Group Blog
 
 
สิงหาคม 2554
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
15 สิงหาคม 2554
 
All Blogs
 
แม้เจ็บกายแต่ใจเย็น (สมเด็จพระญาณสังวรฯ)



แม้เจ็บกายแต่ใจเย็น

รูปภาพ

คัดลอกจากหนังสือเรื่อง วิธีการของพระพุทธเจ้า
(หัวข้อ แม้เจ็บกายแต่ใจเย็น)
นิพนธ์ในเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร (สุวฑฺฒนมหาเถระ)
พิมพ์น้อมถวายเป็นวิทยาทานโดยมหามงกุฏราชวิทยาลัย 
ปีพุทธศักราช ๒๕๓๒ หน้า ๕๗-๕๘

:b41: :b44: :b44: :b41:

สมัยเมื่อพระพุทธเจ้าประทับอยู่บนยอดเขาคิชฌกูฏ 
(มียอดเหมือนหัวแร้ง) ใกล้กรุงราชคฤห์ นครหลวงแห่งมคธรัฐ 
วันหนึ่งเสด็จไปบิณฑบาต ขณะเสด็จพระพุทธดำเนินอยู่ตอนล่าง 
พระเทวทัตขึ้นไปผลักหินก้อนใหญ่ให้กลิ้งลงมา 
เพื่อจะให้ทับพระองค์ให้แหลกลาญ 
หินก้อนใหญ่นั้นกลิ้งลงมากระทบแง่หิน ๒ ก้อน ติดอยู่ไม่ถึงพระองค์ 
แต่สะเก็ดหินที่แตกเพราะแรงกระทบ 
กระเด็นไปต้องพระบาทเพียงให้เกิดอาการห้อพระโลหิต เกิดเวทนากล้า 
พวกภิกษุได้นำเสด็จไปยังสวนมะม่วงของชีวกโกมารภัจ 
แพทย์หลวงผู้มีชื่อเสียงในเวลานั้น


นายแพทย์ชีวกได้ถวายยาพอกอย่างแรงตรงที่ห้อพระโลหิต 
ได้กราบทูลลากลับเข้าไปเยี่ยมไข้ในเมือง 
เสร็จธุระแล้วได้รีบมาที่ประตูเพื่อออกจากเมือง 
แต่ไม่ทันเวลาเพราะประตูเมืองปิดเสียก่อน 
จึงคิดเสียใจว่า ได้พอกยาอย่างแรงที่พระบาทของพระพุทธเจ้า 
ทิ้งไว้เหมือนพระองค์เป็นบุคคลสามัญ 
เวลานี้ก็เป็นเวลาที่จะแกะยาพอกออกได้แล้ว 
เมื่อไม่แกะออกก็จักเกิดความเร่าร้อนในพระวรกายตลอดคืน

ในขณะนั้น พระพุทธเจ้าได้ตรัสสั่งให้พระอานนท์แกะยาพอกออก 
ตรงกับเวลาที่หมอชีวกคิดอยู่นั้น 
แผลช้ำเลือดที่พระบาท ได้หายเรียบร้อยดังปลิดทิ้ง 

รุ่งเช้า พอประตูเมืองเปิดก่อนอรุณ นายแพทย์ชีวกรีบออกมาเฝ้า 
กราบทูลถามว่า ได้ทรงมีอาการเร่าร้อนในพระวรกายอย่างไร 

พระพุทธเจ้าได้ตรัสตอบว่า 
"ความเร่าร้อนทั้งหมดของตถาคตสงบสิ้นแล้วที่ต้นโพธิในวันตรัสรู้"
และได้ตรัสแปลคาถาแปลความว่า 
"ความเร่าร้อนไม่มีแก่ผู้ที่เดินทางสิ้นสุด 
หายโศก หลุดพ้นทุกสถาน เครื่องร้อยรัดหมดทุกอย่าง"


ตามพระพุทธประวัติ เมื่อพระพุทธเจ้าประชวร 
บางคราวทรงรักษาเองด้วยอำนาจขันติหรือจิตตานุภาพ 
บางคราวทรงให้หมอรักษาเหมือนบุคคลทั่วๆ ไป 
เพราะพระกายก็ต้องมีเกิด แก่ เจ็บ ตายเหมือนอย่างร่างกายของทุกๆ คน 
เมื่อเจ็บก็ต้องมีเวทนาเหมือนกัน 

แต่คนเจ็บทั่วไปมีใจไปผูกพันอยู่กับเจ็บ กลัวเจ็บ กลัวตาย 
ใจจึงพลอยเจ็บ เร่าร้อนทุรนทุราย 
ส่วนพระพุทธเจ้าไม่ทรงผูกพันพระจิตอยู่กับความเจ็บ 
ไม่ทรงกลัวเจ็บกลัวตาย ปล่อยวางความเจ็บไว้ที่กาย 
เป็นเรื่องของกาย เป็นเรื่องของหมอจะรักษาไปอย่างไร 
จึงทรงเป็นผู้หลุดพ้นไม่มีความเร่าร้อน 
เพระทรงดับเสียได้เด็ดขาดแล้วตั้งแต่เวลาที่ตรัสรู้ 
ณ โพธิพฤกษ์ นี้แล คือ ทุกขนิโรธ ความดับทุกข์


เมื่อเจ็บป่วยน่าจะใช้คาถากันเจ็บของพระพุทธเจ้า
บทที่แปลไว้ข้างบนนี้ดูบ้าง 
แต่ต้องใช้ปฏิบัติให้ได้ดั่งคาถาเป็นเครื่องรักษาทางใจ
ช่วยกับหมอที่รักษาทางกาย

:b53: :b53: :b53:

 



กระทู้ที่ธรรมจักร


//www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=7&t=38520















 






Free TextEditor


Create Date : 15 สิงหาคม 2554
Last Update : 15 สิงหาคม 2554 7:02:16 น. 0 comments
Counter : 439 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คุณหนูขาวมณี
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add คุณหนูขาวมณี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.