| All Blog
|
[Glee] S4 E08 Thanksgiving_DL and Spoiler Download here subtitle here คำเตือน ต่อไปนี้เป็น Spoiler  . . . . .
... แต่แหมพอซานทาน่าถามถึงเคิร์ทกับราเชลขึ้นมา คนเขียนบทดันลืมอีกแล้ว ว่าอีฟินน์กับเคิร์ทเป็นพี่น้องที่อยู่บ้านเดียวกันนะวะคะ กลายเป็นว่าอีฟินน์ไม่ได้ข่าวกระทั่งเคิร์ทด้วยเหรอ เพราะอย่างน้อยที่เคิร์ทไม่กลับบ้าน ก็ต้องโทรบอกให้พ่อรู้ไม่ใช่เหรอ หรือว่า เคิร์ททำเพื่อราเชลขนาดที่ว่า เคิร์ทก็ต้องตัดขาดจากอีฟินน์ไปเลยอีกคน
แต่ที่สะใจที่สุดในฉากนี้ ก็คือตอนที่ ซานทาน่าวิจารณ์อีฟินน์เรื่องกังนัมสไตล์นี่แหละ
... 5. แล้วก็มาถึงบุคคลดีเด่นลำดับที่ 2 คืออิสซาเบล ไรท์ เจ้านายของเคิร์ท สรุปว่าอิสซาเบลนี่เอง ที่เป็นคนให้คำแนะนำดีๆกับเคิร์ท จนเคิร์ทยอมโทรหาเบลนก่อน จากที่เราเคยนึกสงสัยว่า ในเมื่อเคิร์ทบอกว่า ไม่เชื่อใจเบลนแล้วขนาดนั้น อะไรคือสิ่งที่ทำให้เคิร์ทเปลี่ยนใจได้
แอบเห็น Brooke Lipton ผู้ช่วยของพี่ Zach Woodlee มาเป็น cameo ด้วยหละ 9. พอเพลงจบ ก็มาถึงตอนสำคัญของคืนนี้สำหรับเรา นั่นคือ เคิร์ทยอมโทรกลับไปหาเบลน และนั่นทำให้ Kurt กลายเป็นบุคคลดีเด่นอันดับ1 ของคืนนี้สำหรับเราไปเลย เราชอบที่เคิร์ทพูดได้เป็นธรรมชาติมากอ่ะ ว่า ตอนนี้ ยังให้อภัยไม่ได้ แต่ก็เชื่อแล้วว่าเบลนเสียใจจริงๆ คือถ้ามันจะยกโทษให้อภัยกันง่ายๆขนาดนั้นมันก็เกินไปแล้ว ถึงเวลาเบลนทำตาเศร้าๆแล้วมันจะสงสารแค่ไหนก็เหอะ แล้วก็ชอบที่บอกว่า ยังไง เบลนก็คือ best friend ของเคิร์ท โอย... เกือบน้ำตาร่วง แล้วสีหน้าของเบลนก็แบบว่าสุดยอดมากอ่ะ ตอนที่เคิร์ทบอกว่า จะกลับไปคุยกันดีๆตอนคริสมาส ไปที่ไหนก็ได้ ยกเว้นไลม่าบีน เพราะตอนทำงานที่นั่น ดันเจอหนู เบลนเลยหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา แบบว่านะ เราละลายกลายเป็นศพอยู่ตรงนั้นไปเลย
งานนี้ต้องชมทั้งคริสและดาร์เรนจริงๆ เลยเนอะ เล่นได้ดีทั้งคู่เลยอ่ะ
... 10. อ้อ ตอนเบลนรับโทรศัพท์ ทั้งๆที่กำลังจะแข่ง แต่พอเห็นว่าเป็นเคิร์ท ยังไงก็รับสายทันทีเนี่ย นึกถึง deleted box scene เลยเนอะ
เบอร์ของเคิร์ท จะมีแฟนๆคนไหน ลองกดดูมั๊ยเนี่ย..
