Song DL : here

password: gleemusicdl

คือวันนี้ต้องดูแบบ livestream เป็นครั้งแรก เพราะ เดี๋ยวเราจะต้องไปเชงเม้งกับที่บ้าน กว่าจะกลับตั้งวันจันทร์แน่ะ ถ้าไม่รีบดู คงจะขาดใจตายก่อนแน่ เลยต้องทนดูแบบกระท่อนกระแท่นมาก

1. เปิดฉากมา เป็น Blam คืออยู่ๆคุณชายเบลนก็เอาตังค์มาให้แซม เพราะเห็นแซมแอบไปจิ๊กพวกพาสต้าในโณงอาหาร เลยนึกว่าแซมอดอยาก อะไรขนาดนั้น แซมสารภาพว่า เป็นเพราะงานอดิเรกที่น่าอาย ต่างหาก แซมเอามาทำงานศิลปะ รูปคนเยอะแยะเลย มีรูปเคิร์ทด้วย

2. แล้วแซมก็บอกให้เบลนสารภาพ Guilty pleasure ของตัวเองมั่ง เบลนเกือบจะหลุดปากว่า เป็น Blam แต่รีบเปลี่ยนเป็น wham เลยเป็นที่มาของหัวข้อที่ชมรมอาทิตย์นี้ เพราะเบลนกับแซมยังต้องทำหน้าที่แทนครูชูส์ที่ทิ้งความรับผิดชอบ หายหัวอยู่ (อีฟินน์ก็หายไปทั้งตอนเหมือนกัน)

3.ฝั่งนิวยอร์ค เป็น Kurt in Acting Class แบบว่า เคิร์ทสบายมากกับชั้นเรียนวิชานี้ เพราะเคิร์ทชอบดูพวกละครเยอะมาก ที่บอกไปก็อายเขา และ Guilty Pleasure ของเคิร์ทก็เยอะมาก อย่างเช่น เวลาอยู่คนเดียว เคิร์ทจะแบบ เต้น Jazzercise ของ Richard Simmons (เราดูลุงคนนี้มาตั้งแต่เด็กเหมือนกันนะเนี่ย 55 )แต่ที่น่าอายเหมือนสิ่งอื่นใด คือเคิร์ทมี Boyfriend Piollowนชื่อ bruce ชนิดที่เบลนหรืออาดัมก็ไม่เคยรู้ และไม่อยากให้รู้ด้วย ตอนที่เพื่อนจับได้ อย่างน่ารักเลย บอกว่า จะไม่ยอมให้ใครยืม bruce เด็ดขาด

4. ส่วนเพลงที่เป็น guilty pleasure ของแซม คือ Copacabana ของแบรี่ แมนิโลว (สารภาพว่า ของเราก็เหมือนแซมเลย แต่ของเราเป็นเพลง Mandy อ่ะ ได้ยินที่ไหนปุ๊บมันจะอดไม่ได้ ออกอาการ ร้องตามทันที) แต่ยังไงแซมรู้ทันเบลนว่า ไม่ใช่แค่ wham ที่เป็น Guilty Pleasure ของเบลน แซมคิดว่าเบลนยังบอกไม่หมด

5. ส่วนเจค ชอบเพลงของ คริส บราวน์ เลยโดนผู้หญิงทั้งชมรมถล่มเละ เพราะคิดว่า ผู้ชายเลวๆแบบนั้น ไม่สมควรที่เจคจะไปชอบเพลงของเค๊า แต่เจคก็เป็นคนที่อธิบายความหมายของ guilty pleasure ได้ชัดเจนว่า ก็น่าอายที่ไปชอบเพลง ของคริส บราวน์ทั้งๆที่เค๊าไม่ใช่ role model ที่ดี แต่ บริทนีย์ สเปียร์ อะไรพวกนั้น ที่คนอื่นชอบ ก็ไม่ใช่ role model ที่ดีเหมือนกันแหละ

6. ราเชลกับโบรดี้ทะเลาะกัน แต่ราเชลก็บอกเพื่อนๆว่า จะไม่ยอมเลิกกับโบรดี้ง่ายๆหรอก และในที่สุด เคิร์ทยอมเอาหมอนให้เพื่อนๆยืม ซานทาน่าเลยบอกราเชลไปตรงๆ เรื่องที่โบรดี้ขายตัว ตอนแรกราเชลก็ไม่เชื่อ เลยถามเคิร์ท แค่เห็นเคิร์ทอึ้ง ราเชลเลยรู้ว่า ซานทาน่าพูดจริง

7.ต่อมา เบลนร้อง Against all odds บรรยากาศน่าอึดอัดมาก จนทุกคนรู้สึกได้ ทีน่าเหมือนจะรู้ทัน เลยถามเบลนตรงๆว่าร้องเพลงนี้ให้ใคร เบลนบอกว่า แน่นอน ก็ต้องให้เคิร์ทสิ แล้วก็บอกว่า ไม่ปิดบังเรื่องที่บูชาฟิลล์ คอลิน เจ้าของเพลง แต่ดูเหมือนว่าแซมและทุกคนจะรู้ว่าเบลนพูดไม่จริงทั้งหมด (ตูว่าแล้วเชียว ว่าต้องเป็นเพราะแซม แบบนี้เองที่ Gleekoutbr เลยไม่ยอมมาเฉลยว่าเบลนร้องเพลงนี้ให้ใคร)

