|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องของการล้างกระเพาะเจ้าค่ะ
ตั้งแต่ได้โพสต์เรื่องการล้างพิษลงใน ฮิห้า และได้โม้ให้ใครต้องใครฟัง ก็มีแต่คนถามถึงว่านึกยังไงไปลองทำ ทำไปเพื่อไร บ้าอ๊ะป่าว ลำพังแค่ดีท็อกด้วยการล้างลำไส้ ก็ไม่น่าแปลกเพราะเดี๋ยวนี่ใคร ๆ ก็ทำกันแล้ว แต่ไอ้เรื่องล้างจมูก เอาน้ำเกลือทะลุทะลวงเข้าไปในจมูก แถมท้ายด้วยการล้างกระเพาะอีก มันจะสุดโต่งไปป่าว..
แต่ความจริงแล้ว ถ้าคนที่ปฏิบัติโยคะอย่างจริงๆ จัง ๆ ไม่ใช่สักแต่ทำตัวอ่อนไปวัน ๆ หรือมุ่งแต่จะทำอาสนะท่ายาก ๆ สวย ๆ ได้ก็คงไม่สนใจเรื่องการชำระล้างเท่าไร
อย่านอกเรื่องเลยเนอะ ใคร ๆ เค้าอยากรู้เรื่องล้างพิษอีกเรื่องซึ่งก็คือการล้างกระเพาะ หรือล้างท้อง ขอบอกว่าไม่ใช่การล้างท้องที่โรงพยาบาลเค้าทำกันเวลาคนไข้กลืนกินสารพิษนะเอ้อ อย่างนั้นน่ากลัวกว่าเพราะว่ามีสายยางแยงผ่านลำคอลงไปในกระเพาะของเรา แค่คิดก็หยองแล้วอ่ะ
เรื่องการล้างพิษด้วยการล้างกระเพาะตามหลักโยคะศาสตร์ จะน่ากลัวน้อยกว่านั้น ว่าง่าย ๆ ให้เห็นภาพ มันคือ การอ้วกกกกกกกก...นั่นเอง มันอาจจะดูโหดไปสักหน่อย แต่ก็เป็นวิถีทางอย่างหนึ่งในการชำระล้างร่างกาย เอาวิชาการไปหน่อยละกัน .. การล้างกระเพาะ หรือการล้างท้อง หรือเรียกให้ดูขลัง ๆ ในภาษาสันสกฤต คือ วมนะ เดาติ (Vamana Dhauti) ตามพจนานุกรมไทย ให้ความหมายคำว่า วมนะ คือ การอาเจียน นั่นเอง แต่ถ้าจะเรียกแบบบ้าน ๆ ก็อาจจะเรียกว่า ท่าช้างพ่นน้ำ (Kunjala) ก็ได้มั๊ง เคยเห็นคนที่ไปเลิกยาที่ถ้ำกระบอกไม๊ นั่นแหล่ะ หลักการเดียวกันเด๊ะ ประโยชน์ของมันคือ เป็นการชำระล้างสารพิษหรือของเสียที่ตกค้างอยู่ในกระเพาะอาหาร รวมถึงกรดในกระเพาะอาหารที่มีมากเกินไป
แต่บางสูตรก็ไม่ใช้วิธีอาเจียน แต่จะใช้วิธีกลืนผ้าที่ยาวมาก ๆ แทน (นี่ยิ่งสยองกว่านะเนี่ย) จะเรียกอีกอย่างว่า Vasthra Dhauti จะไม่ขอเขียนถึงเพราะเราไม่กล้าทำอ่ะ มันโหดเกิน
...คราวหน้าจะมาต่อเรื่องวิธีการทำนะจ๊ะ...สำหรับแฟนคลับ อย่าลืมกดโหวตด่วน
Create Date : 12 ตุลาคม 2551 |
|
7 comments |
Last Update : 12 ตุลาคม 2551 18:33:27 น. |
Counter : 2073 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ครูหญิง (tingnongnoy ) 27 ธันวาคม 2551 14:26:22 น. |
|
|
|
|
|
|
|
โทษทีนอกเรื่องไปนิซซซนึง ความจริงไม่จำเป็นต้องหลังตื่นนอนตอนเช้าก็ได้ ขอแค่ต้องท้องว่าง ๆ เท่านั้นก็พอ จากนั้นก็เตรียมน้ำต้มสุกสะอาด ๆ ของเราซื้อน้ำโพลาริส ๑ ขวดลิตรเลยล่ะ แต่บางตำราก็จะผสมเกลือ ๑ ช้อนชา นะ บางคนก็อาจจะใช้น้ำมากกว่านี้ได้ อาจจะประมาณ ๒-๓ ลิตร แต่ของเราเพิ่งเริ่มทำครั้งแรก แค่ลิตรนึงก็แทบอ่วมแล้ว
จากนั้นก็ให้เริ่มต้นค่อย ๆ จิบน้ำเรื่อย ๆ (จริง ๆ แล้วมันจะมีท่ากินน้ำด้วยนะ เค้าให้นั่งยอง ๆ แยกหัวเข่าออกจากกัน แต่ต้องไม่กดทับบริเวณท้อง ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องมีท่าด้วย) เวลาจิบน้ำ อย่าใช้เวลานานมาก เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นฉี่ไปซะก่อน ตอนแรก เราเสี้ยนมาก กินน้ำแบบว่าดังเอื๊อก ๆ เลยอ่ะ พอไปได้ซัก ๑/๓ ก็ชักอิ่มน้ำแล้วอ่ะ ต้องพักยกแป๊บนึงแล้วก็กินน้ำต่อ พอไปถึงครึ่งขวดก็รู้สึกน้ำมันจะล้นมาถึงคอหอยแล้ว เอาน่ะยังไม่จุก เริ่มพักบ่อยขึ้นแต่ก็ค่อย ๆ จิบน้ำแทนจนเหลือน้ำประมาณ ๑/๓ ของขวด ก็รู้ตัวว่าไม่ไหวแล้นนนน.. มันคงได้ที่แล้วล่ะ