Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2550
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
8 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 
ไปเที่ยวนครวัด นครธม : Part 2 : 2007.05.05 แวะไปเที่ยวโตนเลซาบก่อน

ถึงตัวโรงแรม Angkor Star Hotel อยู่ใจกลางเมืองเสียมเรียบ เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว แต่สภาพน่าอยู่มาก ห้องหับไม่มีกลิ่นอับ มีน้ำร้อน ทีวี ตู้เย็น แอร์ น้ำเปล่าฟรีสองขวด รองเท้าเดินในห้อง แปลงสีฟัน ยาสีฟัน หมวกอาบน้ำ สบู่ แชมพู ครีมนวด น้ำร้อน tub ครบครัน มีอาหารเช้าฟรีให้ตามจำนวนคืนที่ค้าง



Picture from: //www.channels.nl/36833b.html
Official website: //www.radiusangkorstar.com

ห้องของพวกเราเบอร์ 406 อยู่ชั้นบนสุดติดลิฟ วิวที่เห็นจะเป็นเมือง เข้าใจว่า หลังจากนี้ไปปีหน้าคงได้เห็นแค่ตึกของอีกโรงแรมที่กำลังสร้าง ^^"



วางกระเป๋า ล้างหน้าล้างตา เข้าห้องน้ำ เอาเสื้อผ้ามาแขวนตู้เรียบร้อยแล้ว พวกเราก็เตรียมกระเป๋าสะพาย พร้อมกล้อง น้ำขวดของโรงแรม หมวก และหนังสือคู่มือ เตรียมตัวเดินทาง




คู่มือบอกว่า รถสามล้อเครื่องที่เรียกว่ามอเตอร์ดุ๊ป ราคาถูก และสามารถต่อลองให้วิ่งไปที่ไหนๆก็ได้ในตัวเมือง พวกเราจึงไม่ได้รับข้อเสนอของทางโรงแรมในวันแรก และเดินออกมาข้างหน้าเพื่อหารถรับจ้างด้วยตัวเอง

แค่เดินออกมาปุ๊ป ก็มีรถสามล้อเครื่องแบบนี้มาเกยทันที คุณลุงคนขับตัวตุ่ยนุ้ย ถามอย่างยิ้มแย้มว่า

"จะไปไหนครับ ราคาต่อลองได้นะ" (เป็นภาษาอังกฤษ)
พวกเราบอกไปด้วยความลังเล "จะไปโตนเลซาบอ่ะคะลุง"
ลุงคิดอยู่ไม่กี่วินาที "6 $ ไปมั้ย?"
พวกเราหันหน้ามายิ้มให้กันด้วยสายตาอยู่เสี้ยววินาที ไปค่ะ !!





ลุงยิ้มร่า กุรีกุจอชี้มือให้พวกเราขึ้นไปนั่งบนรถพ่วงที่ เกี่ยวไว้กับมอเตอร์ไซของแก แล้วก็หันมาถาม

"Are you ready ?"
"Yes!" พวกเราตอบพร้อมกัน !

สามล้อเครื่องวิ่งไปตามถนนในเมือง ผ่านร้านค้าต่างๆ มองๆไปแล้วเหมือนเมืองในต่างจังหวัดบ้านเรา



ซักพัก รถสามล้อเลี้ยวออกนอกถนนปูน ลงไปถนนดินลูกรัง ขโยกแขยกดีเหลือเกิน บ้านเรือนก็เปลี่ยนจากตึกแถวกลายเป็นกระต๊อบอ๊อบแอ๊บ เด็กๆถอดเสื้อตัวแดง วิ่งเล่นบ้าง ลงไปเล่นในน้ำคลองสีขุ่นๆบ้าง







ขับไปซักพัก ลุงก็ไปจอดที่(อยากจะเรียกว่า)ศาลากลางทาง เป็นสถานที่เก็บค่าเรือล่องทะเลสาป คนละ 15 $ แล้วก็นั่งรถลุงเขาต่อไป ต่อไป ต่อไป... . .



รถโยกเยกๆไปนานน๊านนาน คุณลุงกังวลว่าพวกเราจะนั่งไม่สบาย ตะโกนถามไปเป็นระยะๆ "Are you OK?" พวกเราดีใจกับ ความใจดีของลุง ตอบไปเสียงใส "OK!"