8.มาอีกทีเป็นเพลง wanna be แล้ว และสรุปว่า เจคเปลี่ยนใจมาร้องเพลง ของBobbi brown แทน

9. ราเชลไปเคลียร์กับโบรดี้ที่หลอกราเชล โบรดี้ก็สวนว่าราเชลก็โกหกโบรดี้เหมือนกัน เพราะโบรดี้รู้เรื่องที่ราเชลยังรักฟินน์อยู่ และไปนอนกับฟินน์มา ราเชลเลยสารภาพว่า คงยังมีใจให้ฟินน์อยู่จริง และเอาโบรดี้เป็นตัวแทน สองคนนี้เลยร้องเพลง creep แล้วก็คงจบกันแค่นี้ (มั๊ง) แต่คิดว่า โบรดี้คงยังไม่หายไปจาก Glee แน่ เพราะได้ยินว่า ยังมีฉากอีกหลายฉาก กับ อีฟินน์ก็มีด้วย

10. ตอนท้าย แซมไปถามเบลนตรงๆว่า Guilty pleasure ของเบลนก็คือแซมใช่ไหม เบลนเลยต้องยอมรับ แต่เจ็บใจมากเลยตอนนี้เนทกระตุกได้อีก เลยแทบไม่รู้เรื่องเขาพูดอะไรกัน รู้แต่ว่า ที่เบลนไม่กล้าบอก เพราะกลัวเสียความเป็นเพื่อน แต่แซมก็เข้าใจเบลน พูดติดตลกว่า ก็ช่วยไม่ได้ที่ตัวเองมีสเน่ห์อ่ะนะ นายมาชอบก็ไม่แปลกร้อก และแซมก็บอกว่า แซมกับเบลนเหมือนเป็นพี่เป็นน้องกัน ก็เลยจบด้วยดี มาถึงตอนนี้ ส่วนตัวเราแอบคิดว่า ที่เขาเลือกให้เบลนร้อง AAO เนี่ย เพียงเพราะ เนื้อร้องท่อนที่ว่า You're the only one who really knew me at all เท่านั้นรึเปล่า เพราะ Glee ชอบทำแบบนี้บ่อยๆ คือไม่ได้สนใจเนื้อเพลงทั้งหมด แต่บางทีเลือกเพลงมา เพราะชื่อเพลงเข้ากับเนื้อเรื่อง หรือแค่บางท่อนของเพลงที่เข้ากับเนื้อเรื่อง อะไรประมาณนั้น (ไม่รู้เรามองโลกในแง่ดีไปเปล่า– คือเราก็หลอกตัวเองไปวันๆอ่ะนะ) แต่ไม่เข้าใจที่ตรงที่ ทำไมเบลนต้องร้องราวกับมันเจ็บปวดเหลือแสน ขนาดนั้น กับแค่ guilty pleasure ไม่รู้ผู้กำกับสั่งหรือดาร์เรน Overacting ไปเอง (ว่าเข้าไปนั่น)

11.พอราเชลกลับมา เคิร์ทกับซานทาน่าที่นั่งดูหนังด้วยกันอยู่ ก็ช่วยกันปลอบ (ชอบฉากนี้มากเลย แบบเป็นฉากเพื่อนที่ดูอบอุ่นอ่ะ) ราเชลขอบใจซานทาน่าที่ยืนหยัดและพยายามบอกความจริง รวมทั้งไปตามอีฟินน์มาช่วยกู้ศักดิ์ศรีของราเชล และราเชลเลยถือโอกาสบอกว่าในฐานะที่เพิ่งอกหัก ขอเป็นคนเลือกหนังเอง ก็คือ mama mia (ใช่ไหมนะ เพราะตอนนี้เนทอิชั้นกระตุกพอดี ได้ดูอีกทีก็เริ่มร้องเพลงกันแล้ว ฝั่งแมคคินลีย์ก็ร้องด้วยในชุด abba เต็มยศ ฮามากที่เบลนใส่รองเท้าส้นสูงด้วยได้ข่าวว่าสูงตั้ง 3 ฟุตแน่ะ 55 

ชอบตอนที่เคิร์ทโยนมา แล้วตัดเป็นภาพเบลนรับ

สรุป ให้ความรู้สึกว่า ตอนนี้ ไม่มีอะไรเลย แถมทำให้อารมณ์เสียเรื่อง blam อีกต่างหาก จะยกเว้นก็ฉากฝั่งนิวยอร์คอีกแล้ว เพราะมีเคิร์ทสุดที่รักกับ Jazzercise ของ Richard Simmons (ที่จริงฉากพวกเคิร์ทก็ไม่มีอะไรเป็นเนือ้เป็นหนังเหมือนกัน มีแค่เรื่องที่ราเชลรู้ความจริงเกี่ยวกับโบรดี้ที่แล้ว แต่เพราะเป็นฉากของเคิร์ท อะไรเราก็ชอบหมดแหละ 55)

ใครได้ดูเป็นเรื่องเป็นราว มาเล่าให้ฟังกันด้วยนะคะ สลดมาก ทีช่วงโฆษณาละ เนทพุ่งฉิว ทีพอละครกลับมา เนทเล่นไปกระตุกไป แถมโฆษณาก็ขึ้นมาบังจอเป็นระยะ T_T