ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เพราะฉะนั้น จงมีชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท (^L^)
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
12 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 

เรื่องของการล้างกระเพาะเจ้าค่ะ


ตั้งแต่ได้โพสต์เรื่องการล้างพิษลงใน ฮิห้า และได้โม้ให้ใครต้องใครฟัง ก็มีแต่คนถามถึงว่านึกยังไงไปลองทำ ทำไปเพื่อไร บ้าอ๊ะป่าว ลำพังแค่ดีท็อกด้วยการล้างลำไส้ ก็ไม่น่าแปลกเพราะเดี๋ยวนี่ใคร ๆ ก็ทำกันแล้ว แต่ไอ้เรื่องล้างจมูก เอาน้ำเกลือทะลุทะลวงเข้าไปในจมูก แถมท้ายด้วยการล้างกระเพาะอีก มันจะสุดโต่งไปป่าว..

แต่ความจริงแล้ว ถ้าคนที่ปฏิบัติโยคะอย่างจริงๆ จัง ๆ ไม่ใช่สักแต่ทำตัวอ่อนไปวัน ๆ หรือมุ่งแต่จะทำอาสนะท่ายาก ๆ สวย ๆ ได้ก็คงไม่สนใจเรื่องการชำระล้างเท่าไร

อย่านอกเรื่องเลยเนอะ ใคร ๆ เค้าอยากรู้เรื่องล้างพิษอีกเรื่องซึ่งก็คือการล้างกระเพาะ หรือล้างท้อง ขอบอกว่าไม่ใช่การล้างท้องที่โรงพยาบาลเค้าทำกันเวลาคนไข้กลืนกินสารพิษนะเอ้อ อย่างนั้นน่ากลัวกว่าเพราะว่ามีสายยางแยงผ่านลำคอลงไปในกระเพาะของเรา แค่คิดก็หยองแล้วอ่ะ

เรื่องการล้างพิษด้วยการล้างกระเพาะตามหลักโยคะศาสตร์ จะน่ากลัวน้อยกว่านั้น ว่าง่าย ๆ ให้เห็นภาพ มันคือ การอ้วกกกกกกกก...นั่นเอง มันอาจจะดูโหดไปสักหน่อย แต่ก็เป็นวิถีทางอย่างหนึ่งในการชำระล้างร่างกาย เอาวิชาการไปหน่อยละกัน .. การล้างกระเพาะ หรือการล้างท้อง หรือเรียกให้ดูขลัง ๆ ในภาษาสันสกฤต คือ วมนะ เดาติ (Vamana Dhauti) ตามพจนานุกรมไทย ให้ความหมายคำว่า วมนะ คือ การอาเจียน นั่นเอง แต่ถ้าจะเรียกแบบบ้าน ๆ ก็อาจจะเรียกว่า “ท่าช้างพ่นน้ำ” (Kunjala) ก็ได้มั๊ง เคยเห็นคนที่ไปเลิกยาที่ถ้ำกระบอกไม๊ นั่นแหล่ะ หลักการเดียวกันเด๊ะ ประโยชน์ของมันคือ เป็นการชำระล้างสารพิษหรือของเสียที่ตกค้างอยู่ในกระเพาะอาหาร รวมถึงกรดในกระเพาะอาหารที่มีมากเกินไป


แต่บางสูตรก็ไม่ใช้วิธีอาเจียน แต่จะใช้วิธีกลืนผ้าที่ยาวมาก ๆ แทน (นี่ยิ่งสยองกว่านะเนี่ย) จะเรียกอีกอย่างว่า “Vasthra Dhauti” จะไม่ขอเขียนถึงเพราะเราไม่กล้าทำอ่ะ มันโหดเกิน

...คราวหน้าจะมาต่อเรื่องวิธีการทำนะจ๊ะ...สำหรับแฟนคลับ อย่าลืมกดโหวตด่วน





 

Create Date : 12 ตุลาคม 2551
7 comments
Last Update : 12 ตุลาคม 2551 18:33:27 น.
Counter : 2073 Pageviews.

