บริหาร การจัดการ การตลาด พัฒนาตนเอง พัฒนาความคิด กลยุทธ์ ธรรมะ จักรราศี ฯลฯ
จัดตั้งธุรกิจ ปรับปรุงกิจการ | ไขความลับสมองเงินล้าน | การเขียนแผนธุรกิจ | บริหารคน บริหารงาน | พัฒนาความคิด
พระไตรปิฎกฉบับหลวง | แด่องค์กรที่แสนรัก | สุขใจกับเด็กสมาธิสั้น
Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2548
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
4 กรกฏาคม 2548
 
All Blogs
 
MOVING THAILAND TOWARDS SUPERIOR VALUE CREATION

MOVING THAILAND TOWARDS SUPERIOR VALUE CREATION
By Prime Minister Dr.Thaksin Shinawatra June 17, 2005


สมาคมศิษย์เก่า ศศินทร์ จัด Dinner Talk ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติ สิริกิต เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ดร.ทักษิณ เริ่มต้นด้วยการพูดถึงสถานการณ์ของประเทศไทยในปัจจุบัน
โดยตั้งคำถามว่า อะไร คือ จุดแข็งของประเทศไทย

สินค้าออกของไทย 5 อันดับแรก ในปัจจุบัน ก็คือ
1. คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ
2. รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ
3. แผงวงจร อุปกรณ์และส่วนประกอบ
4. เมล็ดพลาสติก
5. ยางพารา
ให้สังเกตุว่า 3 อันดับแรก เกิดจากการจับจ้างทำของ ส่วนอันดับที่ 4 และ 5 มาจากแรงงานและภาคเกษตรกรรม

สินค้านำเข้าหลักของประเทศไทย 5 อันดับแรก ก็คือ
1. น้ำมันดิบ
2. เครื่องจักร อุปกรณ์และส่วนประกอบ
3. เหล็ก อุปกรณ์และส่วนประกอบ
4. ไฟฟ้า อุปกรณ์และส่วนประกอบ
5. เคมีภัณฑ์

เราต้องขายสินค้าจากภาคเกษตรกรรมทั้งหมด เพื่อไปจ่ายค่าน้ำมัน ก็ยังไม่พอเพียง

ถ้าหากเรายังอยู่กับวิธีการเดิมๆ ทำมาหากินแบบเดิมๆ เราจะเหนื่อย
เพราะโดยธรรมชาติแล้ว สิ่งมีชีวิตต้องมีการเจริญเติบโต มีพลวัตร ต้องมีการเรียนรู้ ต้องมีพัฒนาการ

ปัจจุบันนี้ เราเหมือนเป็นทาสยุคใหม่ ที่ต้องตกอยู่ภายใต้คนอื่นเขา
สมัยก่อนตอนยุคเริ่มต้นพัฒนาประเทศ เราขอแค่ได้มีงานทำแค่นั้นก็พอ แต่เดี๋ยวนี้ไม่พอ เพราะเราต้องแข่งกับจีน ประเทศเขาใหญ่มาก มีแรงงานพันกว่าล้านคน เราจะเหนื่อยมาก ถ้าไปแข่งกับจีนเขา

หนทางเดียวที่ไทยจะอยู่รอดได้ ก็คือ Value Creation

ประเทศไทยเราตั้งอยู่ในจุด location ที่ดี อากาศสบาย มีวัฒนธรรมเป็นของตนเอง มีธรรมชาติที่สวยงาม มีคนไทยที่ยิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยว พร้อมที่จะให้บริการที่ดี ( Climax, Geophaphy, Culture, Nature Sea-Sun-Sand Thai People and Service Mind )

เราต้องเอาคนไทยทั้ง 63 ล้านคนมาบริหารจัดการเสียใหม่
ซึ่งใช้เงินลงทุนไม่มาก ถือเป็นการลงทุนระยะยาว โดยการสร้างคน
Asia Market มีตลาดที่ใหญ่พอ เพราะมีประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลก

แต่คนเอเชียถนัดแต่แข่งขันตัดราคากันเอง

ขณะที่คนยุโรป คนอเมริกัน ชอบทำตรงกันข้าม คือ ชอบโก่งราคา

The Value Added => Value Creation

Value added เป็นการ claim ส่วน Value Creation เป็น step ที่พัฒนาสูงขึ้นไปกว่านั้น ต้องใช้ brain