11. แล้วที่ประทับใจมากอีกฉาก ก็ตอนที่เคิร์ทกลับเข้ามาในห้อง แล้วเจออิสซาเบล มารอให้กำลังใจอยู่ ตอนนี้แหละ ที่เราน้ำตาแตกเลย ขนาดตอน Klaine คุยโทรศัพท์ยังแค่เกือบๆจะไหลเท่านั้น คือดีใจมากๆ ที่เคิร์ทมีอิสซาเบลอ่ะ เพราะแม้แต่ราเชล ก็ไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับเคิร์ทมาก่อนเลย ราเชลไม่เคยเป็นฝ่ายมาสังเกตอาการของเคิร์ทเลยอ่ะ
Kurt and Isabelle
12. และฉากของเคิร์ทกับอิสซาเบลนี่เอง ที่ทำให้เราคิดได้อย่างนึงว่า ที่เคยพูดๆกันว่า อยากให้ทั้งเคิร์ทและเบลนต่างก็ไปเรียนรู้ และได้เติบโต ก่อนที่จะกลับมาคืนดีกันใหม่ ของเบลนยังพอมองเห็นได้ชัดว่า เบลนมีข้อบกพร่องตรงไหน นั่นคือ เบลน มัวแต่เอาตัวเองไปยึดติดกับคนอื่น เช่นยึดติดกับเคิร์ทมากเกินไป หรือไม่ก็ยึดติดกับคำชม และการยกย่องจากคนอื่น (ก็เบลนไม่มีพ่ออย่างเบิร์ท มาคอยสอนว่าเบลนก็ matter นี่เนอะ) เบลนเลยไม่รู้จักที่จะมีความสุขได้จากข้างในตัวเอง แล้วพอไม่มีเคิร์ทอยู่ข้างๆ เบลนก็เลยคว้างอย่างที่พวกเราเห็น ขณะที่เคิร์ทจะเป็นอะไรที่ตรงกันข้าม คือเคิร์ทจะถูกเขียนบทให้เรารู้สึกว่า เคิร์ทเป็นฝ่ายที่ทำอะไรถูกต้องมาตลอด เคิร์ทจิตใจดี ที่ยกโทษให้ได้แม้แต่คนที่รังแกตัวเองอย่างคารอฟสกี้ เราเลยนึกไม่ออกว่าสิ่งที่เคิร์ทยังต้องเรียนรู้นั้นคืออะไร แต่พอมาวันนี้ ที่เคิร์ทโทรหาเบลนแล้วกอดอิสซาเบลในตอนท้าย มันทำให้เราเห็นแล้วว่า สิ่งที่เคิร์ทต้องเรียนรู้ และเติบโต ก็คือ การเลิกมองแต่จุดหมาย แล้วหันมามองที่ระหว่างทางบ้างนี่แหละ
คือเราหมายถึงว่า เคิร์ทจะออกแนว เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางอยู่เหมือนกัน ถึงจะไม่ได้หลงตัวเองขนาดราเชลก็เหอะ บ่อยครั้งเราเลยเห็นว่า เคิร์ทไม่ค่อยเห็นความสำคัญของคนรอบตัว อย่างพ่อที่เป็นห่วงและรักเคิร์ทมาก และพวกเราก็รู้ว่า เคิร์ทก็รักพ่อมากเหมือนกัน แต่เราก็ไม่ได้เห็นฉากเคิร์ทซาบซึ้ง หรือนึกขอบคุณพ่อเท่าที่ควร หรืออย่างตอนซีซั่น 2 ที่เพื่อนๆเป็นห่วงเคิร์ทเรื่องพ่อหัวใจวาย เคิร์ทก็มัวแต่โฟกัสกับความทุกข์ของตัวเอง จนแทบไม่ใส่ใจกับความรู้สึกของคนรอบข้าง ว่าคนอื่นก็ห่วงเคิร์ทเหมือนกัน หรือแม้แต่เบลน ที่ถึงจะโดนเบลนนอกใจ แต่ที่จริงเบลนก็คือเพื่อนที่ดีที่สุดของเคิร์ท ตั้งแต่เคยมีมาด้วยเหมือนกัน คือเคิร์ทจะเป็นเหมือนสำนวน take it for granted อะไรแบบนั้นอ่ะ
.... ดังนั้นวันนี้ เราเลยชอบมากอ่ะ ที่เขาเริ่มให้เคิร์ทรู้จักเรียนรู้ ที่จะมองระหว่างทางมากขึ้น ถึงเคิร์ทจะยกโทษให้เบลนไม่ได้ ก็ยังยอมรับว่าเบลนเป็นเพื่อน เคิร์ทรู้จักกอดขอบคุณอิสซาเบลที่เป็นห่วงและให้คำแนะนำดีๆกับเคิร์ทด้วย
.... สรุป บุคคลดีเด่นของตอนนี้
อันดับ3 ซานทาน่า โลเปซ สำหรับรางวัล รู้ใจคนดู .... อันดับ 2 อิสซาเบล ไรท์ (ที่จริงอยากให้อันดับ 1 แต่พอดีลำเอียง) ที่เป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำดีๆกับเคิร์ท แถมยังทำให้ปาร์ตี้สนุกมากๆ ..... อันดับ 1 เคิร์ท ฮัมเมล ที่เริ่มเติบโตมากขึ้น เป็น decent gentleman ขึ้นทุกวัน แต่ก็ยังเป็นคนธรรมดา ไม่ใช่เป็น Saint Kurt ที่ทำอะไรก็ไม่ผิด แตะต้องไม่ได้อะไรแบบนั้ และยังทำให้เบลน แอนเดอร์สัน นอนตาหลับได้เสียที