 

สำหรับขั้นตอนการทำ เริ่มต้นจาก ตื่นนอนตอนเช้า ช่วงที่ท้องยังว่างอยู่ พอดีเราทำต่อจากการทำดีท็อก กะล้างเครื่องในให้เกลี้ยงเลย (ขอย้ำว่าต้องตอนท้องว่าง ๆ เท่านั้นนะจ๊ะ ไม่ใช่กินจนพุงกางแล้วไปอ้วกออก เสียดายของตายเลย คนที่ทำอย่างนั้นระวังจะโรคจิตอ่อน ๆ อยากผอมแต่อดไม่ได้เลยใช้วิธีกินแล้วล้วงคอให้อ้วกออกมา ระวังเหอะจะเป็นโรคบูลิเมีย)

โทษทีนอกเรื่องไปนิซซซนึง ความจริงไม่จำเป็นต้องหลังตื่นนอนตอนเช้าก็ได้ ขอแค่ต้องท้องว่าง ๆ เท่านั้นก็พอ จากนั้นก็เตรียมน้ำต้มสุกสะอาด ๆ ของเราซื้อน้ำโพลาริส ๑ ขวดลิตรเลยล่ะ แต่บางตำราก็จะผสมเกลือ ๑ ช้อนชา นะ บางคนก็อาจจะใช้น้ำมากกว่านี้ได้ อาจจะประมาณ ๒-๓ ลิตร แต่ของเราเพิ่งเริ่มทำครั้งแรก แค่ลิตรนึงก็แทบอ่วมแล้ว

จากนั้นก็ให้เริ่มต้นค่อย ๆ จิบน้ำเรื่อย ๆ (จริง ๆ แล้วมันจะมีท่ากินน้ำด้วยนะ เค้าให้นั่งยอง ๆ แยกหัวเข่าออกจากกัน แต่ต้องไม่กดทับบริเวณท้อง ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องมีท่าด้วย) เวลาจิบน้ำ อย่าใช้เวลานานมาก เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นฉี่ไปซะก่อน ตอนแรก เราเสี้ยนมาก กินน้ำแบบว่าดังเอื๊อก ๆ เลยอ่ะ พอไปได้ซัก ๑/๓ ก็ชักอิ่มน้ำแล้วอ่ะ ต้องพักยกแป๊บนึงแล้วก็กินน้ำต่อ พอไปถึงครึ่งขวดก็รู้สึกน้ำมันจะล้นมาถึงคอหอยแล้ว เอาน่ะยังไม่จุก เริ่มพักบ่อยขึ้นแต่ก็ค่อย ๆ จิบน้ำแทนจนเหลือน้ำประมาณ ๑/๓ ของขวด ก็รู้ตัวว่าไม่ไหวแล้นนนน.. มันคงได้ที่แล้วล่ะ

 

โดย: whatawanna 12 ตุลาคม 2551 18:35:01 น.  

 

 

โดย: whatawanna 12 ตุลาคม 2551 18:41:20 น.  

 


ก่อนที่จะวิ่งไปอ้วก ก็เอามือนวดคลึงท้องเบา ๆ เพราะว่าท้องมันบานขึ้นมาอ่ะ แบบว่าอิ่มน้ำสุด ๆ แต่ก็ทำนานไม่ได้ เอาออกเหอะ ไม่ไหวแล้ว วิ่งจู๊ดเข้าห้องน้ำ เป้าหมายหลักอยู่ที่ชักโครก จากนั้นก็ตั้งท่า ยืนโก่งลำตัว แล้วก็กลั้นใจ เอานิ้วล้วงคอให้อ้วกกกกกกกก...ออกมา จากนั้นก็อ้วกกกกกกก... แล้วก็อ้วกกกกกกก... อ้วกกกกกแล้วอ้วกกกกอีก มีแต่น้ำพุ่งออกมาเหมือนช้างพ่นน้ำไม่มีผิด ไอ้เราก็น้อง ๆ ช้างอยู่ด้วย ประมาณถ้ำกระบอกยังไงยังงั้นเลย จังหวะที่อาเจียนก็อาศัยการหดท้องช่วยด้วย แบบว่าบีบเค้นให้น้ำออกมาให้หมด

เราสังเกตเห็นว่ามีเศษอาหารปนออกมานิดนึง คงเป็นเศษอาหารตกค้างตั้งแต่เมื่อคืนแน่ ๆ เลยที่ยังย่อยไม่หมด เมื่อเย็นวานก็กินจะเต็มคราบเชียว ตอนที่โอ้กอ้ากช่วงแรกๆ เรารู้สึกว่าน้ำมีรสฝาด ๆ นิด ๆ คงเป็นบรรดากรดในกระเพาะอาหารที่เจือจางออกมาแน่ ๆ

พอดีน้ำโพราลิสที่กินไว้มันเหลืออยู่ก็ซดที่เหลือจนหมดขวด แล้วก็ล้วงคออีกรอบ ทีนี้อ้วกประมาณ ๒ ทีก็รู้สึกหมดไส้หมดพุงของแท้ กว่าจะครบถ้วนกระบวนความก็รู้สึกเหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย เหงื่อตกเลยอ่ะ จากนั้นก็พักท่าศพอาสนะ เพื่อผ่อนคลายประมาณ ๑๐ นาที แต่พอทำเสร็จก็สบายท้องอย่างบอกไม่ถูก มันว่าง ๆ กลวง ๆ แต่ไม่ใช่ท้องว่างเพราะหิวข้าวนะ รู้สึกสดชื่นด้วย คงเป็นเพราะกินน้ำเข้าไปมาก

 

โดย: whatawanna 12 ตุลาคม 2551 18:44:13 น.  

