เอาน้องเหมียวไปทำหมัน...ฟรี
วันนี้หยุดงาน 1 วัน เพื่อเอาน้องเหมียวไปทำหมัน ฟรี ครับใครอยู่ใกล้แถวพระประแดงครับวันนี้มีงาน จังหวัดเขามาทำให้ฟรี ที่วัดแค ครับไปเข้าคิวกันแต่เช้า โชคดีหน่อยได้คิวต้นๆ วันนี้เจอเหตุการณ์ระทึกขวัญด้วย 555ได้เวลาที่เจ้า มอร์แกน เหมียววัด ที่จะต้องโดนลงมีดแล้ววันนี้ก็รู้สึกสงสารเจ้าเหมียวเหมือนกันที่จะต้องไปทำหมัน ก็เพื่อความเงียบสงบของบ้านเราล่ะกัน เป็นไงเป็นกันเก้านาฬิกา สิบหกนาที ไปถึงวัดแคครับลงทะเบียนก่อนน่ะครับ จะมีเจ้าหน้าที่รับลงทะเบียน อัธยาศัยดีมากครับตอนแรกที่โทรสอบถามทางปศุสัตว์นั้น วันนี้เจอตัวจริงครับแล้วครับ(คนไทยครับ ใจดีครับ) เข้าเรื่องเลยครับเจ้าหน้าที่ให้เราจับเหมียวขึ้นโต๊ะครับ แรกๆ เราสั่นมากกว่าแมวอีกครับการจับแมวนั้น เราจะจับที่ต้นคอ ไช่หรือเปล่าครับ แต่วันนี้ผมได้เทคนิคมาอีกอย่าง คือเวลาที่เจ้าที่เขาบอกนั้น เราจะต้องจับต้นคอด้วยมือข้างที่ถนัด (เพิ่งรู้ครับ) เอ้าไม่ว่ากัน และให้จับขาเจ้าเหมียวด้วย (เพิ่งรู้เหมือนกัน) ปรกติไปคลีนิคก็เจ้าหน้าที่จับให้ครับเจ้าหน้าที่เช้ดด้วยทิงเจอไอโอดีนครับ (ฆ่าเชื้อก่อนครับ)เข็มแรกเข้าที่ขาซ้าย(ท่อนล่างครับ)เข็มที่สองก็ตรงกันข้ามกับเข็มแรกครับ(ไม่อยากเอารูปสีครับ เห็นแล้วมันหวิวครับเจ้าหน้าที่อีกคนเดินเข้ามายกเหมียวเราไปอีกโต๊ะนึงครับเหลือบไปเห็น อ้าวเหมียวหลับแล้ว เออ เร็วดีแฮะแต่ประทานโทษครับ ทำไมเจ้าหน้าที่ถึงไม่ผ่าตัดซะที ได้แต่กดบริเวณท้องของเจ้าเหมียวอ้า ได้การเลยครับ(ผมนึกไปเอง) เออ เหมียวเราทำไมมันดื้อยาจังเลย มันไม่ยอมสลบครับ(ยาสองเข็มที่ฉีดไปนั่นและคือยาสลบ หรือคลายกล้ามเนื้อนั่นและ)ทำไมมันดื้อจังเลยระหว่างนั้น แฟนก็เดินไปหยิญกล้องมาเพื่อถ่ายรูปซะหน่อยผมก็ยังรู้สึกขำๆ ครับ เออทำไมดื้อล่ะเหมียวเอ้ย เดี๋ยวก็หายเจ็บแล้วทันใดนั้น เจ้าหน้าที่ก็เดินมาโต๊ะแรก หลังจากที่กดนานพอสมควร กดแล้ว กดอีก ผมก็เดินตามเจ้าเหมียวมาที่ข้างๆ โต๊ะด้วยครับ ปศุสัตว์ไม่รู้คุยอะไรกันครับผมเลยถามว่าเหมียวเป็นไรครับ ได้ยินคำตอบแบบไม่ชัดครับ อะไรไม่รู้ลึกๆ อ้าผมก็ยังไม่รู้สึกอะไรนอกจากแอบขำนิดๆเจ้าหน้าที่เดินไปหยิบเข็มมาอีกรอบครับ เสียบ ป๊าบเข้าไปขาหลังขวาเจ้าเหมียวครับ อีกหนึ่งเข็ม และทิ้งท้ายด้วยที่เหลืออีกเข็มที่โคนขาซ้ายครับแล้วเจ้าหน้าที่ก็ลองกดอีกครับ กดแล้วก็ดูที่บริเวณแถวๆ พุงเจ้าเหมียว(ตอนนั้น พุงมันแฟ๊บอยู่ครับ ที่เขาต้องการคือให้พุงมันพองๆ อ่ะครับ)เจ้าหน้าที่ก็ได้ฉีดยาเข้าไปอีกครับ น่าจะประมาณห้าซีซี ครับ(ผมไม่รูขนาดไซริ้งครับ) แดเข้าไปที่ขาหน้าขวาครับฉีดเสร็จแล้ว ได้ยินว่า " มาแล้ว " ผมเริ่ม งง ครับ " ว่าอะไรมาแล้ว " เพราะผมก็ว่าผมมาก่อนคนอื่นด้วยซ้ำน่ะ ไช่ ผมมาอยู่แล้วคนแรกๆ คิวต้นๆ เลยอ่ะ ไม่เป็นไร งง ช่าง งง ล่ะกันหลังจากที่มาแล้วเจ้าหน้าที่ก็เริ่มโกนขนเจ้าเหมียวครับ ตัวเมียโกนที่ด้านข้างของท้อง(พุงล่ะกันครับ) ตัวผู้ก็ไม่โกนครับ แต่กรีดกันที่ถุงอัณทะเลยครับ(หว่า หวาดเสียวเนอะ) ทันทีที่เจ้าหน้าที่โกนขนเสร็จ(ขนาดห้าตารางเซนติเมตรนี่และครับ) แล้วเช็ดด้วยทิงเจอไอโอดีนอีกครั้งครับ เจ้าหน้าที่ก็เริ่มงมหาใบมีดครับ(ที่วางในกล่องเครื่อง แช่น้ำยาแล้วน่ะ)ทันใดนั้นก็กรีดที่ผิวเจ้าเหมียวครับ แต่ผมไม่ได้มองน่ะ(ไม่กล้ามอง บอกตรงๆ กลัวครับ) ความยาวของแผลประมาณ สามเซนติเมตรเห็นจะได้ครับแล้วเจ้าหน้าที่ก็เอาเครื่องมือคล้ายๆ กรรไกรครับ ล้วงเข้าด้านในของแผล แล้วก็คีบท่อเนื้อนั้นไว้(เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ศูนย์จุดสองห้าเซนติเมตรนี่แหละครับ) แล้วใช้กรรไกรล็อคอีกรอบเจ้าหน้าที่เอื้อมมือไปหยิบกรรไกรผ้าตัดอีกอัน แล้วก็เอาเชือก(น่าจะเป็นไหมน่ะ สีออกน้ำตาลครับ) มัดท่อไว้ครับ มัดทั้งหมดสองท่อน่ะครับ แวะไปดูเจ้าเหมียวมาครับ นอนเหมือนแมวสลบเลยครับ(แน่นิ่ง แต่ยังหายใจน่ะ)อ่ะ ถึงไหนแล้ว ขอต่อเลยล่ะกันหลังจากที่เจ้าหน้ากำลังผ่าตัด อย่างขมักเขม้นนั้น ก็มีเจ้าหน้าที่อีกคนเดินเข้ามาครับ ใส่ชุดสีกากี รูปร่างไม่สูงมาก ตันๆ ดูดีครับกระชิบบอกเจ้าหน้าที่ ที่กำลังผ่าตัดนั้น ผ่านหน้าผมด้วยคำว่า " ระวังด้วยน่ะ "(ผมจำไม่ได้ว่าระวังอะไร) ผมเริ่มรู้สึกประทับใจครับ เจ้าหน้าที่ ที่ให้ความสำคัญกับหน้าที่นั้น