เหมือนประเทศสิงคโปร์ ที่มีประชากรไม่กี่ล้านคน แต่ใช้ Brain นำประเทศ ทำให้ประเทศพัฒนาเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาได้

เราต้องหาความเป็นตัวของตัวเองให้เจอ ความ Unique ทำอย่างไรให้คนของเราแข่งกับเขาได้ ต้องสร้าง Brand Image ของตนเองขึ้นมา

แต่เดิม คนไทยเรา มักจะเน้นขายแรงงานราคาถูกๆ ไม่คิดถึงต้นทุน ไม่คำนึงถึงทรัพยากรของเรา เราจะขาดดุลการค้าไปเรื่อยๆ ขณะนี้เราขาดดุลการค้า 5,000 ล้านเหรียญ USD เงินกองทุนสำรองของประเทศเริ่มลดลง เราก็จะต้องไปกู้เพิ่ม เราจะตกอยู่ในวังวนลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ เหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมา สุดท้ายก็ต้องมาลดค่าเงินบาทกันอีก

สาเหตุก็คือ เมื่อเกิดวิกฤต เราแก้ไขปัญหาแค่เพียงการปรับโครงสร้างหนี้ เราไม่ได้ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ

เราไม่เท่าทัน กับคำว่า Globalization เพราะคำๆนี้ส่งผลกระทบในทุกๆมิติ ได้แก่ มิติทางการเมือง ทางสังคม ทางวัฒนธรรม ทางเศรษฐกิจ และ Free Flow

เราต้องเอา Talent มานำ labor

ประเทศไทยเรานี้ประหลาด เราทำอะไรแปลกๆที่ไม่สมควรทำอยู่เสมอๆ

ยกตัวอย่างเช่น ประเทศเราผลิตแพทย์ได้ดี เป็นแพทย์ที่มีคุณภาพ แต่เราส่งออกไปให้ประเทศอื่นใช้ เราจะเห็นแพทย์เก่งๆอพยพไปทำงานประเทศอื่น แต่ในทางตรงกันข้าม เรากลับปิดประเทศ กฎหมายของเรา ไม่ยอมเปิดรับให้แพทย์จากประเทศอื่นเข้ามาทำงานในประเทศเรา



เรากำลังปิดประตูกันไม่ให้คนที่เราต้องการเข้ามา
แต่เราเปิดประตูให้คนที่เราไม่ต้องการเข้ามา เรื่องในลักษณะอย่างนี้ควรจะได้รับการแก้ไขต่อไป

ประเด็นสำคัญๆที่เราควรพิจารณา เช่น Goods vs Services
Flow In vs Flow Out ซึ่งในปัจจุบัน เป็น Fast Capital flow

ภาคธุรกิจของไทย ยังขาดความรู้ความเข้าใจทางด้านการเงินที่ดีพอ ขาดเครื่องมือทางการเงิน เมื่อโลกเราเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เรากลับตามไม่ทัน เราจึงเสียเปรียบ

สิ่งที่เราต้องเน้น จึงควรเป็นเรื่อง Information Knowledge
ทุกๆแห่งหน ทุกๆตำบล ต้องสามารถเข้าถึงระบบ internet ได้ เพราะโลกได้เปิดกว้างให้คนทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆได้โดยง่าย

วิธีการเรียนการสอนสมัยใหม่ ที่เน้นให้เด็กเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ Child Center ส่วนครูเป็นผู้อำนวยความสะดวก เป็นผู้ช่วยเหลือให้เกิดการเรียนรู้เท่านั้น Facilitor และการเรียนในเรื่องหนึ่งๆ เด็กจะได้ความรู้จากหลายๆวิชาด้วยกัน ในเวลาเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น เด็กๆตกลงใจกันจะเรียนประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับเรื่อง สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็จะจัดกลุ่มกัน แบ่งงานกันไปศึกษาหาข้อมูล คนหนึ่งไปดูหนัง เรื่อง โกโบริ ประวัติศาสตร์ไทยสมัยญี่ปุ่นมาบุกประเทศไทย มาสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแคว ที่กาญจนบุรี คนหนึ่งหาข้อมูลทาง internet เกี่ยวกับประเทศสหรัฐอเมริกา สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
คนหนึ่งศึกษาชีวประวัติบุคคลสำคัญๆของโลกสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกคนไปศึกษาเกี่ยวกับแผนที่ภูมิศาสตร์ถึงประเทศต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสงครามโลกครั้งที่ 2 จากนั้นก็นำมารวมกับ สร้าง Mind Map ลำดับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น แล้วเล่าสู่กันฟัง ทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างสนุกสนาน