หมายเหตุ นึกออกแล้ว อะไรคือปัจจัย ที่ทำให้เราน้ำตาไม่ไหล ตอนฉาก Klaine ก็เพราะว่า สิวเม็ดเบ้อเริ่มของนายดาร์เรนนี่แหละ ที่มันทำให้เราเขวไปซะก่อน
gif source: X, X, x
สิวดาร์เรนแย่งซีนจริงๆนะ น้ำตาไม่แตกเลยวันนี้ 555555
#ไม่ใช่ล้ะ แอบส่องบล็อคมาระยะนึงขอบ่นบ้างนะคะ ฉากโทรศัพท์ที่รอคอยลอยคอทำให้อารมณ์ดีมาทั้งวัน วันนี้ต้องชมเลยว่าดาร์เรนกับคริสเล่นได้ดีตีบทแตกกระจายอีกแล้ว (ยกเว้นสิวดาร์เรนที่แย่งซีน) แต่อย่างว่าสายตาของดาร์เรนยังคงบาดใจเหมือนเดิม แบบดูไปก็เจ็บไปแถมคริสก็แสดงได้ธรรมชาติมากด้วย ตอนแรกเราแอบเฟลเห็นสปอย์หลังคริสมาสมาแล้ว แต่พอดูตอนนี้โดยรวมรู้สึกดีที่ทั้งคู่บอกว่าต่างคนต่างเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน คือ ก็จริงนะ เท่าที่ผ่านมาคงไม่มีใครเข้าใจทั้งสองคนได้ขนาดนี้หรอก โดยรวมแล้วคืนนี้ฟินกับฉากนี้ไปไม่น้อยค่ะ ส่วนอลิสซาเบทนี่ ปลื้มนางมากกกกกก ตั้งแต่อีพีแรกที่ปรากฎมาแล้ว แบบเป็นนางฟ้าแม่ทูนหัวจริงๆนะ ดูจะเข้าใจเคิร์ทมากกว่าเรเชลซะอีก คือตอนนี้เราหมั่นไส้เรเชลอีกครั้งที่พาโบรดี้(ผช.)มาที่ห้อง แบบก็เข้าใจว่ามาช่วยกันปาร์ตี้ แต่ไม่รู้สิ ถ้าเราเป็นรูมเมทด้วยเราไม่ค่อยจะชอบเท่าไหร่นะ แต่กับเคิร์ทคงชิน.... กลับมาที่อลิสซาแบทต้องขอบคุณจริงๆที่ทำให้เคิร์ทได้กล้ายอมรับที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เปิดทางให้เคิร์ทได้เห็นข้อผิดพลาดเล็กน้อยของตัวเอง แก๊งค์ glee ออริจินัลวันนี้รื้นจริงๆ น้ำตามีรื้นจริงๆ ได้ความรู้สึกว่ามันเป็นโมเม้นต์ที่ชวนให้ใจหวิวเหมือนกัน จากที่เมื่อก่อนเห็นจนชินแต่ในซีซั่นนี้มันช่างเป็นแรร์โมเม้นต์เหลือเกิน (แอบปลื้มควินส์พัคคิดว่าหลังจากจบซีซั่นสามจะไม่มีอะไรกันแล้ว อย่างน้อยๆแค่นี้ก็เอาล้ะ) แก๊งค์เด็กใหม่ เริ่มไม่ชอบมารีย์ (ความจริงหมั่นๆมาหลายตอน55) ไม่รู้นะ เราว่ามารีย์ดูซื่อเกินไปแบบเหมือนคิดเองไม่เป็น ทั้งๆที่ตอนที่แล้วยังประชดคิตตี้ได้ใจเราอยู่เลย แต่อย่างว่าต่อไปก็อาจจะเปลี่ยนไปก็ได้เขียนบทอย่างนี้อาจจะให้เราได้ดูการเปลี่ยนแปลงของตัวละคร ไม่รู้ว่าใครเกลียดคิตตี้ยังไงนะ แต่เรากลับชอบนางนะ นางร้ายๆ ปนฮาๆดีอ่ะ ยิ่งตอนนี้แล้วถ้าไม่นับเรื่องหลอก นางก็ดูจะเถิ้ดทูนควินส์แบบที่สาวน้อยคนนึงพึงมีเลย แอบเชียร์นางกับเจคเพราะรู้สึกเพอฟอร์มเข้ากันมากกว่าเจคมารีย์ ส่วนตัวเราว่ามาีรีย์เคมีมันเพอฟอร์มเหมาะกับไรเดอร์มากกว่าเท่าที่ดูจากตอน กรีส สำหรับ The Warblers ก็ยังทำให้เพลิดเพลินและชื่นชมได้อยู่ แต่ในเพอของฮันเตอร์เพลง Whistle เราว่าเพอมันดูกวนๆ แบบท่าทางลักษณะเพอฟอร์มไรงี้ หรือเราติดภาพลุคเก่าๆแบบตอนที่เซบาสเตียนกับพี่เบลนเป็นกัปตันมากกว่าก็ไม่รู้ คงจะใช่เพราะในเพอที่เซบาสเตียนร้องนำ Live while we young นี่ เราชอบนะ รู้สึกว่ามันนี่สิ The Warblers ไรเงี้ยะ บ่นมาซะยืดซะยาววว ขอโทษนะคะ มันค้างเติ่งต้องระบาย โดย: hawaze IP: 171.100.179.0 วันที่: 1 ธันวาคม 2555 เวลา:2:22:50 น.