มันก็ยังนานน๊านนนนนนนนาน ดิฉันเริ่มมีวิญญาณ dokkie เข้าสิง งึมงำกับอุ้ม "Are we there yet?" ... . . "Are we there yet?" .... . .. . "Are we there yet?" ซักพักก็ อ๊าย มีวัดด้วย ! อยู่บนภูเขา เริ่มเห็นของแบบนี้เป็นสัญญาณว่าใกล้ถึงแล้ว (เดาไปอย่างนั้นเอง แต่มันกลายเป็นเรื่องจริง) รถเลี้ยวเข้าไปบริเวณท่าเรือ



คิดในใจ 'นี่เหรอทะเลสาป' (น้ำขุ่นเป็นสีดินลูกรัง) แท้ที่จริงแล้วมันคือคลองที่จะต้องล่องไปสู่ทะเลสาปอ่ะนะ คนขับเรือเดินมารับพวกเราถึงที่รถยิ้มแย้มแจ่มใส ลุงคนขับรถมอเตอร์ดุ๊ปพูดติดตลกว่า "See you!... . .. Tomorrow?" "เฮ๊ยยยย !!" พวกเราอุทานพร้อมกัน กับความขี้เล่นของลุง (ไม่ได้นะลุงอย่าทิ้งกันอย่างงี้ เพราะหนูเริ่มเครียดกับความกันดาลของแถวนี้แง๊ว) เป่าลุงเขาล้อเล่น คงรู้ว่าพวกเราช็อค (เล็กๆ)





เราสองคนเดินลงไปในเรือลำหญายยยยจะได้มากกว่า 20 ที่นั่ง มีเครื่องอยู่ด้านท้ายเรือ มีห้องน้ำให้ด้วย แล้วเรือก็ออกเลย เอ๋า ไม่ต้องรอผู้โดยสารคนอื่นๆเลยนะเนี่ยะ



คนขับเรือเป็นเด็กหนุ่มๆอัธยาศัยดีอีกคนนึง เขาพาล่องเรือตามลำคลองโคลนไปเรื่อยๆ



หลุดออกจากส่วนที่เป็นท่าเรือ ก็มีบรรดาโรงเรียนที่ชาวต่างชาติ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศษ มาช่วยปลูกสร้างไว้ให้ ด้วยกลัวว่าเด็กๆแถวนี้จะไม่ได้เรียนหนังสือกัน โรงเรียนทั้งหลายนี้เป็นโรงเรียนโปะ คือลอยอยู่บนน้ำ



บางโรงเรียนมีสนามฟุตบอลอยู่ชั้นสอง



ผ่านคลองออกไป โหววววววววววววว นี่เหรอทะเลสาป มันเป็นน้ำ ที่กว้างออกไปลุดลูกหูลูกตา บางด้านยาวขนาดที่ไม่สามารถเห็นแผ่นดินของอีกฝั่งได้



ในทะเลสาป ชาวบ้านก็ยังสร้างบ้านของตัวเองลอยอยู่เป็นโปะ มีทั้งโปะบ้าน และ โปะสวนครัว มีบริเวณที่ทำการประมง มีร้านขายของชำ มีโบสถ์ฝรั่ง มีร้านอาหาร ลอยอยู่ด้วยกัน เป็นหย่อมๆ ฝนเริ่มตกปรอยๆ



เด็กที่นี่คงว่ายน้ำกันเป็นตั้งแต่เกิด น้องคนนึงสามารถพายกระละมังได้ด้วย ว๊าววว อเมสซิ่ง ว่าแล้วก็หยิบกล้องขึ้นมาชักภาพน้องเขาทันที แต่พอเขาพายมาถึงเรือแล้วก็เกะเรือไว้พูดทันทีว่า "1 Dollar"ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ .. . . (^____^bbbbbb) ตามหนังสือเปะ นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้เจอด้วยตัวของตัวเอง (ถ้าไม่นับพี่ตรวจคนเข้าเมือง) ดิฉันเลยถอยกรูดออกมาด้วยความงก (ไม่ช๊าย)



น้องคนขับไม่สนใจ ขับเรือเข้าไปบริเวณที่เป็นบ้าน ชี้ให้ดูร้านขายของชำขนาดใหญ่ๆ "Super Market" พวกเราก็ โอ่.. . (ถ่ายรูป) แล่นไปอีกหน่อย "Small Super Market" เจ้าตัวพูดเองหัวเราะเอง พวกเราเลยหัวเราะไปด้วย