ทุกๆองค์กร ต้องปรับตัวเป็น Learning Organization เราต้องทำ Economic restructure เพื่อให้รู้ว่า อุตสาหกรรมไหนเป็น Dog ? Star ? Cash Cow ?

จุดอ่อนของคนไทย ก็คือ การที่ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำ เราทำงานในแบบ Team work ไม่เป็น เราต้องหัดทำงานกันในแบบ Team work รู้จัก share load

เรียนรู้จากการลงมือทำ Learning by doing เน้นการวิจัยและพัฒนา Research => สร้าง Brand => สร้าง Network Marketing

ประเทศไทยเรา ยังมีนักธุรกิจระดับรุ่นใหญ่น้อยไป ขาดนักธุรกิจที่จะออกไปลุยในสนามรบต่างประเทศ คนไทยไม่ชอบไปอยู่ในต่างประเทศ เพราะอยู่ประเทศไทยนี่แสนสุขสบาย อยู่ต่างประเทศแล้วไม่สบายเหมือนบ้านเรา

เราต้องมองว่าโลกทั้งโลกคือตลาด

ไม่ใช่มองแค่กรุงเทพคือตลาด หรือประเทศไทยเท่านั้นคือตลาด

ต้องคิดว่าจะแข่งขันกับเขาได้อย่างไร
เราเจอ FTA (Free Trade Area ) WTO (World Trade Organization ) Pressure เรามากขึ้นเรื่อยๆ

เราจะปกป้องตัวเองได้อย่างไร
สิ่งที่จะสามารถปกป้องตัวเราได้ ก็คือ Quality / Productivity / Efficiency / Cost Efficiency

ประเทศเรา ไม่สามารถยืนอยู่กับ สินค้าราคาถูกได้อีกต่อไป

จุดเด่นของประเทศไทย ก็คือ คนไทย วัฒนธรรมไทย ความสวยงามของประเทศไทย ธรรมชาติ กรณีเหตุการณ์ Tsunami ที่ผ่านมา คนทั้งโลกรู้สึกซาบซึ้งกับน้ำใจของคนไทย ขนาดที่ตัวเองลำบากอยู่แล้ว แต่ก็ยังพะวง ยังช่วยเหลือคนอื่นเขาก่อน แบ่งปันน้ำใจให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศก่อน

เราต้องดึงสิ่งเหล่านี้ขึ้นมาเป็นจุดขาย
เราต้องขาย Hospitality ขาย Happiness

สร้าง Social Business ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเชื่อมโยงกับ community มีบริษัทที่เปิดอยู่ในชุมชน เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน จนเป็นที่รักใคร่ของชุมชน เมื่อมีบริษัทอื่นๆบุกรุกเข้ามาใหม่ในชุมชนนั้นๆ ทั้งชุมชนจะร่วมกันปกป้องบริษัทของพวกเขา ชวนกันซื้อสินค้าจากบริษัทของชุมชนเท่านั้น ไม่ยอมซื้อจากบริษัทเจ้าใหม่ที่บุกรุกเข้ามา

ต่อไปจะต้องมี ”บริษัทเท่าทุน” Non-loss business คือ ทำบริษัทก็ไม่แสวงหาผลกำไร ขอเพียงให้เท่าทุน ให้บริษัทอยู่ได้เท่านั้นพอ

ขอให้นักธุรกิจไทยทุกคน ไปเน้นการพัฒนา Product ของตนเองให้มีคุณภาพเหนือกว่าคนอื่น ให้เน้นการสร้าง Brand อย่าสักแต่ทำงานผ่านไปวันๆ day by day อย่าจมกับความเคยชินเก่าๆ อย่าหลงอยู่กับความสำเร็จเดิมๆ

