Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
4 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
สิ้นสุดที่ความตาย (คัดลอกจาก หนังสือพุทธวิธีคลายโศก)



สิ้นสุดที่ความตาย

(คัดลอกบางส่วนจาก หนังสือ พุทธวิธีคลายโศก พิมพ์ครั้งที่ ๑๒,๒๕๕๑. หน้า ๓๒-๓๕)

:b46: :b46: :b46:

ในอดีตกาล ณ กรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์เกิดในตระกูลพราหมณ์เจริญวัยแล้วเล่าเรียนศิลปะในเมืองตักศิลาแล้วกลับไปยังสำนึกของบิดามารดา ทั้งที่พระโพธิสัตว์ไม่ต้องการครองเรือน บิดามารดาก็ได้ทำการสมรสให้กับกุมาริกาผู้มีรูปร่างงดงาม ชื่อ สัมมิลลหาสินี (ต่อไปจะเรียกย่อๆว่า สินี)

เมื่อบิดามารดาของพระโพธิสัตว์สิ้นชีวิตแล้ว พระโพธสัตว์และนางสินีก็สละทรัพย์ทั้งหมดให้เป็นทานแล้วทั้งสองก็ออกบวชไปอยู่ป่าหิมพานต์

วันหนึ่งนักบวชทั้งสองออกจากป่าหิมพานต์เที่ยวไปถึงพระราชอุทยานเมืองพาราณสี นางสินีเกิดอาพาธและมีอาการทรุดลงเพราะไม่ได้รับยาที่สมควร พระโพธิสัตว์พยุงนางไปที่ประตูพระนคร ให้นอนในศาลาแห่งหนึ่ง ส่วนตนเข้าไปภิกขาจาร เมื่อพระโพธิสัตว์ยังไม่ทันกลับมา นางได้ถึงแก่กรรมลง มหาชนเห็นรูปสมบัติของนางก็พากันห้อมล้อมร้องไห้

พระโพธิสัตว์กลับมาพบเข้าก็ดำริว่า สิ่งที่มีอันจะแตกไปเป็นธรรมดาย่อมแตกไป

มหาชนถามว่า "นักบวชหญิงนี้เป็นอะไรกับท่าน?"
พระโพธิสัตว์กล่าวว่า "เมื่อเวลาเป็นคฤหัสถ์ นางเป็นภรรยาของเรา"
มหาชนถามว่า แม้พวกเรายังทนไม่ได้พากันร้องไห้ เพราะเหตุไรท่านจึงไม่ร้องไห้

พระโพธิสัตว์ตอบว่า เมื่อยังมีชีวิตอยู่ นางย่อมเป็นอะไรๆกับเรา บัดนี้ไม่เป็นอะไรๆกัน เพราะนางไปสู่โลกอื่น ไปสู่อำนาจของคนอื่นแล้ว

จากนั้นก็แสดงธรรมแก่มหาชนว่า นางสินีได้ไปอยู่กับผู้ที่ตายไปแล้วเป็นจำนวนมาก เมื่อนางไปอยู่กับพวกนั้นแล้วก็ไม่ได้เป็นอะไรกับเรา เพราะฉะนั้่นเราจึงไม่เศร้าโศกถึงนางสินีผู้เป็นที่รักนี้

ถ้าบุคคลเศร้าโศกถึงผู้ใดแล้วทำให้ผู้นั้นฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ บุคคลก็พึงเศร้าโศกถึงตนซึ่งตกอยู่ในอำนาจมัจจุราชทุกเมื่อ

อายุสังขารใช่จะเสื่อมไปเฉพาะเมื่อยืน นั่ง นอน หรือ เดินอยู่เท่านั้นก็หาไม่ แม้ในเวลาอันน้อยนิดชั่วหลับตาลืมตา วัยก็เสื่อมไปแล้ว

เมื่อชีวิตดำเนินไปสู่ความเสื่อมเช่นนี้ ความพลัดพรากจากกันก็ต้องมีโดยไม่ต้องสงสัย ผู้ที่ยังอยู่ควรเมตตาต่อกัน ส่วนผู้ที่ตายไปแล้วไม่ควรเศร้าโศกถึง


เมื่อพระโพธิสัตว์แสดงธรรมแล้ว มหาชนพากันกระทำฌาปณกิจศพนางสินี จากนั้นพระโพธิสัตว์ก็ไปป่าหิมพานต์ ทำฌาณและอภิญญาให้บังเกิด มีพรหมโลกเป็นที่ไปในเบื้องหน้า
(อนนุโสจิยชาดก ๒๗/๖๑๐-๖๑๓)

คติที่ได้จากเรื่องนี้คือ คนเราจะมีความสัมพันธ์กันในฐานะต่างๆ เช่น พ่อแม่ พี่น้อง บุตรหลาน ญาติมิตร คู่ครอง หรือคนรัก ต่อเมื่อต่างยังมีชีวิตอยู่ เมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดตายจากไป ความสัมพันธ์ก็สิ้นสุดลง เหลือไว้เพียงแค่ความทรงจำของผู้ที่ยังอยู่ ความทรงจำนี้เปรียบเหมือนความฝันซึ่งว่างเปล่า ไม่จริงจังอะไร จึงไม่ควรเก็บเอามาคิด ปรุงแต่งให้อาลัยอาวรณ์ เศร้าใจ เสียใจไปเปล่าๆ


ละครโลก รับบท กำหนดเล่น
ต่างรำเต้น ตามไป ในคอกขัง
พอจบฉาก จากไป ไม่จีรัง
มิาจหวัง วิงวิน ย้อนกลับคืน



กระทู้ที่ธรรมจักร



//www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=37451








Free TextEditor


Create Date : 04 ตุลาคม 2554
Last Update : 4 ตุลาคม 2554 18:48:57 น. 0 comments
Counter : 631 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คุณหนูขาวมณี
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add คุณหนูขาวมณี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.