Quote ที่บอกว่า theme คือ Foreigner นี่ Finn มันกำหนดเองป่าวคะ - Reinz
ถ้าเป็นแบบนี้จริง ND จะไปรอดมั๊ยเนี่ย  Quote ยังสงสัยว่าน้อง Kurt เรียก Sebastian ว่า Criminal Chipmunk เพราะหน้าตาหรือเสียงแหลมๆสูงๆรึป่าว ฮ่าๆๆ - Reinz  โดย: tcKk
 วันที่: 1 ธันวาคม 2555 เวลา:10:49:02 น.คุณ hawaze บ่นยาวแค่ไหนก็ได้ตามสบายเลยค่ะ มาบ่นได้อีกเรื่อยๆเลยนะ เพราะเราเปิดบลอกมาเพื่อบ่นอยู่แล้ว 55 แบบว่า สำหรับ Klainers ด้วยกันเนี่ย ยิ่งบ่นยาว ทุกคนยิ่งชอบอ่านค่ะ
เนอะ Isabelle Wright เป็น Fairy Godmother ของเคิร์ทจริงๆ แบบว่าตรงข้ามกับ คาสซานดร้า ของราเชลเลย (ตรงนีแหละ ที่เรายิ่งสะใจมากกกก) เราก็ชอบคิตตี้ค่ะ แต่เพราะความร้ายของคิตตี้ เรากลับแอบคิดว่า คิตตี้อาจจะไม่ได้บูชาควินน์ แต่ทำเพราะประจบ หวังจะวางยาควินน์ด้วยเปล่าเนอะ สรุป (แบบกระซิบๆ) ที่ทุกคนแอบหงุดหงิด สปอยเลอร์หลังคริสมาสต์เนี่ย เป็นเหมือนเรากันรึเปล่าคะ คือหมายถึง หงุดหงิดเพราะข่าวจากฝั่ง ND น่ะ  โดย: tcKk
วันที่: 1 ธันวาคม 2555 เวลา:11:11:59 น.ไม่ได้มาน้านนน... นาน แต่ตอนนี้มันอดไม่ได้จริงๆ ฉากโทรศัพท์เป็นอะไรทีสุดยอดมาก
ตอนแรกดูๆไปก็คิดอยู่ว่าเบลนหายไปไหนหว่า เกือบทั้งตอนเชียว ไร้บท ไร้การปรากฎตัว แต่สุดท้ายก็โผล่มา แถมมาซะแรงเชียว ดีใจมากที่เคิร์ทยอมโทรมาหาเบลน (แต่เรื่อง text ที่เคิร์ทส่งไปหาเบลนตอนแรกนี่แรงนะ ไม่อยากจะคิดเลยว่าพออ่านแล้วเบลนจะซึมขนาดไหน) แล้วตอนที่เคิร์ทบอกว่าคริสมาสต์จะได้เจอกันแล้วเบลนร้องไห้ ตอนนั้นจะร้องไห้ตาม (ซึ่งเราไม่ได้สังเกตสิวดาร์เรนเลยจริงๆ มัวแต่ซาบซึ้ง แต่พอมาดูทีหลัง สิวนางเม็ดใหญ่จริงๆแหละ 555) ตอนนี้เรื่องเคลนแฮปปี้มาก มากมากมาก แต่ก็เป็นเหมือนที่คนอื่นๆบอก จ4คือจะพยายามทิ้งสปอยล์ที่ได้รับมาออกไปจากหัวก่อน -____- ขอพูดเรื่องคนอื่นๆบ้างนิดนึง ตอนนี้ควินน์กลับมาแล้ว สวยมาก เพลง Homeward Bound/Home ก็เพราะมาก เปิดเรื่องมาเราก็ร้องไห้เลย (แต่แอบเสียดายมี่ไม่มีเคิร์ทกับเรเชล) แต่มีความรู้สึกว่าคนเขียนบทนี่ทำร้ายควินน์จังเลย นางเรียนจบไปแล้วยังอุตส่าห์หาเรื่องให้นางอีกนะ -__-;; แล้วก็ชอบชอบซานตอนด่าฟินน์เรื่อง Gangnam Style มาก แต่กลีนี่เวลามีตบกันมักจะไม่ค่อยมีผลอะไรตามมาเนอะ ตบแล้วก็จบ ตั้งแต่ควินน์เรเชลแล้ว ตอนนี้เราชอบฮันเตอร์มาก ชอบตั้งแต่นางเปิดตัวด้วยการอุ้มแมวขนฟูแล้ว ราชินีเวอร์ 555 โชว์ของวาบเบลอร์ก็ยังดูดีเหมือนเดิม ฝั่งเด็กใหม่นี่ชอบมิตรภาพของเจคกับไรเดอร์นะ แต่รำคาญมาร์ลีย์เบาๆ นางจะใสอะไรนักหนา หนูคิดเองเป็นไหมคะ -__- แล้วนางก็ชอบทำตัวเหมือนสวยเลือกได้ด้วยอ่ะ หมั่นไส้ -__- (ค่อนข้างจะอคติ 555) แต่ชอบคิตตี้ตอนขยิบตาให้กรรมการมากๆ แล้วคือควินน์ทำหน้าภูมิใจด้วยอ่ะ 555 แอบรำคาญเรเชลนิดนึงด้วยนะตอนนี้ รู้สึกว่านางให้อภัยโบรดี้ง่ายจัง แถมยังดูโฟกัสไปที่ผู้ชายมากไปหน่อยด้วย (หรือรู้สึกไปคนเดียวก็ไม่รู้) เอ้อ แล้วเพอร์ฟอร์ม Let's Have A Kiki / Turkey Lurkey Time นี่เจ๋งมาก ตอนแรกฟังเพลงไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่พอได้แล้วชอบเลย สนุกเวอร์ (เ่อ่อ เราบ่นอะไรหว่า ยาวเชียว... 555) โดย: ifaan IP: 223.205.99.32 วันที่: 1 ธันวาคม 2555 เวลา:12:07:10 น.