เดี๋ยวนี้ผมเจออะไร ผมจะไม่เครียด ผมจะนึกขำไปในทุกๆเรื่อง แต่ผมมีอารมณ์ขันแบบมี substantial ยกตัวอย่าง ละครเรื่อง ดาวหลงฟ้า ที่เพิ่งจะจบไปเร็วๆนี้ ตอนจบ happy ending ในที่สุดพระเอกก็ชนะใจนางเอก แต่เหตุผลที่พระเอกชนะใจนางเอกได้ ก็เพราะ ความอดทน ความจริงใจ

มีหนังสือที่น่าสนใจอยู่เล่มหนึ่งที่ได้อ่านมา เป็นสิ่งที่ผม อยากจะเตือน นักธุรกิจทั้งหลาย

ก็คือ เรื่องของ กับดักเวลา Time Trap

ซึ่งจะทำให้เราทำงานง่วนอยู่ทั้งวัน หมดเวลาไปวันๆ

1. Yes Trap คือ รับปากกับคนไปเสียทุกเรื่อง เป็น Mr.Yes ใครบอกให้ทำอะไร ก็ทำไปเสียหมด

2. Failure Trap คือ การคิดว่า ไม่มีใครทำได้ดีเหมือนเรา คิดว่าเขาทำไม่ได้ดี เราจึงทำเอง

3. Control Trap คือ กลัวการสูญเสียอำนาจ เก็บทุกอย่างไว้ในมือของตนเอง ทำเองในเสียทุกเรื่อง

เราต้องมีเวลามานั่งคิดทบทวนเสียใหม่ Rethink

เราต้องให้เวลากับ เรื่อง 3 เรื่อง คือ

1. For Your Health
ให้คิดถึง คำ 3 คำ คือ Sleep Eating and Exercise รวมเป็นอักษรย่อว่า SEX

2. For Your Relationship
ให้คิดถึง คำ 3 คำ คือ Family Friends and Social

3. For Your Knowledge
ให้แสวงหาความรู้เพิ่มพูนให้แก่ตนเองสม่ำเสมอ ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน


Create Date : 04 กรกฎาคม 2548
Last Update : 4 กรกฎาคม 2548 3:58:54 น. 4 comments
Counter : 1276 Pageviews.

 
สวัสดีค่า อ่านได้ครึ่งเดียวเอง ^^'




...


โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 4 กรกฎาคม 2548 เวลา:5:54:40 น.  

 
I agree with you that we should create more value


โดย: lily IP: 165.21.154.110 วันที่: 17 ธันวาคม 2549 เวลา:6:04:45 น.  

 
ดาก


โดย: jack IP: 203.209.96.116 วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:14:28:18 น.  

 


โดย: กรกนก สรรพากร IP: 222.123.102.6 วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:19:10:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wbj
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 210 คน [?]




ต้องการสอบถาม กรุณาติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com หรือ 062 641 5992, 062 826 1544

วิทยากรเชิงกิจกรรม

วิทยากรกระบวนการ

ที่ปรึกษาธุรกิจ

ด้านการบริหารจัดการ

การตลาดและการประชาสัมพันธ์

การบริหารทรัพยากรมนุษย์

การวางแผนกลยุทธ์

วิจัยธุรกิจ

IT Dashboard



ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้...
ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย
และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด



<< Main Menu >>



ดวงถาวร


ดวงตามวันเกิด



ดวงตามปีเกิด






;b[^]pN 06' ไรินนื ่นนืเ "รินนื ๋นนืเ c:j06'

ต้องการสอบถาม โทร 062-641-5992, 062-826-1544
ติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com
Line ID : wbjoong

ที่ปรึกษาธุรกิจ ด้านการบริหารจัดการ การตลาดและการประชาสัมพันธ์ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ และ การวางแผนกลยุทธ์ วิทยากรเชิงกิจกรรม, วิทยากรกระบวนการ นักวิจัยการดำเนินงานธุรกิจ Executive & Management Coach

ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้... ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด
<< Main Menu >>
Friends' blogs
[Add wbj's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friends


 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.