เรือล่องไปๆ ผ่านบ้านบนน้ำ ชาวบ้านเมื่อเห็นว่ามีเรือผ่านมา ก็ชะโงกดูบ้าง เดินออกมาโบกมือให้บ้าง กล้องดิฉันถ่ายวิวติดเจ้าอุ้ม ถ่ายเจ้าอุ้มติดวิวไปรูปสองรูป เจ้าอุ้มพยายามชักกล้องด้วยความไวพยายามจะถ่ายข้าพเจ้าติดวิวกะเขามั่ง แต่ข้าพเจ้าไวก่า หะหะหะ "ถ่ายรูปให้มั้ย?" น้องคนขับถาม "โอเก!" เจ้าอุ้มไวเป็นปลา (ไม่ใช่ลิง) รีบตะกายไปนั่งประจำที่ตรงหัวเรือทำหน้าตาแป๋วแหว๋วรอกล้องทันที ข้าพเจ้าไม่สามารถเลี่ยงได้ จึงยุรยาทออกไปด้วยเกรงว่าหากกล้องตัวเองมีใบหน้าของตัวเองอยู่จะเป็นผลร้ายกับตัวกล้องได้ (แชะ) .. . รู้สึกเหมือนวิญญาณได้โดนแบ่งไปอยู่ในนั้น 0.01% แล้ว



น้องคนขับถามว่า (เป็นภาษาอังกฤษ) "รู้จักคล๊อกโคไดมั้ย?" รู้สิ "แล้วสเน็กล่ะ อยากดูมั้ย" อยากดูว์ๆ "อือ พาไปได้นะ มันเป็นร้านอาหาร แต่ต้องซื้อน้ำของเขารู้มั้ย? แค่ 1 dollar" เหรอ ไปสิๆ

ไม่ใช่อะไร มันก็เป็นกิจกรรมที่ควรจะทำ ถ้าเขาเสนออ่ะนะ ไม่ได้มีหลักการอะไรหรอก

เรือล่องไปเทียบกับโปะร้านอาหาร น้องรีบขึ้นไปผูกเรือ แล้วยื่นมือมารับพวกเราให้ปีนขึ้นไป อ่าน้า~~~ นานน๊านจะมีคนทำตัวเป็นสุภาพบุรุษให้ ดิฉันต้องทำตัวเป็นสุภาพสตรีซะหน่อย อิอิ



"นี่ไงจระเข้" โอ๊วววววววววววววว เยอะว่ะ ตัวยังไม่ใหญ่ แต่ถ้ากัดแล้วคงเป็นแผล ใหญ่เลยทีเดียว มันจะหลุดไปได้มั้งไม่เนี่ยะ (คิดในใจ)



"เลี้ยงปลามั้ย" หื๋อ ปลา? "นี่ไงปลาอยู่ตรงนี้ ชี้ไปอีกช่องนึงระหว่างโปะที่เป็นน้ำนิ่งๆ น้องเปิดกระป๋องที่มีเศษปลาตัวเล็กๆตักขึ้นมาช้อนนึงแล้วโยนลงไป เย๊ย~ สิ้นเสียงดิฉัน ง่ำๆๆๆๆๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ง่ำๆๆ ๆ ๆ ๆๆๆๆๆๆ ๆ ๆ ๆๆ (เสียงปลากินเศษปลา ไม่รู้จะบอกว่าเป็นเสียงแบบไหน) น้ำนิ่งๆกลายเป็นจรจลปลาแย่งกันกินอาหารจนกระเซ็นขึ้นมาถึงหน้าของพวกเราได้ หะหะหะหะ

ให้อาหารปลาเรียบร้อย น้องก็บอกว่า "ไปซื้อน้ำในร้านนะ ข้างบนหลังคาก็ขึ้นได้ เราจะรออยู่แถวนี้แหละ" อากาศอ้าวๆ ร้อนๆ ทำให้พวกเราเห็นด้วยกับการหาน้ำเย็นๆกินยิ่งนัก พนักงานในร้านยื่นถาดน้ำหวานมาให้หนึ่งใบ บนถาดมีน้ำหวาน เบียร์หลากหลายชนิด ดิฉันไม่ค่อยถนัดน้ำหวานกระป๋องเลยเลือก Coke เขมรมากิน เจ้าอุ้มเลือกน้ำ ตาลสดกระป๋อง



เปิดกระป๋องไป ตามองบันไดขึ้นหลังคาไป กินไปอึกนึง ขึ้นเลยดีกว่าอยากรู้ๆ บันไดแคบแค่ไม้หน้าสาม ต้องค่อยๆปีขึ้นไป หลังคาเป็นสังกระสีเรียบๆที่หุ้มเนื้อไม้ที่เป็นหลังคาจริงๆไว้ เลื่อนแปรดๆ เพราะฝนยังตกอยู่ปลอยๆ ทำให้ต้องเดินไปด้วยอัตราความระวังเพิ่มเป็นสองเท่า บนหลังคาก็ยังมีที่นั่งอยู่สองสามที่ แล้วก็ยังมีอีกชั้น ให้ปีขึ้นไปสูงสุด แน่นอน ดิฉันไม่พลาด ข้างบนคงวิลสวยกว่า