หายไปนาน เพราะ ifaan มัวแต่ reblog teen wolf อยู่รึเปล่า เห็นนะ
quote แอบรำคาญเรเชลนิดนึงด้วยนะตอนนี้ รู้สึกว่านางให้อภัยโบรดี้ง่ายจัง แถมยังดูโฟกัสไปที่ผู้ชายมากไปหน่อยด้วย - ifaan ว่ามั๊ย บางทีมันก็เหมือนคนเขียนบทเรื่องนี้ คิดมุขอื่นไม่ออกรึไงไม่รุ เวลาจะให้ตัวละครหญิงออกดรามา ก็เน้นไปที่ประเด็นผู้ชายในชีวิตนี่แหละ เนอะ แต่คิดว่า ที่ราเชลให้อภัยโบรดี้ได้ง่ายๆ เพราะราเชลสำนึกตัวว่า ราเชลไม่มีสิทธิโกรธโบรดี้รึเปล่าคะ แบบว่า ที่จริง 2 คนนี้ เขายังไม่ได้ถึงขั้น คบกันเป็นแฟนเลยอ่า ที่โบรดี้พูดในห้องเรียนเต้นก็ถูกแล้วอ่ะ "why do you care who I slept with" แล้วตอนที่กำลังจีบๆกันอยู่ อีฟินน์ก็โผล่มา ราเชลก็กลับไปหาอีฟินน์ซะก่อน เลยยังไปไม่ถึงไหนนิ สำหรับเรา เราว่าโบรดี้ต่างหาก ที่ยอมเรเชลง่ายไปหน่อยอ่า (ซะงั้น 55) แล้วทำไม อีประชากรในเรื่องนี้ มันช่างสามารถเอาเรื่องส่วนตัวมาคุยท่ามกลางธารกำนัลกันได้เรื่อยเลยเนอะ แถมเรื่องที่นักเรียนไปนอนกับครู ก็ดันพูดออกมาด๊าย น่าจะได้ยินกันทั้งห้องเลยนะน่ะ เอ๊ะ หรือเขาจะติ๊งต่างว่า นักเรียนคนอื่นๆไม่ได้ยินที่ราเชลกับโบรดี้พูดกัน เหมือนตามโรงลิเกอะไรแบบนั้น โดย: tcKk
วันที่: 1 ธันวาคม 2555 เวลา:14:24:48 น.มาแปะ Fan Art โดย //uepontiki.tumblr.com/post/36919860657
Kurt นี่แหละ Kitten Boy ตัวจริง แรงบันดาลใจจาก ภาพ Episode still 4.08   น่าร๊าก... แมวขโมย .. ขโมยหัวใจเบลน (ต๊าย พูดไรออกไปเนี่ย...) โดย: tcKk
วันที่: 1 ธันวาคม 2555 เวลา:15:16:16 น.คุณ tcKk
แฟนอาร์ตไวมากค่ะ! ตายแล้วว น่ารักกกกก มาเห็นด้วยว่าที่หงุดหงิดสปอย์เพราะฝั่ง ND ล้วนๆค่ะ -.- ขออนุญาติตามทัมเบอร์นะคะ มีคนไทยสบายใจ 55555 คุณ ifaan ดีใจนะ ที่ในสุดก็เจอคนชอบฮันเตอร์เหมือนกัน นางราชินีจริงๆ 555555 โดย: hawaze IP: 171.100.179.0 วันที่: 1 ธันวาคม 2555 เวลา:15:42:35 น.
ตายแล้ว แอบเขินคุณ tcKk นิดนึงนะเนี่ย แต่เรา reblog teen wolf เยอะจริงๆแหละพักหลังเนี่ย (ส่วนมากเป็น sterek ด้วย 555) ถ้ารำคาญก็ขอโทษนะคะ แต่เราชอบคู่นี้ม้ากมาก (//นอกเรื่อง)
ขำที่บอกว่าคนอื่นๆจะไม่ได้ยินที่ตัวละครเอกพูดกันเหมือนในโรงลิเก มันใช่เลย 555 พวกนางคุยกันไม่แคร์ใครจริงๆ ว่าแต่ตกลงเรเชลกับโบรดี้นี่คือยังไงหว่า ? คบกันแล้วหรือยังไง ? แฟนอาร์ตเคิร์ทน่ารักมว๊ากกกกกกกก พ่อแมวเหมียว ♥ ใช่มั้ยคะคุณ hawaze นางราชินีที่สุดในสามโลก ทั้งแมวทั้งเก้าอี้หมุนๆ (ดูเรียกเข้า) ใช่เลย ! ถึงนางจะบอกว่านาง not even remotely bi-curious ก็เหอะ 555 (เราแอบชิบ huntbastian แหละ ซึ่งคุณ tcKk อาจจะรู้ได้จากการ reblog อย่างบ้าคลั่งของเรา ...พูดแล้วก็แอบเขินนะเนี่ย 555) โดย: ifaan IP: 223.206.126.108 วันที่: 1 ธันวาคม 2555 เวลา:17:17:19 น.
