The Wedding: ปิดประกาศฤกษ์แต่งงาน
การไปดูฤกษ์แต่งงานดูจะเป็นของกล้วยๆ ไม่น่าจะยากเย็นอะไร แค่โทรนัดหมอดู พระ หรือซินแส เสร็จแล้วพกวันเดือนปีเกิดของทั้งคู่ไปหาท่านตามวันเวลาที่นัดไว้ นั่งรอเสีย 10 - 20 นาที ชำระเงินค่าเสียเวลา เพียงแค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
แต่การหาฤกษ์แต่งงานของฉัน มันไม่ง่ายอย่างที่กล่าวมา เราเปลี่ยนซินแสกันถึง 3 คน และฉันเสียเวลาเดินทางไปหาซินแสถึง 3 ครั้งจึงจะได้การ มาถึงตอนนี้แล้ว หลายคนคงนึกในใจว่าดวงของเราทั้งคู่คงจะไม่สมพงษ์กัน จนถึงขนาดเริ่มต้นก็มีอุปสรรคเสียแล้ว ในใจลึกๆ นั้นฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็มีที่มาที่ไปเหตุใดฤกษ์ของเราจึงได้คลอดยากคลอดเย็นนัก
เขาเป็นชายไทยแท้ที่ให้เกียรติฝ่ายครอบครัวชาวจีนของฉันโดยขอให้ทำพิธีตามประเพณีจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันรับตัวซึ่งตามลำดับวันสำคัญของผู้หญิงจีนแล้ว ฤกษ์แต่งงาน หรือฤกษ์วันรับตัวนั้นถือเป็นวันที่สำคัญที่สุดในชีวิต เพราะเมื่อแต่งงานออกเรือนไปแล้ว ถือได้ว่าชีวิตทั้งชีวิตจะต้องผูกพันและขึ้นต่อสามีแต่เพียงผู้เดียว อาม้าจึงเป็นห่วงและฉันเองก็รู้ว่าอาป๊าก็รักและยึดถือในขนบธรรมเนียมประเพณีจีนอย่างมากเช่นกัน
เราไปหาซินแสที่เคยดูฤกษ์ให้พี่ชายฉัน แต่กลับได้รับคำตอบว่าให้มาอีกครั้งหลังออกเจ หลังออกเจไปหาท่านๆ ก็ดูคร่าวๆ แล้วก็แจ้งว่าจะมีฤกษ์ประมาณเดือน 9 ปีหน้า (2549) ซึ่งท่านเองบอกไม่ได้เพราะฤกษ์ดูนานๆ ข้ามปีไม่ดี ขอให้มาใหม่อีกครั้งปลายๆ เดือน 2 โอ้!!! เจ้าแม่กวนอิม (พระเจ้า) เหตุใดจึงวุ่นวายซับซ้อนขนาดนี้ เขาเพียรโทรมาถามฉันว่าเมื่อไรๆ และ เมื่อไร ทุกๆ ครั้งที่รู้ว่าฉันไปหาซินแส แต่กลับไม่ได้รับคำตอบ
เดือนมกราคมที่ผ่านมา ฉันเริ่มร้อนรนเพราะรู้ว่าโรงแรมที่เราเล็งกันไว้นั้นอาจจะเต็มได้ และการที่ฉันเข้าเว็ปไซด์ที่เกี่ยวกับงานแต่งงานเลยรู้ว่าหลายคนเพิ่งไปดูฤกษ์และได้ฤกษ์กันมาแล้ว ฉันจึงไปกดดันอาม้าบ้างจนทำให้อาม้าเริ่มร้อนใจ
ท้ายสุดอาม้าตัดสินใจไปหาซินแสคนใหม่ คราวนี้โทรไปแล้วซินแสบอกว่าให้แฟกซ์วันเดือนปีเกิดของผู้หญิงและของผู้ชาย รวมถึงของพ่อแม่ของทั้งฝ่ายด้วย เป็นอันว่าเราต้องนั่งรอกันไปอีกจนกว่าซินแสจะอารมณ์ดีมีเวลาว่าง
เมื่อวานนี้อาม้าจึงโทรนัดซินแสคนที่ 3 ที่ได้รับการแนะนำมาจากแหล่งผู้ใช้บริการที่เชื่อถือได้ว่าที่นี่ดี ท่านอพยพมาจากเมืองจีน พูดไทยไม่ชัด ท่านดูฤกษ์ให้เราอย่างละเอียด โดยขอวันเดือนปีของเราทั้งคู่และของพ่อแม่ด้วย และถามว่าเราต้องการฤกษ์ใดบ้าง นอกจากฤกษ์หมั้นและฤกษ์แต่งงาน เราแจ้งท่านว่าเราต้องการฤกษ์กลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่ (ตึ่งฉู่) ส่วนฤกษ์สระผม ฤกษ์ทำเล็บ ฤกษ์ลงกรรไกรตัดเสื้อ และอื่นๆ นั้น เราไม่ต้องการ ท่านจึงขอให้เอาฤกษ์ปูเตียงเพิ่มไปเป็น 4 ฤกษ์ ซึ่งฉันก็คิดว่าเพิ่มอีก 1 ฤกษ์ก็ไม่นักหนาอะไร
ฤกษ์ทั้งหมดที่ซินแสให้มานั้นเป็นเดือนตุลาคม โดยไล่ไปตามลำดับดังนี้คือ ฤกษ์ปูเตียง วันอังคารที่ 3 ตุลาคม 2549 เวลา 17:00 - 18:00 น. ฝ่ายชายเป็นคนปูได้เอง ฤกษ์หมั้น วันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม 2549 เวลา 11:00 - 12:00 น. ฤกษ์รับตัว (แต่งงาน) วันอังคารที่ 17 ตุลาคม 2549 ฝ่ายชายมาถึงบ้านฝ่ายหญิง 5:30 - 6:30 น. ออกจากบ้านฝ่ายหญิงไม่เกิน 7:00 น. และเนื่องจากว่าเราต้องไปส่งตัวกันถึงนครนายกจึงต้องถึงบ้านฝ่ายชาย 11:00 - 12:30 น. (ห้ามก่อนหรือหลังเวลาดังกล่าว) ฤกษ์กลับบ้าน (ตึ่งฉู่) วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม 2549 เวลา 11:00 - 12:00 น.
แต่ละฤกษ์มีรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ที่คนรอบข้างอาจต้องหลีกเลี่ยงและข้อควรระวังเล็กๆ น้อยๆ หลังจากที่ได้รู้ฤกษ์แล้ว ฉันรีบโทรหาเขา เพื่อที่เขาจะได้ตระเตรียมการขอฤกษ์รับพระราชทานน้ำสังข์จากสมเด็จพระเทพรัตนฯ ตามความต้องการของเขา อย่างไรก็ตามฉันก็ตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้เข้าพิธีนี้ เพราะอย่างน้อยในชีวิตหนึ่ง ฉันและครอบครัวจะได้มีโอกาสเข้าเฝ้าใต้ฝ่าละอองพระบาทเพื่อเป็นเกียรติแก่วงศ์ตระกูล
Create Date : 25 มกราคม 2549 |
|
27 comments |
Last Update : 27 มกราคม 2549 15:00:17 น. |
Counter : 927 Pageviews. |
|
|
|