อ๊า~~~~~~~~ อากาศดีจังเลยน้า~~~~~~~~ !!! ฝนตกๆก็เลยเย็นๆ อยู่บนสุดแล้วอากาศก็ดีขึ้นไปอีกหน่อยนึง ไปตามเจ้าอุ้มดีกว่า



เจ้าอุ้มเอาถุงพลาสติกหุ้มนิ้วโป้งที่มันเป็นแผลทั้งสองข้างแล้วก็ตามขึ้นมา ด้วยอัตราความระวังสองจุดห้าเท่า (แผลอะไรเหรอ? ไม่เล่าอ่ะ เพราะความโก๊ะของมันก่อนจะมาเขมรแหละ) ถ่ายรูปกันไปรูปสองรูป แล้วก็ลงไปดูของที่ระลึกในร้าน เดินออกมาจะขึ้นเรือ





น้องถาม "อ๊าว ไม่ดูงูเหรอ?" ไหนอ่ะ ? "ไม่เอาอ่ะพี่ปอ" อุ้มงอแง เอ๋ มันไม่ชอบงูเหรอ ไม่สน ไปๆ น้องยิ้มร่าพาเดินไปด้านข้างของร้าน เห็นกรงลูกหมาวางอยู่ ซึ่งในนั้นมีน้องงูเหลือมตัวย่อมๆอยู่สองตัว น่าร๊ากกกกกกกกกก

เจ้าอุ้มจำไม 03 : พี่ปอมันแลบลิ้นแผลบๆ อ๊า~ ฮือออ
พี่ปอจอมกวน 03 : อ่าว มีปัญหากับงูแลบลิ้นอีกแน่ะ จะให้มันอ้าปากเลยมั้ยล่ะ ฮึ?

ดูงูกันไปแป๊ปเดียว เจ้าของน้องงู ตัวน้อยๆ วิ่งเข้ามาโวยวายเป็นภาษาเขมร ทั้งชกทั้งเตะน้องคนขับเรือใหญ่ น้องคนขับเรือหัวเราะ เอามือยันหัวไว้ "You are a boy!" เจ้าตัวเล็กหน้างอ "She is a girl, right? So pretty." สัญชาติยาณความเป็นผู้หญิง พวกเราเลยต้องช่วยส่งเสริมเด็ก ในใจก็คิดว่ามันคงจะไม่มีเด็กกระเทยอย่างบ้านเราหรอกนะ (อย่าตกใจน้องเขาเป็นเด็กผู้หญิงจริงๆน่ะแหละ) เจ้าตัวเล็กขู่ฟ่อๆ อย่างกะงู พวกเราก็เลยต้องเฟดออกมาก่อนจะโดนฉก อือ.. . ท่าทางจะเป็นคนสวยในอนาคต



น้องคนขับแกล้งเด็กได้ สบายใจ เดินนำริ่วกลับเรือ อ่อ นี่คงเป็นจุดประสงค์หลักของน้องเขาที่จะให้พวกเราหยุดที่ตรงนี้สินะ พวกเราเดินยิ้มๆตามไปอย่างสบายใจ จะว่าไปแล้วสองคนนี้หน้าตาคล้ายกันราวกับพี่น้อง หรือไม่ก็.. . . หะหะหะหะ สำหรับเรา คนเขมรคงหน้าตาเหมือนกันหมด





ขากลับ หลังจากที่หลุดออกมาจากกลุ่มแพบ้านคนแล้ว ก็เป็นพื้นน้ำว่างๆ น้องคนขับก็เลยเรียกให้ไปขับเรือแทนเขาซะเลย หะหะหะ เจ้าอุ้มมีลังเลอยู่สองวิ แต่ก็เดินไปนั่งที่คนขับทันที คันเล่งตรงนี้ เบรก? ตรงนี้ เวลาเลี้ยว? ต้องหักเยอะๆนะ ภาษาอังกฤษปนท่าทางของคุณครู กับลูกศิษย์ ดูแล้วขำๆดี



เรือจะแล่นกลับเข้าไปในคลองแล้ว มีเรือสวนออกมาจำนวนนึง มีทั้งผู้ใหญ่ ทั้งเด็กวันรุ่นเป็นคนขับ ผู้ใหญ่คนนึงเห็นเรือลำเราเข้า ชี้หน้าเจ้าน้องคนขับแบบคาดโทษใหญ่ เจ้าตัวแค่หัวเราะฮึๆ แล้วหันมาบอกว่า "my friend"