 

สำหรับการทำ วมนะ หรือวามัน ขอบอกว่าต้องระวังนิดนึง อย่าทำบ่อยเกินไป ไม่ควรเกินสัปดาห์ละ ๑ ครั้ง เพราะว่าจะทำให้ติดได้ ทีนี้ไม่ต้องล้วงคอก็อาเจียนได้เอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีนะตะเอ๊ง.. แต่เป็นผลเสียไปซะอีกแน่ะ จะกลายเป็นว่าพาลกินอะไรเข้าไปแล้วจะอ้วกออกมาให้ได้ ซึ่งเป็นอาการของพวกบูลิเมีย

และในการอาเจียนน้ำแต่ละครั้งก็ไม่ควรทำหลายรอบเกินไป บางคนกลัวล้างกระเพาะไม่สะอาดก็เพียรกินน้ำแล้วก็อ้วกอยู่หลายรอบ ประมาณว่าพออ้วกน้ำหมดท้องแล้วก็กินน้ำเติมเข้าไปอีก แล้วก็อ้วกออกไปอีก ทำอย่างนี้หลายรอบจัด ก็ต้องประมาณตัวเองด้วยว่าควรจะซักเท่าไร ซึ่งก็เป็นผลเสียเหมือนกันนะ บางคนถึงกับมีเลือดปนออกมาด้วย เข้าใจว่ากระเพาะอาหารคงจะได้รับความกระทบกระเทือนมาก (เราไม่แน่ใจว่า คนที่มีแผลในกระเพาะจะทำได้รึเปล่า เดี๋ยวจะค้นมาเล่าให้ฟังทีหลังละกัน ตอนนี้ขอติดไว้ก่อน) ดังนั้น ถ้าจะทำวามันต้องระวังมาก ๆ ให้ทำพอประมาณ อย่าทำเว่อร์หรือสุดโต่งเกินเหตุ แทนที่จะดีกับสุขภาพจะกลายเป็นผลเสียแทน ถ้าใครอยากจะลองทำดู ก็ขอย้ำว่าต้องศึกษาให้ดีก่อนนะจ๊ะ ถ้าเป็นไปได้ปรึกษากูรู หรือผู้รู้ก็ดีนะ

จบดีกว่านะ ไม่รู้จะเขียนอะไรแล้ว หลังจากล้างกระเพาะแล้ว ตอนนี้ก็เริ่มหิวแล้วอ่ะ ต้องหาอะไรเติมกระเพาะซะหน่อย ลืมไป ขอกิตติกรรมประกาศซักนิดนึง สำหรับข้อมูลดี ๆ ที่อ่านก่อนล้างกระเพาะ หนังสือ “โยคะชำระโรค” ของอาจารย์พีระ บุญจริง, เวปไซด์ดี ๆ จาก //sivasakti.net/articles/yoga/vamana-dhauti-art62.html

 

โดย: whatawanna 12 ตุลาคม 2551 18:47:21 น.  

 

เค้าได้ email จากเพื่อนมาแนะนำให้ทำ oil pulling อ่ะเจ๊ พรุ่งนี้จะไปเล่าให้ฟัง

 

โดย: ThE BooK@HoLiC 12 ตุลาคม 2551 19:57:14 น.  

 

เข้ามาอ่านค่ะ แต่น่ากลัวนะนั่น กล้วมันเป็นนิสัยอ่ะค่ะ

 

โดย: 2fast2farious 13 ตุลาคม 2551 3:47:50 น.  

 

 

โดย: ครูหญิง (tingnongnoy ) 27 ธันวาคม 2551 14:26:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


whatawanna
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




มัวแต่เสียเวลาทำบล๊อกให้ชาวบ้านอยู่นาน ลองผิดลองถูกมาก็เยอะ ตอนนี้ได้เวลามีบล๊อกเป็นของตัวเองซะที


Friends' blogs
[Add whatawanna's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.