คุณ Hawaze
ได้เลยค่ะ ตาม Tumblr ของเราได้เลย เราก็เลยตามกลับแล้ว อะ ฮ่า ตามกันไป ก็ตามกันมา ดีจัง มีพวกเราที่สิงทัมเบลอร์กันหลายคนแล้ว มีอะไรดีๆ ก็เอามาแบ่งกันที่นี่อีกต่อนะคะ พูดถึง hunbastian นี่ เราก็ว่าเป็นคู่ fanon ที่สมกันออกนะ ถึงเราจะไมได้ตามอ่านฟิคของคู่นี้ แต่พอเห็นจากในทัมเบลอร์ที่เขาชิปกัน ยังอดจิ้นตามไม่ได้ว่า พอเซบาสเตียนอยู่กับฮันเตอร์นี่ เซบาสเตียนอาจจะเชื่องเป็นหนูกลัวแมวเลยก็ได้ คุณ ifaan sterek ไม่น่ารำคาญเลยค่า 55 เราว่านี่คือสิ่งที่เราชอบเกี่ยวกับ ทัมเบลอร์นะ คือ ถึงเราจะตามใครบางคน เพราะเขาสนใจในสิ่งเดียวกับเรา แต่คนเราก็มีความสนใจได้หลายเรื่อง และบ่อยครั้งเราก็เจออะไรดีๆ จากแดชบอร์ดนี่แหละ เราเองก็ตามเรื่องอื่นๆนอกจาก glee ด้วยอ่ะ เพียงแต่ไม่ค่อยเอาไปรี-บล็อกเท่านั้น ว่าแล้ว ก็ขอเอาลิงค์ รีแอคชั่นฟิค ฉากโทรศัพท์ของ Klaine ที่ ifaan รีบล็อกมาแชร์กับนักอ่านฟิคที่นี่นะคะ เราตามไปอ่าน แบบว่า น้ำตาไหลพราก //jinglebellblaines.tumblr.com/post/36862256845/i-love-you เบลนจะเป็นยังไง หลังจากที่ได้รับโทรศัพท์จากเคิร์ท.. โดย: tcKk
วันที่: 2 ธันวาคม 2555 เวลา:9:20:32 น.พูดถึงฉาก โทรศัพท์ของ Klaine ขอพูดถึงบรรดานักวิจารร์จากสื่อหน่อยเหอะ คือเราจะเป็นคนที่ชอบตามไปอ่าน บรรดา recap and review จากเว็บสื่อต่างๆอ่ะ คิดว่าหลายคนก็คงเป็นเหมือนกันเนอะ อย่างพวก Afterelton (อันนี้อ่านแล้วมันส์) eoline, vulture etc. อะไรพวกนี้
ฉากโทรศัพท์ของ Klaine จะได้รับคำชมเยอะมากเลยเนอะ ถึงฉากอื่นๆจะมีด่ามั่ง อะไรมั่ง แต่ส่วนใหญ่ ฉากโทรศัพท์ klaine จะได้รับการตอบรับในทางดีมากๆ อย่างล่าสุดจาก examiner ที่เพิ่งไปอ่านมา อ่านแล้ว แบบว่า ปลื้ม... อ่านแล้วโดนใจที่สุด ตั้งแต่่อ่านบรรดารีวิวมา 'Glee': Will lingering love be enough to reunite Kurt and Blaine at Christmas? Just when we thought the Kleenex supply was lasting a little longer, Kurt goes and calls Blaine, just as hes about to perform at sectionals. Blaine is shocked at Kurts name on the caller ID and steps away from the group to take the call in private. Were not sure whose heart is pounding faster, Blaines or ours, as we anticipate what Kurts going to say. A short phrase to sum up the call: Totally heart wrenching. There are so many reasons Klaine is such a cherished, beloved couple and perhaps even the most favorite on Glee. The driving force behind the fan shipping is unquestionably the incredibly brilliant job Chris Colfer and Darren Criss do bringing Kurt and Blaine to life and making their feelings in any given moment in their relationship so wonderfully real. The amazing thing about this phone call is how much we feel what they are feeling on two separate ends of the conversation, in two separate places. Blaine clings to every word Kurt says (and so do we, who are we kidding?). When Kurt says I miss you like crazy and Youre still my best friend Blaine fights tears and ours flow helplessly--en masse. Kurt promises theyll have a mature heart-to-heart at Christmas and maybe go ice skating. Darren Criss just nails how you can be so happy and sad at once that you cant really even speak. So Blaine sort of squeaks out, So were really gonna see each other at Christmas? and Kurt says yes, with confidence. When Blaine sort of breathes out, I love you so much, Kurt Kurt offers a shorter, more crisp, I love you too. Its obvious Kurt is trying to keep his chin up and not break down until Isabelle finds him and offers him a hug and tears roll down his face. Who else is still crying, has never stopped and is not the least bit ashamed to admit it? Some big questions remain: Will Kurt and Blaine be able to pick up the pieces from here and continue on together? Or, will they meet at Christmas and redefine the relationship? Will they resolve, due to trust issues on Kurts side and the distance between them, to just be friends from here? Because, how will Blaines loneliness and insecurities be cured when Kurt will still be so far away? What will keep Kurt believing that Blaine won't turn to someone else again to fill the void? Do we smell a Brittana style permanent split for Klaine coming soon? Bottom line: Of course we want Klaine to get back together and live happily ever after, Amen. And, Blaine seems truly remorseful for his actions and very intent on never repeating that kind of mistake. But, in some unfortunate cases, love just isn't enough to overcome other obstacles. We have no choice but to anxiously wait for a Glee Christmas to find out where Kurt and Blaine go from here sniff, sniff!  โดย: tcKk
วันที่: 2 ธันวาคม 2555 เวลา:9:27:02 น.เห็นด้วยกับทุกคนเลยล่ะ ว่าฉากโทรศัพท์นี่เล่นดีทั้งคู่ ซึ้งน้ำตาไหลกันไปเลย ดาร์เรนนี่เก่งเนอะ เพราะไอ้อารมณ์ที่ทั้งดีใจสุด ๆ ปนกับเศร้า ๆ เนี่ยมันก็ทำยากอยู่นะ แต่เธอก็เล่นออกมาให้เรารู้สึกแบบนั้นได้
ส่วนสปอยเล่อร์ หลังคริสมาสต์น่ะ ก็ช่างมันเถอะ คิดถึงแล้วจะเสียอารมณ์ที่ได้จากฉากโทรศัพท์ซะเปล่า ๆเนอะ เห็นด้วยกับคุณ tcKk นะ เพราะคำว่า take for granted เนี่ยมันใช่เลยแหละ เราคิดว่าเป็นเพราะเคิร์ทไม่เคยคิดว่าเบลนจะเปลี่ยนไปได้ เลยวางใจน่่ะ เพราะที่แล้ว ๆ มามีแต่เบลนที่กลัวเคิร์ทจะเปลี่ยนไปเนอะ เราก็เลยอดคิดถึงเพลงของมาดอนน่าเพลงนึงไม่ได้นะ ชื่อ one more chance น่ะ แต่ว่ามันไม่ได้ตรงเป๊ะกับสถานการณ์ของเคิร์ทหรอกนะ เพียงแต่ให้ความรู้สึกว่าเป็นเพราะวางใจเกินไป พอแฟนเปลี่ยนไปเลยทำใจไม่ได้ รีวิวที่เอามาลงก็ดีค่ะ เขียนได้ตรงใจดี ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วนักแสดงเค้ารู้ไหมนะ ว่าตอนท้ายมันจะเป็นยังไง หรือก็เล่นไปตามบทแต่ละอาทิตย์ที่ได้รู้มาเท่านั้น ส่วนสปอยเล่อร์บางครั้งก็มีรายละเอียดที่ไม่ตรงกับในเรื่่องนะ เช่นเคยอ่านเจอว่าเคิร์ทจะโทรหาเบลนตอนตัวเองเมา (จำไม่ได้ว่าอ่านเจอที่ไหนนะ) แต่ของจริงก็ไม่ได้เมานี่นา ว่าแล้วก็ให้มันผ่านไป รอดูตอนใหม่ดีกว่า โดย: UnbreakableKB IP: 58.11.33.181 วันที่: 3 ธันวาคม 2555 เวลา:19:53:35 น.