พวกเราเลยได้โอกาสคุยกับน้อง ถึงเรื่องส่วนตัวบ้าง เพื่อบรรยากาศความเป็นกันเองของการเดินทางในคลองที่ยาวนานนนน



"เธอชื่ออะไร" อุ้มถาม
"ชื่อ เปียะ" (ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง ตอนนี้จำไม่ได้แล้ว ขอโทษนะ)
"เราชื่ออุ้ม"
"ฮู่ม?" แหม ออกเสียงใกล้เคียง
"ปอ" (ชี้ตัวเอง)
"พอ" เออ จะเรียกอะไรก็เรียกไปเถอะ (- -#)
"บ้านอยู่ไหน?" เราถามบ้าง
"อยู่ข้างๆโรงเรียน"
"โรงเรียนอยู่ตรงไหน?" ถามต่อ จะได้เพิ่มอีกหนึ่งคะแนน
"อยู่บนถนน#@%#" (ฟังชื่อไม่ออก)
"แล้วถนน # @. ..%.. .#? อยู่ตรงไหน?" ข้าพเจ้าสวมวิญญาณจำไมจอมกวน ล่อน้องให้จนมุมตามคาด
"เออ... .. . . อยู่.. . .. . " (หัวเราะ) "ไม่รู้จะอธิบายยังไง" (ทำหน้าเขินๆ)
"อายุเท่าไหร่?"
"21"
"So young !!!" สองเสียงประสานกันแสดงความเป็นป้าของตัวเอง น้องหัวเราะขำๆ

คำถามคำตอบยังคงดำเนินต่อไปอีกเรื่อยๆ จำไม่ได้แล้วว่ามันเกี่ยวกับอะไร แต่เป็นเพราะว่าพวกเรากำลังจะจากน้องเขาไปเลยอยากจะให้มันมีความประทับใจหลงเหลืออยู่ ก่อนลงจากเรือพวกเราเลยตกลงกันออกเงินเพิ่มคนละ 1$ ให้น้องเขาไปตรงๆ

ขึ้นจากเรือมา พวกคนขับเรือถามกันใหญ่ว่าจะมาอีกมั้ย หะหะหะ ตามประสาเห็นสาวๆเดินทางตามลำพัง แหม พูดจริงๆ นี่ถ้าไม่มีเจ้าอุ้มมาด้วย ดิฉันคงไม่ได้มีประสบการแบบนี้หรอกนะเนี่ยะ~

เดินออกมาระยะนึง คุณลุงยืนโบกมือไหวๆ แซวว่า "แหมกำลังจะกลับบ้านแล้วนะเนี่ยะ" พวกเราขึ้นรถไป ดูเวลา ยังไม่เย็นเลย จากเครื่องบินลงก็ผ่านไปแค่ราวๆสองสามชั่วโมง ก่อนพระอาทิตย์จะตก เราจะทำอะไรกันดี เลยตกลงกันว่าจะถามคุณลุงต่อ (เป็นภาษาอังกฤษ)





"ไป Angkor Wad ต่อเลยได้มั้ยคะลุง?"
"ได้สิ อีก 2$ นะ ไปมั้ย?"
"ไปค่ะ !"




TO BE CONTINUE (つづく)


Create Date : 08 พฤษภาคม 2550
Last Update : 12 พฤษภาคม 2550 19:54:11 น. 3 comments
Counter : 1350 Pageviews.

 
แวะมาเยี่ยมแล้วจ๊ะ ตัวรร.ที่ถ่ายด้านนอกสวยนะ แล้วจะแวะมาใหม่ ตอนต่อไปนะ Thank you.


โดย: Alisara วันที่: 13 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:24:47 น.  

 
ทำไมสองตอนแล้วเงียบไปเลยเนี่ย?


โดย: Keng IP: 219.95.89.84 วันที่: 27 พฤษภาคม 2550 เวลา:10:59:06 น.  

 
ชิชะ ทำมาเป็นทวง. .. . ขอพักมั่งจิ ชริ

ไม่ใช่อะไร ต้องใช้เลบท๊อปอับรูปเพราะพีซีเป็นวินสองพันสาม เลยนานหน่อย เพราะตอนนี้โกรธกันกับเลบท๊อป เสาร์อาทิตย์ไม่ค่อยอยากเห็นหน้า :p


โดย: cats IP: 219.95.17.121 วันที่: 5 มิถุนายน 2550 เวลา:20:45:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แมวอะไรอ้วนจิง
Location :
Selangor Malaysia

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add แมวอะไรอ้วนจิง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.