่อหนีไปจากตัวเอง ฉันอยู่กับเสียงหัวใจเต้นได้เงียบๆ รู้สึกว่ามีเพื่อนตลอดเวลา นั่นก็คือหัวใจของตัวเอง ที่จริงฉันควรจะทำแบบนี้กับหัวใจดวงเก่าของฉันด้วย” ตอนเริ่มดีแต่ตอนท้ายคำพูดชวนสลดอยู่บ้าง อโณทัยคงสงสารหัวใจดวงเก่า จนเขาต้องปลอบประโลม

“คนที่ให้หัวใจคุณมา คงมีความสุขมากหากได้ยินคุณพูดแบบนี้ รู้ไหม คุณทำให้เขามีชีวิตอยู่ไปด้วย”

“จริงเหรอ!! เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรล่ะคะ”

“จริงครับ ก็หัวใจเขายังเต้นอยู่นี่ครับ” คำตอบชวนคิดของเขาทำอโณทัยทึ่งไม่น้อย อัศจรรย์ใจกับความสัมพันธ์ของเธอและหัวใจของใครอีกคน เธอไม่ได้อยู่เพียงลำพัง !!

“คุณนี่เข้าใจพูดจัง ฉันต้องขอบคุณเขามากนะ ที่สอนการมีชีวิตเพื่อคนอื่นให้กับฉัน อย่างน้อย ฉันก็มีชีวิตต่อมาเพื่อจะให้แม่ตายก่อน แม่คงเสียใจมากหากต้องเห็นฉันตายก่อน นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ฉันได้รับจากหัวใจดวงนี้ หลังเปลี่ยนหัวใจ ฉันแข็งแรงดี และแม่ก็รู้ว่าฉันจะมีชีวิตต่อมาได้อย่างมีความสุข”

“ผมแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่ไหวน่ะครับ” เขาคนนั้นพิมพ์ตอบมา เธอคิดว่าเขาพูดจากใจจริง และคงซาบซึ้งกับคนให้หัวใจเธอมาเช่นกัน

“ฉันชอบมากเลยล่ะ ที่คุณบอกว่าเอาหัวใจไว้นอกตัวแล้วจะกลายเป็นอมตะ แต่พระอาทิตย์มีขึ้นก็ต้องมีตก อย่างไรเสีย ค น เ ร า ก็ ต้ อ ง .....” อโณทัยยิ้มขณะระบายความในใจ ทั้งที่เจ็บแปลบหัวใจขึ้นมาอย่างกะทันหันอีก ก่อนจะวูบหมดสติไป ไม่สามารถพูดคุยกับอีกฝ่ายต่อไปได้

สายลมสงบเงียบ ผ้าม่านหยุดดิ้นรน ตันตันแมวอ้วนเดินมาถึงข้างเท้าของอโณทัยที่นอนคว่ำหน้าไปกับโต๊ะอย่างยากลำบาก มันไม่สบายมานานแล้ว และรอวันนี้มานานแล้วเช่นกัน การรอคอยเพื่อจะดูแลคนที่ตัวเองรักทำให้หัวใจไม่ยอมหยุดเต้นลงง่ายๆ มันกระโดดขึ้นมานอนขดอยู่บนตักของเธอ

“ผมต่ออายุคุณได้เท่านี้นะครับ ต่อไปคุณจะกลายเป็นอมตะ” เขาพิมพ์ตอบกลับมา

หญิงชราตาเดินเข้ามาหาลูกชายซึ่งตายไปนานแล้วบนเก้าอี้เก่าๆ เพื่อเอามือของเขาออกจากแป้นคีย์บอร์ด ก่อนเขาจะตายในวันได้รับอุบัติเหตุวันนั้น ได้ขอร้องให้เธอมอบหัวใจของเขาให้กับหญิงสาวหางตายาวประหลาดชื่ออโณทัย คนป่วยข้างห้องคนนึงที่เป็นโรคหัวใจและกำลังรอรับการบริจาค ถ้าไม่ได้หัวใจของเขาสาวหางตายาวผู้นี้คงต้องรอไปอีกนานหรือคงไม่มีโอกาสได้รอ เพราะหัวใจของเธอกำลังจะหยุดทำงาน

“แม่จะเอาหัวใจของลูกให้กับคนอื่นที่เขาต้องการต่อไปนะ” กล่องเก็บหัวใจในมือหญิงชรา มีหัวใจของเขากลับคืนมาอยู่ภายใน พร้อมคำขอบคุณจากอโณทัย





..

เฮ้ย พวกหน้า emotion หายไปไหนหมดอ่ะ - - "


Create Date : 11 มกราคม 2551
Last Update : 11 มกราคม 2551 0:18:57 น. 1 comments
Counter : 596 Pageviews.

 


ดีจัง กลับมากันแล้วววว


โดย: whitespace วันที่: 12 มกราคม 2551 เวลา:12:34:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.