BlogGang.com : : wbj : คุณพ่อ อยากเปลี่ยนลูกสาวให้คุยเก่งขึ้น... ทำไงดี...

คุณพ่อ อยากเปลี่ยนลูกสาวให้คุยเก่งขึ้น... ทำไงดี...

ถ้าอยากเปลี่ยนลุกสาว คุณพ่อคงต้องเปลี่ยนตัวเองตามด้วยครับ แล้วลองทำอย่างนี้ครับ...

1. โทรคุยกับน้องบ่อยมากขึ้น เพราะ อยากให้น้องคุย คุณพ่อก็ต้องคุยกับน้องก่อน ไม่ว่าคุณแม่หรือพี่ๆน้องๆ พอมีเวลาก็ให้โทรคุย เป็นการสร้างสัมพันธ์ระยะไกล ดีด้วยครับ น้องเค้าจะได้ไม่ต้องคิดถึงบ้านด้วย และ คุณพ่อ ก็ได้ข้อมูลว่าน้องกำลังทำอะไรอยู่ มีปัญหาอะไรบ้างครับ...

2. ถามถึงเพื่อนสนิทของลูกสาวครับว่าเป็นอย่างไร มีใครคุยเก่ง คุยไม่เก่ง แต่ละคนเป็นอย่างไร.. เพื่อนๆจะเป็นตัวชี้ที่ดีครับว่า ลูกสาว สามารถคุยเก่งได้หรือไม่ ถ้าเพื่อนๆมีแต่คนคุยเก่ง แล้ว น้องไม่คุย แสดงว่า คุยเก่งแบบเก็บกดครับ (ผมเคยเป็นมาก่อน เพื่อนคุยกันเยอะ เราไม่คุยคนเดียวในกลุ่ม) แต่เพื่อนๆไม่คุย แล้วน้องคุยคนเดียว คงต้องดูอีกทีครับว่าอย่างไร.. แต่ถ้ามีแนวว่าจะคุยเก่งแล้ว ก็ค่อยเริ่มข้อต่อไปได้เลยครับ...

3. ให้ลุกสาวของคุณพ่อ วิเคราะห์ให้ฟัง เช่น ถามถึงเพื่อนสนิทว่าเป็นคนอย่างไร หรือ ไม่ก็ถามเรื่องพี่ที่เป็นพี่เลี้ยง หรือ ใครต่อใคร ครับ ถาม ถาม ถาม ให้น้องเค้าตอบ เพื่อสังเกตว่า น้องเค้าเป็นคนช่างสังเกตเพื่อนๆ ขนาดไหน ... เพราะคนช่างสังเกตคน ส่วนใหญ่ สามารถเป็นคนที่คุยเก่งได้ เพราะ สามารถนำจุดดี หรือ ความต้องการของคนอื่นๆ มาคุยได้ และ จะทำให้การพูดคุยมีการต่อเนื่องครับ...

4. ให้ลุกสาว เล่าถึงสังคมในมหาลัยครับ การรับรู้สังคมของลุกก็เป็นสิ่งที่ดีครับ ไม่ชอบมาพากลก็ไปดูสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน แล้ว ค่อยถามถึง สโมสรนักศึกษา หรือ กิจกรรมต่างๆเป็นอย่างไรบ้าง มีใครที่ให้คำแนะนำบ้าง เป็นต้น เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นให้น้องได้เข้าไปสัมผัสกับชีวิตจริงใน มหาลัยครับ แต่เป็นดาบ 2 คม มีทั้งดี และไม่ดี ต้องคอยตักเตือนน้องครับ..

ต่อไปเป็นแนวทางเพื่อปรับให้คุยกับคนอื่นๆครับ...

5. ให้เพื่อนของคุณพ่อคุยกับลุกสาวบ้าง.. ถ้าโทรที่ทำงาน หรือ โทรในที่ๆมีเพื่อนสนิทอยู่ หรือ มีเพื่อนที่สามารถให้คำปรึกษาลูกสาวได้ในเรื่องที่ลูกสาวเป็นกังวล ก็แนะนำให้คุยกันครับ เพื่อจะได้ให้น้องเค้าคุ้นกับการคุยกับคนแปลกหน้า แรกๆก็ไม่กล้าคุย แต่พอรุ้สึกเป็นเรื่องปกติ ก็จะเริ่มคุย เพราะเป็นการคุยแบบไม่เห็นหน้า.. มันง่ายกว่าการคุยแบบเห็นหน้ากันครับ.. อายก็ไม่เห็น..อิอิ

6. แนะให้เล่นกระทู้ครับ. เพราะเป็นการเรียนรู้ถึงลักษณะงานในอนาคตที่น้องจะทำ และ เป็นการฝึกให้คุยกับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยเห็นกัน แค่เขียนตามความคิดเท่านั้น พอเจอตัวจริงก็เหมือนกับเป็นเพื่อนสนิทกันเลยก็มีครับ... อย่างเช่น ผมกล้าเขียนกล้าพิมพ์กระทู้นี้ เพราะไม่เห็นคุณพ่อครับ.. ถ้าเห็นคงไม่กล้าแนะนำสักเท่าใด เพราะ หัวสมองจะสั่งการทันทีว่า อย่าสอนผู้ใหญ่ ทำให้ไม่กล้าพูดอย่างที่เขียนแน่นอนครับ แต่ถ้าเห็นเป็นน้องๆที่อายุน้องกว่า รับรองว่า ปาก..ไปก่อนเลย.. 555

7. ให้ลูกสาวไปสอบถามคนแปลกหน้าบ้าง ถ้ายังไงการฝึกให้ใจกล้าเมื่อเข้าพบคนแปลกหน้า ก็คือให้ไปถามว่าของชิ้นนั้นชิ้นนี้ราคาเท่าใด หรือ ให้ไปซื้อของมาให้หน่อย หรือ ให้ไปติดต่อราชการแทน เป็นต้น ทำให้น้องกล้าที่จะคุยกับคนแปลกหน้าครับ แต่ก่อนผมกลัวมากไม่กล้าถาม ไม่กล้าคุย พอทำบ่อยๆก็ชินครับ ทำให้เริ่มไม่กลัวคน และ กล้าที่จะสอบถามมากขึ้นครับ

8. ลูกสาวกลับมาบ้านก็ให้พาไปออกสังคมบ้างครับ.. การออกสังคมเป็นการเริ่มปูพื้นฐานในการคบกับคนแปลกหน้า เป็นการคุยแบบเป็นทางการ ถ้าทำได้สามารถคุยกับคนแปลกหน้าได้ถึงแม้นจะไม่ต้องพูดมาก แต่ให้พูดบ้างก็พอครับ อย่างนี้ถ้าเค้าคุย หรือคบกับใครๆได้ เป็นอันว่าไม่ต้องกังวลแล้วครับ เพราะไม่ว่าทำงานหรือเรียน เค้าก็สามารถคุยได้กับทุกคนแล้ว..

ไม่ต้องถามทั้งหมดในคราวเดียวนะครับ นี่แค่หาเรื่องให้คุยกันครับ เอาเป็นว่า พอมีโอกาสก็ค่อยถามทีละเรื่อง ถามทั้งหมดเดี๋ยวเหมือนการจับผิดหรือเปล่า.. คุณพ่อมาแนวไหนเนี่ย... ลูกสาวอาจจะมองว่า คุณพ่อวันนี้มาแปลกก็ได้ครับ... แบ่งๆคุยนะครับ...

แค่คำแนะนำครับคุณพ่อ คงต้องเอาไปปรับใช้ครับ มันอาจจะไม่ค่อยคุ้นในตอนแรกครับ แต่พอเริ่มทีละขั้นทีละตอน ผมว่าน้องจะคุยได้ดี และ จะมีเหตุมีผลเพิ่มขึ้นด้วยครับ..

Create Date : 20 กรกฎาคม 2548

Last Update : 20 กรกฎาคม 2548 19:00:02 น.

2 comments

Counter : 1398 Pageviews.

เข้ามาอ่านค่ะ

โดย: zaesun

วันที่: 20 กรกฎาคม 2548 เวลา:19:25:09 น.

และถ้าคุยเก่งมากเกินไปล่ะค่ะ

อึ้ย~!

โดย: NIS (NiS*Za

) วันที่: 20 กรกฎาคม 2548 เวลา:22:38:54 น.

วิทยากรเชิงกิจกรรม

วิทยากรกระบวนการ

ที่ปรึกษาธุรกิจ

ด้านการบริหารจัดการ

การตลาดและการประชาสัมพันธ์

การบริหารทรัพยากรมนุษย์

การวางแผนกลยุทธ์

วิจัยธุรกิจ

IT Dashboard

ดวงถาวร

ดวงตามวันเกิด

ดวงตามปีเกิด