Quote ส่วนสปอยเล่อร์บางครั้งก็มีรายละเอียดที่ไม่ตรงกับในเรื่่องนะ เช่นเคยอ่านเจอว่าเคิร์ทจะโทรหาเบลนตอนตัวเองเมา (จำไม่ได้ว่าอ่านเจอที่ไหนนะ) แต่ของจริงก็ไม่ได้เมานี่นา - UnbreakableKB
ไอ้ที่โทรหาตอนเมา เแฟนๆเมาท์เดากันเองเปล่าคะ เพราะ GOBr สปอยล์แค่ว่า เคิร์ทจะโทรหาเบลนก่อนแค่นั้นอ่า แต่ดีแล้วเนอะ ทำออกมาเป็นแบบที่พวกเราได้ดู ดีกว่า โทรเพราะเมาเยอะเลยอ่า แต่เรื่องหลังคริสมาสต์นี่ เท่าที่อ่านจากบล็อกของทัมเบลอร์ที่ฮิตๆ หลายคนบอกว่า ไม่ห่วงนะคะ เขาเดากันว่า น่าจะอารมณ์พล็อตแนวฮาๆมากกว่า เหมือนตอน Silly Love Song ไง สุดท้ายก็กินแห้วกันเป็นแถว เราเลยสบายใจละ (เราไม่ได้หูเบาเล๊ย ไม่ได้หูเบานะ...แค่อะไรดีๆ ก็พร้อมจะเชื่อเสมอก็แค่น้้นเอง 555) และหลายคนเดาๆว่า ดูจากฉากคริสมาสต์ เรื่องของ Klaine จากนี้ไป น่าจะเป็นกลับกันกับซีซั่น 2 ก็ได้ คือตอนแรกเคิร์ทแอบชอบเบลนอยู่ฝ่ายเดียว แล้วก็ต้องรอจนเบลนค่อยคิดได้ แต่คราวนี้ เบลนจะต้องเป็นฝ่ายตามเคิร์ท รอเคิร์ทมั่งแล้วอะไรแบบนั้น เราก็อยากจะเชื่อแบบนี้นะ 555 แหล่งสปอยเลอร์นี่ เราว่าตอนนี้ GOBr เชื่อถือได้ที่สุดแล้วเนอะ เราแอบคิดแล้วว่า GOBr เป็นทีมงานของ RIB เลยด้วยซ้ำ เพราะสังเกตุป่ะ ว่าป้าหายหน้าไปจากการทวีตเลย แล้วแฟนๆ เองก็มีปฎิสัมพันธ์ในทางบวกกับ GOBr มากกว่าด้วยอ่า ทำแบบนี้แล้วว่าจะ keep การคาดหวังรอคอยของแฟนๆได้ดีกว่าไม่มีสปอยเลอร์เลย แต่ถ้าป้าทำเอง ป้าก็เจอศึกหลายทางอะไรแบบนั้น โดย: tcKk
วันที่: 4 ธันวาคม 2555 เวลา:0:01:02 น.Quote ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วนักแสดงเค้ารู้ไหมนะ ว่าตอนท้ายมันจะเป็นยังไง หรือก็เล่นไปตามบทแต่ละอาทิตย์ที่ได้รู้มาเท่านั้น - UnbreakableKB
เราว่าคงไม่มีใครรู้อะไรเลยค่ะ แม้แต่บรรดานักเขียนเอง แต่เข้าใจว่าคงรู้แค่โครงเรื่องคร่าวๆ ว่าทิศทางซีซั่นนี้จะเป็นยังไง จะแบ่งNY กับโอไฮโอยังไง แบบ RIB ไปคุยกันมา แล้วก็ค่อยสั่งนักเขียนทีละตอน ว่าจะเอาบทยังไงมั๊ง จำได้ว่าตอนจบของซีซั่น 3 คริสก็ไม่ยังเลยรู้อ่ะ ว่าเคิร์ทจะเข้า NYADA ได้เปล่า ยิ่งเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครนี่ เราว่าคงยิ่งบอดกันไปเลย อย่างเช่น ป้าอาจจะตั้งใจว่า ยังไงตอนจบ FInchel ก็จะ endgame แต่ก็คงไม่มีใครรู้แม้แต่ป้า ว่า จะได้กลับมาคืนดีกันในซีซั่นนี้ไหม ทุกอย่างต้องรอดูแนวโน้มตลาด และสถานการณ์เรทติ้ง+ ยอดขาย itunes เป็นหลัก 55 อย่าว่าแต่พล็อตเลย เราว่าแต่แต่ละตอน ยังเปลี่ยนได้กลางอากาศ ขนาดนักแสดงก็ไม่รู้ว่า ถ่ายๆไป จะต้องเจออะไรมั่งแล้วมั๊งเนอะ จำได้เคยอ่านเจอว่า ตอนปีที่คริสได้เข้าชิงเอ็มมี คริสต้องไปนั่งเสวนา Emmy Roundtable กับพวกลุงๆ อย่าง NPH, STF อะไรพวกนั่นด้วย