เราก็รู้สึกว่าเขานั้นมีความรับผิดชอบต่อสังคมจริงๆ(และต่อเหมียวเราได้ครับ)ระหว่างที่ผมกำลังรอเจ้าเหมียวของผมนั้น ข้างๆ ก็มีเจ้าเหมียวตามมาอีกสองตัวครับ และเจ้าตูบก็กำลังอยู่ระหว่างผ่าตัดก็มีผมสังเกตเห็นอาการของเจ้าเหมียวที่มาทีหลังผมครับ ทำไมแมวเขาถึงไม่ดื้อเหมือนแมวเราครับ เพียงเข็มเดียวอาการกHเริ่มเป๋ไปเป๋มาแล้วครับแต่เหมียวผมน่ะดิ ดื้อจัง ไม่ยอมสลบเลย(กดแล้วกดอีกครับ) อ้า ต่อครับต่อหลังจากที่มัดท่อแล้วน่ะครับ เจ้าหน้าที่เขาก็ตัดท่อทั้งสองออกครับ เขามัดเสร็จแล้วก็ตัดทีล่ะข้างครับระหว่างที่เจ้าหน้าที่คนที่สองกำลัง งุกงิกกับการผ่าตัดนั้น เจ้าหน้าที่คนแรกจำได้หรือเปล่าครับ คนที่ฉีดยาครับ เดินเข้ามาพร้อมกับเอายาหลอดมาป้ายตาเจ้าเหมียวครับ ผมเข้าใจว่าน่าจะกลุ่มที่สามารถป้องกันม่านตาแห้งครับ(แต่ผมเคยใช้สำหรับเจ้าเหมียวผมนี่แหละ สมัยแรกๆ ที่เอามาจากวัดแล้วเขาเป็นไวรัสนี่แหละครับ ตาโปน หมอบอกเกือบไม่รอดครับถ้ามาช้ากว่านี้อีกนิดเดียว ย้อนอดีตไปหน่อย)ป้ายๆ เสร็จก็เดินไปป้ายให้ตัวอื่นๆ ครับทันใดนั้นเจ้าหน้าที่คนที่สองนั้นก็เริ่มที่จะยัดผังผืดและส่วนประกอบ(อะไหล่) ของเจ้าเหมียวเข้าไปเหมือนเดิมครับมือขาวคว้าเข็มมาเกี่ยวด้ายเย็บปิดแผลจากด้านชั้นในออกมานอกสุดครับ ชั้นในเห็นเย็บประมาณ สองเข็มมัดไปม้วนมาครับส่วนชั้นนอกก็สองเข็มเห็นจะได้ครับ ทันทีที่เย็บปิดแผลเสร็จก็เช็ดด้วยทิงเจอไอโอดีนทุกครั้งครับเสร็จแล้วก็ใส่แป้งสีขาวครับ(อะไรไม่รู้ ผมก็ไม่ได้ถามเจ้าหน้าที่ครับ) เจ้าหน้าที่ได้บอกให้ผมช่วยยกเหมียวลงกล่องแล้วกลับบ้านได้เลยเอื้อมมือแรกที่ผมอุ้มเจ้าเหมียวผมลงตะกร้าครับ ผมรู้สึกสงสารมันครับ ตอนที่มันอยู่กับเรามันวิ่ง มันเดิน มันสร้างเสียงหัวเราะให้ครอบครัวผม เปรียบเสมือนสมาชิกในครอบครัวคนนึงครับผมอุ้มเจ้าเหมียวลงตะกร้า บอกตรงๆ ผมนึกว่ามันจากผมไปแล้วครับ เพราะมันเหมือนกับแมวตายยังไงยังงั้นเลยครับ (รู้สึกเฉยๆครับ แต่มันก้ยังไม่ตายน่ะ ผมรู้สึกไปเองครับ)หลังจากที่เอาเจ้าเหมียวลงตะกร้าแล้ว ทันใดนั้นก็มีเสียงโทรศัพท์เข้า อ๋อ เจ้าหน้าที่คนที่สองนี่เองครับ คุยกะแฟนอยู่มั้ง เห็น ยิ้มๆ ขำๆ ทันทีที่ผมได้ยิน สวัสดีครับเท่านั้นหละ ผมถามเจ้าหน้าที่เลยว่า ผมต้องดูแลหลังผ่าตัดยังไงครับผมันออกมาจากใจเลยครับ)เจ้าหน้าที่บอกว่า 7-10 วันก็หายดีแล้ว ส่วนใหมนั้นจะตัดให้เขาเองก็ได้(ผมนึกอยู่ในใจ เลือดผมยังกลัวเลย นับประสาอะไรครับ กลัวเหมียวเจ็บ) หรือเขาจะกัดเองก็ได้ครับผมไม่รอช้าครับ ถามต่อ พี่ครับตอนแรกเขาเป็นอะไรครับทำไมต้องฉีดยาซ้ำอีกรอบครับ อ๋อ "หลับลึกครับ" เจ้าหน้าที่บอกหลับลึกยังไงครับ เจ้าหน้าที่บอกว่า เขาหลับลึก ผมคิดว่าน่าจะประมาณว่าไม่หายใจ หรือง่ายๆ หยุดหายใจซักพักครับโอ้จอร์ส พระเจ้า ตอนหลังที่ฉีดนี่คือหลับลึก แต่ผมกลับไม่รู้นึกว่าเหมียวผมดื้อ โอ้ ป๊าด กล้วยทอด ผมยังไม่รู้ตัวอีกว่าผมอาจเสียเหมียวไปตอนที่ผมอยากจะตัดรำคาญเสียงร้องของเขาทั้งๆ ที่มันเป็นปรกติเรื่องธรรมชาติของเขาความรู้สึกตอนนั้นของผม มากกว่าตอนที่ผมอุ้มเขาใส่ตะกร้าครับ ถ้าเสียเขาไปตอนนั้นผมคงรู้สึกผิดไปตลอดครับอืมม์ อาการหลับลึกนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าแมวไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย อยู่ในพื้นที่แคบๆ และไม่ค่อยได้ฉีดยา เจ้าหน้าที่บอกแต่ผมก็เเหมียวไปคลีนิคทุกนัดน่ะครับ อีกทั้งยังก่อนนอนผมก็จะให้เขาวิ่งไล่จับเชือกทุกวัน ถ้าวันไหนเห็นผมขึ้นห้องแล้ว เขาต้องเดินตามเพื่อจะเล่นเชือกกับผมทุกครั้ง ถึงแม้มันจะดึกดื่นขนาดไหนก็ตามคุณคิดดูสิ ถ้ามันจากผมไปน่ะ ไม่พูดและๆต่อครับต่อ ผมกับแฟนลากลับทันทีครับ อืมม์ ต่อครับเจ้าหน้าที่ใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 20 นาทีครับ เร็วกว่าที่ผมคาดการณ์เอาไว้ครับตอนนี้เหมียวผมยังไม่รู้สึกตัวเลยครับ ล่วงเลยไปกว่า 5 ชม. แล้วครับอยากจะชมเชยเจ้าหน้าที่อุตสาห์มีโครงการดีๆ แบบนี้ครับ ช่วยผมประหยัดได้เยอะครับค่าทางด่วน 80 บาท เปรียบเทียบกับค่าทำหมันที่คลีนิค(ประมาณ 800-1000 บาทครับ)ก็ถูกว่าเยอะครับขอบคุณทุกคนที่มาติดตามอ่านน่ะครับอยากจะขอบคุณและให้กำลังใจเจ้าหน้าหน้าที่ทุกๆ คนครับขอบคุณมากครับและขอบคุณแทนเจ้าตูบ เจ้าเหมียวทุกตัว บุญกุศลจงส่งผลให้กลับคืนสู่ทุกท่าน ทุกคน