ขณะที่นักแสดงจากเรื่องอื่นๆบ่นว่า ปกติจะได้บทมาก่อนล่วงหน้า อาจจะ 2-3 วันเอง นักแสดงก็มีเวลาซ้อมนิดหน่อย แต่บางเรื่องอย่าง Modern Family จะมีแบบ Table Reading คือเอาบทมานั่งซ้อมอ่านกันที่โต๊ะอะไรแบบนั้นด้วย แต่คริสบอกว่า ของGlee บทจะมาค่อนข้างกระชั้นกว่าอีก บางที่ก็ได้บทตอนกำลังจะเข้ากล้องนั่นแหละ ดาร์เรนก็บอกว่า ตอนที่จะเข้ากล้องเพลง Don't Speak ที่ Battery Park ดาร์เรนไม่รู้มาก่อนเลยว่าจะถ่ายฉากซีเรียสขนาดนั้น เลยเสียดายมากๆ ไม่งันจะได้เตรียมตัวให้ดีกว่านี้ เกิดเป็นนักแสดง Glee นี่ มันลำบากจริงๆเนอะ งานก็หนัก เวลาเตรียมตัวก็ไม่มี แถมยังต้องแบ่งเวลาไปอัดเพลงและซ้อมเต้นด้วย ค่าตัวก็น้อยมากเมือเทียบกับเรื่องอื่นๆ (เขาว่าขนาดนักแสดงเด็กใน Modern Family ที่เล่นละครความยาวแค่ 22 นาที แล้วก็ไม่ต้องเหนื่อย ร้องรำทำเพลงอะไรกันเลย ยังได้ค่าตัวตอนละเป็นแสน(เหรียญ) มากกว่าของพวกเด็กๆ Glee อีกอ่า โดย: tcKk
วันที่: 4 ธันวาคม 2555 เวลา:0:13:48 น.I have recently started a website, the information you provide on this website has helped me tremendously. Thanks for all of your time & work.
louis vuitton borse //www.boano.com/form/img/nalv.asp โดย: louis vuitton borse IP: 94.23.252.21 วันที่: 12 สิงหาคม 2557 เวลา:18:19:37 น.
|
tcKk
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] รัก Glee เลยชอบบ่น (ชนิดตัวเองด่าได้ แต่ไม่อยากฟังคนอื่นด่า Glee) เป็น Klainer และรัก Chris Colfer อย่างลำเอียง คำเตือน มาบล็อกนี้ ยังไงก็เจอสปอยเลอร์แน่ๆ |
||||||||||||
แต่ตอนนี้ดูแล้วคิดถึงฉาก I Say a Little Prayer เลยค่ะ
รวมถึงคนที่จบไปแล้วและกลับมารวมตัวกัน คิดถึงอ่ะ
ที่บอกว่า theme คือ Foreigner นี่ Finn มันกำหนดเองป่าวคะ
เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ไม่เห็นอีก 2 โรงเรียนจะใช้เพลงต่างประเทศเลย
((ก็มีแต่เพลงของ One Direction ที่มาจาก UK แต่ก็ร้องเป็นภาษาอังกฤษอยู่ดี))
เราว่า Sebastian เสียงสูงไปน่ะค่ะ เราเลยเฉยๆกะเสียงร้อง แต่โดยรวมก็ใช้ได้สำหรับเรา
แล้วเราว่ายังดีกว่าตอนที่ร้อง Glad You Came ที่รู้สึกว่าเสียงสูงมาก
[ยังสงสัยว่าน้อง Kurt เรียก Sebastian ว่า Criminal Chipmunk เพราะหน้าตาหรือเสียงแหลมๆสูงๆรึป่าว ฮ่าๆๆ
((จะว่าไป ทำไม Sebastian มักได้เพลงที่นักร้องมาจาก UK ล่ะเนี่ย))]
ตอนนี้ยิ่งชอบ Isabelle มากขึ้นหลายเท่าเลย เธอเหมือนเป็นแม่ของ Kurt เลยนะ
ให้คำแนะนำดีมาก ทำให้ Kurt โทรหา Blaine ด้วย >_<
ดูแล้วดีใจแทน Blaine เลยอ่ะ ทั้งคู่ดูเศร้าๆมาหลายตอนแล้ว มีฉากแบบนี้นิดนึงก็ทำให้มีความสุขแล้ว
[ส่วน Spoiler ที่เราเจอมา ขอทิ้งไปก่อน ไม่รู้จริงมากน้อยแค่ไหน แต่ขอให้อย่าเป็นจริงเลย]